อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 22 ต.ค.60

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 22 ต.ค.60

ท่านชายบอกนี่เป็นการรักษาศักดิ์ศรีวังและโรงแรมของตน แม้จะเสียอะไรไปบ้างก็รักษาส่วนใหญ่ไว้ได้ ณรังค์ไม่คิดว่าท่านชายจะไม่สนใจความรู้สึกของลูกแท้ๆ แถมคิดว่าเป็นหน้าที่ของจงสวัสดิ์ทุกคนที่ต้องทำตามคำสั่ง แม้แต่เขาก็อย่าสะเออะมาเถียงอะไรอีก จงทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ณรังค์จำต้องรับคำด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ สงสารปฐวีขึ้นมาจับใจ

ooooooo

ขณะที่สิริกันยาเก็บของเพื่อย้ายที่ทำงาน อ๋องเข้ามาบอกว่าเย็นนี้อย่าเพิ่งรีบกลับบ้าน เพราะณรังค์อยากคุยกับเธอและตนก่อนจะเริ่มทำงานด้วยกัน เป็นการทำลายกำแพงก่อนร่วมงาน



“กำแพงฉันหนาค่ะ นายนั่นทะลุมาไม่ได้หรอกค่ะ” สิริกันยาลืมตัวพูดออกไป

อ๋องทำหน้างง หญิงสาวรีบแก้ตัวหมายถึงกำแพง

ตนหนาต้องอาศัยเจ้านายทำให้ทะลุ อ๋องยิ้มปลื้มยินดีอย่างมากถ้าเราจะไม่มีกำแพงต่อกัน สิริกันยาไม่ได้สนใจคำพูดกำกวมของอ๋อง หลบมาโทรศัพท์รายงานศรีนวลว่าคืนนี้มีงานต้องกลับดึก ได้ยินเสียงเจ๊หวานเพื่อนข้างบ้านที่ฝากให้ดูแลย่าส่งเสียงถามจะแทงหวยเท่าไหร่ จึงกำชับย่าห้ามแทงเกินยี่สิบบาท...จากนั้นเดินกลับมาหาอ๋องที่รออยู่ ทั้งสองพากันเดินออกไป สุนันทายืนมองจากมุมหนึ่งด้วยความกังวลใจ

แต่แล้วแม้นเทพกลับสั่งณรังค์ให้กลับวังด้วยกันเพื่อคอยช่วยเวลาที่ตนพูดกับปฐวีแล้วเธออาละวาดขึ้นมา ณรังค์จึงขอตัวไปสั่งการ

วิเชียร...พรุ่งนี้ขอประชุมหัวหน้าแผนกทุกแผนก เกียรติศักดิ์นั่งดื่มอยู่ที่ล็อบบี้ เห็นณรังค์ก็หมั่นไส้ ลุกขึ้นไปขวางหน้าเข่นเขี้ยวที่เขาไม่ใช่เด็กในบ้านธรรมดาๆ ณรังค์จึงย้อนถามว่ากลัวอะไร เกียรติศักดิ์ปรี๊ดกระชากคอเสื้อณรังค์พูดใส่หน้าให้จำใส่กะโหลกไว้ว่าเขากับตนมันคนละชั้น

“ครับ ผมจะจำไว้ว่าแม้กระทั่งเด็กในบ้านอย่างผม คุณก็ยังกลัวถึงขนาดต้องเสียเวลามารอ เพื่อที่จะคุยด้วย”

เกียรติศักดิ์ยิ่งแค้น พอดีวิเชียรเข้ามาขัดจังหวะมองด้วยหน้าตาดุดัน ทำให้ขยาดต้องถอยหนี วิเชียรถามว่าเราควรมีปัญหากับคนคนนี้หรือไม่ ณรังค์ส่ายหน้าถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ต้องมั่นใจว่าเราเอาอยู่ วิเชียรพยักหน้ารับทราบ

เย็นวันนั้น ละมุลท่าทางไม่อยากกลับบ้าน สวัสดิ์เห็นเข้ามาขอไปส่งแต่เธอกลับปัดไม่ต้อง อยากอยู่คนเดียว เขาจึงได้แต่มองตามตาละห้อย ครูต้อยหน่ายใจเข้ามาแนะนำสวัสดิ์ ถ้ามัวเอาแต่มองไม่กล้าแล้วจะคว้าเธอมาได้อย่างไร สวัสดิ์หน้าเจื่อนบอกครูรุ่นพี่ว่าถึงอย่างไรตนก็จะไม่ถอยไม่หนีไปไหน ครูต้อยทึ่งไม่คิดว่าจะมีผู้ชายดีๆแบบนี้ในยุคสมัยนี้อีก

อ๋องพาสิริกันยาเข้ามานั่งในร้านอาหารหรู เธอตัวเกร็งกับบรรยากาศรอบข้าง พออ๋องคุยโทรศัพท์กับณรังค์แล้วบอกเธอว่า ณรังค์ติดธุระด่วนสำคัญแต่จะรีบมาให้เร็วที่สุด ให้เราทานกันไปก่อน หญิงสาวเบ้หน้าไม่กล้าแม้จะเลือกอะไรในเมนูอาหาร อ๋องขำกับท่าทางของเธอ พลันมีสาวสวยไฮโซเดินเข้ามาหยุดมองด้วยสายตาขุ่นเคือง พออ๋องหันมองก็มีสีหน้าตกใจ

กนกอร...แฟนเก่าอ๋องตอนอยู่อเมริกา ปรายตามองสิริกันยาแล้วพูดอย่างดูถูกว่าจะหาแฟนใหม่ที่ดีกว่าตนไม่ได้หรือ สิริกันยาพยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ปรี๊ด อ๋องรีบอธิบายว่าเธอเป็นเลขาไม่ใช่แฟน แต่กนกอรยังเหยียดว่า ดูท่าไม่พ้นเอาเต้าไต่ หูตาแพรวพราวเหลือเกิน

สิริกันยาหมดความอดทน ขอโทษอ๋องก่อนที่จะพูดกับกนกอรแล้วหันไปถามคนอื่นในร้าน “อะไรของคุณเนี่ย มายืนด่าอะไรฟังไม่รู้เรื่อง...รู้จักเขาป่ะคะ”

กนกอรหน้าชาที่คนในร้านมอง ด่าว่าสิริกันยามารยาทต่ำ เธอตอกกลับทันที แล้วที่มายืนด่าดูถูกคนที่ไม่รู้จักกัน มีมารยาทนักหรือ ก่อนจะบอกอ๋องคิดถูกแล้วที่เลิกกับผู้หญิงแบบนี้ กนกอรกรี๊ดลั่นร้าน ทุกคนต้องเอามืออุดหู สิริกันยาสะกิดเตือน คนมอง ไม่มีมารยาทก็ควรมียางอายบ้าง หญิงสาวเริ่มอายสะบัดหน้าค้อนอ๋องก่อนจะเดินเชิดออกไป สิริกันยาโล่งอก

“ขอโทษอีกทีนะคะคุณอ๋อง แต่ของมันขึ้นจริงๆค่ะ อะไรฉันก็ทนได้นะคะ แต่ให้ทนคนดูถูกคนด้วยกันเองเนี่ย ฉันไม่ทน”

“ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมต้องขอบคุณต่างหาก คุณพูดถูก ดีแล้วที่ผมเลิกกับเขามาได้ กนกอรเป็นผู้หญิงที่สวยแต่รูปจูบไม่หอม ผมสั่งอาหารดีกว่า มื้อนี้น่าจะเจริญอาหาร” อ๋องชอบใจ

ทางด้านวังจงสวัสดิ์ ประคองแนบหูฟังกับประตูห้องปฐวีเพราะเห็นเธอเงียบไปนาน แม้นเทพเดินมาพร้อมณรังค์ เคาะประตูเรียกแต่ไม่มีการตอบรับ ประคองรีบเอากุญแจมาไขให้ แต่ก็ยังติดกลอนด้านใน ท่านชายสั่งบรรจงพังประตูเข้าไป...พอประตูเปิดโครม เห็นปฐวีในชุดสวยงามยืนมองไปนอกหน้าต่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ท่านชายต่อว่าที่ไม่เปิดประตู เธอย้อนว่า

“สนุกดี ที่ได้เห็นความวุ่นวายเพราะฝีมือของหญิง รู้สึกดี...จะลงโทษอะไรหญิงอีกล่ะเพคะ เอาเลย หญิงจะได้แน่ใจกับตัวเองซะที ว่าท่านพ่อเป็นคนอยุติธรรม”

“จนป่านนี้ก็คิดไม่ได้เลยใช่ไหม ว่าที่ตัวเองทำมันผิด ผิดมาทั้งชีวิต” ปฐวีหันมองถามก็เพราะใคร

“เออ! เพราะฉัน! ฉันมันเลวที่เลี้ยงลูกให้ดีไม่ได้วันนี้ฉันจึงจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดให้กับชีวิตของเธอ”

ปฐวีถามท่านพ่อจะทำอะไร ท่านทรงรับสั่งว่าให้เธอแต่งงานกับเกียรติศักดิ์เร็วที่สุด ทุกคนตกใจ ปฐวีโวยถูกต้องตรงไหนที่ให้ตนขายตัว แม้นเทพกริ้วจัดถึงกับกุมหน้าอกทรุดฮวบลง ณรังค์กับประคองปรี่เข้ารับองค์ไว้ ท่านชายนิ่งไปแต่ปฐวียังยืนมองด้วยความโกรธเกลียด

ooooooo

ทันทีที่อ๋องรู้ว่าณรังค์มาไม่ได้แล้ว จึงขอโทษสิริกันยาที่ต้องมาเสียเวลา แล้วตั้งใจจะไปหาเพื่อนที่โรงพยาบาล หญิงสาวหยั่งเชิงถามว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับณรังค์จริงหรือ อ๋องแปลกใจรับว่าใช่ มีอะไร เธอจึงเปรยว่าเพื่อนเขาคนนี้อาจมีมุมมืดที่ไม่ดี ชอบยุ่งกับแฟนชาวบ้าน

อ๋องไม่เชื่อท้าให้เธอไปพิสูจน์ด้วยกัน...ระหว่างนั้น ณรังค์พยายามโทร.หาละมุลเพื่อบอกเรื่องแม้นเทพเข้าโรงพยาบาลแต่เธอไม่รับสาย ละมุลเดินเรื่อยเปื่อยไปจนมืดค่ำ ไม่รับโทรศัพท์ทั้งของแม่และณรังค์ เผอิญมีจิ๊กโก๋เข้ามาจะลวนลาม โชคดีที่สวัสดิ์ตามมาช่วยทันเพราะเป็นห่วงโทร.ไปถามคนที่วังว่าเธอกลับมาถึงหรือยัง จึงรู้เรื่องท่านชาย และพาเธอไปส่งโรงพยาบาล

พอประคองรู้ว่าละมุลกำลังมาก็ดีใจรีบไปรอหน้าโรงพยาบาล บรรจงบ่นกับณรังค์ว่าปฐวีช่างใจดำ ทำท่านชายป่วยขนาดนี้ยังไม่มาดูดำดูดี ณรังค์ถอนใจน่าจะรู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไร

“เวรกรรมของท่านชาย เวรกรรมของคุณหญิง เวรกรรมของคุณณะ เวรกรรมของพวกเราทุกคนที่จงสวัสดิ์” บรรจงถอนใจ

“ถ้ายังหาเหตุผลให้กับสิ่งที่คุณหญิงทำไม่ได้ก็คงต้องคิดแบบลุง” ณรังค์สรุป

ในขณะที่ทุกคนกำลังเครียด ปฐวีกลับนั่งดื่มไวน์ในห้องนอน กดโทรศัพท์หาเกียรติศักดิ์บอกมีเรื่องอยากคุยกับเขา...ระหว่างนั้นอ๋องมาถึงโรงพยาบาล ถามณรังค์ถึงอาการของแม้นเทพ

“เส้นเลือดหัวใจตีบ หมอกำลังผ่าตัดอยู่ แต่ไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจากต้องระวังอย่าให้เครียดมากกับเรื่องเหล้า ไม่งั้นอาจหัวใจวายอีกรอบ” ณรังค์ปรายตามองสิริกันยาแล้วถามอ๋องพามาทำไม ผู้เป็นเพื่อนตอบว่า พามาพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี ณรังค์ว่าเธอขี้ฟ้อง
สิริกันยาหน้าเสียที่อ๋องพูดตรงต่อหน้า แต่ก็โต้ “ไม่ได้ฟ้อง แค่เตือนไม่อยากให้เจ้านายคบเพื่อนไม่ดี กลัวถูกลากลงต่ำไปด้วย”

ณรังค์ฉุน อ๋องงงไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกันมาก่อน ทั้งสามหาที่นั่งเคลียร์กัน อ๋องย้ำกับสิริกันยาว่า ที่เธอเห็นเป็นการเข้าใจผิด ปฐวีเซมาชนณรังค์ทำให้แฟนเธอเข้าใจผิดเหมือนกัน ณรังค์ตอกกลับด้วยคำพูดของเธอบ้างว่า อย่าตัดสินคนแค่เพียงเห็นกันไม่กี่นาที เธอไม่ได้รู้จักตนดีพอ หญิงสาวเบ้หน้าแล้วรีบเก็บอาการเพราะอย่างไรเสียก็เป็นลูกน้อง

“ขอโทษค่ะ ที่เคยเข้าใจผิด แต่ไม่ได้แปลว่าเชื่อ”

อ๋องตัดบทให้จบปัญหาต่อกัน ต่อไปจะไม่มีกำแพงเพื่อการทำงานที่ราบรื่น ณรังค์บอกไม่ถือสาแต่ให้เธอไปอธิบายศรีนวลด้วย เพราะแรงมโนของเธอทำให้เกือบโดนย่าเธอเพ่นกบาล หญิงสาวฝืนรับคำแล้วขอตัวกลับ พอคล้อยหลังก็เบ้ปาก ณรังค์รู้สึกดีที่ได้เอาคืนและข่มเธอบ้าง

ทางด้านหน้าโรงพยาบาล ประคองเห็นสวัสดิ์มาส่งละมุลก็แสดงอาการไม่ชอบ ไม่ต้องการให้คนระดับนี้มายุ่งกับลูกสาว ละมุลยืนยันว่าเขาเป็นแค่เพื่อน ก่อนจะถามแม่ว่าคนที่ก่อเรื่องให้ท่านชายป่วยอยู่ด้วยหรือเปล่า ประคองส่ายหน้า เธอดีใจพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น

“หนูอยากเห็นจุดจบของคนแบบนี้จริงๆ ดี...แต่งงานไปซะ จะได้ไปอยู่ไกลๆ”

“อย่าผูกใจเจ็บอะไรคุณหญิงเลยละมุล อีกไม่นานเขาก็ไปแล้ว เห็นไหมว่าท่านพ่อไม่ได้นิ่งเฉย ที่ท่านตัดสินใจให้คุณหญิงแต่งงานก็เพื่อความสุขของเรา”

“เพื่อความสุขของท่านเองด้วยค่ะแม่ ท่านยอมเพราะอยากล้างหนี้ รู้ๆกันอยู่” ละมุลรู้ทัน

ประคองเอ็ดบาปปาก ละมุลหน้าเสียเก็บงำความสะใจเอาไว้ สิริกันยาเดินสวนมา ทั้งสองสบตากันโดยบังเอิญแต่ไม่รู้จักกัน
ค่ำคืนนั้น ปฐวีมานั่งรอที่ผับ กนกอรเดินมานั่งร่วมโต๊ะ บ่นเรื่องอ๋อง ปฐวีถามยังทำใจเรื่องแฟนทิ้งไม่ได้อีกหรือ ผู้เป็นเพื่อนสวนว่าตนทิ้งเขา ไม่ใช่เขา

ทิ้งตน แล้วนึกได้ว่าแม้นเทพเข้าโรงพยาบาลทำไมไม่ไปดูแล ปฐวีหาว่าคนแก่เข้าโรงพยาบาลเป็นเรื่องธรรมดา ทันใดก้องท่าทางเมากรึ่มเข้ามาฉุดมือปฐวีดึงขึ้นมากอด คุณหญิงตกใจผลักไส เขาพล่ามว่าเสียเงินกับเธอไปมากขอถอนทุนบ้าง คุณหญิงโกรธตบหน้าเขาฉาด ก้องผงะหันกลับมาตบคืน ทุกคนในผับตกใจ

ปฐวีโกรธมากคว้าแก้วไวน์ฟาดหัวก้องแตกเลือดอาบ ก้องเดือดปราดจะเข้าทำร้าย เกียรติศักดิ์

โผล่มากระชากเขาไปชกโครมล้มคว่ำ ประกาศกร้าว

“ไอ้หน้าตัวเมีย ถ้าไม่หยุดตอแยคุณหญิงอีก มึงเหลือแต่ชื่อแน่ คุณหญิงกำลังจะแต่งงานกับกู อย่ามาแตะผู้หญิงของกู ไปให้พ้น!”

เพื่อนก้องเข้ามาหิ้วปีกก้องออกไป เกียรติศักดิ์หันไปกระซิบลูกน้อง ก่อนจะชวนปฐวีย้ายไปคุยที่อื่น กนกอรยืนตะลึงไม่คิดว่าเพื่อนผู้สูงศักดิ์กำลังจะเป็นเมียมาเฟีย...พอพากันมาขึ้นรถเกียรติศักดิ์ก็เปิดไฟหน้ารถให้ปฐวีเห็นก้องกำลังโดนลูกน้องตนซ้อมสะบักสะบอมหน้าผับ พร้อมกับบอกว่าใครทำเธอจะโดนเอาคืนสิบเท่า หญิงสาวยิ้มเรี่ยๆขอบคุณที่ทำเพื่อตน

หน้าห้องไอซียู หมอบอกณรังค์ ประคองและละมุลว่าต้องดูอาการแม้นเทพอีกสักคืนถึงจะย้ายไปที่วอร์ดได้ ประคองขอนั่งเฝ้าหน้าห้อง ละมุลพยายามบอกแม่จะทนหลังขดหลังแข็งทำไม พรุ่งนี้ค่อยมาแต่เช้าก็ได้ ณรังค์ช่วยพูดอีกคน ประคองจึงยอม

ด้านสิริกันยากลับมาบ้านเล่าเรื่องณรังค์ให้ย่าฟัง ศรีนวลดีใจที่ณรังค์เป็นคนดี แต่หลานสาวยังไม่เชื่อสนิทใจ ย่าจึงบอกว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่นานก็ต้องโผล่ออกมาให้เห็น

ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวถึงกำลังปลอบใจละมุล คิดว่าเธอจะหนีออกจากบ้านเสียแล้ว ละมุลปาดน้ำตาบอกอยากทำอย่างนั้นแต่ทำไม่ได้ แล้วถามเขาคิดว่าปฐวีจะยอมแต่งงานหรือไม่ ณรังค์ถอนใจคิดว่าต้องยอม เมื่อเธอใจเย็นลงคงคิดได้ว่าไม่ได้โดนฝืนใจอะไรเพราะเกียรติศักดิ์ก็เป็นคนรักของเธออยู่แล้ว แต่ละมุลสังหรณ์ใจว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยณรังค์ไปง่ายๆ

“นั่นมันเป็นปัญหาของคุณหญิง ไม่ใช่ปัญหาของเราที่ต้องเอามาคิดมาก”

“ก็เวลาคุณหญิงมีปัญหา เธอมักจะเอาปัญหามาลงที่เราไม่ใช่เหรอ ไม่คิดมากได้ไง”

“บอกแล้วไง พี่อยู่ทั้งคน พี่จะดูแลปกป้องละมุลกับแม่เอง ทำใจให้สบาย”

ละมุลอุ่นใจขึ้น ซบหัวอิงต้นแขนณรังค์ เขาลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ประคองออกมายืนมองเงียบๆ ยิ้มในหน้าตัดสินใจไม่รบกวน ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันลำพัง

ด้านหน้าตึก เกียรติศักดิ์ขับรถมาส่งปฐวี กุมมือเธอขึ้นมาจูบและเรียกคุณหญิงของตน หญิงสาวแย้ง ยังไม่ได้เป็นของเขา จนกว่าเขาจะทำตามที่รับปาก เขารับคำยิ้มอย่างอาลัยอาวรณ์ พอเกียรติศักดิ์กลับไป ปฐวีเปลี่ยนท่าทีมองมือที่ถูกจูบอย่างรังเกียจ หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดถู ณรังค์เดินเข้ามาตำหนิว่าเธอน่าจะไปดูอาการท่านชายบ้าง ปฐวีเชิดหน้าอย่างถือดี เดินไปไม่พูด

“ท่านชายประชวรเพราะคุณหญิง” ณรังค์เดินตามตอกย้ำ

ปฐวีหันมาตอบโต้ “ไม่ใช่เพราะหญิง เพราะความจริงที่ท่านพ่อรับไม่ได้ต่างหาก! อย่ามาสั่งว่าหญิงควรหรือไม่ควรทำอะไร ในเมื่อณะเองก็ไม่ได้ไยดีอะไรหญิง แล้วนี่เรื่องการแต่งงานของหญิง ณะเองก็เห็นด้วยกับท่านพ่อใช่ไหม”

“คุณหญิงบอกผมเองว่าคุณเกียรติศักดิ์เป็นคนรัก ถ้าได้แต่งงานกับคนที่รักก็น่าจะดีใจไม่ใช่เหรอครับ”

“นั่นสินะ มันเป็นเรื่องที่น่าจะดีใจและยอมรับ งั้นหญิงจะทำตามที่ณะต้องการ ดีไหม”

“เลิกประชดคนรอบข้างซะทีเถอะครับ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เสียใจที่สุดก็คือตัวคุณหญิงเอง ไม่ใช่คนอื่น”

“ไม่ได้ประชด หญิงไม่เคยทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ คอยดูให้ดีแล้วกัน” ปฐวีสำทับยืดอกอย่างนางพญา ถือดีมุ่งมั่นจะเอาชนะเช่นเคย ณรังค์มองอย่างหน่ายใจ

ooooooo

วันต่อมา สิริกันยานำกระเช้าในนามบริษัทมาเยี่ยมแม้นเทพตามคำสั่งอ๋อง เจอปฐวีที่หน้าลิฟต์ จึงถอยมายืนห่างๆไม่อยากมีปัญหา ท่าทางปฐวีหงุดหงิดที่ต้องรอลิฟต์ กดปุ่มรัวๆจนคนแถวนั้นมองตำหนิ สิริกันยาขยับไปกระซิบบอกพยาบาลให้มาเตือน เกรงปุ่มจะพังเสียก่อน

พยาบาลเข้ามาพูดอย่างสุภาพ “คุณคะ...เดี๋ยวลิฟต์ก็มาแล้วค่ะ ใจเย็นๆนะคะ เดี๋ยวมันจะพังเอาค่ะ” เท่านั้นก็โดนสวนกลับถามเป็นใคร? หญิงสาวตอบว่าเป็นพยาบาล

ปฐวีมองเต็มตาแล้วมองเลยไปที่คนอื่นที่จ้องมอง เห็นสิริกันยาอยู่ในกลุ่มทำไม่รู้ไม่ชี้ เผอิญลิฟต์มาถึง พยาบาลเชิญให้ปฐวีเข้าก่อนแต่เธอกลับยืนเชิดไม่ยอมเข้าไป ทุกคนมองทำนองอะไรนักหนา เห็นรีบแล้วกลับไม่ไป สิริกันยายิ้มโล่งอกไม่ต้องเกร็ง ประสานสายตาจนลิฟต์ปิด
ปฐวีฉุนเฉียวกดปุ่มลิฟต์อีกครั้ง จะกดรัวก็ชะงักมองคนที่มายืนรอใหม่ ไม่อยากโดนตำหนิอีก ได้แต่ยืนเจ็บใจอยู่ตรงนั้น...

ประคอง ณรังค์และละมุลยืนข้างเตียงแม้นเทพที่เพิ่งย้ายมาห้องพักฟื้น ท่านมองนิ่งๆก่อนจะกล่าวอย่างไม่ถนอมน้ำใจใครว่า ตนไม่ได้ใกล้ตาย จะมาเฝ้าหน้าสลอนทำไม มีงานอะไรก็ไปทำ ละมุลน้อยใจ ประคองบีบมือให้กำลังใจลูก ณรังค์สงสารน้องพาออกไป ท่านชายถามหาปฐวี ประคองตอบด้วยความน้อยใจว่าสายๆ แล้วก้มกราบแทบเท้าแม้นเทพ ท่านชายแปลกใจทำทำไม

“กราบขอบพระทัยฝ่าบาทที่ปกป้องหม่อมฉันกับลูกเพคะ...แต่หม่อมฉันกำลังคิดว่า ถ้าคุณหญิงจะเกลียดหม่อมฉันกับลูกมากถึงขนาดนี้ บางทีอาจจะดีกว่าถ้าเราสองคนจะออกจากวัง ไปอยู่ให้พ้นหน้าพ้นตา คุณหญิงจะได้ไม่ต้องทำให้ฝ่าบาททรงไม่สบายพระทัยอีก”

“ไม่ต้องสาระแนคิดเอง!” แม้นเทพตัดบททั้งที่รู้แก่ใจว่าตัวเองปกป้องสมบัติมากกว่าประคองตีเนียนทวงสัญญากรายๆ “เพคะ ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันดีใจเหลือเกิน ดีใจที่ฝ่าบาทยังไม่ทรงลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับหม่อมฉันเพคะ”

“สัญญาอะไร” แม้นเทพจำไม่ได้

“ที่เคยทรงสัญญากับหม่อมฉันว่า จะยกวังจงสวัสดิ์ให้ละมุล เพราะเหตุนี้ฝ่าบาทเลยไม่อยากให้หม่อมฉันกับลูกไปไหน ใช่ไหมเพคะ”

ท่านชายอึ้งไม่เคยคิดจะยกให้ ประคองยังพร่ำบอกว่าจะอยู่รับใช้จนวันตาย แต่ทรงไม่ต้องการฟังเรื่องตาย แล้วบ่นหาปฐวีอีกครั้ง ประคองข่มความน้อยใจเลี่ยงมาปอกผลไม้เงียบๆ

ด้านณรังค์รู้ว่าละมุลน้อยใจ ก็โอบปลอบขยี้หัวอย่างเอ็นดู สิริกันยาถือกระเช้าเดินสวนมาชะงักมองทำนองช่างมีผู้หญิงรอบตัวจริงๆ ณรังค์เห็นแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน พอสิริกันยาได้ยินว่าละมุลเป็นน้องสาวก็ไม่เชื่อ พูดเหน็บว่าเป็นพี่น้องที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย

ณรังค์อธิบายว่าไม่ได้เป็นพี่น้องทางสายเลือด แต่เลี้ยงให้โตมาด้วยกัน ละมุลสำทับว่าณรังค์เป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก สิริกันยารับคำทำหน้าไม่เชื่อถือ ณรังค์รู้ทันบอกละมุล ตนส่งแค่นี้จะพาแขกไปเฝ้าท่าน

พอละมุลเดินไป ณรังค์ก็เสียงแข็งใส่สิริกันยาทันที “ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดอกุศล”

“จะหาเรื่องอะไรฉันอีก หา คุณเจ้านาย” สิริกันยามองตาแข็งตอบโต้

ขณะที่ละมุลยืนรอลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิด ปฐวีเดินออกมา ละมุลยืนเกร็งหลบตา ไม่วายโดนแกล้งกระแทกจนเซแล้วกล่าวหาว่ายืนขวาง สั่งให้สบตา พอเห็นสายตาละมุลก็ถามเสียงกร้าวเกลียดตนมากใช่ไหม ผู้ต่ำศักดิ์กว่านิ่ง ปฐวียิ่งหาเรื่อง

“ไม่พูดฉันก็รู้ ไม่ต้องห่วง ฉันจะอยู่ให้แกเกลียด จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง”

ละมุลใจหายวาบ มองท่าทียิ้มเย้ยของพี่สาวต่างศักดิ์ กลัวจนมือไม้สั่น...ในขณะที่ณรังค์พาสิริกันยาเดินไปยังห้องพักฟื้นท่านชาย อดไม่ได้ที่จะต่อว่าเธอชอบมโนมองคนในแง่ร้าย เธอสวนว่าพฤติกรรมเขาฟ้องทิ่มตา ไม่ได้มโน

“อย่าตัดสินคนแค่สิ่งที่เห็น บอกแล้วไง คุณไม่ได้มารู้จักชีวิตผมเลย”

“คุณไม่จำเป็นต้องมาแก้ตัวกับฉันหรอก เพราะฉันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคุณ นอกจากเป็นแค่ลูกน้องและไม่ได้สายตรงด้วย จึงไม่จำเป็นต้องรู้จักชีวิตส่วนตัวคุณ การที่ฉันจะมองคุณในแง่ร้าย มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับคุณ เพราะฉะนั้นช่างมันเถอะ จบไหม”

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 22 ต.ค.60

ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ