อ่านละคร ปัทม์ ตอนที่ 3 วันที่ 9 มี.ค.62

อ่านละคร ปัทม์ ตอนที่ 3 วันที่ 9 มี.ค.62

คืนนี้ตำรวจไปทลายซ่องป้าอบ ลูกค้าที่มาเที่ยวหนีกันอลหม่าน เสื้อผ้าก็นุ่งเท่าที่จะคว้าได้ ป้าอบเผชิญหน้ากับสารวัตรภักดี บอกว่าตนอยู่มาจนป่านนี้ยังไม่มีตำรวจที่ไหนมาจับ สารวัตรถือดียังไง

สารวัตรภักดีเสียงกร้าวว่าตนมีหน้าที่รักษากฎหมายถ้าเพิกเฉยตนก็มีความผิด ป้าอบด่า “ไอ้พวกหลืบ” เลยถูกเชิญไปโรงพัก ป้าอบไม่ไป สมพรจึงขอคุยกับสารวัตรเอง ถามว่าตำรวจพอมีวิธีช่วยเหลือกันบ้างหรือเปล่า สารวัตรภักดีเสียงแข็งว่าไม่มี

เมื่อสมพรพยายามจะเจรจาอีก สารวัตรตะโกนให้ตำรวจค้นทุกห้อง ค้นทุกคน ไม่ว่ากะหรี่หรือนักเที่ยว หันจ้องหน้าสมพรตะคอกใส่ “เธอด้วย!”



คืนนี้ปัทม์กลับมาเห็นขนมที่ทำเสร็จแล้ว ถามแม่จึงรู้ว่าหนูตุ่นมาช่วยทำ ชมว่าหนูตุ่นชอบทำขนมจริงๆและจำสูตรได้แม่นด้วย ปัทม์ถามว่าตั้งแต่พรุ่งนี้หนูตุ่นจะมาช่วยทำขนมหรือ ลินจงบอกว่าเขาตั้งใจอย่างนั้นจนกว่าแม่จะมีแรงกลับมาทำขนมใหม่

คืนนี้ปัทม์เข้านอนได้ไม่นานสมพรก็กลับมา ปัทม์ลุกมาเปิดไฟให้ พอเห็นสภาพของสมพร ปัทม์ตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“ตำรวจมันมาจับน่ะสิ มันค้นทุกคนจนนักเที่ยวขยาด” ปัทม์งง บอกว่าตนไม่รู้เรื่องเลย “มันบอกว่าจะมาจับอีก น้าถามว่าจะมาจับอะไรนักหนา ถ้าจับแบบนี้ใครที่ไหนเขาจะมาเที่ยว ก็ด่าน้าบอกให้เลิกเป็นกะหรี่ น้านี่ของขึ้นเลย เลยโดนพวกมันตบเอา”

ปัทม์ถามว่ามันจะให้ป้าอบจ่ายเงินอย่างที่ตนบอกหรือเปล่า สมพรบอกว่าใช่ มันบอกว่าอีกไม่กี่วันจะมีคนมาเจรจา ปัทม์บอกว่าที่จริงวันนั้นตนต้องไปด้วย

สมพรถามว่าถ้าปัทม์ไปด้วยวันนั้นแล้วทุกคนในบ้านป้าอบจะรู้สึกยังไง

“ผมจะไปลาออกกับเฮีย”

“แล้วปัทม์จะไปคุยกับเขายังไง”

ปัทม์อัดอั้นร้องไห้ออกมาจนสมพรต้องปลอบ

แล้วก็มีเหตุทำให้ปัทม์ต้องถลำลึกลงไปอีกเมื่อลินจงมาดูหนูตุ่นทำขนมจะยกหม้อนึ่งที่น้ำกำลังเดือดลงจากเตา แต่ยกไม่ไหวลินจงจึงลุกไปจะช่วยยกแต่รู้สึกบ้านหมุนจนล้มลงนอนกับพื้น หนูตุ่นทิ้งหม้อนึ่งมาพยุง

สมพรกับหนูตุ่นพาลินจงส่งโรงพยาบาล ปัทม์ที่กำลังจะไปลาออกกับเฮียเล้งพอได้ข่าวแม่ก็รีบไปโรงพยาบาล เห็นหนูตุ่นอยู่หน้าห้องฉุกเฉินก็กวักมือเรียกไปต่อว่ารุนแรงที่มาทำขนมทำให้แม่ต้องไปช่วยจนเกิดเหตุนี้ขึ้น หนูตุ่นผิดหวังเสียใจมากที่ทำคุณกลับบูชาโทษ บอกว่าพี่ปัทม์ไม่เหมือนคนที่หนูตุ่นรู้จักแล้ว

“พอเถอะ ขอให้พี่กับแม่ดูแลกันเอง ขอบคุณนะที่ช่วยเหลือกันหลายเรื่อง แต่อยู่เฉยๆดีกว่า”

หนูตุ่นเสียใจมากเดินร้องไห้ออกไป

ปัทม์นอนเฝ้าแม่อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน สมพรเดินเข้ามาบอกว่าหมอบอกว่าต้องนอนรักษาอยู่โรงพยาบาลอีกระยะหนึ่ง ปรารภว่าห่วงเรื่องค่ารักษาเราจะหาเงินจากที่ไหน

“ผมไม่มีทางเลือกอื่นแล้วใช่ไหม” ปัทม์ถามอย่างรู้ชะตาตัวเอง

ในที่สุดปัทม์ก็ต้องพึ่งเฮียเล้ง เฮียเล้งจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของลินจงให้ และยังจะหาบ้านให้อยู่ใหม่ที่ดีกว่าปัจจุบัน บอกว่า “อนาคตของปัทม์อยู่กับเฮียแล้ว”

ปัทม์ก้มกราบเฮียเล้งอย่างสำนึกบุญคุณที่ช่วยแม่ตน แต่หลังจากนั้นก็เข้าห้องน้ำร้องไห้อย่างหนัก

วันนี้...ปัทม์ในวัยชราที่กำลังให้สัมภาษณ์ บรรยายเส้นทางชีวิตตนในขณะนั้นว่า...

“แม่ผมได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและตามมาตรฐาน เขาน่าจะมีอาการดีขึ้นในไม่ช้า ผมเลิกคิดที่จะออกจากใต้ปีกของเฮียเล้ง เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่คุณจะอกตัญญูกับคนที่ทำให้กับคุณแบบนี้ ไม่มีทางจริงๆ ผมคิดว่าตัวเองคงต้องโลดแล่นไปในวงการนี้อีกนาน...”

ooooooo

จากวันนั้นมา ปัทม์ก็มีเสื้อผ้าใหม่ รองเท้าใหม่เอี่ยม นาฬิกาข้อมือ เขาแต่งตัวโก้ตะโกนบอกแม่ว่า

“ผมเสร็จแล้วนะแม่ แม่เสร็จหรือยังครับ”

ปัทม์พาแม่นั่งสามล้อไปยังถนนที่มีทุ่งนาริมทางเขียวขจี ลินจงถามว่าจะพาแม่ไปไหน ปัทม์อำว่าเดี๋ยวก็รู้

“ถึงขนาดให้แม่หยุดขายของแล้วพาแม่มา มันต้องดีมากๆ”

“ดีแน่นอนครับแม่”

“นานมากแล้วไม่ได้นั่งรถเพลินๆแบบนี้”

ปัทม์ยิ้มมีความสุขที่เห็นแม่ไม่เครียด สองแม่ลูกนั่งสามล้อไปตามทางที่สงบร่มรื่นของท้องทุ่ง...

ที่แท้ปัทม์พาแม่ไปดูบ้านเช่าหลังใหม่ บอกแม่ว่าที่นี่ไม่แออัดเหมือนที่ที่เราเคยอยู่ ลินจงตกใจถามว่าปัทม์มีเงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ปัทม์ยิ้มบอกว่าไม่เยอะแต่พอที่จะจ่ายค่าเช่าได้จะได้ไม่ต้องรบกวนน้าพรเขา

ลินจงเห็นด้วยที่จะไม่รบกวนสมพรแต่ก็เป็นห่วงที่สมพรต้องอยู่คนเดียว ปัทม์บอกว่าถ้าน้าเขามีแฟนก็คอยดูแลกันเองได้

“ถ้ามันเจอคนดีๆก็เป็นบุญของมัน แต่ที่ผ่านมามีแต่เลวๆ แม่ไม่คิดว่าพรมันอยากจะเริ่มใหม่กับใคร”

ปัทม์ถามว่าใจจริงแม่อยากย้ายออกหรือเปล่า ลินจงตอบอย่างสับสนว่าแม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่พอกลับมาบอกสมพร สมพรตัดพ้อว่าเราอยู่กันเหมือนครอบครัวแล้ว ขอร้องอย่าย้ายไปไหนเลย อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ ทำให้ลินจงยิ่งคิดหนัก

คืนนี้เฮียเล้งพาลูกน้องไปดูซ่องแห่งหนึ่งบอกว่ามันคิดว่าแบ็กมันแข็งสั่งลูกน้องให้หาพวกในเครื่องแบบไปจัดการมันหน่อยว่าทำไมมันต้องจ่ายเหมือนทุกซ่อง ลูกน้องถามว่าคืนนี้เลยหรือ

“อืม...พรุ่งนี้เฮียจะได้มาเช็กบิล” ลูกน้องรับคำ เฮียเล้งบอกว่า “เดี๋ยวเฮียขับรถกลับบ้านเอง แล้วบอกปัทม์ว่าเดี๋ยวเฮียไปส่งบ้าน ถามว่าได้ยินว่ากำลังหาบ้านใหม่อยู่หรือ”

ปัทม์แปลกใจว่าเฮียเล้งรู้ได้ยังไงเพราะตนไม่ได้คุยเรื่องนี้กับใครเลย

“ลูกน้องทำอะไรเฮียต้องรู้สิ ไม่งั้นจะปกครองลูกน้องได้ยังไง...เรื่องบ้านเช่านั้น เฮียไม่เห็นด้วยนะ เดี๋ยวเฮียสร้างบ้านหลังใหม่ให้อยู่กับแม่สบายๆเลย”

ปัทม์เกรงใจ เฮียเล้งบอกว่าปัทม์ทำงานเหนื่อยขนาดนี้เราต้องให้รางวัลกันหน่อย บอกว่า

“เฮียทำให้ทุกคนที่ซื่อสัตย์ นักเลงเนี่ย มีเงินไม่กี่พันก็หาซื้อมาเป็นพวกได้ แต่คนซื่อสัตย์นี่มีเป็นล้านก็หาซื้อไม่ได้”

ooooooo

คืนนี้พอกลับถึงบ้าน ปัทม์ก็วิ่งเข้าไปกอดแม่ที่นอนอยู่จนลินจงสะดุ้งถามว่ามีอะไรหรือลูก

ปัทม์บอกอย่างตื่นเต้นว่าตนตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกจากงานแต่เราจะสร้างบ้านใหม่กัน ลินจงงง

ถามว่าสร้างบ้านใหม่เป็นไปได้ยังไง “เฮียเขาจะสร้างบ้านใหม่ให้เราเลยแม่ เราจะมีบ้านเป็นของเรา”

“คงต้องไปจากที่นี่จริงๆแล้วใช่ไหม” เสียงสมพรแทรกขึ้น ลินจงบอกว่าเรายังไม่ได้ตัดสินใจ “ไปเถอะไม่เป็นไร ฉันอยู่ที่นี่ได้”

สมพรพูดแล้วเดินออกไปนั่งที่ระเบียงเหม่อมองดาวเศร้า ปัทม์เดินเข้าไปหา สมพรถามว่าจะย้ายไปเมื่อไหร่น้าจะได้ช่วยขนของ

“ยังไม่รู้เลยครับ น้าพร...ถ้าผมกับแม่ต้องย้ายไปบ้านหลังใหม่ น้าพรก็ต้องไปด้วย เพราะเราสามคนทิ้งกันไม่ได้หรอกครับ” สมพรขอบใจที่ไม่ทิ้งตน ลินจงบอกปัทม์ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ

“ครับแม่ เราจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่กัน” ปัทม์พูดแล้วเห็นแม่นิ่งถามว่า “แม่เป็นอะไร ไม่ดีใจเหรอ”

“แม่ดีใจที่เฮียเขาเมตตาเราขนาดนั้น แต่แม่คิดว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า”

ปัทม์บอกว่าเฮียให้เป็นรางวัลชีวิตเพราะเราทำงานกันเหนื่อย ลินจงติงว่าลูกก็รู้ว่าเขาพาไปทำเรื่องไม่ดี ปัทม์บอกว่าตนรู้แต่ไม่รู้จะถอยยังไง ถ้าตนไม่รับก็กลัวจะมีปัญหา

ลินจงไม่อยากให้เขามีบุญคุณกับเรามากกว่านี้เพราะจะทำให้เราถอนตัวลำบาก ปัทม์บอกว่าแค่นี้ก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ลินจงให้ไปพูดกับเขาตรงๆ ว่าแม่รับบ้านที่เขาจะสร้างให้ไม่ได้ เราขอเก็บเงินสร้างกันเอง เห็นปัทม์อ้ำอึ้ง ลินจงบอกว่าตนไปพูดกับเขาเองก็ได้

“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมควรจะต้องพูดเองครับ” ปัทม์ยิ้มกลบเกลื่อนความหนักใจ

รุ่งขึ้นเมื่อไปโรงเรียน ปัทม์ไปนั่งเหม่ออยู่ที่สนามบาส หนูตุ่นถามว่าทำไมมานั่งเหม่อตรงนี้

“เราจะปฏิเสธความหวังดีที่คนคนนึงมีให้เรายังไงดี” หนูตุ่นบอกให้พูดกับเขาตรงๆ ไม่เห็นยาก

“ถ้ามันง่ายอย่างที่หนูตุ่นพูดก็ดีสิ” ปัทม์พูดแล้วนิ่งไปอย่างคิดไม่ตก

ooooooo

พอตกกลางคืน เฮียเล้งก็พาปัทม์ไปที่ซ่องแห่งหนึ่ง เจ้าของซ่องยกมือไหว้ท่วมหัวอย่างหวาดกลัว อ้อนวอนอย่าทำอะไรตนเลย ตนต้องทำมาหากิน

เฮียเล้งบอกว่าถ้าตนไปพูดกับผู้ใหญ่และท่านเมตตาแต่เขาก็ต้องรับปากว่าจะไม่ทำอะไรผิดกฎหมาย

“ครับๆเฮีย ผมจะจ่ายตามที่เฮียขอมา”

“เฮียไม่ได้ขอนะแต่ท่านขอมา เขาต้องแบ่งกันเยอะ ต้องเข้าใจ นายอยู่ได้ เฮียอยู่ได้ ท่านก็ต้องอยู่ได้”

เจ้าของซ่องรีบเอาเงินที่ใส่ซองไว้แล้วให้เฮียเล้ง เฮียแง้มดูแล้วยื่นให้ปัทม์นับ ปัทม์รับไปนับ เจ้าของซ่องมองหน้าปัทม์หวาดๆ เฮียเล้งขอบคุณเจ้าของซ่องบอกว่า “เราจะรวยไปด้วยกันนะ”

พอออกมา เฮียเล้งบอกปัทม์ว่าตนหาที่สร้างบ้านให้แล้ว ปัทม์ขอบคุณแล้วอึกอัก เฮียเล้งถามว่ามีอะไรหรือ ปัทม์รวบรวมความกล้าบอกว่า

“ผมปรึกษากับแม่แล้ว เราจะไม่ย้ายไปไหนแล้วครับ ผมกับแม่มองว่ามันมากเกินตัวของเราไปหน่อยครับ เรายังไม่พร้อมจะมีบ้านครับ” เฮียเล้งถามว่าแน่ใจ? “ครับ เราไม่อยากรบกวนเฮียขนาดนั้น แค่เงินเดือนที่เฮียให้ก็ถือว่ามากสำหรับเราแล้วครับ”

เฮียเล้งบอกว่าพูดตรงๆอย่างนี้ตนชอบ ถ้ามันไม่เป็นปัญหาตนก็ไม่ขัด ปัทม์โล่งอกที่ได้พูดออกไป เขากราบเท้าเฮียเล้งอย่างซึ้งใจ

ปัทม์วัยชราในวันนี้ สรุปให้นักข่าวที่มาสัมภาษณ์ว่า

“สิ่งที่ผมเรียนรู้จากเฮียเล้งคือ การพูดตรงไปตรงมา ดีกว่าการพูดในสิ่งที่คนฟังอยากได้ยิน”

ในวันต่อๆมาเฮียเล้งพาปัทม์ไปที่ซ่องทานตะวัน บรรดากะหรี่ต่างคุกเข่าไหว้เฮียเล้งขณะที่เจ้าของซ่องกำลังเจรจากัน ปัทม์เล่าถึงบรรยากาศในเวลานั้นแก่นักข่าวในห้องสัมภาษณ์ว่า

ไม่ว่าเฮียเล้งไปที่ไหนเจ้าของซ่องก็ต้องกราบเฮียเล้งผู้น่าเกรงขาม...ที่ไหนที่ปฏิเสธเฮียเล้งก็จะส่งลูกน้องขาโหดหรือไม่ก็ตำรวจนอกเครื่องแบบมาป่วน ข่มขู่จนซ่องต่างๆ ที่มีปัญหาไม่กล้าไปแจ้งตำรวจ หรือถ้าไปแจ้ง เรื่องก็เงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางที่ดีที่สุดที่ทุกซ่องทำกันคือ จ่ายเงินให้เฮียเล้งเพื่อที่ธุรกิจน้ำกามจะได้ราบรื่น ไม่มีอันธพาลกับตำรวจเข้ามาก่อกวน

ปัทม์ยังเล่าถึงการสมรู้ร่วมคิดกันของเฮียเล้ง ตำรวจเลว และเจ้าของซ่องว่า มักจะมีการไปดื่มกินกันอย่างชื่นมื่น ปัทม์พูดถึงความรู้สึกในขณะนั้นว่า

“ดูเหมือนว่าธุรกิจแบบนี้นี่มันสมประโยชน์กันทุกฝ่าย...และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักคำว่าได้ประโยชน์ทุกฝ่าย หรือเรียกกันในสมัยนี้ว่า วินวิน ผมคิดว่าชีวิตผมคงต้องอยู่ในวังวนแบบนี้ไปอีกนาน การยึดมั่นเป็นคนดี คนซื่อสัตย์เป็นสิ่งดีงาม แต่ในท่ามกลางคนไม่ดีผมถูกความซื่อสัตย์ของตัวเองกักขังไว้ มันทำให้ผมรู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ... สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกดีคือแม่กับน้าพร กับบ้านเช่าเก่าหลังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกัน...ทุกวันนี้ผมตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคุณตรีชวาภรรยาผม กับคุณตีรณาลูกสาว ผมดีใจทุกวัน เพราะความสุขของผมยังอยู่”

ปัทม์ในวัยชรามองภรรยาและลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆยิ้มอย่างมีความสุข

ooooooo

คืนหนึ่งมีชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยมสองคนไปที่ซ่องป้าอบ ถามหาคนดูแล พอป้าอบแสดงตัวมันเรียกค่าคุ้มครอง ป้าอบไม่จ่ายมันตะคอกว่า ถ้างั้นไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อป้าอบยืนยันไม่จ่ายมันผลักและตบป้าอบหน้าหงายขู่ว่า “กูทำได้แรงกว่านี้ จะจ่ายหรือไม่จ่าย!”

“ไม่ต้องจ่ายป้า” สมพรสะอึกออกไปเผชิญหน้า มันบอกว่างั้นก็เตรียมตัวซวยได้เลย แต่หารู้ไม่ว่าสมพรได้ระดมเพื่อนในสำนักให้เตรียมสู้กับมันแล้ว พอสมพรส่งสัญญาณ เพื่อนๆที่หลบอยู่ตามหลืบพร้อมอาวุธมีทั้งไม้กวาด ท่อนไม้ ก้อนอิฐก้อนหิน ก็กรูกันออกมาฟาดกันคนละหนุบคนละหนับ

ป้าอบตั้งหลักได้ก็คว้าไม้ใกล้ตัวย่องไปฟาดหัวคนหนึ่งจนมันกุมหัวร้องลั่น สมพรกระโดดถีบซ้ำ พวกมันถูกรุมจนสะบักสะบอมต้องหนีเอาตัวรอดไป

สมพรกลับถึงบ้านก็ปลุกปัทม์ที่หลับแล้วขึ้นมาบอกว่ารู้ไหมว่าเฮียเล้งมาไถเงินที่บ้านป้าอบ ซ้ำตบป้าอบจนปากแตกด้วย ลินจงถามว่าทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ปัทม์ก็ว่าเฮียเล้งไม่น่าทำแบบนี้ ถามว่าเฮียมาด้วยหรือ สมพรบอกว่าตนพูดผิดเป็นพวกไอ้เฮียเล้งมันมาไถเงินแต่ถูกพวกน้ารุมไล่ตีจนมันหนีไป

ปัทม์นิ่งคิด งึมงำว่ายังไม่ถึงคิวที่เฮียเล้งจะมาเก็บเงิน เชื่อว่าไม่ใช่ลูกน้องเฮียแน่ ปัทม์ขอไปคุยกับเฮียก่อน เชื่อว่าเรื่องนี้ผิดปกติแน่

พอปัทม์ไปคุยกับเฮียเล้ง เฮียทุบโต๊ะปังถามว่าใครมันทำเรื่องแบบนี้มันคงสวมรอยพวกเรา ถามกริชที่เดินเข้ามาพอดี จึงรู้ว่าเป็นเด็กพวกเราเองและทำกันหลายครั้งแล้ว

“ไปลากคอมันมา!”

ชายฉกรรจ์สองคนนั้นถูกลากมาทุ่มลงในห้องเก็บของจนกระอักเลือดอาการปางตาย เฮียเล้งเสียงกร้าวว่า ทุกคนรู้ดีว่าตนดีกับลูกน้องแค่ไหน เดือดร้อนอะไรตนก็ช่วยหมด ทำไมเล่นไม่ซื่อกันแบบนี้

“เลว! เฮียประกาศต่อหน้าทุกคนในห้องนี้เลยนะ ใครที่มันคิดไม่ซื่อกับเฮีย ผลลัพธ์ไม่ต่างจากไอ้สองคนนี้แน่นอน” กริชถามว่าเฮียจะให้จัดการยังไงต่อไป “ตามใจเลย เฮียไม่อยากเห็นหน้าพวกมันแล้ว”

นั่นก็เท่ากับสั่งตายสองคนนี้ ปัทม์กลัวมาก เมื่อเฮียเล้งเดินออกไป ปัทม์รีบตามพยายามจะพูดให้เฮียเล้งผ่อนโทษว่าต่อไปพี่กริชคงคุมเข้มขึ้น เฮียเล้งหัวเราะในลำคอบอกปัทม์ว่า คนที่เราไว้ใจอาจจะไม่น่าไว้ใจอีกก็ได้ ถึงตอนนี้ไว้ใจใครไม่ได้หรอก ทำได้ดีที่สุดคือเลี้ยงมันให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้แว้งกัดเรา

แล้วเฮียเล้งก็โยนกุญแจให้ปัทม์บอกว่าตนเก็บเงินไว้อีกเยอะอยู่ที่หลังโรงน้ำแข็งถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตนให้เอาเงินนี่ไปสร้างชีวิต ส่วนของลูกเมียตนแบ่งไว้แล้วจัดการให้ด้วย มองหน้าปัทม์ พูดดีแต่ปรามเหี้ยมว่า

“แกก็รู้ว่าเฮียไว้ใจใครได้ที่ไหนล่ะ อย่าให้เฮียผิดหวังล่ะ” บอกปัทม์ว่าพรุ่งนี้ต้องไปที่บ้านป้าอบ

ปัทม์จึงขอไปคุยกับป้าอบเอง พวกเราไม่ต้องยกขบวนไปเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็รู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว

“อืม...บ้านแกนี่ แต่ยังไงเขาก็ต้องจ่ายเพราะมันเป็นกฎ ไม่มีข้อยกเว้นกับซ่องไหนทั้งสิ้น”

ปัทม์รับคำสีหน้าหนักใจ และเมื่อไปคุยกับสมพร พอสมพรตกใจถามว่าถึงขนาดต้องฆ่าเลยหรือ ปัทม์บอกว่าเฮียเล้งไม่พอใจมากที่พวกนั้นหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง สมพรถามว่าถ้าวันไหนปัทม์ทำผิดมิถูกเฮียเล้งสั่งฆ่าหรือ

“จริงๆ เขาก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะครับ แต่คนรอบข้างเขานี่ไว้ใจไม่ได้ ผมรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง” ปัทม์บอกสมพรว่าจ่ายให้เขาเถอะจะได้จบง่ายๆ สมพรบอกว่าตนคุยกับป้าอบแล้วว่าเราไม่จ่าย

ปัทม์พยายามหว่านล้อมให้จ่ายไม่อย่างนั้นเขามีอำนาจสั่งปิดได้ ตนไม่อยากให้บ้านป้าอบถูกสั่งปิดและทุกคนจะได้มีงานทำต่อไป

การพยายามแก้ปัญหาของปัทม์กลายเป็นถูกหาว่าปัทม์ถูกเฮียเล้งปิดปากล้างสมองไปหมดแล้ว สมพรผิดหวังในตัวปัทม์มาก ลินจงเองก็บอกว่าถ้าเราจ่ายก็ต้องจ่ายตลอดไปและอีกสิบยี่สิบปีปัทม์อาจขึ้นมาแทนเฮียเล้งก็ได้ ปัทม์ยืนยันว่าตนไม่ได้อยากเป็นอย่างนั้น

“แม่ห่วงสิ่งที่ลูกทำอยู่ แม่รู้ว่าลูกเป็นคนดี แต่ลูกต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างแล้วล่ะ” ลินจงเอ่ยเครียด

แล้วคืนต่อมาสารวัตรภักดีก็นำตำรวจเข้าไปตรวจค้นซ่องป้าอบจนทุกคนต้องหนีกันกระเจิง สมพรออกมาต่อว่าสารวัตรว่าทำแบบนี้ลูกค้าหนีหมด สารวัตรบอกว่าไม่มีสิ่งผิดกฎหมายก็ไม่มีอะไร แก้เกี้ยวว่าไม่เป็นไรพรุ่งนี้เจอกันตอนบ่ายกับตอนค่ำก็แล้วกัน

สมพรกลับไปเล่าให้ปัทม์ฟัง ปัทม์บอกว่าพรุ่งนี้ตนจะลองคุยกับเฮียดู ปัทม์ขอร้องเฮียเล้งว่าให้เว้นบ้านป้าอบได้ไหม เพราะบ้านป้าอบเหมือนเป็นบ้านตนเพราะตนโตมาในนั้น เฮียเล้งใจนักเลงบอกว่าเมื่อกล้าขอก็กล้าให้ จะลองไปคุยกับสารวัตรภักดีก่อนแต่เว้นเฉพาะเดือนนี้เท่านั้นไม่อย่างนั้นจะเสียการปกครอง

เมื่อปัทม์มาบอกสมพรกับป้าอบ สมพรบอกว่าไม่อยากให้ปัทม์ทำงานกับมันเลย ป้าอบก็ว่าคนอย่างไอ้เล้งอายุไม่ยืนหรอก

คืนนี้ที่ซ่องเหมยลี่ บรรดาเจ้าของซ่องมากินดื่มและคุยกันถึงสภาพการเรียกค่าคุ้มครองที่นับวันหนักขึ้น เจ้าของซ่องคนหนึ่งถามว่า “ถ้าไม่มีพวกมันทุกอย่างจะจบใช่ไหม” แล้วเขียนอะไรบางอย่างโยนลงที่กลางโต๊ะ ประกาศว่า “ใครอยากช่วยสนับสนุนมือปืน ช่วยเขียนตัวเลขลงไปในนั้นแล้วทุกอย่างจะจบ”

คืนต่อมาหลังจากเฮียเล้งกับสารวัตรภักดีกินดื่มกันในร้านอาหารอย่างสำราญแล้ว ก็แยกย้ายกันกลับ

พอสารวัตรไปถึงถนนเปลี่ยวก็มีรถจอดเสียจึงลงไปดู สารวัตรถูกเก็บอย่างง่ายดายในคืนนี้เอง

เฮียเล้งไปส่งปัทม์นัดพรุ่งนี้เจอกันแล้วกลับ แต่พอเฮียเล้งขับรถออกมาไม่นานก็ถูกชายฉกรรจ์ชุดเดียวกับที่เก็บสารวัตรภักดีตามไป ปัทม์เห็นแต่ไม่ได้เอะใจ

ooooooo

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ปัทม์ ตอนที่ 3 วันที่ 9 มี.ค.62

บทประพันธ์โดย บุรีวาด
บทโทรทัศน์โดย ณัฐ นวลแพง
กำกับการแสดงโดย ศุภฌา ครุฑนาค
ผลิตโดย บริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ