อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 2 วันที่ 16 ก.ย. 56

อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 2 วันที่ 16 ก.ย. 56

เช็งไม่คิดค่าบริการ คว้าเลื่อยมาตัดท่อน้ำที่ยื่นนั้นออกหน้าตาเฉย เท่ห์ให้นามบัตรเสี่ยไว้เผื่อมีอะไรติดขัดพวกตนยินดีบริการตลอด 24 ชั่วโมง เขารับนามบัตรไปดู สีหน้ายังงุนงงไม่หาย ครู่ต่อมา เท่ห์เดินนับเงินออกมาหากลุ่มเพื่อนซี้ที่รออยู่หน้าสวนอาหาร จัดสรรปันส่วนเงินค่าจ้างให้กับทุกคน หรั่งมองเงินในมือ แล้วบอกให้ทั้งสามคนไปกันก่อน ตนลืมหนังสือไว้ในร้าน เท่ห์ตะโกนไล่หลังให้เขาตามไปเจอที่ร้านอาหารเจ้าประจำ

“พวกมึงกินกันเหอะ กูต้องรีบไปวิ่งงานต่อ” หรั่งตะโกนกลับ แล้วหายเข้าไปในร้าน เดินหาเสี่ยเจ้าของร้านจนเจอ คืนเงินส่วนของตัวเองให้ อ้างว่าเป็นส่วนลด แล้วจดเบอร์โทรศัพท์ของพี่รูญเจ้าของรามอินทราฟาร์มให้


“เขาถนัดเรื่องบ่อน้ำเป็นพิเศษ อาจจะแพงนิดหน่อยแต่ก็ได้มาตรฐานกว่ากันเยอะ อ้อ...ส่วนนามบัตรใบเมื่อครู่นี้เสี่ยทิ้งไปได้เลยนะครับ เชื่อผมเถอะ...สวัสดีครับ” หรั่งพูดจบ รีบออกจากร้าน คล้อยหลังไม่นาน ผู้จัดการร้านเข้ามารายงานเสี่ยว่าบ่อปลาหน้าร้านท่อแตกน้ำท่วม เขาเพิ่งเข้าใจเหตุผลที่หรั่งเอาเงินมาคืนตอนนั้นเอง...

ทันทีที่หรั่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดในธนาคารรัตนทรัพย์ นายโตยามของธนาคารร้องทักทำไมวันนี้มาสาย ผู้จัดการธนาคารถามหา เร่งให้เขารีบไปพบ ชายหนุ่มเป็นกังวลคิดไปเองว่าคงจะถูกตำหนิเรื่องมาสาย พอพบหน้าผู้จัดการฯ รีบชี้แจงว่าเมื่อวานเขาเช็กคิวงานกับพี่จรรยาแล้วว่าเช้านี้ไม่มีอะไร ให้เขาไปทำธุระก่อนได้ ผู้จัดการฯไม่พูดอะไร ได้แต่ยื่นซองขาวให้ หรั่งมองอย่างใจเสีย

“แค่นี้ถึงกับยื่นซองขาวให้ผมเลยหรือครับ”

ผู้จัดการฯสั่งให้เปิดซองดูก่อน ในนั้นมีการ์ดอยู่ด้วย หรั่งทำตามสั่งดึงการ์ดออกจากเงินปึกใหญ่ขึ้นมาอ่านแล้วถึงกับอึ้งที่เห็นชื่อแพรวา ผู้จัดการฯสงสัยว่าเขาไปช่วยอะไรใครไว้ไม่เห็นเล่าให้ฟังกันบ้าง ชายหนุ่มไม่ตอบคำถาม ยื่นเงินคืนให้ผู้จัดการฯ แต่เก็บการ์ดเอาไว้

“ไม่ว่าซองนี้จะมาถึงผมด้วยวิธีใด ฝากผู้จัดการช่วยส่งคืนเจ้าของด้วยครับ ผมเอาไว้แค่การ์ดใบนี้พอ”

ooooooo

ณ ห้องประชุมใหญ่ของบริษัท M.S. Group. พรั่งพร้อมไปด้วยบรรดาน้องๆของเผ่าลาภ ซึ่งมีลินจงหรืออาจู อรทัย รวมทั้งกัมปนาทหรืออาฮุย และบารมี โดยมีเผ่าลาภเป็นประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้น

ขณะพี่ใหญ่กำลังกล่าวเปิดการประชุม ชาติชายหรืออาเหลียงเปิดประตูห้องเข้ามา บารมีไม่วายแดกดัน น้องชายที่มาสาย เผ่าลาภต้องปรามให้หยุด แล้วแถลงผลประกอบการของบริษัทต่างๆในเครือ ทั้งโรงสีข้าวที่ลินจงบริหารงานร่วมกับวิโรจน์ผู้เป็นสามี ทั้งบริษัทจิวเวลรี่ที่กัมปนาทดูแลการผลิตล้วนยังทำกำไรให้

“ส่วนงานที่เหมืองนั้น เป็นงานที่ต้องลงทุน ซึ่งจะว่าไปก็ไม่มีอะไรบกพร่อง ทั้งโรงงานของอาเหลียงและ โรงเจียระไนของทนงศักดิ์ เพียงแต่ว่าถึงเวลาที่เราต้องลงทุนมากขึ้นเพราะเหมืองของเรานั้นขุดลงไปก็ไม่เจออะไรแล้ว เราต้องลงทุนซื้อที่หลังเขาถัดออกไปสักพันไร่ ตรงนั้นมีสัญญาณที่ดีว่ามีสายแร่”



บารมีไม่เห็นด้วย ถ้าแร่หมดก็ต้องเลิกอยู่ดี ขายที่ดินทิ้งแล้วเอาเงินมาแบ่งกันน่าจะดีกว่า เผ่าลาภค้านว่านั่นไม่ใช่นโยบายของบริษัท ถ้าเกิดแร่หมดเขาจะเอาที่ดินไปทำสนามกอล์ฟแทน บารมีหาว่าเขาคิดจะรวยคนเดียว เผ่าลาภยืนยันว่ารายได้จากสนามกอล์ฟจะเข้ากงสีเหมือนกิจการอื่นของครอบครัว บารมีกล่าวหาว่าเงินกงสีมีแต่พี่ใหญ่เท่านั้นที่เอาไปใช้ น้องๆได้แต่กินเงินเดือน แนะให้ยกเลิกกงสี เผ่าลาภโกรธมากประกาศลั่น

“ทุกคนฟังไว้...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในแวดวงธุรกิจภายภาคหน้า หากมีผู้ใดคิดล้มเลิกกงสีของตระกูลถือว่ามันผู้นั้นไม่เคารพต้นตระกูลของเรา จำเอาไว้”...

หลังจากประชุมเสร็จ เผ่าลาภกลับห้องทำงานตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บอกกับแพรวาที่รออยู่ในห้องว่าวันนี้เขาจะไม่พาลูกไปดูงานที่ไหนอีก ตอนนี้เหนื่อยมากอยากกลับบ้าน แพรวาอยากเอาใจพ่อ อาสาจะไปหยิบผ้าเย็นและจะเลยไปตามนายสยามด้วย

“น้องแพร ลูกจะต้องมาฝึกงานที่นี่อย่างจริงจังได้แล้ว เริ่มอาทิตย์หน้าเลยนะ”

แพรวายิ้มรับ ก่อนจะออกจากห้อง เจอนายสยามซึ่งรอท่าอยู่ ยื่นซองใส่เงินที่ผู้จัดการธนาคารฝากมาคืนให้เธอ และรายงานว่าพ่อหนุ่มคนนั้นไม่ยอมรับเงิน ขอไว้แค่การ์ดเท่านั้น...

อเนกไม่ได้แค่ยักยอกเงินของลูกค้า ตอนเอาเงินใส่ตู้เอทีเอ็ม เขายังแอบทำคนเดียวเพื่อจะขโมยเงินได้สะดวก ทั้งที่ตามกฎแล้วต้องมีพนักงานอีกสองคนอยู่ด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่พ้นสายตาหรั่งอีกเช่นกัน...

ตกเย็น ขณะแพรวากำลังเตรียมของขวัญพร้อมกับการ์ดใบใหม่ให้หรั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำภายในบ้านเผ่าลาภ ตะวันฉายโผล่มาเซอร์ไพรส์ หญิงสาวทั้งดีใจทั้งโกรธโผเข้าไปทุบอก พลางต่อว่า

“พี่ตะวันน่ะ มาได้อย่างไร ไม่บอกไม่กล่าวเลย ใจดำ นึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มา”

“แต่พี่อยู่แค่คืนเดียวนะน้องแพร รอเปลี่ยนเครื่องบินตอนเช้ามืด พี่มีของมาฝากด้วยนะ” ตะวันฉายทำท่าเสกของออกจากแขนเสื้อราวกับเป็นนักมายากล พริบตาเดียวน้ำหอมชั้นดีปรากฏอยู่ในมือ แล้วเหลือบไปเห็นของขวัญกล่องเล็กๆวางอยู่กับการ์ด ถามว่านั่นของขวัญของใคร แพรวายิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบคำถาม

“ของวีรบุรุษของน้องแพรค่ะ ถ้าไม่มีเขานะ วันนั้นน้องแพรไปส่งพี่ตะวันไม่ทันหรอกจะบอกให้”...

คนที่แพรวาพูดถึงกำลังนั่งมองการ์ดใบแรกที่เธอเขียนให้อยู่ที่โต๊ะอาหาร ไม่ได้สนใจว่าก้อยกำลังถามถึงพ่อของเขาที่เขาโกหกว่าพลัดพรากจากกันตั้งแต่เด็กเพราะมัวแต่ใจลอยคิดถึงเจ้าของการ์ด และนึกย้อนอดีตไปเมื่อครั้งที่ตัวเขาอายุแค่ 7 ขวบ ถือรูปแพรวาตอนเป็นเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ไปแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหา

“นี่มันลูกสาวบ้านเถ้าแก่ริมทะเลนี่ เขาเป็นอะไรกับเอ็งหรือ” ตำรวจที่รับแจ้งความอดขำไม่ได้

เสียงโบ้ตะโกนเรียกหรั่ง ทำให้เขาตื่นจากภวังค์รีบเก็บการ์ด เป็นจังหวะเดียวกับโบ้เอาอุปกรณ์สำหรับใช้ในงานบวชวันพรุ่งนี้มาให้ หรั่งย้ำว่าตนเองลากิจแค่ครึ่งวันเท่านั้น โบ้รับรองว่าเสร็จงานทันแน่นอน...

ก่อนเข้านอนหรั่งนำการ์ดของแพรวาติดไว้บนผนังที่ดึงลงมาจากเพดานรวมกับรูปภาพของเธอที่เขาตัดมาจากนิตยสาร แล้วยืนมองการ์ดใบนั้นอย่างเป็นปลื้ม

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น แพรวาไปหาหรั่งที่ธนาคารรัตน-ทรัพย์ด้วยตัวเอง แต่ไม่เจอเพราะเขาลางาน พอรู้ว่าเขามาที่วัดแห่งหนึ่งแถวบางบอน สั่งให้นายสยามขับรถพาไปที่นั่น พบว่าหรั่งมารับงานเป็นเสือในขบวนแห่นาค โดยมีเท่ห์แสดงเป็นกระตั้วไล่แทงเสือ ขณะที่เช็งเป็นแป๊ะยิ้มส่วนโบ้คอยเป่าทรัมเป็ต

แพรวาขอคุยกับหรั่งตามลำพัง ก่อนจะมอบของขวัญพร้อมการ์ดที่มีข้อความว่า “ถึงวีรบุรุษผู้ทระนง หวังว่าคราวนี้คงจะรับน้ำใจของฉันไว้นะจ๊ะ...จากแพรวา” ให้ เขาทำท่าจะไม่รับ เธอจับของขวัญยัดใส่มือ

“รับไว้เถอะน่า...ฉันกลับก่อนละนะ แล้วเจอกันนะ” แพรวาพูดไปตามมารยาท แล้วขยับจะไป

“เอ่อ...ที่ไหนหรือครับ” หรั่งพาซื่อ หญิงสาวไม่นึกว่าจะได้ยินคำถามนี้ หันกลับมาบอกทีเล่นทีจริงว่า

“ที่ธนาคารมั้ง” แพรวาพูดจบ เดินไปขึ้นรถ หรั่งมองตามยิ้มอย่างมีความสุข...

เพื่อนๆพากันอิจฉาหรั่งที่มีนางฟ้าในฝันตามมาหาถึงที่นี่ เท่ห์ทำตัวเป็นหมอดูทำนายว่าปีนี้ต้องเป็นปีทองของหรั่งเพราะทำอะไรก็ดูดีไปหมด โบ้กับเช็งแย่งกันอ่านการ์ดพลางล้อเลียนที่แพรวาเรียกเขาว่าวีรบุรุษ

หรั่งคว้าการ์ดคืนแล้วลุกขึ้นทันที “กูจะไปทำงานแล้ว ฝากพวกมึงเอาก๋วยเตี๋ยวแห้งไปส่งให้ก้อยด้วย”...

ดูเหมือนโชคของอเนกจะหมดเสียแล้ว ทันทีที่เขาออกไปกินมื้อเที่ยง ผู้จัดการธนาคารรัตนทรัพย์ซึ่งนั่งหน้าเครียดอยู่กับกองเอกสาร เปิดประตูห้องออกมาตะโกนถามพนักงานที่ยังเหลืออยู่ว่ามีใครรู้เรื่องเอทีเอ็มบ้าง

หรั่งมาทันได้ยินพอดี “ผมคิดว่า ผมพอจะรู้เรื่องที่ผู้จัดการอยากรู้ครับ”...

เนื่องจากไม่อยากให้เป็นเรื่องอื้อฉาว ผู้จัดการธนาคารรัตนทรัพย์รอจนเลิกงาน จึงเปิดโปงเรื่องทุจริตของอเนก ทั้งเรื่องเอาเงินเข้าออกตู้เอทีเอ็มเพียงลำพังโดยให้เพื่อนอีกสองคนเซ็นรับทราบไว้ล่วงหน้าเพื่อตัวเองจะได้ขโมยเงิน หนำซ้ำยังยักยอกเงินจากลูกค้าสูงอายุ เบิกเงินเกินคำสั่งของลูกค้า ส่วนที่เหลือก็เก็บเอาไว้เอง

“ผมไม่อยากให้เรื่องนี้ฉาวโฉ่มากนัก เพราะฉะนั้น คุณคงรู้นะว่าควรรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยวิธีใด”

“ไอ้หรั่งใช่ไหม ที่เป็นตัวแสบปูดเรื่องนี้ขึ้นมา” อเนกขบกรามแน่นด้วยความเคียดแค้น

“นายหรั่งเขาทำถูกต้องแล้ว คุณนั่นแหละที่แสบและเลว” ผู้จัดการฯด่าเสร็จกลับห้องทำงาน

อเนกแค้นใจมาก ตามไปที่ลานจอดรถกระชากไหล่หรั่งให้หันมาแล้วประเคนกำปั้นใส่หน้าจนล้มคว่ำ ด่าซ้ำว่าต้องการจะประจานให้เขาอับอายใช่ไหม หรั่งยืนยันว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้จัดการฯเองก็ไม่ได้บอกใครเพราะไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โต อเนกโกรธต่อยเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ปล่อยให้ถูกทำร้ายข้างเดียว ชกคืนบ้าง สองคนต่อสู้กันอุตลุด นายโตต้องเข้ามาแยก อเนกชี้หน้าหรั่ง ขู่ว่าคนชอบแส่อย่างเขาไม่ตายดี...

หรั่งกลับบ้านเช่าในสภาพปากแตกมีรอยฟกช้ำ ก้อยเอาสำลีชุบยาแดงยื่นไปข้างหน้าขณะที่หรั่งพยายามเอียงแผลของตัวเองเข้าหาสำลีก้อนนั้น ถูกที่บ้างผิดที่บ้าง หญิงสาวเตือนเขาว่าทีหน้าทีหลังอย่าเป็นคนดีเกินไป เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสียบ้างจะได้ไม่ต้อง

เดือดร้อนแบบนี้และขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หรั่งไม่พูดอะไรก้มหน้าก้มตาแกะห่อของขวัญออกดูอย่างทะนุถนอม เห็นพวงกุญแจห้อยไอ้มดแดงขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ในกล่อง

“ถ้าคราวหน้าจะมีเรื่องกับใคร หรั่งต้องนึกถึงเหตุการณ์วันนี้ไว้ให้ดีนะ”

ชายหนุ่มยกพวงกุญแจขึ้นมามองอย่างหลงใหลได้ปลื้ม “หรั่งจะไม่มีวันลืมวันนี้เลย ก้อยเอ๊ย”

ooooooo

บารมีอารมณ์บูดแต่เช้าเพราะหมุนเงินไม่ทัน อีกทั้งลูกน้องยังโทร.มาตามหลายครั้ง แต่เขาไม่รับสาย ไม่รู้จะระบายอารมณ์ที่ไหนหันไปอาละวาดใส่กันทิมา ลูกน้องติดต่อบารมีไม่ได้ตัดสินใจมาตามถึงคอนโดฯที่พัก เพื่อแจ้งว่ารถเบนซ์ลอตใหม่ที่เราสั่งมาถึงท่าเรือแล้ว ทางนั้นให้รีบเอาเงินมาจ่ายถึงจะเอารถออกได้

“ทั้งหมดห้าสิบล้าน เขาให้เราวางสิบเปอร์เซ็นต์ก่อน ก็...ห้าล้านบาทครับเฮีย”


“กูไม่มีว่ะ...เธอมีไหมกันทิมา บัญชีส่วนตัวของเธอน่ะ ขอยืมก่อนสิ”

กันทิมาไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น บารมีของขึ้นเดินเข้ามาตะคอกใส่หน้าลูกน้องให้กลับไปบอกทางท่าเรือว่าเขาไม่เอารถพวกนั้นแล้ว เลิกกิจการแล้ว บริษัทเจ๊ง ลูกน้องถึงกับอึ้ง...

ด้านเผ่าลาภตระหนักแล้วว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนถ่ายให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเรียนรู้งาน จึงจัดสรรงานให้ต้นหรือกฤษฎาไปช่วยงานชาติชายที่เหมืองและให้ศึกษางานจากเขาให้มากที่สุด ส่วนแพรวาจะส่งไปเรียนงานด้านบริหารการตลาดจากอรทัยแม่ของกฤษฎา และจากนี้ไปเผ่าลาภจะถือว่าทั้งคู่เป็นพนักงานของบริษัทคนหนึ่ง ทำงานดีก็มีเบี้ยเลี้ยงให้ ทำผิดพลาดจะต้องถูกตำหนิ ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีสิทธิพิเศษ

“และต้องเข้าประชุมรายงานผลงานตามกำหนดทุกครั้ง เข้าใจนะ”...

ทันทีที่บารมีรู้เรื่องการจัดสรรงานให้กฤษฎาและแพรวา ก็รีบตามมาใส่ไฟอรทัยกับทนงศักดิ์ถึงบ้าน กล่าวหาว่าเผ่าลาภต้องการดันลูกสาวตัวเองให้ขึ้นเป็นใหญ่ถึงได้ผลักไสกฤษฎาไปอยู่โรงงานกับชาติชาย อรทัยค้านเสียงแข็งว่าเป็นไปไม่ได้ แพรวาเป็นผู้หญิง ตามธรรมเนียมจะขึ้นเป็นหัวเรือไม่ได้ ต้องดันลูกชายของเธอถึงจะถูกต้อง บารมีชักชวนให้พี่สาวรวมหัวกันคอยค้านเผ่าลาภ ไว้ให้ดีเพราะเขามาเหนือเมฆตลอด

ทนงศักดิ์มีธุระนัดเพื่อนตีกอล์ฟจึงขอตัวไปก่อน บารมีสบโอกาสได้อยู่ลำพังกับพี่สาว เลียบๆ เคียงๆ ขอยืมเงินห้าล้านบาท เธอไม่มีให้ ถ้าต้องการเงินจริงๆ ให้เขาไปยืมจากกงสี หรือไม่ก็เลิกกิจการแล้วมาช่วยงานที่เหมืองกินเงินกงสี บารมีไม่อยากเป็นลูกน้องเผ่าลาภ

อรทัยเตือนน้องชายให้หัดเรียนรู้งานไว้บ้างเผื่อพี่ใหญ่เป็นอะไรไปเขาต้องขึ้นมาคุมงานแทน และต้องทำตัวให้เหมาะสม ไม่อย่างนั้นอาจโดนคนอื่นตัดหน้า...

ทางฝ่ายหรั่งไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ว่าง เมื่อไหร่ต้องหยิบหนังสือมาอ่าน พอถึงเวลาเข้าห้องสอบ จึงทำข้อสอบได้อย่างมั่นใจ อย่างไรเสียปริญญาตรีไม่หนีเขาไปไหนแน่นอน...

ยังไม่ทันจะรู้ผลสอบ ผู้ใหญ่เงาะจัดงานฉลองเล็กๆ ให้หรั่งล่วงหน้า เพราะเชื่อมั่นว่าคนอย่างเขาต้องสอบผ่าน และประกาศกลางวงเหล้าว่าหรั่งจะสืบทอดตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านจานเดี่ยวต่อจากตน ก่อนจะเมาฟุบอยู่แถวนั้น หรั่งเองก็ดื่มไปหลายแก้ว กลับถึงบ้านพักด้วยอาการมึนๆเช่นกัน ก้อยร้อยพวงมาลัยดอกมะลิมาคล้องข้อมือเขาเป็นของขวัญวันสอบเสร็จ สัญญาว่าถึงวันประกาศผลเมื่อไหร่เธอจะร้อยพวงมาลัยสวยกว่าพวงนี้มาให้

“ไม่จำเป็นเลยก้อย แค่หรั่งได้เห็นก้อยยิ้ม ก้อยมีความสุขก็ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับหรั่งแล้ว... เอาอย่างนี้ ถ้าหรั่งสอบผ่านได้ปริญญาตรี หรั่งจะพาก้อยไปฉลองที่ทะเลดีไหม”

“หรั่งก็รู้ว่าก้อยอยากไปทะเลแค่ไหน ก้อยไม่เคยไปทะเลมาก่อนเลยในชีวิต” ก้อยพิงไหล่หรั่งซึ่งโอบกอดเธอไว้ด้วยความเอ็นดูและสงสาร พลางหยิบพวงมาลัยที่ก้อยคล้องมือให้ขึ้นมาดู พวงกุญแจรูปไอ้มดแดงขี่มอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในมือห้อยตกลงมา หรั่งยิ้มกว้างจินตนาการว่าคนให้มาอยู่ตรงหน้า

ooooooo

นายสยามถูกใจหรั่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมา ทำธุระที่ธนาคารรัตนทรัพย์ให้เจ้านายในเช้าวันหนึ่ง เห็นเขากำลังแจกน้ำสมุนไพรและน้ำเต้าหู้ตามออร์เดอร์ ให้พนักงานในธนาคารยิ่งทำให้นายสยามปลื้มใจในความขยันทำมาหากิน พอสบช่องจึงเข้าไปทักทายพูดคุยด้วย

หรั่งจำได้ว่านายสยามเป็นคนขับรถของแพรวา รบกวนฝากน้ำย่านางไปให้เธอสองขวด คุยอวดสรรพคุณว่าน้ำสมุนไพรชนิดนี้บำรุงสุขภาพและดับร้อนได้ดี ถ้าแพรวาสนใจจะดื่มเป็นประจำทุกเช้า เขายินดีส่งให้ถึงที่

“และสำหรับพี่สยาม ผมมีแก้วนี้ให้ชิมก่อน” หรั่งพูดจบรินน้ำย่านางใส่แก้วให้...

ทันทีที่ถึงออฟฟิศ นายสยามรีบนำน้ำย่านางฝีมือของหรั่งไปให้แพรวา พร้อมกับบรรยายสรรพคุณตามที่คนฝากคุยอวดไว้ไม่มีตกหล่น เธอลองชิมแล้วไม่ชอบ แต่เห็นนายสยามเชียร์ออกนอกหน้าจึงฝากเขาสั่งน้ำย่านางมาให้วันละสี่ขวด เธอไม่คิดจะดื่มเอง ยกให้เขากับเมียคนละขวด ที่เหลือยกให้ลูกทั้งสองคนของเขา...

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่เผ่าลาภกำลังปรึกษาหารือกับผู้กว้างขวางในพื้นที่ ทั้งนายก อบต. กำนันและผู้ใหญ่บ้านเรื่องที่ดินที่จะซื้อทำเหมืองพลอย บารมีเข้ามาขัดจังหวะขอคุยธุระส่วนตัว แล้วให้เขาไปเจอกันที่สำนักงานของเหมืองพลอย เผ่าลาภเห็นกันทิมานั่งคอยอยู่ในรถ รู้ทันทีว่าน้องชายมาทำไม

ครู่ต่อมา บารมีกับเผ่าลาภมาถึงห้องรับรองของสำนักงาน กันทิมาไม่ได้เข้ามาด้วยนั่งรออยู่ในรถ บารมีไม่พูดพล่ามขอยืมเงินจากกงสีห้าล้านบาท อ้างจะเอาไปลงทุน เผ่าลาภให้ไม่ได้เพราะเงินกงสีไม่ใช่ของเขาคนเดียว เป็นของพี่น้องคนอื่นๆด้วย บารมีไม่พอใจ หาเรื่องต่อว่าพี่ชายเสียๆหายๆ แถมยังขู่อีกว่า

“ไม่ให้ก็ได้ แล้วเฮียคอยดูต่อไปก็แล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนอย่างอั๊วถ้าจะล้มอั๊วไม่ล้มคนเดียวหรอก”...

ระหว่างที่สองพี่น้องกำลังมีปากเสียงกัน ชาติชายขับรถตักดินพากฤษฎากลับจากขุดเหมืองเข้ามาจอดหน้าสำนักงาน บอกให้หลานชายไปล้างหน้าล้างตา พักเหนื่อยครึ่งชั่วโมง แล้วเราค่อยไปขุดดินท้ายเหมืองกันต่อไป กฤษฎาลงจากรถตักดินอย่างอ่อนแรงเดินไปด้านหลังสำนักงาน ชาติชายเหลือบเห็นกันทิมา ทีแรกตั้งใจจะไม่เข้าไปทัก แต่อดใจไม่ได้ ทั้งสองคุยกันแค่ไม่กี่คำ เขาก็ขอตัวกลับไปทำงาน ทันทีที่ชาติชายคล้อยหลัง บารมีเดินหัวเสียออกมาจากสำนักงาน บอกให้กันทิมาช่วยขับรถแทนที ตนไม่มีอารมณ์จะขับ...

ขณะที่ความแค้นของบารมีที่มีต่อเผ่าลาภเพิ่มขึ้น เท่ห์ โบ้และเช็งมาชักชวนหรั่งซึ่งกำลังทำงานอยู่ที่ร้านซ่อมจักรยานให้ลางานหนึ่งอาทิตย์ไปช่วยกันจัดงานรื่นเริงประจำปีที่ศาลากลาง จ.กาญจนบุรี จังหวะนั้น นายโตปั่นจักรยานเข้ามาแจ้งว่าผู้จัดการธนาคารสั่งให้มาตามหรั่งไปพบ เขาวางมือจากงานรีบวิ่งออกไปทันที...

ผลของการทำความดีและขยันขันแข็งในการทำงาน ประกอบกับหรั่งสอบได้ปริญญาตรีแม้จะยังไม่เป็นทางการแต่ก็ทำให้ผู้จัดการธนาคารรัตนทรัพย์เลื่อนตำแหน่งเขาจากแมสเซ็นเจอร์ขาจรมาเป็นพนักงานธุรการของธนาคารอย่างเต็มตัว ทั้งเท่ห์ โบ้ เช็งและก้อยต่างโห่ร้องแสดงความยินดีเมื่อรู้ข่าว
ในเมื่อได้เป็นพนักงานประจำ หรั่งจะแวบมาส่งข้าวกลางวันให้ก้อยเหมือนเคยไม่ได้อีกแล้ว คงต้องฝาก ป้าแป๋วข้างบ้านให้ช่วยดู และเรื่องจะให้เขาลางานหนึ่งอาทิตย์ไปช่วยเพื่อนๆจัดงานที่ จ.กาญจนบุรียิ่งเป็นไปไม่ได้ หรั่งจึงแนะเท่ห์ให้ลองฝึกคนอื่นมาแทนที่ตน เขาถึงกับบ่นอุบว่าหรั่งเห็นงานดีกว่าเพื่อน...

ด้านตะวันฉายกลับเมืองนอกแทนที่จะโทร.บอกแฟนกลับโทร.นัดเพื่อนไปท่องราตรี และสั่งห้ามพวกนั้น

บอกแพรวาเด็ดขาด เขาต้องการจะเที่ยวเตร่ประสาคนโสดวันสองวันก่อน จริงๆแล้วตะวันฉายไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับแพรวา ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอมีผลประโยชน์ทางการเมืองของพ่อของทั้งคู่มาเกี่ยวข้องโฉมฉายพอใจกับความคิดของลูกชายมาก เพราะเธอเองก็ไม่ได้ปลื้มแพรวานัก...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่ไนท์คลับหรูแห่งหนึ่งกลางกรุง บารมีอับจนหนทาง คิดจะหยิบยืมเงินจากกัมปนาทแต่เกรงจะเสียฟอร์มพี่ชายไม่กล้าพูดตรงๆ ทำทีจะมาขอเสียงสนับสนุนให้เลิกกงสี ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่ารู้เท่าทันความคิดของเขา ถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่าต้องการเงินเท่าไหร่ บารมีอ้ำๆอึ้งๆว่าห้าล้านบาท

อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 2 วันที่ 16 ก.ย. 56

สุภาพบุรุษลูกผู้ชายบทประพันธ์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย บทโทรทัศน์โดย เมจิก อีฟ
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายกำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายผลิตโดย บริษัท คลิกเทเลวิชั่น จำกัด
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายวันเวลาออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องสุภาพบุรุษลูกผู้ชายได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ