อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 2 วันที่ 21 ต.ค.60

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 2 วันที่ 21 ต.ค.60

วันนี้พิมมี่เห็นณอนว่ายน้ำในสระก็มองกล้ามและซิกซ์แพ็กของเขาเคลิ้ม ป้ากลางมาเห็นถามว่ามองอะไร เธอเฉไฉว่าต้นไม้บ้านเรามันรกน่าจะให้คนมาตัดออกหน่อย ป้ากลางดักคอว่านึกว่าแอบดูผู้ชาย พิมมี่กลบเกลื่อนว่าจะแอบดูทำไมตรงนี้ไกลจะตาย สู้ลงไปว่ายด้วยจะไม่เห็นกว่าหรือ

อาภรณ์หรือป้ากลาง ร่ายยาวเวลาว่ายน้ำของฌอนตั้งแต่เช้า กระทั่งค่ำมีโชว์กระโดดสปริงบอร์ดด้วย บอกว่าอยากจะโดดกับเขาก็เอา

พิมมี่ถามว่าขึ้นจากสระกี่โมง ตนจะได้กะเวลาไปวัดไซส์สูทได้ถูก ป้ากลางบอกว่าน่าจะทุ่มนิดๆ



ค่ำวันนี้ พิมมี่จึงมาด้อมๆมองๆแถวสระเพื่อจะได้จัดไซส์สูทให้เขา มองไปในสระไม่เห็น แต่พอหันกลับก็เกือบซบแผงอกเขา ฌอนถามว่าจะว่ายน้ำหรือ พิมมี่ประหม่าเขินจนหน้าแดงปากคอสั่นว่า

“ปะ...เปล่าค่ะ คิดว่าพี่ฌอนว่ายน้ำเสร็จแล้ว” ฌอนถามว่ามาหาตนหรือมีอะไร “พิมมี่จะขอวัดไซส์พี่ฌอน จะได้จัดสูทเข้ารูปพอดีตัวน่ะค่ะ”

ฌอนบอกให้วัดเลย พอพิมมี่เอาสายวัดทาบแผงอกชายหนุ่ม ใจก็เต้นตึ้กตั้ก แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเสียงแมตต์ถามขึ้นว่า

“ทำอะไรพิมมี่”

พิมมี่ชะงัก พอบอกว่าจะวัดไซส์เสื้อให้ฌอน แมตต์บอกว่าตนวัดให้เอง แล้วดึงสายวัดจากพิมมี่ จัดแจงวัดเองราวกับมืออาชีพ วัดไปคุยไปกับฌอนว่า

“นาตาลีอัพรูปลูกแล้วนะ นายไม่ซื้อของขวัญรับขวัญหลานหน่อยเหรอ”

ฌอนชะงักหน้าตึงทันที ถามพิมมี่ว่าเสร็จแล้วใช่ไหมตนขอตัว แล้วเดินไปเลย แมตต์ตะโกนตามหลังว่า

“พนักงานบริษัทโดนมอเตอร์ไซค์ชนจะออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้...เซ็นอนุมัติค่ารักษาด้วย” ฌอนถามว่าทำไมเขาไม่เซ็น

“ฉันเริ่มงานมะรืนนี้ พรุ่งนี้ยังเป็นหน้าที่นาย นายต้องเซ็น”

แมตต์ยิ้มกวนๆ ฌอนมองหน้าอย่างไม่พอใจแล้วผละไป พิมมี่มองท่าทีของทั้งสองหายใจไม่ทั่วท้อง เดินกลับเข้าบ้าน เจอป้ากลางเดินออกจากห้องพระพอดี เลยถาม

“ป้ากลางคะ ทำไมพี่แมตต์ถึงไม่ชอบหน้าพี่ฌอนเลยคะ พิมมี่เห็นเจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที”

“ลุงแบรดแยกไปมีครอบครัวใหม่กับแม่ฌอนตั้งแต่แมตต์ยังเด็ก เด็กก็คือเด็ก ยังรับความสูญเสียไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าเข้ากันไม่ได้ ไปด้วยกันไม่ได้ หรือว่าถึงทางตัน หมายความว่ายังไง สำหรับแมตต์การอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก คือครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข ถ้ามีใครแทรกเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะแทนที่แม่ของเขา เขาก็ต้องไม่ชอบคนที่เข้ามาใหม่เป็นธรรมดา”

“พี่แมตต์พูดถึงผู้หญิงชื่อนาตาลีกับพี่ฌอนด้วย พิมมี่เห็นพี่ฌอนเหมือนจะอึ้งไป ป้ากลางรู้ไหมคะว่าเธอเป็นใคร”

“ชีวิตป้าก็อยู่แต่เมืองไทย ป้าอาจจะรู้มากรู้ลึก แต่ไม่ได้รู้ไกลไปถึงเมลเบิร์นหรอกนะ มาเดินกำหนดลมหายใจกลับห้องด้วยกัน จะได้เลิกฟุ้งซ่าน” ป้ากลางตัดบท พาพิมมี่เดินจงกรมออกไป

พิมมี่เดินตามป้ากลางไปเงียบๆ ทั้งที่อยากรู้ใจแทบขาดว่านาตาลีคือใคร?

ooooooo

ตุลออกจากโรงพยาบาลไปทำงานวันแรกก็เจอแมตต์เข้าไปถึงเขตหวงห้าม เธอโวยวายว่าเข้ามาได้ไง พนักงานที่นี่ยังเข้ามาไม่ได้เลย นอกจากระดับเฮดๆเท่านั้น ตีหน้ายักษ์ถามว่า “คุณเป็นใคร”

แมตต์ย้อนถามว่าตนต้องรายงานพนักงานระดับเธอด้วยหรือว่าเป็นใคร?

ต่างถือดีโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดง ในที่สุดแมตต์ยิ้มเยาะ บอกให้ดูหน้าตนดีๆ ผู้หญิงอย่างเธอเคยทำอะไรกับตนไว้บ้าง

ตุลถามกวนๆว่าตนทำอะไร ชาตินี้หรือชาติไหน

“ชาตินี้ แต่ 3 ปีที่แล้ว!!! จำแองจี้ได้ไหม คุณแย่งแองจี้ไปจากผมทั้งๆที่เรายังไม่ได้เลิกกัน คุณเป็นผู้ชายแบบไหนกันวะ!!” แมตต์เสียงแข็งจนตุลอึ้ง!!

เหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนถูกรื้อฟื้นขึ้นมา คืนนั้นแมตต์ในสภาพเมามายไปเคาะประตูเรียกแองจี้ให้ออกมาคุยกัน แต่แองจี้ไม่คุย แมตต์กระชากจะพาไปขึ้นรถ

เกิดยื้อยุดกันจนแองจี้ล้มกระแทกพื้น ตุลอยู่กับแองจี้ทนไม่ได้ชกแมตต์จนล้มกลิ้ง ตะโกนใส่หน้า

“ผู้หญิงเขาไม่รักจะบังคับให้เขารักได้ยังไง!! เป็นผู้ชายรึเปล่าวะ!!!”

ตุลจ้องหน้าแมตต์แล้วประคองแองจี้เข้าบ้าน แมตต์พลิกหน้ากลับมามองมีเลือดออกที่มุมปาก เขาตะโกนอย่างเจ็บแค้นว่า

“แล้วไอ้ผู้ชายที่มันแย่งแฟนคนอื่น มันเป็นผู้ชายแบบไหนวะ!!”

นึกถึงอดีตแล้วแมตต์ยังแค้น ยื่นหน้าเข้ามาถามตุลว่า ตกลงคุณเป็นผู้ชายประเภทไหน ย้ำเสียงเข้มว่า “ตอนนั้นผมไม่เอาเรื่องคุณเพราะคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอกันอีก แต่คุณมันซวยเองที่มาเจอผมจนได้ เพราะฉะนั้นเตรียมตัวรับให้ดี ผมเอาคืนแน่”

“เอาคืนยังไง จะเล่นงานฉันเหรอ เข้ามาถึงนี่ได้คงเส้นใหญ่พอตัว ไปสิไปฟ้องผู้จัดการเลยว่าฉันพูดจาไม่ดี ไม่มีมารยาทกับคุณ อย่างดีฉันก็แค่โดนพักงาน” ตุลยักไหล่ไม่แคร์

“ผมจะไม่ฟ้องผู้จัดการคุณ เพราะผมจะเล่นงานคุณด้วยตัวผมเอง” แมตต์จ้องหน้าเขม็ง

“เฮ้ย...ผู้ชายหน้าไหนบังอาจมาคุยกับตุลของโตวะ!!” โตมรเดินกร่างเข้ามาทางด้านหลังแมตต์ พอแมตต์หันมองด้วย

สายตาคมกริบ โตมรก็คอหดแทบหยุดหายใจ ทักนอบน้อม “อุ๊ย! สวัสดีครับคุณแมตต์ ไม่คิดว่าคุณแมตต์จะเดินมาถึงนี่”

ตุลเห็นท่าทีนอบน้อมของโตมรก็งง โตมรทำยืดแนะนำว่า

“นี่คุณแมตต์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณแบรด น้องชายสุดเลิฟของคุณฌอน คุณแมตต์มานั่งเป็นซีอีโอคนใหม่ของที่นี่”

ตุลช็อก! เวรแล้วไง!!!

โตมรลากตุลเดินลัดเลาะตามกรงสัตว์ ทำท่าตกอกตกใจว่า มีเรื่องกับใครไม่มีไปมีเรื่องกับซีอีโอ

“ฉันยังไม่คิดเลยว่าตัวเองจะซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรอย่างนี้!!!” ตุลกลุ้มหนัก

เมื่อมนตรีรู้เรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดหนัก บ่นว่าไปมีเรื่องกับเขาได้ไง เดี๋ยวเขาก็ต้องแทงเรื่องมาที่ตน ตนก็ต้องพิจารณาไล่ตุลออก บอกว่าแบรดกับฌอนเจ้าระเบียบเฮี้ยบมาก เตือนตุลว่าตอนนี้ต้องอยู่สงบๆทำงานไป เลี่ยงเจอหน้าได้เลี่ยง ตนไม่อยากไล่เธอออก เข้าใจไหม

โตมรขอร้องมนตรีว่าถ้าแมตต์มาปรึกษาเรื่องไล่ตุลออก พี่ตรีต้องช่วยตุลนะ คุณแมตต์ต้องเชื่อพี่อยู่แล้ว มนตรีเล่นตัวว่า

“ก็ไม่รู้จะช่วยได้รึเปล่า ขนาดคุณทักษะ คุณแบรดกับคุณฌอนยังเชิญออกมาแล้ว คุณแมตต์ก็คงโหด

ไม่ต่างกัน” แล้วเตือนตุลว่าให้ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน เดี๋ยวต้องเข้าประชุมแล้ว ขอสั่งเอาไว้ตรงนี้เลย ห้ามจ้องหน้าเขา ถามว่าทำได้ไหม

“ทำไมจะไม่ได้ อย่างกับอยากมองนักนี่!!” ตุลถอนใจเซ็งที่ซวยไม่จบไม่สิ้นสักที

ooooooo

แบรดรีโนเวทห้องของทักษะให้เป็นห้องทำงานของแมตต์ แมตต์จึงรู้ว่าทักษะถูกให้ออกแล้วต่อว่า แบรดว่าไหนว่าจะให้ตนเรียนรู้งานจากทักษะไง

แบรดบอกว่างานทักษะมีปัญหาหลายอย่างจึงต้องเชิญเขาออก แมตต์ถามว่าทำไมพ่อไม่บอกตนก่อน แบรดมองแมตต์อย่างเย็นชาถามว่า

“ทำไมต้องบอก รู้ตอนนี้หรือตอนไหนก็ค่าเท่ากัน หรือรู้แล้วแกจะไม่ทำ จะถอนตัว พนักงานทุกคนรอแกแถลงนโยบายในฐานะซีอีโอคนใหม่อยู่ แกจะปล่อยให้เขารอเก้อก็ตามใจ”

“ไม่ต้องห่วง ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย ฉันจะคอยช่วยนายเอง” ฌอนแทรกขึ้น

“ไม่ต้องช่วย จะไม่ถาม จะไม่มีปัญหา” แมตต์เดินหน้าตึงออกไป แบรดกับฌอนมองหน้ากันทำนองว่า ดูซิว่ามันจะไปได้สักกี่น้ำ

มนตรีแสดงความกล้าหาญ เดินนำตุลกับโตมรไปที่ห้องประชุม ปลุกเร้าใจว่า

“ใจเย็น ของอย่างนี้ต้องใจเย็นสู้เสือ แกน่ะ หลบๆอยู่ข้างหลังเลยไอ้ตุล ฉันในฐานะหัวหน้าทีม จะเป็นทัพหน้านำไปเอง เราต้องมั่นใจว่าเราเก่ง เราอยู่มานานแล้ว ยังไงเขาก็ต้องพึ่งเรา ไม่กล้าทำอะไรเราหรอก”

มนตรีพูดจบก็ชะงักกึกเมื่อเห็นแมตต์เดินตึงๆ

แผ่รังสีอำมหิตมา มนตรีหน้าถอดสีหัวหดอุทาน

“ฉิบหาย!!! คุณแมตต์!!!”

พริบตานั้น ทั้งสามต่างโดดหลบตัวใครตัวมัน แต่ไม่พ้นสายตาอำมหิตของแมตต์ เขามองทั้งสามอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเดินผ่านไป

โตมรที่แอบดูอยู่ถอนใจโล่งอก โตมรกับตุลมองไปทางมนตรีหัวหน้าผู้กล้าหาญเห็นเอาหน้าซุกจนแทบจะสิงเข้าไปในเสาอยู่แล้ว ตุลเรียก “พี่ตรี” มนตรียังซุกเสาอยู่ถามอู้อี้ว่า ไปยัง? โตมรบอกไปแล้ว มนตรีถึงถอนหน้าจากเสาถอนใจเฮือกกกก

“ไหนบอกว่าทัพหน้าไง” ตุลติง

“ทัพหน้าแต่ต้องระวังหลังเว้ย” มนตรียังทำปากกล้าตะแบงไปตามเคย

ooooooo

เมื่อเข้าห้องประชุม มนตรีย้ำกับตุลว่า ให้นั่งเฉยๆอย่าด่าเขาทางสายตา อย่ามีปัญหา

เมื่อแมตต์ แบรด และฌอนเดินเข้ามา ทุกคนยืนขึ้นพร้อมกัน ตุลลุกตามทุกคนอย่างเสียไม่ได้ มนตรีรีบเอ่ยอย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับคุณแมตต์”

“บางคนอาจจะรู้จักกันมาแล้ว บางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ผมขอแนะนำลูกชายของผมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมธากวิน เจนนิงส์ ซีอีโอคนใหม่ของที่นี่” แบรดเอ่ย

ทุกคนปรบมือต้อนรับพร้อมเพรียงกัน ตุลจำต้องปรบเปาะแปะไปกับเขา แมตต์นั่งที่หัวโต๊ะ แบรดกับฌอนนั่งขนาบมองแมตต์ด้วยสายตากดดัน

“ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่มาทำความรู้จักกันในวันนี้ ในฐานะซีอีโอคนใหม่ของบลู แพลนเนต ผมอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการทำงาน ขอให้ทุกคนช่วยกันทำสวนสัตว์ของเรามีมาตรฐานในการจัดการ ...บริการที่ดี นักท่องเที่ยวที่มาจะได้รับความประทับใจกลับไป หวังว่าทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจกันนะครับ”

มนตรีในฐานะผู้จัดการขอพูดแทนทุกคน จะมุ่งมั่น ตั้งใจพัฒนาบลู แพลเนตให้เป็นสวนสัตว์ที่มีคุณภาพ

ในทุกๆด้านไม่แพ้ที่ใดในโลก พนักงานทุกคนปรบมือให้ มนตรียืด ยิ้มหน้าบาน

“ดีครับ เริ่มที่คุณภาพของพนักงานก่อน เท่าที่ผมเดินสำรวจมาสองวัน ผมคิดว่าเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องทำก็คือการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับพนักงาน ใช่ไหมครับ...คุณมนตรี คุณโตมร”

แบรดกับฌอนสบตากันไม่คิดว่าแมตต์จะแอบมาสำรวจงานแล้ว มนตรีเสนอว่าตอนนี้นักท่องเที่ยวนอกจากที่ใช้ภาษาอังกฤษแล้วทัวร์จีนก็เข้ามาเยอะมาก

แมตต์ประกาศว่า เราจะจัดอบรมภาษาอังกฤษและภาษาจีนให้พนักงานทุกคนได้เรียนอาทิตย์ละ 3 ชั่วโมงหลังเลิกงาน สั่งมนตรีให้ช่วยทำตารางเรียนให้ด้วย บอกทุกคนว่าจะประเมินผลกันเป็นรายสัปดาห์

นอกจากนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลความสะอาดภายในบลู แพลนเนตให้ดีขึ้น มนตรีรับปากแข็งขันว่าจะกำชับเรื่องนี้กับทุกคนอีกครั้ง

“เรื่องสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือเรื่องกิริยามารยาทของพนักงาน” ตุลสะดุ้งรู้ตัวว่าโดนแน่ แต่ยังข่มใจสงบนิ่ง แมตต์พูดย้ำว่า

“พนักงานทุกคนต้องแสดงกิริยามารยาทและพูดจาสุภาพกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือใครก็ตามที่เข้ามาที่นี่ ซึ่งผมคิดว่าคงไม่ต้องจัดอบรมกันนะครับ เพราะทุกคนเป็นคนไทยคงจะรู้ว่ากิริยามารยาทแบบไทยๆเป็นยังไง จริงไหมครับคุณตุล...เอ่อ...ขอโทษนะครับตุลอะไรนะ ตุลพลหรือตุลศักดิ์นะครับ”

ทุกคนแอบขำ แต่ตุลแทบจะปรี๊ดแตก โตมรที่นั่งติดกันรู้แกวรีบเหยียบเท้าตุลปราม มนตรีที่นั่งขนาบก็จับแขนตุลไว้กระซิบ

“อย่าห้าว” ส่วนโตมรเตือน “สติ...สติ” ตุลกัดฟันตอบแมตต์ว่า

“ตุล-ละ-ญา-ณา ค่ะ!!!”

“ขอบคุณครับ คุณ-ตุล-ละ-ญา-ณา” แมตต์ยิ้มกวนๆจ้องตุลนิ่ง จนตุลต้องหลุบตาต่ำกลัวมีเรื่อง

ประชุมเสร็จ แบรด ฌอน กับแมตต์ เดินออกไปแล้ว มนตรี โตมรกับตุลอยู่รั้งท้าย

“นี่ถ้าโตกับพี่ตรีไม่ดึงแขนเหยียบขาไว้ คงมีการชกกันปากแตกกลางที่ประชุมแล้วใช่ไหม” โตมรถาม

“อุตส่าห์ย้ำแล้วย้ำอีก ไม่ว่าคุณแมตต์จะว่ายังไง แกก็ต้องไม่สบตา ยังไงเราก็ลูกน้อง มันมีแต่เสียกับเสีย ซวยกับซวย

บ้านนี้เขาซอมบี้กันทั้งบ้าน คุณแมตต์ก็ซอมมมมม...” มนตรีหยุดกึกเมื่อเห็นแมตต์โผล่จากหลืบข้างทางออกมาจ้องเขม็งใส่ทุกคน!

มนตรีกลับลำเปลี่ยนเรื่องทันทีบอกแมตต์ว่า รับรองว่าเราทั้งสามจะให้ความร่วมมือช่วยกันผลักดันให้บลู แพลนเนตเป็นสวนสัตว์อันดับ 1 ของโลกให้ได้ ส่วนโตมรก็รีบขอตัวไปทำงาน

“เชิญ! ยกเว้นคุณ-ตุล-ละ-ญา-ณา ตามผมมา”

ทุกคนเหวอ มนตรีพึมพำสยองว่าถูกไล่ออกแน่ๆ ตุลนิ่ง เครียด

ooooooo

แมตต์พาตุลไปที่ห้องประชุม ตุลถูกชำระความที่แสดงความก้าวร้าวต่อแมตต์ในวันที่เขาเข้าไปในเขตหวงห้าม เธอชี้แจงอย่างไม่พรั่นพรึงว่า

“ที่ฉันทำก็เพื่อปกป้องบริษัท ฉันต้องสกรีนคนภายนอกเพราะคนที่เข้ามาอาจจะมาทำร้ายหรือแพร่เชื้อโรคให้สัตว์ และบางทีสัตว์มันอาจจะคลุ้มคลั่งทำร้ายคนก็ได้ คุณจะมาจ้องจับผิด มาลงโทษทำทัณฑ์บนหรือไล่ฉันออกไม่ได้นะ”

“ผมไม่ทำทัณฑ์บนคุณ แต่จะ...”

“ไล่ฉันออก...นี่คุณจะไล่ฉันออกเหรอ!!!” ตุลตัวชาวาบพูดแทรกขึ้นก่อนที่เขาจะพูดจบ

“ใช่!!” แมตต์ตอบหน้านิ่ง ตุลหัวใจแทบหยุดเต้น “แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ที่เรียกมาก็เพราะอยากจะเตือนในฐานะที่คุณเป็นพนักงานของบลู แพลนเนต การไปเดินเอ๋ออยู่กลางถนนมันเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินของคนอื่น แล้วก็ตัวคุณเอง”

ตุลมึนตื้อ พยายามจับต้นชนปลายว่าเขาพูดอะไร? มันเรื่องอะไร? แมตต์ยังพูดไปเรื่อยว่า

“รถวิ่งมาชนคุณ ไม่รถบุบคุณก็บุบ แล้วถ้าผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น คุณตายไปแล้ว”

“คือ...จะบอกว่าคุณเป็นหมอ??” ตุลถามกวนๆงงๆ

“ผมเป็นคนพาคุณไปส่งโรงพยาบาล”

ตุลอึ้ง นึกถึงที่พ่อบอกว่า “มันชนแล้วหนี ดีที่ผู้ชายคนนั้นมาช่วยไว้” เธอมองหน้าเขาเต็มตา ถาม

“ถ้างั้น...ผู้ชายคนนั้นก็คือ...คุณ!!!”

ตุลช็อก เมื่อจินตนาการถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...

คิดเห็นตัวเองในสภาพสะลึมสะลือ เห็นใบหน้ากรุ้มกริ่มของแมตต์ยื่นเข้ามา พูดว่า “สลบอย่างนี้ ต้องผายปอด” เวลานั้นเธอพยายามดิ้นหนีร้องลั่น “ไม่...ไม่นะเว้ย...” ตุล นึกถึงคำทำนายของแม่หมอทันที... “ผู้ชายคนนั้น คือคนที่มอบจูบแรก มอบชีวิตและมอบลมหายใจให้กับเจ้า...”

ตุลตกในภวังค์...เธอกรีดร้องรับไม่ได้ แมตต์ที่คุยกันอยู่ดีๆ งงกับท่าทางเหมือนเสียสติของเธอ

“นี่คุณ!! กรี๊ดหูแตกทำไมเนี่ย ล้มหัวฟาดแล้วสติสตังยังไม่เข้าที่รึไง ห๊ะ!!!”

“คุณไม่ได้...ไม่ได้...” ตุลละล่ำละลักพูดไม่ออก

“ไม่ได้อะไร ถ้าไม่ได้ผมคุณคงหยุดหายใจไปแล้ว ต้องให้ย้ำไหม ผมนี่แหละที่ต่อลมหายใจให้คุณ”

แมตต์ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ตุลช็อก ถามแทบไม่เป็นภาษา...“ต่อลมหายใจ!!! มะ...หมายความว่า คุณจะ...จูบฉันแล้ว...อ๊ากกกก”

“เพ้อคลั่งบ้าบออะไรห๊ะ...ผมไม่จูบผู้ชายด้วยกันให้ฟ้าผ่าหรอก”

แมตต์ทำเสียงเข้ม แล้วนึกถึงเหตุการณ์ขณะนั้น...

วันนั้นเขาประสบเหตุตุลถูกมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหนี เขาลงจากรถไปดูเห็นเธอสลบจึงให้ชาวบ้านช่วยเรียกรถพยาบาล ขณะเดียวกันก็พยายามเรียกตุลให้ได้สติ เขาพลิกหน้าเธอขึ้นดูว่ายังหายใจอยู่หรือเปล่า ตุลพยายามปรือตามองแต่ลืมตาไม่ขึ้นแล้วก็หมดสติไปอีก

แมตต์เห็นหน้าตุลเต็มตาก็จำได้ว่าเป็นคนที่แย่งแองจี้ไปจากตน แต่เมื่อตรวจดูอีกทีเธอหยุดหายใจแล้วเขาบอกให้โทร.เรียกหมอฉุกเฉินด่วน พลางยกคางให้แหงนหน้าไปด้านหลังเพื่อเปิดทางหายใจให้โล่ง...

แมตต์เล่าว่าเห็นเธอไม่หายใจแล้วเลยให้คนแถวนั้นโทร.เรียกหมอแค่นั้น ตุลแอบโล่งใจที่ยังไม่เสียจูบแรก ถามว่าแล้วยังไงต่อ เรียกตนมาเพื่อจะบอกว่าเขาเป็น

ผู้มีพระคุณงั้นหรือ?

“ไม่ใช่แค่นั้น แต่จะย้ำว่า ต่อไปนี้คุณห้ามเอ๋อ ห้าม ป่วย ห้ามเจ็บ ห้ามตาย ห้ามเรื่องชู้สาว ห้ามไปแย่งผู้หญิงของใคร เพราะถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาอีกละก็...ผมจะไม่ทำทัณฑ์บน แต่จะไล่คุณออกทันที!!”

แมตต์พูดเหมือนประกาศิตแล้วเดินออกไปเลย ตุลมองค้าง อยากจะตามไปตั๊นหน้าผู้ชายเรื่องมากคนนี้สักเปรี้ยงจริงๆ!

ooooooo

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 2 วันที่ 21 ต.ค.60

ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทประพันธ์โดย เชอริณ
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทโทรทัศน์โดย ปารดา
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน กำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน วัน-เวลาออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ติดตามชมละครเรื่อง รักกันพัลวัน ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ