อ่านละคร ปัทม์ ตอนที่ 8 วันที่ 21 มี.ค.62

อ่านละคร ปัทม์ ตอนที่ 8 วันที่ 21 มี.ค.62

ปัทม์มองอย่างสะเทือนใจที่ครั้งหนึ่งน้ำอัดลม TK เคยครองตลาดแบบนี้มาก่อน

เพียงวันรุ่งขึ้น อ้นก็ขับรถกระบะมาที่บ้านปัทม์ ปัทม์เกรงใจมาก อ้นเลยบอกว่าถ้าพี่ปัทม์ไม่สะดวกใจจะซื้อต่อหรือเช่าก็ได้ แต่ถ้าช่วงนี้ยังไม่พร้อมก็เอาไปใช้ก่อน ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

“คุณนี่รู้ทันผมอีกคนแล้ว เหมือนหนูตุ่นเลย”



“หนูตุ่นเขาเล่าเรื่องพี่ปัทม์เอาไว้เยอะน่ะครับ หนูตุ่นเขาอยากให้พี่มีความสุข ผมก็อยากให้หนูตุ่นมีความสุขเหมือนกัน” อ้นเห็นปัทม์มีท่าทีจะปฏิเสธ

เลยพูดดัก “พี่ปัทม์ เราก็ลูกผู้ชายด้วยกัน ผมดูออกนะ”

“แต่นายก็ชอบหนูตุ่นไม่ใช่เหรอ”

“ระหว่างผมกับหนูตุ่น เอาจริงๆแล้วเราก็เป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นแหละครับ”

ปัทม์เล่าถึงตอนนี้แล้ว เขาบอกนักข่าวอย่างชื่นชมว่า

“ผมนับถือน้ำใจของอารักษ์จริงๆนะ ทั้งๆที่เขารักหนูตุ่นหมดหัวใจ แต่เขาก็ยินดีช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่ จนผมลืมไปเลยว่าผมเคยรู้สึกไม่ดีกับเขาในช่วงแรกๆ”

อ้นเอารถไปให้ปัทม์ไม่นาน หนูตุ่นก็มาถึงทักว่าอ้นมาแต่เช้าเลย แซวปัทม์ว่าไม่เห็นมีน้ำสมุนไพรมาให้ ชื่นใจเลย ปัทม์บอกว่าเห็นหนูตุ่นกินมาเยอะแล้วกลัวจะเบื่อ

หนูตุ่นเล่าถึงอดีตที่ทำน้ำสมุนไพรแล้วขายไม่ออกจนต้องระดมกินกันเองจนแทบไม่ได้กินข้าวเย็นเลย แต่พอบ่อยๆเข้าก็ไม่ไหวเหมือนกัน

“แต่...ครั้งนี้ผมคงไม่ต้องช่วยพี่กินน้ำสมุนไพรที่เหลือใช่ไหมครับ”

“คราวนี้ผมกวาดหมดหน้าตักแล้วล่ะ เงินเก็บก้อนสุดท้ายของผม ผมจะทำมันให้เต็มที่ แล้วมาดูผลลัพธ์กัน”

ทั้งสามยกแก้วน้ำสมุนไพรขึ้นชนแก้วอย่างพร้อมลุยไปกับ “Fight”

ooooooo

เมื่อปัทม์ประกาศเทหมดหน้าตักเพื่อทำน้ำสมุนไพร หนูตุ่นถามว่าแล้วพี่ปัทม์ทำคนเดียวไหวหรือเพราะตนกับอ้นจะมาช่วยได้ก็ในวันหยุดเท่านั้น

ปัทม์ถามว่าหนูตุ่นลืมใครไปรึเปล่า แต่ยังอำไว้ไม่บอก

ที่ไร่สมพร ขณะอ้ายคำกับมิ่งกำลังพรวนดินต้นสมุนไพรอยู่ เอ้หิ้วปิ่นโตมาตะโกนเรียกให้มากินข้าว ทั้งสองไม่สนใจแต่พอเอ้บอกว่ามีข่าวดีมาบอก ทั้งอ้ายคำกับมิ่งก็เดินอ้าวเข้ามาถามว่าข่าวดีอะไร

“พี่ปัทม์จะทำน้ำสมุนไพรขายอีกครั้ง เขาเลยจะขอแรงให้พวกเราไปช่วยเขาทำที่กรุงเทพฯ”

มิ่งตื่นเต้นที่จะได้ไปกรุงเทพฯ แต่อ้ายคำบอกว่าตนไม่อยากทิ้งที่นี่ไปนานๆ เอ้ตามใจลุง ตนกับมิ่งจะไปลุยกับพี่ปัทม์อีกสักตั้ง มิ่งปลอบใจว่าจะเที่ยวเผื่อลุงแล้วกัน

ปัทม์ขับรถกระบะคันนั้นไปรับเอ้กับมิ่งและเอาสมุนไพรที่ไร่มาเต็มรถ ระหว่างทางก็แวะร้านขายของชำเอาน้ำสมุนไพรที่แช่ในกระติกน้ำแข็งให้เจ้าของร้านชิมเอ่ยปาก “ฝากด้วยนะครับเฮีย”

ปัทม์บอกนักข่าวว่าตนได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกร้านที่เคยไปดีลด้วย เป็นโชคดีที่ตอนทำงานอยู่บริษัทน้ำอัดลมตนชอบไปส่งน้ำตามร้านกับพนักงานจึงได้รับมิตรภาพและความห่วงใยจากพวกเจ้าของร้าน

ปัทม์ยังคิดว่าเราไม่ได้ขายแค่น้ำสมุนไพร แต่เราขายประโยชน์ของมันที่มีต่อสุขภาพ น้าพรเคยบอกว่า

“ของพวกนี้วันหนึ่งมันจะมีค่ามากกว่าทอง โลกมันเจริญแค่ไหน คนก็ต้องกลับมากินมารักษาด้วยวิถีธรรมชาติ สมุนไพรพวกนี้คือคำตอบของวันนี้และอนาคตข้างหน้า จำคำพูดน้าเอาไว้”

ปัทม์ขับรถปุเลงๆจากเชียงรายกว่าจะมาถึงกรุงเทพฯทั้งมิ่งทั้งเอ้ก็สะบักสะบอม พอมาถึงปัทม์ก็ลงจากรถมาขนสมุนไพรที่ท้ายรถ แต่มิ่งยังยืนพะอืดพะอมจนเอ้เร่งให้มาช่วยขนสมุนไพร

เอ้ขนสมุนไพรไปก็ถามปัทม์ไปว่าปกติคนกรุงเทพฯเขาเที่ยวที่ไหนบ้าง วันหลังพาพวกตนไปเที่ยวมั่ง

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพวกเราได้เที่ยวกันรอบกรุงเทพฯแน่ๆ” ปัทม์หัวเราะมีเลศนัยเพราะต่อไปต้องตระเวนส่งน้ำสมุนไพรกันอยู่แล้ว

ooooooo

วันต่อมารถกระบะติดสติกเกอร์น้ำสมุนไพร “Fight” ข้างรถจอดนิ่งสนิทอยู่กลางสี่แยกไฟแดงท่ามกลางแดดเปรี้ยงอากาศร้อนระอุ ปัทม์กับหนูตุ่นนั่งเซ็งอยู่ในรถ พอไฟเขียวหายใจได้ไม่กี่อึดไฟแดงอีกแล้ว!

หนูตุ่นบ่นว่ารถติดร้อนขนาดนี้ถ้าได้น้ำเย็นๆ สักแก้วก็คงดี ปัทม์หันหาน้ำรอบตัวไม่มีน้ำเหลือสักขวด ปัทม์มองไปที่รถคันอื่นคนในรถแต่ละคันก็อยู่ในสภาพร้อนกระวนกระวายไม่ต่างกัน หนูตุ่นบ่นอีก

“รถติดแบบนี้ถ้ามีตู้เย็นตั้งขายน้ำริมถนนก็ดีนะ”

ปัทม์ยิ้มชมว่าช่างคิดจริงๆ ก็พอดีคนหิ้วกาแฟชาดำเย็นมาขายข้างทาง หนูตุ่นเปิดกระจกรถสั่งชาดำ สองถุง แต่คนขายถูกรถคันอื่นเรียกซื้อหมดไปแล้ว หนูตุ่นบ่นเสียดายจังซื้อไม่ทัน

“ตอนนั้นผมรู้แล้วว่าผมจะทำอะไรให้คนรู้จักน้ำสมุนไพรของผมได้เร็วที่สุด” ปัทม์ยิ้มกว้างบอกนักข่าว

ปัทม์เรียกเอ้กับมิ่งให้มาช่วย หนูตุ่นให้อารักษ์ดูแลเรื่องขวด อารักษ์ถามว่าต้องการสักกี่ขวด 100-200 พอไหม ปัทม์บอก 1,000 ขวด ทุกคนอึ้ง เอ้ถามว่าจะขายหมดภายในกี่วัน ปัทม์บอกคิดไว้สามวัน หนูตุ่นบ่นว่าบ้าไปแล้ว วันก่อนไปวางขายที่ร้านยังขายได้ไม่ถึงสิบขวด

“รับรองหมดแน่ ถ้าหมดแล้วขอให้ทุกคนช่วยกันทำชุดต่อไปเลยนะครับ” เอ้ถามว่าพี่ปัทม์เอาความคิดนี้มาจากไหน ปัทม์ตอบทันทีว่า “จากน้าพร”

ทุกคนงุนงงไม่เข้าใจว่าปัทม์จะทำอะไร อย่างไร และความคิดของน้าพรคืออะไร แต่ก็ทำน้ำสมุนไพรตามที่ปัทม์บอก

ooooooo

เมื่อได้น้ำสมุนไพรตามที่ต้องการแล้ว ปัทม์เอาใส่ถังน้ำแข็งใบใหญ่ขับรถพาเอ้กับมิ่งไป ระหว่างนั่งในรถปัทม์อธิบายให้เอ้กับมิ่งฟังว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เอ้ตกใจไม่คิดว่าจะมีใครบ้าทำอะไรแบบนี้ ถามว่า

“พี่ปัทม์เอาจริงเหรอ”

“ถ้าไม่กล้าก็นั่งอยู่ในรถ”

ปัทม์ลงจากรถพับแขนเสื้อทะมัดทะแมงลงไปเปิดถังน้ำแข็งหยิบขวดน้ำสมุนไพรที่แช่เย็นเจี๊ยบเดินไปเคาะกระจกรถที่จอดอยู่ข้างๆ พอคนในรถลดกระจกลงปัทม์ส่งขวดน้ำสมุนไพรให้พูดหน้าตายิ้มแย้ม

“รถติดร้อนขนาดนี้ แจกน้ำสมุนไพรฟรีครับ ดื่มแก้กระหายจับใจเลยครับ”

พอคนในรถรับไปดื่ม ปัทม์ถามเป็นยังไงบ้าง เขาบอกว่าดีสดชื่นดี ปัทม์ถามอีกขวดไหม

“แบ่งคนอื่นๆบ้าง เขาจะได้หายร้อนเหมือนกัน ขายที่ไหนล่ะ”

“เร็วๆนี้ครับ ตอนนี้ให้ชิมก่อน”

เมื่อปัทม์ทำเป็นตัวอย่างเอ้กับมิ่งก็ทำตาม พอรถติดไฟแดงก็ลงจากรถเอาน้ำสมุนไพรเดินแจกรถที่ติดไฟแดง จนคนในรถเห็นปัทม์ เอ้ และมิ่งเดินมาก็เปิดกระจกรถรอรับแจกน้ำสมุนไพรกัน พอดื่มแล้วทุกคนก็คลายร้อนอารมณ์ดีขึ้น

การทำน้ำสมุนไพรไปแจกรถติดที่สี่แยกไฟแดงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ปัทม์ เอ้ กับมิ่งทำอย่างกระตือรือร้นและสนุกเพราะได้รับการตอบรับอย่างดี ปัทม์อธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า

“ถ้าจะทำธุรกิจมันก็ต้องมีการลงทุน การลงทุนมันก็มีความเสี่ยง ถ้าคนยังไม่รู้จักน้ำสมุนไพรของเราแล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าน้ำสมุนไพรของเรามันดียังไง ถ้าของดียังไงคนเขาก็บอกต่อ”

ขณะที่ปัทม์ เอ้ กับมิ่งแจกน้ำสมุนไพรที่สี่แยกไฟแดง อารักษ์กับหนูตุ่นก็ดูและถ่ายรูปอยู่บนสะพานลอย หนูตุ่นเห็นการแจกน้ำสมุนไพรข้างล่างคึกคักก็ลงไปช่วย อารักษ์อยู่บนสะพานลอยก็ถ่ายรูปปัทม์กับหนูตุ่นแจกน้ำสมุนไพรรัวๆ แถมยังคอยบอกคนที่ข้ามสะพานลอยว่าข้างล่างเขาแจกน้ำสมุนไพรกันใครหิวก็ไปรับแจกได้เลย หลายคนกระหายน้ำเดินย้อนไปรับแจกน้ำสมุนไพรกัน

อารักษ์เอารูปที่ถ่ายมาจัดเรียงให้หนูตุ่นไปถ่ายเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์แจกน้ำสมุนไพรของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกลางแดดเปรี้ยงตามสี่แยกที่รถติดไฟแดง ส่งไปตามหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ

วันต่อมาหนังสือพิมพ์ดังหลายฉบับก็ลงข่าวการแจกน้ำสมุนไพรตามสี่แยกไฟแดงกัน ไม่เพียงเท่านั้น ทีวีก็ออกข่าวพร้อมกับภาพการเดินแจกน้ำสมุนไพร

ผู้ประกาศสาวอ่านข่าวอย่างชื่นชมว่า

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ปัทม์ ตอนที่ 8 วันที่ 21 มี.ค.62

บทประพันธ์โดย บุรีวาด
บทโทรทัศน์โดย ณัฐ นวลแพง
กำกับการแสดงโดย ศุภฌา ครุฑนาค
ผลิตโดย บริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ