อ่านละคร ปัทม์ ตอนที่ 4 วันที่ 11 มี.ค.62

อ่านละคร ปัทม์ ตอนที่ 4 วันที่ 11 มี.ค.62

“ผมรู้ทันทีว่าคนที่สวนผมไป คือแฟนเก่าที่เคยทำร้ายแม่ คำโกหกของแม่วันนั้นเป็นการเริ่มต้นนับเวลาถอยหลังในการที่ผมกับแม่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน...”

“ผมพอจำภาพผู้ชายหน้าคมเข้มมีจอนยาวสูงใหญ่เสียงพูดมีเสน่ห์ได้ แต่ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาอยู่ในชีวิตของผมกับแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอจำความได้ผมก็เรียกเขาว่า น้าถิต...”

ทุกครั้งที่แม่ร้องไห้กลับมาจากที่ทำงานก็จะปรากฏร่างของน้าถิตที่เข้ามากอดแม่ที่ร้องไห้หนัก แล้วถามคำถามเดิมทุกครั้งกับแม่ว่ามันเป็นใคร หลังจากนั้นก็วิ่งออกจากบ้านไป



ปัทม์เล่าภาพที่เห็นเป็นประจำว่าสถิตย์กลับมาพร้อมกับยื่นเงินให้แม่ แม่รับเงินและขอบใจเขา

“ภาพของฮีโร่ที่ไม่ทำมาหากินอะไรนอกจากสาวหมัดใส่คนที่ทำร้ายแม่กับแบมือขอเงินแม่...กระทั่งมาถึงวันที่น้าถิตเริ่มสาวหมัดใส่แม่เสียเอง บ่อยครั้งขึ้นจนทำให้แม่ออกไปจากชีวิตของน้าถิต และทำให้ผมลืมผู้ชายคนนี้ไปหลายปี จนถึงวันที่ผมเดินสวนกับผู้ชายคนนั้นที่เดินออกมาจากบ้านผม นั่นแหละทำให้ผมจำเขาได้ทันที”

ปัทม์เล่าถึงความรู้สึกขณะนั้นว่า

“ตอนนั้นสิ่งที่ผมกังวลคือ ผมกลัวใจของแม่ กลัวว่าแม่จะกลับไปคืนดีกับผู้ชายคนนี้ ในขณะที่กิจการทำขนมขายของเรากำลังไปได้ดี...แม่ของผมทำขนมโดยมีลูกมือตัวหลักคือหนูตุ่น ที่เรียนรู้การทำขนมได้เร็วมาก ขนาดผมยังทำขนมได้ไม่ค่อยเป็นเลย ช่วงโรงเรียนเปิดเทอมทำให้มีคนสงสัยว่าแม่จะขายที่ไหน นี่ไงเราเลยขายและส่งขนมตามลูกค้าสั่งถึงบ้านครับ”

เวลานั้นสมพรทึ่งที่ลินจงกับปัทม์กล้าขายขนมโดยไม่มีหน้าร้านและวันหนึ่งปัทม์ก็หายไป หนูตุ่นถามว่าพี่ปัทม์ไปไหน ลินจงบอกว่าไปเอาจักรยานที่ซื้อไว้ ทันใดนั้นเสียงกริ่งจักรยานก็ดังกริ๊งๆๆที่หน้าบ้าน ทุกคนหันมองเห็นปัทม์ขี่จักรยานสามล้อที่มีตู้กระจกสำหรับใส่ขนม ปัทม์บอกทุกคนว่าซื้อไว้ส่งขนมให้ลูกค้า

“ซื้อมาขนาดนี้ปั่นขายตามซอกตามซอยเลยไหมเนี่ย” สมพรมองทะลุไปไกล ปัทม์บอกว่าก็ดีเหมือนกันแล้วหัวเราะชอบใจ

“ถ้าขายแบบนี้ หนูตุ่นว่าขายดีแน่นอน” หนูตุ่นมองจักรยานที่ปัทม์ยังนั่งยิ้มเผล่อยู่อย่างทึ่ง

ปัทม์ในวัยชราเล่าถึงก้าวใหม่ของการขายขนมว่า จากวันนั้นตนปั่นจักรยานไปขายขนมโดยมีหนูตุ่นปั่นจักรยานตาม และบางครั้งก็ผลัดกันปั่นจักรยานสามล้อเป็นกำลังใจให้กันและกัน

“จากความคิดของผมแค่หารถเพื่อไปส่งขนมตามบ้านได้จำนวนมากขึ้น กลายเป็นว่าผมใช้รถคันนี้ปั่นขายไปตามที่ต่างๆ ปั่นไปไหนก็ได้ที่มีคน ตั้งแต่เช้าจนเย็น แทนการขายในโรงเรียน”

ปัทม์กับหนูตุ่นช่วยกันปั่นจักรยานขายขนม ขายได้ดีวันดีคืน ทั้งสองมองหน้ากันอย่างมีความสุขที่ได้ความสำเร็จมาอย่างรวดเร็ว

ปัทม์มุ่งมั่นขายขนมเพื่อเก็บเงินไว้เรียนมหาวิทยาลัยเพราะต้องใช้เงินเยอะ บอกแม่ว่าซื้อรถคันนี้มาเพื่อส่งตัวเองเรียน ลินจงบอกว่าตนมีเงินอยู่ก้อนหนึ่งคิดจะเปิดบัญชีสะสมไว้ให้ปัทม์ตอนเรียนจบ

แม้จะปั่นจักรยานขายขนมจนปวดน่องต้องให้แม่นวดให้ แต่ปัทม์ก็บอกแม่ว่าปั่นจักรยานขายขนมก็สนุกดี

“ดีแล้วลูก แม่เห็นลูกมีความสุขแม่ก็สบายใจ แล้วปัทม์กับน้องตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง”

“เป็นยังไงคืออะไรครับแม่” ลินจงมองหน้าปัทม์ยิ้มๆ ปัทม์อ่านออกรีบบอกแม่ว่า “ผมไม่คิดอะไรครับแม่แค่พี่น้องกัน เขาเป็นลูกครูอัญด้วย ใครจะไปกล้าจีบ”

“จ้ะลูก เผื่อเขาอยากรู้แม่จะได้บอกเขาไปตามนั้น” ปัทม์ถามว่าเขาคือใคร “รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

“มีคนคิดกับผมแบบนั้นด้วยเหรอแม่”

“วันนี้ยังไม่มี วันหน้าก็ต้องมีจ้ะ” พูดแล้วกอดปัทม์ที่นิ่งไปอย่างไม่เคยคิดและคิดไม่ถึง

รุ่งขึ้นหนูตุ่นแต่งตัวดีเป็นพิเศษจนครูอัญถามว่าจะไปไหน หนูตุ่นบอกว่าจะไปช่วยพี่ปัทม์ขายขนม และเมื่อไปเจอปัทม์ พอปัทม์รู้ว่าหนูตุ่นแต่งตัวสวยจะไปขายขนมด้วย ปัทม์แกล้งบอกว่าไม่ให้ไป แล้วสั่นกระดิ่งปั่นจักรยานไปหน้าตาเฉยเลย

ooooooo

ฝ่ายลินจงกับสถิตย์ หลังจากวันนั้นแล้วต่างก็ส่งโทรเลขถึงกัน จนมาวันหนึ่งสมพรกำลังดูแลสวนสมุนไพรก็มีโทรเลขมาส่งเป็นของลินจง พอดีลินจงมาเจอเลยรับไปเปิดอ่าน เป็นโทรเลขของสถิตย์ข้อความว่า

“เจอกันที่ร้านสินชัย ตอนเที่ยงนะ”

ลินจงชวนสมพรพรุ่งนี้ไปเป็นเพื่อนหน่อยตนจะไปพบสถิตย์ สมพรใจไม่ดีถามว่าจะคืนดีกันหรือ ลินจงบอกว่าจะไปทวงเงินที่มันยืมไป สมพรถามว่าให้มันยืมทำไม ลินจงบอกว่าสงสารมัน

“เพราะความสงสารมันถึงทำให้พี่เจ็บใจตลอด พี่ยังไปสงสารมันอีกเหรอ” ลินจงบอกช่างมันเถอะตนกำลังจะไปทวงเงินคืน กำชับสมพรว่าอย่าให้ปัทม์รู้เรื่องนี้เด็ดขาด

รุ่งขึ้นพอไปพบกัน สถิตย์ไม่พอใจเมื่อเห็นสมพรมาด้วย

เมื่อลินจงทวงเงินที่ยืมไป สถิตย์ทำทีถามว่าเท่าไหร่ พอลินจงบอกว่าทั้งหมดก็บอกว่าไม่ได้เพราะตนต้องกินต้องใช้ต้องเก็บเหมือนกัน แต่พอลินจงบอกว่ามีเท่าไหร่เอาเท่านั้นก็ได้ สถิตย์พูดหน้าตาเฉยว่าไม่มี ถ้าเธอลำบากจริงๆก็ไปหายืมคนอื่นก่อน

ทั้งสองโต้เถียงกันรุนแรงเมื่อสถิตย์ยืนยันไม่มีเงินมีเมื่อไหร่ก็จะใช้ให้ แต่พอถามเมื่อไหร่ก็บอกว่าไม่รู้

สมพรทนไม่ไหวช่วยลินจงทวงก็ถูกสถิตย์ด่า ลินจงยื่นคำขาดว่าตนต้องการเงินคืนเดี๋ยวนี้

“โอ๊ย...ถ้าจะทวงแบบนี้กูไม่จ่ายโว้ย” สถิตย์พาลแล้วเดินออกจากร้านไป สมพรกับลินจงวิ่งตามก็ถูกสถิตย์ตบจนสมพรกระเด็นแล้วขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปต่อหน้าต่อตา

ลินจงกับสมพรไม่ยอมแพ้ นั่งรถสามล้อตามไปจนถึงบ้านสถิตย์ เจอเมียสถิตย์กำลังเลี้ยงลูกจึงถามหาสถิตย์ พอสถิตย์รู้ว่าลินจงมาก็พรวดออกมาเผชิญหน้าตะคอก “มาทำไมเนี่ย!”

เมียสถิตย์ถามว่าเรื่องอะไรกัน พอรู้ว่าสถิตย์ไปโกหกว่ามีปัญหาเรื่องค้าขายและยืมเงินลินจงมาแก้ปัญหา สถิตย์ด่าลินจงว่าตอแหลตนไม่เคยไปยืมเงินใคร ไล่ตะเพิดอย่างหยาบคายว่า

“เธออย่าไปเชื่อมันนะ มันเป็นกะหรี่ มึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้”

เมียสถิตย์เพิ่งรู้ความจริงว่าสถิตย์เป็นคนยังไง รับปากลินจงว่าจะหาเงินมาใช้ให้ภายในเดือนนี้

“ขอบคุณมากนะ ฉันดีใจที่มันมีเมียดีอย่างคุณ แต่ก็เสียใจกับคุณที่เลือกมันเป็นผัว”

เพียงคืนต่อมา เมียสถิตย์ก็พาลูกหนีไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด แต่ก่อนไปได้แวะเอาเงินไปคืนให้ลินจงจนครบ ลินจงถามว่าแล้วสถิตย์ล่ะ

“ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวไปเถอะพี่ หนูทนเขามานานแล้ว” ลินจงบอกว่ายังไงสถิตย์ก็จะตามหาเธอจนเจอ “ขอบคุณค่ะพี่ พี่เขาหาหนูกับลูกไม่เจอแน่นอน”

“ขอให้โชคดีจ้ะ”

เมื่อได้รับเงินคืนแล้ว ลินจงเอาไปฝากธนาคารทันที

ปัทม์ในวันนี้เปิดสมุดออมสินที่เก่ามากในมือ ชื่อบัญชีคือ “ปัทม์ ปุญวิจักษ์” ตรีชวาโน้มตัวกอดปัทม์น้ำตาคลอ ปัทม์กอดตรีชวา เล่าต่อว่า...

“เงินก้อนนี้ผมเก็บไว้ตั้งแต่วันที่ผมได้รับสมุดฝากบัญชี ชีวิตผมตกต่ำบ่อยครั้ง แต่ผมก็ไม่เคยเอาเงินก้อนนี้ออกมาจากธนาคาร มันเป็นเงินที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของแม่ผม”

นักข่าวที่มาสัมภาษณ์ต่างอึ้ง ปัทม์เก็บสมุดเงินฝากไว้ในหีบไม้ตามเดิมอย่างดี

ooooooo

หนูตุ่นถามลินจงว่าป้าจงไปธนาคารออมสินเอาเงินไปฝากมาเหรอ ลินจงบอกว่าตนเปิดบัญชีฝากประจำให้ปัทม์ไว้เป็นทุนการศึกษา มันเป็นเงินก้อนสุดท้ายแต่ป้ายกให้เขา

ลินจงเร่งให้หนูตุ่นกลับบ้านเพราะใกล้ค่ำแล้ว งานที่เหลือเดี๋ยวตนจัดการเอง หนูตุ่นจึงกลับ

แต่พอหนูตุ่นกลับไป สถิตย์ก็เข้ามาถีบลินจงที่ไม่รู้ตัวจนตกจากแคร่ ตะคอกว่า “มึงทำชีวิตกูพัง”

แต่โชคดีขณะสถิตย์กำลังทำร้ายลินจงนั้นสมพรกลับมาเจอ วิ่งเข้าไปช่วยลินจงใช้ไม้กระหน่ำตีสถิตย์จนมันคลานไปคว้าไม้จะตีสมพรแต่ถูกลินจงเอามีดฟันแขนมันจนร้องลั่น แต่มันก็คว้ามือที่ถือมีดของลินจงบิดจนมีดร่วงจากมือ สมพรช่วยลินจงต่อสู้กับสถิตย์แต่ถูกมันถีบจนสลบ

ลินจงจะไปคว้ามีดแต่ถูกสถิตย์คว้าไปก่อน มันพุ่งเข้าแทงลินจงที่ท้องจนเลือดสาดทรุดกับพื้นทันที มันตกใจวิ่งหนีออกจากบ้านไป ปล่อยให้ลินจงกุมท้องที่ฉ่ำไปด้วยเลือดอยู่ที่พื้น

ooooooo

ลินจงพยายามคลานไปปลุกสมพรให้ตามปัทม์ให้ด้วย คราบเลือดเป็นทาง หนูตุ่นมารอปัทม์ที่หน้าบ้านอย่างกระวนกระวาย พอเห็นปัทม์ปั่นจักรยานเข้ามาก็พุ่งไปหาบอกว่าป้าจงถูกแทง

สมพรพาลินจงส่งโรงพยาบาลแล้ว ปัทม์ปั่นจักรยานพาหนูตุ่นไปโรงพยาบาลทันที

ที่โรงพยาบาล หมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจลินจง ปัทม์ไปถึงวิ่งไปถามสมพรว่าแม่เป็นยังไงบ้าง

“พี่จงเสียเลือดมาก เขารอปัทม์อยู่ เข้าไปหาแม่ไป”

ปัทม์พุ่งไปที่ห้องฉุกเฉินเจอหมอเปิดประตูออกมามีพยาบาลเข็นเตียงมีผ้าขาวคลุมตามออกมา ปัทม์ถลาไปเปิดผ้าคลุมออก ถึงกับเข่าอ่อนทรุดกอดร่างแม่ไว้แน่น หนูตุ่นผวากอดปัทม์ไว้อีกคน

ปัทม์ในวัยชราเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นด้วยเสียงเครือว่า...

“สัญญาณชีพแม่ดับไป พร้อมๆกับชีวิตของผมกำลังจะดับสูญไปด้วย...แม่ผมเสียชีวิตก่อนที่ผมมาถึง... ผมสติหลุดจนเกือบไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ การสูญเสียแม่ไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตผมพัง...”

“คุณลืมพี่ปัทม์คนเดิมที่ผ่านมาไปเลย หลังจากนี้เขาเหมือนคนที่พี่ไม่เคยรู้จักมาก่อน” ตรีชวาเอ่ยแทรก

นักข่าวมองปัทม์ที่สีหน้าเคร่งขรึมอย่างพยายามนึกถึงเรื่องราวในอดีต...

ปัทม์ในนาทีนั้นเคว้งคว้างว้าวุ่น เขาอ้อนวอนแม่อย่าทิ้งตนไป ร่ำร้องให้หมอช่วยแม่เพราะแม่ยังไม่ตายกระทั่งไปยื้อยุดฉุดหมอให้มาช่วยแม่จนวุ่นวาย หนูตุ่นแหวกคนเข้าไปถึงปัทม์ก็ตบหน้าเขาสุดแรง

“พี่ปัทม์! ยอมรับความจริงได้แล้วว่าแม่พี่ตายไปแล้ว หยุดสร้างความวุ่นวายให้คนอื่นได้แล้ว”

ปัทม์ในวันนี้เล่าถึงแรงตบของหนูตุ่นในวันนั้นว่า

“หนูตุ่นตบหน้าผมแรงมาก ผมนิ่งมองหน้าหนูตุ่น แต่ไม่ได้ยินว่าพูดอะไร ทุกอย่างรอบตัวดูช้าไปหมดจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาล็อกตัวผมแล้วกดลงกับพื้น”

หนูตุ่นร้องไห้เมื่อปัทม์ถูกเจ้าหน้าที่จับกดลงกับพื้นและเขาก็ยังดิ้นสุดแรงและร้องไห้แทบขาดใจ...

ที่ศาลาวัด...ปัทม์นั่งพนมมือฟังพระสวดศพแม่ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก มองรูปแม่ที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพประดับด้วยดอกไม้เรียบง่ายไม่วางตา หนูตุ่นนั่งข้างๆปัทม์คอยชำเลืองด้วยความเป็นห่วง

พระสวดเสร็จ แขกที่มาไม่มากนักกลับกันแล้ว สมพรถามว่าปัทม์จะกลับหรือยัง ปัทม์ให้น้าพรกลับไปก่อน หนูตุ่นชวนพี่ปัทม์กลับกันเถอะ ปัทม์ถามสายตาเหม่อลอยว่า

“แล้วแม่พี่จะอยู่ที่นี่กับใครล่ะถ้าพี่กลับบ้าน”

ทุกคนอึ้ง ปัทม์บอกว่า “ผมจะนอนเป็นเพื่อนแม่ แม่อยู่ตรงนี้ ผมก็จะอยู่ที่นี่” แล้วปัทม์ก็ไปหยิบเสื่อมาปูใกล้ๆ โลงศพ นอนเป็นเพื่อนแม่...

ooooooo

คืนนี้หนูตุ่นนอนไม่หลับ บอกครูอัญที่ชะโงกมาดูว่าเป็นห่วงพี่ปัทม์ ทั้งชีวิตพี่เขามีแม่คนเดียว

ตอนนี้ป้าจงไม่อยู่แล้ว พี่ปัทม์จะอยู่ยังไง ครูอัญบอกว่าตอนนี้ปัทม์อาจจะยังแย่ หลังจากนี้ก็คงจะดีขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีน้าพรอยู่

ในวันเผา บรรดาแขกที่มาร่วมงานต่างแสดงความเสียใจกับปัทม์ สมพรเดินมากอดปัทม์บอกว่าไม่ต้องห่วง อยู่กับน้า ปัทม์ยังมีน้าอยู่ ครูอัญก็บอกว่าปัทม์ต้องเข้มแข็ง ถามสมพรว่าไหวไหมที่จะดูแลปัทม์ ถ้าไม่ไหวให้ปัทม์มาอยู่ที่บ้านครูก็ได้

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันดูแลปัทม์เอง”

ในวันต่อมา หนูตุ่นไปที่ห้องครัวบ้านสมพรทำอะไรกุกกัก ปัทม์ได้ยินผวาไปหาเรียกแม่ แต่พอเข้าไปดูกลายเป็นหนูตุ่น ถามว่ามาทำอะไร หนูตุ่นบอกว่าเอาข้าวมาให้พี่ปัทม์จัดข้าวแล้วนั่งกินด้วยกัน หนูตุ่นบอกปัทม์ว่าตนจะมาทำขนมต่อ

“อย่าทำให้พี่ต้องรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมเลย...หนูตุ่นจะทำขนมที่ไหนก็ได้แต่ไม่ใช่ที่นี่ พี่ทำใจไม่ได้ที่จะเห็นมันอีก” หนูตุ่นถามว่าไม่ดีใจหรือที่ยังมีคนอยากทำขนมที่แม่ทำอยู่ “ถ้ามันเรียกแม่พี่กลับมาไม่ได้ก็อย่าทำมันเลยดีกว่า”

ปัทม์ผลักจานข้าวออกแล้วลุกเดินไปเลย หนูตุ่นโกรธจนน้ำตาคลอตะโกนเรียกปัทม์ก็ไม่สนใจ

สมพรกลับจากทำงานคืนนี้ ถามปัทม์ว่ากินข้าวหรือยัง พอรู้ว่ายังก็เตือนให้กินบ้างตนไม่อยากเห็นปัทม์อยู่ในสภาพนี้ ปัทม์บอกว่าเกลียดตัวเองที่ปกป้องแม่ไม่ได้ ไม่น่ามีชีวิตอยู่เลย สมพรบอกให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ปัทม์บอกว่าตนจัดการไอ้สถิตย์ได้เมื่อไหร่ก็จะไม่อยู่แล้ว ตนจะไปอยู่กับแม่

“คนที่คิดแบบนั้นน่าจะเป็นน้ามากกว่านะปัทม์ น้าอยู่กับพี่จงแต่น้าช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่น้าก็คิดสั้นไม่ได้ น้ายังต้องดูแลปัทม์อยู่”

ปัทม์เดินเข้าห้องไปอย่างอัดอั้น

ooooooo

สถิตย์ไปหาเมียและลูกจริงๆ และก็ถูกตำรวจจับที่นั่น เมื่อปัทม์รู้เขาดิ่งไปที่สถานีตำรวจทันที มองหาห้องขังแล้วพุ่งไปกระชากคอสถิตย์มาติดลูกกรง ตะโกนลั่น

“ฆ่าแม่ผมทำไม ฆ่าแม่ผมทำไม! ทำไมต้องเป็นแม่ผมด้วย...แม่ผมทำอะไรให้” สถิตย์ตาเหลือก ปัทม์ตะโกนลั่นโรงพัก “ตอบกูมาสิโว้ย!!”

สมพรวิ่งตามมากอดปัทม์ที่กำลังคลั่งบอกให้ใจเย็นๆ ตำรวจมาเอาตัวปัทม์ออกไป สถิตย์เอ่ยกับสมพร

“พร...ฉันขอโทษ”

สมพรคว้าแก้วน้ำจากโต๊ะใกล้ๆสาดใส่หน้าสถิตย์ จ้องแค้นแล้วเดินออกไป

ooooooo

เมื่อตำรวจพาสถิตย์ไปทำแผนที่บ้านสมพร ปัทม์ตามดูอย่างใกล้ชิดทำท่าจะกระโจนเข้าใส่สถิตย์หลายครั้งแต่ตำรวจรั้งไว้ทัน

ชาวบ้านที่มาดูการทำแผนอยู่ข้างนอกก็ตะโกนด่าสถิตย์ดังขึ้นเรื่อย บางคนจะกระโจนเข้าทำร้ายสถิตย์ย์แต่ตำรวจกันไว้ทัน ร้อยเวรจึงสั่งให้พาผู้ต้องหากลับโรงพัก ก็ยังถูกชาวบ้านด่าและรุมสกรัมจนเลือดอาบ

เมียและลูกสถิตย์ยืนปะปนกับชาวบ้านดูการทำแผน พอลูกเห็นสถิตย์ถูกสกรัมก็ร้องไห้ตะโกน...

“อย่าทำพ่อ...อย่าทำพ่อ”

ลูกสถิตย์วิ่งเข้าไปกอดพ่อ สถิตย์กอดลูกไว้อย่างป้องทั้งที่ตัวโชกเลือด เหตุการณ์ชุลมุนจนตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าชาวบ้านจึงวิ่งหนีไป สมพรออกมาเห็นเมียกับลูกสถิตย์กอดกันร้องไห้ ก็เดินไปแตะไหล่ปัทม์ที่หันมองหนูตุ่นเบาๆ

ปัทม์มาถึงสถานีตำรวจอีกทีก็เห็นสถิตในสภาพมีผ้าพันแผลปิดไปทั่วตัวอยู่ในห้องขัง เขากวักมือให้สถิตย์มารับน้ำกับอาหาร สถิตย์ลังเล ปัทม์บอกว่าขอคุยอะไรหน่อย จึงค่อยขยับเข้ามา

“แกทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไป ฉันอยากฆ่าแกให้ตายไปซะแต่ฉันคิดว่าแกยังไม่ควรตาย แกควรทรมานกับชีวิตที่เหลืออยู่ของแก แล้วชดใช้กรรมที่แกก่อไว้ในคุก”

สถิตย์นิ่งแต่แววตารู้สึกผิด

“แกติดคุกแกยังมีโอกาสกลับออกมาข้างนอก ทำดีอยู่ในคุกไม่กี่ปีก็ได้ออกมา แล้วกลับมาก็ยังมีเมียมีลูกคอยแกอยู่ ดีกว่าฉัน...ที่ไม่เหลือใครแล้ว...ฉันให้อภัยแก”

“เดี๋ยว...แกอยากรู้ไหมว่าแม่จริงๆของแกคือใคร”

“ทำไมฉันต้องรู้ ในชีวิตฉันมีแม่แค่คนเดียว แล้วแม่ของฉันโดนแกฆ่าตายไปแล้ว”

เล่าถึงตอนนี้ ปัทม์พูดกับนักข่าวที่สัมภาษณ์ว่า

“มันจะสำคัญอะไรในเมื่อแม่ลินจงคือคนที่เลี้ยงดูผมมาตลอด แม่ทำให้ผมเป็นผมจนทุกวันนี้”

ปัทม์บอกว่าตนอยากเล่าเรื่องน้าพรหลังจากนี้มากกว่า เพราะมีผลต่อการตัดสินใจสำคัญในชีวิตตน

“ผมเพิ่งมารู้ว่าน้าพรแกเพิ่งจะเริ่มคบกับแฟนคนใหม่ของแก แล้วนั่นทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปด้วย”

ooooooo

สมพรเข้าไปลาป้าอบบอกว่าตนจะเลิกทำงานแบบนี้แล้ว ป้าอบถามว่าแล้วจะไปทำงานอะไร สมพรบอกว่าสมุนไพรที่ปลูกไว้ที่บ้านน่าจะพอช่วยตนได้ ป้าอบเตือนว่าเศรษฐกิจไม่ดีทำอะไรให้ระวังหน่อย

“ตั้งแต่พี่จงเสียไป ฉันยังทำใจไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าชีวิตต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายไป” ป้าอบบอกว่าตนเป็นกำลังใจให้และยังให้เงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่ พูดทั้งที่ใจหายที่ต้องจากกันว่า

“ข้าไม่เสียดายที่เอ็งออกจากที่นี่ แต่ดีใจที่เอ็งจะออกไปมีชีวิตดีๆ ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะโว้ย”

“ขอบคุณมากจ้ะ ฉันจะไม่ลืมพระคุณที่เลี้ยงดูสั่งสอนฉันมาตั้งแต่เด็กเลย” สมพรจะเดินไปแต่แล้วก็หันมาโผกอดป้าอบต่างร้องไห้...

ooooooo

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ปัทม์ ตอนที่ 4 วันที่ 11 มี.ค.62

บทประพันธ์โดย บุรีวาด
บทโทรทัศน์โดย ณัฐ นวลแพง
กำกับการแสดงโดย ศุภฌา ครุฑนาค
ผลิตโดย บริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ