อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14 วันที่ 28 ก.ย. 56

อ่าน ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14 วันที่ 28 ก.ย. 56

บื้อพาห่านไปที่ตู้ซ่อมนาฬิกาทำกรอบพระแถวตลาดนัดย่านชุมชน ตรงไปนั่งหันมาเร่งห่านที่ยังยืนลังเลอยู่

“เร็วซิ!!”

ห่านเดินเข้าไปถามเบาๆว่าแน่ใจหรือที่จะเอาสร้อยเพชรมาซ่อมที่นี่ บื้อยืนยันว่าแน่ใจ ห่านหลบตาช่างซ่อมที่นั่งอยู่หลังตู้ กลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อเห็นลายสักเต็มตัว หน้าโหดแววตาเหี้ยมที่มองมา โวยกับบื้อเบาๆว่า


“จะบ้าเหรอ สร้อยเพชรราคาเป็นแสนๆนายจะให้ฉันมาซ่อมที่กระจอกๆแบบนี้”

“จะเอายังไง ก็ฉันมันคนกระจอก จะไปรู้จักร้านไฮโซบ้าบอที่ไหน ขอร้องให้ฉันช่วย ฉันก็ช่วยแล้วช่วยได้แค่นี้แหละ ไม่พอใจก็ไปให้คนอื่นช่วย!” บื้อพูดประชดฉุนๆแล้วจะลุกไป

ห่านรีบคว้าแขนไว้ บอกว่าตนเชื่อ มองถุงกระดาษเก่าๆในมือตัดสินใจเดินตามบื้อไป

แอปเปิ้ล ปีโป้ และจีจี้ ที่มาเจอกับห่านโดยบังเอิญ พากันรีบตามไปอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าสองคนนี้มาทำอะไร

บื้อพาห่านมาที่ตู้ซ่อมนาฬิการับทำกรอบพระ คว้าถุงกระดาษจากมือห่านไปยืื่นให้ลุงหน้าเหี้ยม

“ลุกยักษ์ ช่วยซ่อมให้ที” ลุงยักษ์เหล่ห่านพึมพำตำหนิว่านังนี่มันอะไรเยอะ “อย่าไปสนใจเลยครับลุง บ้าๆบอๆ ลุงช่วยดูให้หน่อย”

ห่านมองลุงยักษ์ที่ดึงกล่องออกจากถุงกระดาษเก่าๆอย่างแรงก็ร้อง “ระวังค่ะ!!” ลุงเหลือบมองหน้าห่านขวับไล่ให้ไปซ่อมที่อื่น แล้วโยนกล่องเพชรคืน ห่านตกใจสุดขีดพุ่งไปรับกล่องแบบยอมเอาชีวิตเข้าแลก บ่นลุงยักษ์...

“โหยลุงคะ...ของแพงนะคะไม่ใช่บาทสองบาท นึกจะโยนก็โยนง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอคะ”

บื้อเหล่ห่านอย่างหมั่นไส้ที่ห่วงของที่แม่คุณชายให้จนออกนอกหน้า

พวกแอปเปิ้ล ซ่อนตัวแต่โผล่หน้ากันมาสลอน แอบดูอย่างใจจดจ่อ

ลุงยักษ์ถามประชดว่ามันจะสักกี่บาทกัน ห่านทำตาโตบอกว่าเป็นแสน ย้ำ “เป็นแสนค่ะ” พูดแล้วตกใจที่หลุดปากไป บื้อเลยช่วยแก้ให้ บอกลุงยักษ์ว่า

“ผมบอกลุงแล้วว่ายัยนี่มันบ้า” บื้อดึงกล่องจากห่านยื่นให้ พูดอย่างไม่เห็นค่าว่า “สร้อยเก๊น่ะลุง ยัยนี่มันอยากเป็นไฮโซ ไปซื้อสร้อยเก๊มาใส่ ดั๊นทำขาด ก็ของกระจอกๆน่ะลุง ขาดง่าย ไม่เชื่อก็ดูสิ”

บื้อเปิดกล่องแรงๆให้ลุงยักษ์ดู พวกแอปเปิ้ลยืดคอยาวจ้องตาไม่กระพริบ ลุงแกดูแว่บเดียวก็บอกว่ามันเหมือนของจริงมากเลย บื้อผสมโรงว่าเดี๋ยวนี้ของปลอมทำได้เหมือนจริงมาก บอกลุงให้ช่วยซ่อมหน่อยตนจะนั่งรอ

ทีแรกลุงแกบอกว่างานเยอะให้มาเอาพรุ่งนี้ ห่านไม่ยอมกลัวหาย ลุงเลยซ่อมให้ตัดรำคาญ

พวกแอปเปิ้ล แอบดูแอบฟัง พอรู้ว่าห่านกับบื้อมาทำอะไรแล้ว ก็หดหัวกลับมองหน้ากันแสยะยิ้มบอกกัน...

“เพชรเก๊?? เป็นแสน??? นังคอห่าน!!” แล้วย่องหลบไป พากันไปเสนอหน้าบอกดาหลาว่าห่านเอาสร้อยเพชรเก๊ไปซ่อม แต่ได้ยินห่านบอกว่า ราคาเป็นแสนๆ?

“เป็นแสนๆ! ได้การล่ะ แกโดนเชือดแน่ นังคอห่าน!!” ดาหลายิ้มร้ายสะใจ

ooooooo

บื้อกับห่านนั่งเฝ้าลุงยักษ์ซ่อมสร้อยจนเสร็จ พอลุกขึ้นบื้อถามห่านว่าหมดธุระแล้วใช่ไหม ตนจะได้ไป

“เดี๋ยวซิ” ห่านดึงแขนบื้อไว้ คุณชายมาเจอพอดี คุณชายมองมือห่านที่จับแขนบื้อ ห่านรีบปล่อย คุณชายมองอีกมือที่ห่านถือกล่องสร้อยเพชร ห่านชะงัก ค่อยๆเอาซ่อนเนียนๆ

คุณชายหันทักบื้อที่ยืนหน้าตึง “ไง...คุณบื้อ”

“ไม่ไง...” บื้อตอบห้วนๆแล้วเดินไปเลย ห่านยิ้มแหยๆให้คุณชาย แล้วพากันกลับ

กลับมาถึงบ้านเช่าของห่าน พอคุณชายบอกธุระที่มาหา ห่านถามสียงดังทั้งตกใจและไม่พอใจว่า

“จะให้ห่านไปกราบขอโทษคุณแม่คุณ! ห่านไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ ทำไมจะต้องขอโทษ”

“คุณห่าน...ผมเข้าใจคุณนะ แต่วันนั้น คุณรีบกลับกระทันหันมันทำให้คุณแม่ท่านเสียใจมาก”

ห่านทำหน้าแปลกใจ บอกว่าตนลาท่านแล้วคุณชายบอกว่าโดยมารยาท เราเป็นเด็กไม่ควรกลับก่อนผู้ใหญ่

“โดยมารยาท?? ห่านก็เป็นของห่านแบบนี้ กระจอกๆไร้มารยาท” ห่านประชด คุณชายรีบบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจว่าเธอแต่พูดโดยทั่วๆไป ห่านนิ่งไม่ตอบโต้ แต่พึมพำว่า “คุณหญิงชื่นเพื่อนของคุณแม่คุณพูดถูก คนอย่างห่านควรจะเจียมตัว เพราะถึงยังไงห่านก็ไม่มีวันที่จะกลายเป็นหงส์ไปได้ ก็เพราะห่านเจียมตัว สำนึกได้ไงคะว่าห่านไม่ควรอยู่ตรงนั้น ห่านถึงได้รีบออกมา”

คุณชายเห็นห่านไม่พอใจ ก็ใจเสีย ขอร้องอย่าเพิ่งโกรธ ก็แค่ไปกราบท่าน...ไม่ต้องขอโทษ พูดย้ำเตือนใจว่า

“เราจะจับมือไปด้วยกัน ก้าวไปด้วยกันไม่ใช่เหรอห่าน...”

ooooooo

ดาหลากับดารัญแจ้นไปฟ้องรื่นฤดีในเย็นนั้นเลย ฟังสองแม่ลูกแล้ว รื่นฤดีทำหน้าช็อคถามว่าห่านทำอย่างนั้นจริงหรือ

ดาหลายืนยันว่าพวกแอปเปิ้ลเห็นจะจะกับตาว่าห่านเอาสร้อยเพชรไปซ่อนที่ตู้ซ่อมนาฬิกาทำกรอบพระจริงๆเห็นรื่นฤดียังทำหน้าช็อคๆดาหลาปลอบใจว่า

“คุณแม่อย่าเสียใจไปเลยนะคะ ดาหลาเคยบอกแล้ว คนมันสันดานโจรก็ต้องเป็นโจรวันยังค่ำ”
“เสียใจ?...” รื่นฤดีทวนคำแล้วหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ถาม “ใครบอกว่าแม่เสียใจ แม่ดีใจต่างหากล่ะ” เห็นสองแม่ลูกมองเหวอๆ ก็พูดไปหัวเราะไปว่า “แม่ดีใจที่แผนดักจับหมาป่าของแม่มันสำเร็จเร็วเกินคาดเกินกว่าที่คิดไว้ตั้งเยอะ แม่ไม่คิดเลยว่านังหมาป่าตัวนี้มันจะหิวโซถึงขนาดรีบเอาสร้อยเพชรของแม่ไปขายรวดเร็วแบบนี้”

ดาหลาบอกว่าตนไม่แน่ใจ แต่เห็นว่าห่านเอาสร้อยไปซ่อมไม่ได้ขาย รื่นฤดีตัดบทอย่างสะใจว่าไม่ว่าจะซ่อมหรือขายก็ถือว่า “นังนั่นมันมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ มันเที่ยวเอาสร้อยเพชรที่แม่ให้ไปร่อนเร่ตามแผงเลี่ยมพระ เจตนาไม่บริสุทธิ์แน่ๆ”

ดาหลานึกได้บอกว่าห่านไปกับกิ๊กผมยาวคนนั้นด้วย ดารัณทำเป็นตกใจด่าว่า อุบาทว์

ขณะนั้นเอง คุณชายเข้ามาเห็นดารัณก็ยกมือไหว้รื่นฤดีถามว่ามีเรื่องอะไรหรือ คุณชายบอกแม่ว่าสะดวกเมื่อไรให้บอก รื่นฤดียิ้มสมใจรีบบอกว่าตนว่างเสมอ แต่พอคุณชายบอกว่า ที่คุณแม่จะให้ห่านมากราบขอโทษ รื่นฤดีก็ตัดบททันทีว่า

“อ๋อ...เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ช่วงนี้แม่ยังไม่ว่าง ถ้าว่างเมื่อไหร่จะสั่งไปอีกที”

“คือ...คุณห่านเขาไม่มาน่ะครับ”

สามหญิงตะลึงอึ้งกับความ “บังอาจ” ของห่าน ดาหลากับดารัณได้ทีช่วยกันถล่ม “ไพร่...นังคนชั้นต่ำ...ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” สองแม่ลูกทำท่าจะด่ายาว จนคุณชายขอให้พอ จึงหุบปากแหยๆ

“เอิ้กกกกก...” เสียงลมตีขึ้นจะเป็นลมของรื่นฤดี ทำให้ทั้งสามหันมองและรีบเข้าช่วยกันโกลาหล...

ooooooo

เมื่อแหม่มรู้ว่าห่านปฏิเสธที่จะไปกราบขอโทษรื่นฤดี ถึงกับครางเสียงอ่อย... “ไอ้ห่าน...”

ห่านมองหน้าเพื่อนถามว่าทำไม แหม่มส่ายหน้าช้าๆถามว่าห่านจะไม่ไปกราบขอโทษรื่นฤดีหรือ พอห่านยักคิ้วแหม่มก็พึมพำ “แก...แกนี่มัน...” แล้วส่ายหน้าแบบพูดไม่ออก ห่านที่ยังอารมณ์กรุ่นอยู่โพล่งเสียงดัง

“หยุด!! นี่แกอย่าบอกนะว่าจะให้ฉันไปกราบยัยคุณแม่นั่น? แกนี่มันเพื่อนประสาอะไร ทำไมถึงได้อยากให้เพื่อนเสียศักดิ์ศรี”

ห่านพูดไม่ทันจบก็ถูกแหม่มพุ่งเข้ามาปิดปาก พูดอย่างภูมิใจในเพื่อนรักว่า

“ฉันอยากจะบอกแกว่า...แกนี่มันสุดยอดจริงๆ ฉันรักแกตรงนี้แหละ!!”

ooooooo

รื่นฤดีลมตีขึ้นจนเป็นลม ทั้งคุณชาย ดาหลาและดารัณปฐมพยาบาลกันวุ่นวาย จนเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา ถามเสียงแผ่วอย่างอ่อนเพลียว่า

“นี่ฉันเป็นอะไรไปคะ”

ชนะศึกบอกว่าเป็นลม ดาหลากับดารัณรุมกันใส่ไฟว่า เป็นเพราะห่านคนเดียวที่ทำให้คุณหญิงโกรธจนเป็นลม!

“มันไม่ยอมมากราบขอโทษคุณแม่ยังไงล่ะคะ จำได้ไหมคะ” ดาหลาย้ำหมายให้รื่นฤดีโกรธห่านขึ้นมาอีก จนชนะศึกกับคุณชายเป็นห่วงกลัวรื่นฤดีจะเป็นลม

แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า รื่นฤดีลุกขึ้นยิ้มหวานกับคุณชายจนทุกคนแปลกใจ และยิ่งแปลกใจเมื่อเธอบอกว่า

“ในเมื่อหนูห่านไม่ยอมเป็นฝ่ายมาหาแม่ แม่ก็จะเป็นฝ่ายไปหาหนูห่านเอง!”

รื่นฤดียิ้มหวาน พูดดี แต่...ยิ้มร้าย!!

ooooooo

ความรู้สึกดีๆของคุณหนูจ๋าที่มีต่อโจ๊ก ที่นอกจากจะสอนดนตรีให้แล้ว ยังช่วยเหลือในยามคับขัน กระทั่งในยามตกอยู่ในอันตรายที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์ ก็ช่วยจนปลอดภัยและได้กระเป๋าคืนมา

วันนี้ คุณหนูจ๋าจึงซื้ออาหารอย่างดีมาฝากพวกโจ๊ก เป็นลาภปากของลุงจ๊อดกับโย่งที่อยู่กันพร้อมหน้าด้วย แต่พอทั้งสองตั้งท่าจะสวาปาม ก็ถูกโจ๊กเบรก

“เดี๋ยว...ลืมใครไปรึเปล่า?” แล้วพยักพเยิดไปทางบื้อที่นั่งซึมอยู่อีกมุมหนึ่ง โจ๊กตะโกนเรียก “เฮีย...กินข้าว”

“กินเหอะ...ยังไม่หิว” บื้อหันมอง เห็นคุณหนูจ๋ากำลังตักเป็ดพะโล้ให้โจ๊ก ก็เมินจากภาพนั้นไปเศร้าๆ



มือถือบื้อดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นสายจากน้องนุช บื้อก็สดชื่นขึ้นทันที คุยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงแจ่มใส ได้ยินเสียงลุงจ๊อดจากวงข้าวแว่วมาว่า

“เชื่อข้า! มีพลังงานบางอย่างบอกข้าว่า...มันต้องมีอะไร!! ข้ารู้สึกได้!!”

บื้อเหล่ๆ ไปทางวงข้าว ลุกเดินห่างออกไปแล้วบอกน้องนุชว่า พูดได้แล้ว

“ทางค่ายเพลงเขาอยากให้บื้อไปถ่ายรูปหล่อๆ เก็บไว้เผื่อโปรโมตเพลง” น้องนุชบอกข่าวดี

บื้อทั้งขำทั้งเขินถามว่าอย่างตนนี่หรือหล่อ??

ระหว่างบื้อคุยโทรศัพท์กับน้องนุชอย่างยิ้มแย้มยินดีนั้น ห่านมองจากหน้าต่างบ้านตัวเองแล้วทรุดนั่งพิงฝาเศร้าๆ...

น้องนุชนึกขึ้นได้บอกบื้อว่าเกือบลืมเรื่องใหญ่ไป บื้อสนใจจี๋นึกว่าเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวกับเพลงของตนอีก แต่พอน้องนุชบอกว่า “คุณหญิงแม่กำลังจะมาหาคุณห่านที่บ้าน” บื้อก็หน้าเสียหันมองไปที่หน้าต่างบ้านห่านอย่างเป็นห่วง...

ooooooo

บื้อรีบไปบอกห่าน พอเจ๊มะพร้าวกับแหม่มรู้ว่ารื่นฤดีจะมาที่บ้านห่าน เจ๊ตกใจแทบฉี่ราด ส่วนแหม่มก็ทำท่าจะเป็นลม แต่ห่านกลับพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า

“ใครอยากมาก็มา ใครไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ฉันไม่สน!”

บื้อมองห่านทั้งปลื้ม ทั้งทึ่ง

ไม่ทันตั้งหลักกัน โย่งก็วิ่งหน้าตั้งมาบอกว่าแย่แล้ว พอทุกคนมองงงๆ โย่งหันชี้ไปทางหน้าบ้าน

ปรากฏว่า รื่นฤดี คุณชาย ดาหลาและดารัณ เดินเรียงหน้ากันเข้ามา พอมาเจอพวกห่าน รื่นฤดีก็หยุดทิ้งระยะห่างอย่างไว้ตัว ห่านยกมือไหว้ก็รับไหว้อย่างเสียไม่ได้ กวาดตามองบ้านถามอย่างเหยียดๆ

“นี่บ้านเหรอจ๊ะ?” แล้วกวาดตามองกลุ่มห่านที่ยืนทำตาปริบๆ กันอยู่ ไปหยุดที่บื้อถามลอยๆ “นี่...คงจะเป็น...”

“คุณบื้อ เพื่อนคุณห่านครับ” คุณชายช่วยพูดหมายให้บรรยากาศผ่อนคลาย ถูกรื่นฤดีเหน็บบื้อว่า

“ฉันก็หวังว่าเธอจะเป็นแค่เพื่อนนะ!”

ดารัณได้ทีพูดยุแยงให้คุณชายเข้าใจผิดว่า “เพื่อนอะไร? เห็นตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋” บื้อทนไม่ได้พยายามเก็บอารมณ์ แต่ถอนหงอกดารัณนิ่มๆว่า เก็บปากไว้กินปาท่องโก๋ดีกว่า ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ด้วยแล้ว ยิ่งต้องพูดจาให้เหมาะสม

ดารัณกรี๊ดอย่างลืมแก่ ด่าบื้อว่าไอ้ฮิปปี้ปากจัด ห่านรำคาญถามขัดขึ้นว่า

“ตกลงที่มานี่คงไม่ได้ตั้งใจจะมากรี๊ดกร๊าดลั่นซอยอย่างนี้เท่านั้นใช่ไหมคะ”

“ใช่...ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะอยากจะมาเห็น มาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น ไหนๆ ฉันก็อุตส่าห์มาแล้ว หวังว่าเธอคงจะต้อนรับแขกอย่างมีมารยาทนะจ๊ะ หนูห่าน!!” รื่นฤดียืนเชิด หางตาใส่ห่าน คุณชายได้แต่มองห่านอย่างให้กำลังใจอยู่เงียบๆ

รื่นฤดีเดินเข้าไปในบ้านกวาดตามองอย่างจงใจจับผิด พอเห็นที่นอนก็ถามว่าห่านอยู่กับใคร นอนกับใคร โดยมีดาหลากับดารัณคอยเป็นลูกคู่ช่วยค่อนแคะกระหน่ำซ้ำ

คุณชายเห็นท่าเรื่องจะไม่จบง่าย จึงชวนแม่กลับ ดารัณผสมโรงเห็นด้วยบอกว่าอยู่นานไปก็เหม็นสาบ รื่นฤดีจึงสั่งให้กลับ เห็นคุณชายละล้าละลังก็กระหนาบ “ตาชาย!! แม่บอกให้กลับ!!!” คุณชายจึงหันไปจูงมือห่านตามไป

ดาหลาเบ้หน้าใส่อย่างหมั่นไส้ พลันเหลือบเห็นกล่องสร้อยข้อมือเพชรวางอยู่ เธอยิ้มร้ายพุ่งกลับเข้าไปหยิบใส่กระเป๋าแล้วจึงตามออกไป

ooooooo

ขณะลงมาถึงหน้าบ้านเตรียมกลับ จู่ๆ น้าตุ้มกับน้าเต๊ะก็เอะอะมะเทิ่งเข้ามาร้องทักบื้อ น้าหลานถลาเข้ากอดกันด้วยความดีใจ พอผละออกมา น้าตุ้มมองไปยังกลุ่มรื่นฤดีกับพวกเจ๊มะพร้าวถามว่าที่ยืนกันหน้าสลอนนั่นใครหรือ?

บื้อแนะนำพรรคพวกตน ส่วนพวกรื่นฤดีเชิดใส่น้าทั้งสองอย่างดูถูก น้าตุ้มจำได้ว่าเคยเห็นดาหลาประกวดนางงามทางทีวี เห็นท่าทางยโสเลยด่าว่า ตอนนั้นตนอุตส่าห์เชียร์ รู้งี้แช่งให้ตกรอบไปดีกว่า ทั้งดาหลาและดารัณกรี๊ดใส่ เลยยิ่งถูกน้าตุ้มด่า จนบื้อต้องขอร้องให้พอ

พวกรื่นฤดีถูกด่าจนหน้าม้านทนอยู่ไม่ได้จึงพากันกลับ น้าตุ้มถามบื้อว่า พวกนั้นเป็นใคร มาที่นี่ทำไมบื้อตัดบทว่าอย่าสนใจเลย เรื่องไร้สาระ แล้วถามน้าทั้งสองว่ามาถึงนี่มีธุระอะไรหรือเปล่า?

สองน้าบอกว่าลูกค้าไปกินปลาอินทรีเค็มที่ร้านแล้วติดใจสั่งซื้อจึงเอามาส่ง คิดถึงบื้อกับห่านเลยมาเยี่ยมห่านอยากดูปลาอินทรีเค็มว่าน่ากินแค่ไหน พอสองน้าจะเอามาอวดก็หากันไม่เจอ เพิ่งนึกได้ว่าลืมยกลงจากรถสองแถว!

ครู่เดียว ลุงจ๊อดก็เดินเอามือกุมหัวออกมาบ่น “ตุ๊กๆ ของข้า!! ทำไมต้องเป็นตุ๊กๆของข้า...”

พอลุงจ๊อดขับตุ๊กๆ พาบื้อกับห่านออกไป สองน้าก็หันมาตบมือกันหัวเราะชอบใจ น้าเต๊ะทำท่าซึ้งพึมพำเคลิ้ม...

“ป่านฉะนี้...ไอ้ซื่อบื้อกะยัยห่าน จะหวานชื่นกันไปถึงไหน...ถึงไหนแล้วน้อ...บรื๊อ...คิดแล้วสยิว!!”

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 14 วันที่ 28 ก.ย. 56

ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ บทประพันธ์โดย ภาคินัย บทโทรทัศน์โดย ปณธี
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ สร้างสรรค์โดย อรพรรณ วัชรพล
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ เป็นละครโทรทัศน์แนว คอมเมดี้
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ