อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 10

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 10

“งั้นเขาก็จะได้เรียนรู้ว่า ถ้าไม่อยากเสียคนที่รักไปอีก เขาก็ต้องพยายามรักษาเอาไว้ให้ดี ไม่ใช่ขับไล่ ถูกไหมครับ...ทำใจสบายๆ แล้วเราไปเดินเล่นกันดีไหมครับ”

เคทปัดไม่มีอารมณ์ ว่าแล้วก็เดินแยกไป...สุริเยนทร์มาที่ประชาสัมพันธ์แจ้งเด็กหาย ผู้จัดการบอกว่าสั่งทุกจุดป้องกันทางออกไว้แล้ว เพ็ญสิริหน้าเสียบอกสุริเยนทร์ให้พักบ้าง แต่เขาดื้อดึงวิ่งตามหาไม่เลิก จนเธอต้องปลอบให้เปลี่ยนกลยุทธ์จากวิ่งหาซี้ซั้ว มาตั้งสติใช้สมองวางแผนอย่างเป็นระบบ อันดับแรกพักเหนื่อยให้สมองแล่น แต่พลันเจ้าหน้าที่มาบอกว่าพบเด็กใส่เสื้อผ้าแบบน้องพีท เขาจึงวิ่งพรวดไปทันที เพ็ญสิริสบถจะมาทำไมตอนนี้ แล้วรีบวิ่งตามเขาไป

แต่พอสุริเยนทร์มาตรงจุดที่เจ้าหน้าที่บอก พบว่าไม่ใช่น้องพีท ท่าทางเขาเครียดมากขึ้น เพ็ญสิริชักสงสารและเห็นใจ เคทตามมาสมทบมองเขายืนอยู่ใต้น้ำพุไม่สนใจว่าตัวจะเปียกปอน



ooooooo

เพ็ญสิริหาผ้าขนหนูมาให้สุริเยนทร์เช็ดตัวด้วยรู้สึกผิด เขาไม่ยอมเช็ด เคทเอ็ดให้เช็ดตัวก่อนแต่เขากลับตวาด จะมารุมห่วงอะไรตนแทนที่จะช่วยกันตามหาน้องพีท ว่าแล้วก็วิ่งออกไป

เคทหันมาเอ็ดวิสุทธิ์ “เห็นหรือยังว่าเขาห่วงน้องพีทมากแค่ไหน เล่นกับความรู้สึกคนอย่างนี้ไม่สนุกหรอกนะ จะพอได้รึยัง”

วิสุทธิ์จ๋อยแต่ใครจะเป็นคนบอกสุริเยนทร์ เพ็ญ–สิริว่ายังมีหน้ามาถาม...เคทวิ่งตามมาถึงสุริเยนทร์เห็นเขาหยุดมองเครื่องเล่นเด็กอยู่ เขาต่อว่าจะมาตามทำไมแทนที่จะไปตามหาน้องพีท เธอจึงบอกว่าวิสุทธิ์มีบางอย่างจะบอก วิสุทธิ์มาถึงอึกอักๆพูดไม่ออก

บอดี้การ์ดมารายงานสุริเยนทร์ว่ายังหาน้องพีทไม่เจอ เขาเสียงเข้มให้ตามจนเจอแล้วเอาคนที่พาไปมาให้ตนกระทืบ วิสุทธิ์สะดุ้งหน้าเสียรีบเดินหนีไม่พูดอะไรอีกแล้ว เพ็ญสิริกระซิบเคท “งานนี้ตายแน่ เฮ้ย! แล้วถ้าเสือโคร่งกับลออถูกจับได้ล่ะ...”

เพ็ญสิริเอามือถือให้วิสุทธิ์โทร.บอกเสือโคร่งให้เลิกแผนการทุกอย่าง หาทางส่งตัวน้องพีทให้สุริเยนทร์อย่าให้ถูกจับได้เพราะจะโดนกระทืบตาย...ทั้งลออและเสือโคร่งกลัวลาน รีบจะพาน้องพีทย้ายที่เล่น แต่คนของสุริเยนทร์มาเห็นเสียก่อน ลออกลัวเอาตัวรอดก่อนบอกเสือโคร่งว่าตนเสียสละจะล่อให้ไปทางอื่น เสือโคร่งอุ้มน้องพีทวิ่งแล้วนึกได้ แบบนี้ตัวเองก็เป็นคนเดียวที่จะโดนกระทืบ แล้วไม่ทันไรน้องพีทก็ชี้ว่า...น้าหมีภู เสือโคร่งตัดสินใจนั่งลงพนมมือ

“คืนน้องพีทให้แล้ว อย่ายุ่งกับเขา เขาไม่รู้เรื่อง...” เสือโคร่งจะคลานหนี

สุริเยนทร์ถลาเข้ากระชากคอเสื้อเงื้อหมัด เสียงเคทห้ามลั่น ไม่ใช่ความผิดเสือโคร่ง มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด วิสุทธิ์ตามมาถึงรีบบอกว่าตนเป็นคนสั่งให้เสือโคร่งพา น้องพีทไปซ่อนเอง สุริเยนทร์หันมาเล่นงานวิสุทธิ์แทน เคทเข้าขวางบอกน้องพีทปลอดภัยดี ช่างมันเถอะเขากลับ ผลักเธอกระเด็นไม่ให้มายุ่ง เธอเสียงกร้าว

“ฉันต้องยุ่ง คุณจะใช้ความรุนแรงต่อหน้าน้องพีทไม่ได้ อยากให้น้องพีทกลัวคุณอีกงั้นเหรอ...ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณรักน้องพีทจริงแค่ไหน ก็เลยลองใจคุณ มันก็เท่านั้นเอง”

สุริเยนทร์ชะงักกับคำว่าลองใจ เคทเน้นเขาเองก็จะได้รู้ใจตัวเอง เพ็ญสิริช่วยพูด ตอนนี้เราทุกคนรู้แล้วว่าเขารักน้องพีทจริง ลึกๆแล้วเขาเป็นคนอ่อนโยนให้ปล่อยวิสุทธิ์ไป เคทดึงมือสุริเยนทร์ออกมา เขาถามเสียงสั่นต้องทำขนาดนี้เลยหรือ เคทยอมรับว่ามันมากเกินไป

สุริเยนทร์ตัวสั่นพยายามระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้ระเบิด เกรงน้องพีทตกใจจนน้ำตาซึม เคทอึ้ง

“ได้เห็นแล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นยังไง ทานตะวัน เธอเห็นแล้วใช่ไหม!” สุริเยนทร์เดินหนี

เคทจะตามแต่น้องพีทวิ่งมากอดเสียก่อน วิสุทธิ์รู้สึกว่าเคทเป็นห่วงสุริเยนทร์มาก...พอสุริเยนทร์ออกมาจนพ้นผู้คนก็ระบายอารมณ์ทรุดลงทุบพื้นด้วยความอัดอั้น เคทตามมาแตะไหล่ เขาสะบัดไล่ให้เธอออกไป เธอพร่ำขอโทษ เขาโพล่งออกมาว่าทำไม!

“ฉันรู้ว่าคุณกลัว แต่มันไม่เป็นไรแล้วนะ น้องพีทไม่ได้หายไปไหน น้องพีทยังอยู่กับคุณนะคะ...ไม่เป็นไร นะ...” เคทค่อยๆปลอบ สัมผัสที่บ่าเขาเบาๆแล้วลูบลงไปที่หลังจนกลายเป็นโอบกอดปลอบประโลม เขาซบหน้าลงร้องไห้ประดุจกลัวเสียคนที่รักไปอีก

ooooooo

เดชาโทร.หาคฑาวุธเพื่อบอกว่าตอนนี้สุริเยนทร์อยู่กรุงเทพฯ ให้ระวังตัวอย่าหาเรื่องใส่ตัว เขากลับย้อนว่าตอนนี้ที่ภูทับดาวทางสะดวกทำไมไม่จัดการนพสิทธิ์เสีย เดชากลับบอกว่าคนที่จะฆ่านพสิทธิ์ต้องเป็นสุริเยนทร์ ฆ่าเพราะบันดาลโทสะเพื่อล้างแค้นให้พี่สาว

ทันใดลูกน้องเอามือถืออีกเครื่องมาให้บอกว่าแขไขโทร.มา แต่พอเดชารับสายกลับกลายเป็นเสียงนพสิทธิ์ เขาว่ายืมมือถือแขไขมาไม่ได้ทำอันตรายเธอเพราะเธออุตส่าห์บอกว่าพ่อรักสุริเยนทร์เหมือนลูก ไม่มีทางทำร้ายได้ เดชาแก้ตัวแต่นพสิทธิ์ไม่เชื่อและตัดบท ถ้าตนไม่รอดเขาก็ไม่รอดเช่นกัน...จากนั้นนพสิทธิ์ก็ขายมือถือแขไขเอาเงินเพียงนิดหน่อยด้วยความแค้น

แขไขถูกมัดอยู่ที่เรือนเล็ก เดชามาแก้มัดให้ เธอต่อว่าเพราะพ่อไม่บอกอะไรทำให้ตนเข้ามาในบ้านนี้ เดชายอมรับว่าไม่อยากให้ลูกมาเกี่ยวข้อง และพยายาม กล่อมอย่าไปเชื่อสิ่งที่นพสิทธิ์พูด และอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกสุริเยนทร์ ตนจะจัดการเอง แขไขข้องใจแต่ไม่อยากถาม

คืนนั้นสุริเยนทร์ให้ทุกคนพักที่บ้านสุรีย์ น้องพีทดีใจมากที่ได้กลับบ้าน ถามเคทเราจะกลับมาอยู่บ้านแล้วใช่ไหม เคทให้ถามสุริเยนทร์เอง หนูน้อยหันมาถามเสียงอ่อยว่า...ใช่ไหม สุริเยนทร์สบตานิ่งไม่ตอบแล้วเดินหนี น้องพีทงงเขาโกรธอะไร ลออรู้ตัวว่าผิดมาบอกเคทว่าตนจะไม่ทำตามคำสั่งใครอีกแล้ว เสือโคร่งเองก็เสียงอ่อยขอพักที่นี่ด้วยคน เคทพยักหน้าก่อนจะหันมาบอกเพ็ญสิริให้กลับบ้านไปหาป๊าม้าบ้าง วิสุทธิ์แทรกถามเธอโกรธตนหรือเปล่า

“โกรธค่ะ...ถึงคุณจะบอกว่าคุณเจตนาดี แต่เคทไม่เชื่อ คุณไม่ชอบนายภูส่วนตัวอยู่แล้ว คุณเลยถือโอกาสแกล้งเขา หลอกใช้น้องพีทมาทำร้ายเขา มันไม่แฟร์กับน้องพีทเลยที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับปัญหาส่วนตัวของพวกคุณ”

วิสุทธิ์ยอมรับว่าไม่ได้เจตนาไม่ดี แต่ไม่เกี่ยวกับ ปัญหาส่วนตัว มันเกี่ยวกับเธอ ตนทำเพราะเป็นห่วงอยากให้ เธอมีความสุขบ้าง เพ็ญสิริยืนยันว่าจริง เคทขอบคุณแต่ตนไม่อาจพักได้จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะกระจ่าง วิสุทธิ์ถามเมื่อถึงเวลานั้น เธอจะให้โอกาสตนไหม เคทนิ่งไม่ตอบ

วิสุทธิ์ขับรถกลับเงียบๆ เพ็ญสิริเห็นใจ รู้สึก ห่อเหี่ยวใจไปด้วย พยายามจะทำให้เขากลับมาครึกครื้น แต่เขากลับจอดรถบอกให้ขึ้นแท็กซี่กลับไปเองเขาจะนอน เธองงมองเขาเอนเบาะนอนหลับตา คิดหาคำปลอบใจว่าเคทไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ทำดีด้วยสองสามวันก็หาย เขาเปรยออกมาว่า “ไม่ใช่เรื่องนี้ ผมหมายถึงท่าทางคุณเคทที่มีกับนายภู”

เพ็ญสิริคิดตามที่วิสุทธิ์พูด ชักเห็นจริงที่เคทมีท่าทีห่วงใยสุริเยนทร์มากอย่างเห็นได้ชัด...ด้านสุริเยนทร์ยืนมองรูปสุรีย์เศร้าๆ น้องพีทสนุกอยู่ในห้องนอน แต่ก็บอกเคทให้ไปดูน้าหมีภู เคทแปลกใจ “น้าหมีภูเครียด อาเคทต้องไปโอ๋...ไปสิครับ น้องพีทอยู่กับพี่ลออ พี่เสือโคร่งได้”

“น้องพีทรู้ไหมครับว่าน้าหมีภูเป็นอะไร น้าหมีภูคิดว่าน้องพีทถูกคนไม่ดีลักพาตัว เขาเลยเป็นห่วงมาก วิ่งตามหาน้องพีทไม่หยุดตั้งหลายชั่วโมง วิ่งเข้าไปหาในน้ำพุด้วย จนตัวเปียกไปหมดเลย” น้องพีทแปลกใจทำไมต้องห่วง “เขารักน้องพีทไงครับ รักมากก็ห่วงมาก”

น้องพีทถามตนควรทำอย่างไร...เคทพาน้องพีทออกมาหาสุริเยนทร์ เอายาและน้ำมาให้ หนูน้อยค่อยๆก้าวขยับเข้าหาอย่างกลัวๆ สุริเยนทร์แปลกใจหันมองเคท เธอพยักพเยิดให้เขารอรับยาจากน้องพีท พอน้องพีทวางยาในมือเขาและส่งแก้วน้ำให้ เขาก็กินทันที น้องพีทวิ่งตื๋อกลับมากอดเคท เธอชมว่าเก่งมาก สุริเยนทร์เห็นรอยยิ้มของน้องพีทก็รู้สึกชื่นใจ

หลังจากน้องพีทเข้านอนแล้ว เคทกลับมาดูสุริเยนทร์ ถามอย่างห่วงใยว่าดีขึ้นไหม เขานิ่งอยู่นาน กว่าจะตอบว่าดีขึ้น เธอจึงถามยังโกรธอยู่หรือ เขาย้อนถามคงมีความสุขมากที่ได้เล่นงานคืน เธอว่าไม่มีใครโรคจิตเหมือนเขา อย่าอคติ เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะทำให้เขาเจ็บ เธอขอโทษจากใจจริง เขาปฏิเสธไม่ได้เจ็บ เคทอ่อนใจ

“แล้วแต่ละกัน แต่คุณเห็นใช่ไหมว่าน้องพีทเป็นห่วงคุณ พอรู้ว่าคุณวิ่งตามหาแกตั้งหลายชั่วโมงไม่ได้พัก แกกลัวคุณไม่สบายเลยเอายามาให้ คุณรู้ไหมว่าคุณทำให้น้องพีทกลัวคุณน้อยลงมากแล้วนะ คุณดีใจไหม...น้องพีทยิ้มให้คุณด้วย คุณเห็นใช่ไหม”

สุริเยนทร์เห็นแต่ปัดว่าไม่เห็น เคทเห็นเขาหลบตาก็เย้าทำไมต้องหนีหน้า เขาอ้างรำคาญที่เธอพูดมาก เคทเดินมาตรงหน้าแหย่ “นี่ดีใจก็แสดงออกมานะ อย่าเยอะ ฉันไม่บอกใครหรอก ขนาดเรื่องที่คุณแอบมาห่มผ้าให้ฉันกับน้องพีทคืนนั้น ฉันยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย”

สุริเยนทร์ร้อนตัวทำท่าหงุดหงิดกลบเกลื่อน พอเห็นรอยยิ้มของเคทก็จะเดินหนีแต่พลาดสะดุดเซ เธอล้อถึงกับขาสั่นเชียว เขารีบจ้ำหนีปล่อยเธอหัวเราะคิกคัก

ooooooo


เพ็ญสิริเริ่มเซ็งที่วิสุทธิ์ยังนอนนิ่งในรถ จึงหา เรื่องกวนประสาทให้เขายัวะ วิสุทธิ์บ่นเรื่องที่เคททำให้สุริเยนทร์กลายเป็นเจ้าพ่อเวอร์ชั่นมุ้งมิ้งได้ เพ็ญสิริ ปลอบว่าผู้หญิงก็แบบนี้เกิดมาพร้อมสัญชาตญาณความเป็นแม่ เห็นใครถูกกลั่นแกล้งก็สงสาร

วิสุทธิ์หันมามองหน้าถามแล้วเธอเป็นห่วงตนไหม เพ็ญสิริพยักหน้ารับว่าห่วง เขาเห็นเธอหน้าเศร้าถามอกหักหรือ เธอชะงักเปิดประตูลงจากรถชวนเขาไปหาอะไรกินจะขับรถให้ พอมาถึงร้านเพ็ญสิริเห็นไอศกรีมน่าทานก็ร้องว้าวๆๆน่ากินจัง และคะยั้นคะยอ ให้วิสุทธิ์ทำตามพอเขาทำเธอก็ถาม อารมณ์ดีขึ้นไหม เขาส่ายหน้า เธอก็บอกให้ทำๆไปเดี๋ยวก็อารมณ์ดีเอง

วิสุทธิ์เริ่มเห็นความน่ารักของเพ็ญสิริ เผลอเอาปากที่เลอะไอศกรีมเช็ดที่แขนเสื้อเธอเหมือนแมวขี้อ้อน หญิงสาวเคลิ้มอยากเผยความรู้สึกที่มีต่อเขา แต่เขาเปรยออกมาว่า

“ถ้าคุณเป็นเคทก็ดีสิ จะอยู่ยังงี้ทุกวันเลย”

เพ็ญสิริชะงัก วิสุทธิ์เห็นสีหน้าถามมีอะไรอยากพูด เธออึกอักก่อนจะโพล่งออกมาว่ามื้อนี้ให้เขาเลี้ยง วิสุทธิ์โวยขำๆ...หลังทานเสร็จเพ็ญสิริชวนไปนอนที่บ้านแต่วิสุทธิ์ไม่อยากให้ป๊าม้าเธอจับคู่อีก ขอนอนในรถดีกว่า เธอจึงไม่กลับจะนอนเป็นเพื่อน กลางดึกวิสุทธิ์เห็นเพ็ญสิริ นอนหลับยกมือปัดยุงที่มาเกาะ จึงหากระดาษมาพัดให้ พัดไปมองหน้าเธอไปก็รู้สึกว่าสวยน่ารักไม่เบา เขาเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว...

รุ่งเช้าลออเอามือถือมาให้เคทบอกว่าเอกณัติโทร.เข้ามา เธอรีบรับสาย เขาถามว่าเธอกับสุริเยนทร์อยู่บ้านสุรีย์ใช่ไหม ให้พยายามรั้งสุริเยนทร์ไว้ เขาจะพารุจิรามาเพื่อจะได้รู้กันไปว่ารุจิรากับสุริเยนทร์มีเรื่องอะไรกัน...

จากนั้นเอกณัติก็รอจนรุจิราออกมาจากคอนโดแล้วอาสาขับรถให้โดยไม่รู้ว่าคฑาวุธสะกดรอยตาม

เคทเห็นสุริเยนทร์เอารูปและโถใส่อัฐิของแม่อัมพรจะเอากลับไร่ด้วย จึงเอ่ยถามกลัวสุรีย์เหงาหรือ เขาเสียงเข้มว่าเรื่องของเขาแล้วบอกเธอว่าจะกลับแล้ว เคทอึกอักพยายามหาวิธีรั้งเขาไว้ก่อน จึงขอตัวเข้าห้องน้ำแล้วเธอก็ต้องกระวนกระวายอยู่ในนั้น จะติดต่อเอกณัติก็ไม่กล้า

ooooooo

เคทไม่กล้าโทร.หาเอกณัติเพราะรู้ว่ามือถือตัวเอง ถูกดักฟัง ได้แต่ร้อนรนเมื่อไหร่เขาจะมาถึง พลันมีคนโทร.เข้ามาเป็นเบอร์รหัสทางไกลจากภูทับดาวก็แปลกใจ จึงรับสายแล้วต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงนพสิทธิ์ เขาบอกว่าเขาอยู่ภูทับดาว

“หา! พี่ไม่ต้องโทร.หาเคทอีก มันไม่ปลอดภัย เขาดักฟังมือถือเคท” พูดจบเคทตัดสายทิ้ง

นพสิทธิ์ตกใจมากเมื่อรู้ว่าเครื่องเคทถูกดักฟัง ทำให้หวาดกลัวผู้คนแถวนั้นไปหมดถึงกับมีคนเรียกก็วิ่งหนี ปรากฏว่าคนนั้นเก็บเงินที่เขาทำหล่นมาคืนให้...ส่วนเคทช็อกอยู่สักพักก็รีบวิ่งออกมาหน้าบ้าน สุริเยนทร์ยืนรอหน้าเครียดที่รถ พอเห็นท่าทางมีพิรุธของเธอก็ถามเป็นอะไร เธอลังเลจะบอกความจริงหรือนิ่งเฉยดี เขาดึง
แขนเธอจ้องหน้าให้พูด จู่ๆบอดี้การ์ดเข้ามายื่นมือถือให้บอกว่าสายจากสุพล เคทหวั่นใจจะเป็นเรื่องนพสิทธิ์ เสียงสุริเยนทร์คุย

“...ฝากบอกสารวัตรด้วยนะ จะสอบปากคำฉันเรื่องไม้เถื่อนก็ได้ แต่คำตอบฉันก็เหมือนเดิม ไม่มีมากกว่านั้น” สุริเยนทร์เห็นเงาเคทยืนฟัง หันมาถามแอบฟังทำไม

เคทสะดุ้งปฏิเสธไม่ได้แอบฟัง แล้วทำทีมองหา น้องพีท...เคทเดินแยกออกมาใจเต้นรัวเกรงเขาจะรู้ว่านพสิทธิ์โทร.มา ลังเลจะบอกหรือไม่บอกดี สุดท้ายเคทตัดสินใจเดินไปบอกสุริเยนทร์ว่าเมื่อครู่นพสิทธิ์โทร.มา ท่าทางเขาไม่ตกใจกลับบอกว่า

“ฉันรู้แล้ว ฉันให้คนของฉันเฝ้ารอสายนี้มาตั้งกี่วันแล้ว คิดว่าฉันจะพลาดเหรอ” เคทต่อว่าทำไมไม่บอก “ฉันแค่จะรอดูว่าเธอจริงใจแค่ไหน”

เคททวงสัญญาที่จะไม่ทำอะไรนพสิทธิ์ เขาพยักหน้า เธอย้ำถ้าเขาผิดสัญญาจะให้น้องพีทเกลียดเขาไปตลอดชีวิต สุริเยนทร์ย้ำไม่ฆ่าพี่ชายเธอแน่ เธอให้เขาสาบานเขาสวนคนโกหกเท่านั้นที่ต้องพึ่งการสาบาน เคทขอให้จริง เขาสวน “งั้นมาพูดความจริงกัน ยังมีอะไรที่ฉันควรรู้ แต่ยังไม่รู้อีกไหม...ตอบมาตามตรง อย่าทำลายความไว้ใจของฉัน”

เคทเสียวสันหลังวาบเพราะอีกเรื่องที่ไม่ได้บอกคือเอกณัติจะพารุจิรามาที่นี่ จึงรีบชวนเขาขึ้นรถกลับ สุริเยนทร์รู้สึกว่าเธอยังมีอะไรปิดบัง บอกให้โอกาส

อีกครั้งถ้าเธอไม่จริงใจสิ่งที่เธอจะได้รับคืนก็คือความไม่จริงใจเหมือนกัน เคทลังเล พอเขาจะขึ้นรถเธอก็คว้ามือเขาหมับ

ทันใดรถรุจิราก็เลี้ยวเข้ามาในบ้าน รุจิราถามเอกณัติว่าบ้านใคร สุริเยนทร์อยู่ที่นี่หรือตนไม่ต้องการเจอ เอกณัติปลอบให้เชื่อใจ ตนจะไม่ปล่อยให้เขาทำร้ายเธอ...บอดี้การ์ดสุริเยนทร์เข้าล้อมรถ เอกณัติพารุจิราลงจากรถเดินไปหาสุริเยนทร์ เขาถามเสียงขุ่น

“พาขิมมาเซอร์ไพรส์ผม ต้องการอะไรเหรอผู้หมวด”

เอกณัติย้อนถาม รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ สุริเยนทร์ว่าเขาควรจะสืบคดีสุรีย์หรือไม่ก็สืบหาตัวนพสิทธิ์ แต่เพราะสงสัยตนถึงตามสืบจากรุจิรา ตนไม่เข้าใจว่าพาเธอมาทำไม เอกณัติโพล่งขึ้น

“ผม...รักคุณขิม” รุจิราตกใจ เอกณัติกุมมือเธอยิ้มหวานบอก “ไม่ต้องปิดบังหรอก...คุณภูผมอยากคบกับคุณขิมอย่างเปิดเผย คุณช่วยเลิกยุ่งเกี่ยวกับคุณขิมได้ไหมครับ”

สุริเยนทร์มองออกว่าเอกณัติมีแผนซ่อนอยู่ จึงถามกำลังยั่วโมโหตนใช่ไหม ต้องการอะไร เขายืนยันว่าขอให้เลิกยุ่งกับรุจิรา สุริเยนทร์ไม่เชื่อ เอกณัติจึงโอบรุจิราแต่เธอไม่เล่นด้วยลุกพรวด ประกาศกร้าว จะเล่นเกมอะไรกันไม่ต้องมายุ่งกับตน เอกณัติตามไปคว้ามือเธอ เท่านั้นสุริเยนทร์ก็พุ่งพรวดเข้าปัดและจับเอกณัติ ล็อกดันไปกระแทกกำแพง ทุกคนตกใจ

ภาพความทรงจำในอดีตของสุริเยนทร์ที่ตอนเป็นเด็กโดนเพื่อนๆหัวเราะเยาะว่าฆ่าแม่เลี้ยงตายจะต้องติดคุกหัวโต มี ด.ญ.ขิมที่เข้ามาปกป้อง จับมือเขาปลอบและชวนไปเล่นด้วย

ด้วยเหตุนี้ทำให้สุริเยนทร์ต้องคอยปกป้องรุจิราตลอดมา “ฟังนะหมวด อยากจะสืบเรื่องของฉันยังไงก็สืบไป แต่อย่ามายุ่งกับขิม เพราะฉันจะไม่ให้ใครทำขิมเสียใจเด็ดขาด”

“คนที่ทำขิมเสียใจก็คุณนั่นแหละ” เอกณัติสวน สุริเยนทร์โกรธเงื้อหมัด

รุจิราพุ่งเข้าผลักสุริเยนทร์ ตวาดทำไมเป็นอย่างนี้ตลอด...เขาเหมือนเห็นภาพอดีตครั้งมีเรื่องกับชายรุ่นราวคราวเดียวกัน รุจิราเข้ามาห้ามแล้วโดนลูกหลงล้มลง เขาตกใจมากแต่กลับโดนเธอตวาด “ทำไมเป็นคนอย่างนี้ ขิมไม่ยุ่งกับภูแล้ว!” แล้วรุจิราก็ไปจากเขา

รุจิราโกรธมากเดินหนี สุริเยนทร์ผละจากเอกณัติ วิ่งตาม เคทเข้ามาต่อว่าเอกณัติทำบ้าอะไร...สุริเยนทร์ ตามมาขอโทษรุจิรา เธอโวย “ภูไม่ต้องมายุ่งกับขิมเลย ทำไมต้องอาละวาดใส่ทุกคนที่มายุ่งกับขิม ภูจะไม่ให้ขิมมีความสุขได้เลยใช่ไหม” สุริเยนทร์บอกไม่ใช่ รุจิราถามแล้วทำไม เขาบอกแค่ไม่อยากให้ใครทำเธอเสียใจ “ขิมไม่ต้องการ ภู...ขิมขอได้ไหม ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของขิมอีก ขิมจะสุขจะทุกข์ก็ปล่อยขิมไป”

สุริเยนทร์พึมพำว่าทำไม รุจิราโพล่งออกมาว่าไม่ได้รักเขา “ผมก็ไม่ได้ต้องการให้ขิมมารัก ผมแค่อยากให้ขิม...อยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปหรืออย่างน้อยก็อย่าตัดขาดกัน”

“ขิมทำไม่ได้...ภูอย่าทำให้ขิมรู้สึกผิดได้ไหม ขิมไม่อยากอยู่กับความรู้สึกนั้นไปตลอดชีวิต ขิมอยากให้มันจบ...จบซะที”

“รู้สึกผิดเรื่องอะไร”

รุจิราส่ายหน้าน้ำตาไหลพราก ไม่อาจบอกเหตุผลได้ สุริเยนทร์ถามว่าเรื่องที่ตนฆ่าโสภาหรือ เธอคิดว่าตนฆ่าหรือ เธอส่ายหน้า “ไม่...ภูไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะเรื่องนี้เลย ขิมรู้ว่าภูไม่ได้ทำ และเพราะว่าขิมรู้ ขิมเลยอยู่กับภูไม่ได้”

“ทำไม ทำไมไม่ได้ ขิมไม่ต้องแต่งงานกับผมก็ได้ แต่แค่อย่าตัดผมออกจากชีวิตได้ไหม แค่อยู่กับผม เป็นเพื่อนผม ผมขอแค่นี้เองได้ไหม”

“ภู...ถ้าภูไม่อยากให้ขิมเสียใจ ภูแค่อยู่ให้ห่างๆขิมก็พอ ขิมไม่อยากรู้สึกผิดไปกว่านี้อีกแล้ว” รุจิราเดินหนีจะขึ้นรถ แต่ไม่มีกุญแจจึงปิดประตูเปรี้ยงแล้วเดินออกจากบ้านแทน

สุริเยนทร์ยืนมองด้วยความสับสนทำไมต้องเป็นแบบนี้...รุจิราเดินน้ำตานองหน้า ภาพอดีตผุดขึ้น เมื่อคราวได้ยินเสียงร้องของโสภา ด.ญ.ขิมก็เข้าไปดูในคอกม้าแล้วต้องตะลึง เห็นเดชาเอามือปิดตาภูไว้ โสภานอนเลือดไหลยื่นมือขอความช่วยเหลือจากพี่ชาย แต่เดชากลับเอื้อมมือไปปลดเชือกอีกเส้น รอกหล่นลงมาใส่โสภาทันที ไม่คาดคิด เดชาหันมาเห็นขิมยืนตะลึง...

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 10

ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์
ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ