อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.ย. 56

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.ย. 56

“แม่ของลูกมองทุกสิ่งที่ล้อมรอบตัวลูก แต่ลูกมองจากตัวเอง เห็นไม่เหมือนกันหรอกค่ะ ฉันเชื่อพระมารดาของท่านผิดตรงไหนหรือคะ” มิเชลล์มองชารีฟด้วยสายตาวิงวอน เขาเดินจากไปไม่ตอบโต้อะไรอีก...

ชารีฟพกความหงุดหงิดกลับมาถามแม่ว่าไปบอกใครต่อใครหรือว่าท่านกำลังหาเมียหลวงให้เขา และจะไม่ยอมให้มิเชลล์เป็นเมียหลวง หนำซ้ำยังจะให้เขามีเมียสี่คนอีกด้วย เจ้าหญิงสุไบดาย้อนถามว่าเขารักผู้หญิงต่างชาติคนนั้นมากแค่ไหน ชารีฟรักเธอมาก และเธอก็รักเขาเช่นกัน ความตายเท่านั้นที่จะแยกเราจากกัน


“ก็แล้วจะมีอะไรขัดข้อง ไม่มีใครแยกลูกทั้งสองคน องค์อาหเม็ดจะจัดงานแต่งงานให้อยู่แล้ว”

“ท่านแม่ปล่อยข่าวอย่างนั้นไปใช่หรือไม่”

เจ้าหญิงสุไบดาชักสีหน้าไม่พอใจ เตือนลูกว่าตำแหน่งหน้าที่ของเขาต้องการเมียที่เป็นหญิงเผ่าพันธุ์เดียวกันกับเรา ส่วนผู้หญิงต่างชาติคนนั้นต้องให้อยู่ในฐานะที่รองกว่าเมียที่เป็นคนชาติเดียวกัน

“ลูกมีเมียได้ถึงสี่คน เมียคนที่หนึ่งควรจะเป็นคนของเราเพื่อจะได้ดูแลสมบัติและรับผิดชอบงานด้านสตรี เมียรัฐมนตรีก็ย่อมต้องพบปะกับทูตานุทูตเป็นธรรมดา แม่จะบอกให้พ่อของลูกจัดการสู่ขอสาวผู้ดีคนไหนก็ได้ที่พ่อเห็นสมควร” เจ้าหญิงสุไบดาพูดจบ ขยับจะไป ชารีฟร้องเรียกไว้ ถ้าตำแหน่งของเขาใหญ่โตมากนัก จำเป็นต้องหาเมียที่เชิดหน้าชูตาสมเกียรติยศ ขอให้ท่านคอยดูก็แล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น...

ooooooo

ชารีฟทำตามคำขู่ วันรุ่งขึ้นรีบไปเข้าเฝ้าองค์อาหเม็ดและขออนุญาตลาออกจากทุกตำแหน่ง พระองค์โกรธมากถึงตบโต๊ะเปรี้ยง ห้ามไม่ให้ลาออกไม่ว่าจะตำแหน่งไหนทั้งสิ้น

“ข้าพระองค์มีปัญหาส่วนตัว ความจริงไม่อยากจะทำเช่นนั้น”

พระองค์ไม่ต้องการฟังเหตุผลใดๆ ถ้าชารีฟยังดื้อดึงอยู่อีกจะถือว่าเขาทรยศ ตอนนี้ฮิลฟารากำลังมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของต่างประเทศ ชารีฟเพิ่งจะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแล้วจะมาขอลาออก พระองค์ยอมไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าชารีฟจะยกเหตุผลอะไรมาอ้าง องค์อาหเม็ดยืนกรานคำเดิม...

อีกมุมหนึ่งหน้าตำหนักหลวง มิเชลล์ต้องการเข้าเฝ้าองค์อาหเม็ด จึงทำทีว่าจะนำจดหมายจากพระชายามาถวาย ทำให้ทหารยามไม่กล้าขัดขวาง จำต้องปล่อยให้เธอเข้าไปในตัวตำหนัก เมื่อมาถึงหน้าห้องทำงาน มิเชลล์ได้ยินเสียงองค์อาหเม็ดโวยวายออกมาจากในห้อง

“ได้ยินไหมชารีฟ เจ้าออกไปได้แล้ว เราจะลืมให้หมดเหมือนกับเจ้าไม่ได้มาเอ่ยวาจาน่าละอายนั้นกับเรา จะลาออกทุกตำแหน่ง...เชอะ เสียสติไปแล้วถึงพูดเช่นนั้นออกมาได้ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก กลับไปได้แล้ว”

ชารีฟเดินคอตก เปิดประตูห้องจะออกไป เจอมิเชลล์ยืนอยู่หน้าประตู ทั้งคู่ต่างตะลึง มิเชลล์ลืมตัวจะโผเข้าหา แต่ชารีฟยกมือห้ามไว้ เธอได้สติรู้ว่าตัวเองมาทำอะไร หันไปทางองค์อาหเม็ด ขออนุญาตเข้าเฝ้า พระองค์ไม่อนุญาต และไม่อยากได้ยินคำพูดใดๆจากเธอ แค่นี้ก็ถือว่าผิดประเพณีร้ายแรงอยู่แล้ว แต่พระองค์จะไม่เอาโทษเพราะถือว่าเธอเป็นชาวต่างชาติ แต่ขอบอกให้รู้ไว้ว่าเธอจะไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการ

“เราจะไม่มีวันยอมให้ชารีฟทำอย่างที่เธอปั่นหัวให้เขาทำ” องค์อาหเม็ดคิดว่ามิเชลล์อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

“หม่อมฉันมาทูลลากลับประเทศฝรั่งเศสเพคะ ถึงอย่างไรหม่อมฉันก็จะไม่อยู่ที่นี่ และหม่อมฉันก็จะไม่แต่งงานกับชาวฮิลฟาราคนใดทั้งสิ้น หม่อมฉันจะกลับประเทศเทศฝรั่งเศสเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

องค์อาหเม็ดขอฟังเหตุผล มิเชลล์อ้างว่าทนไม่ได้ที่จะอยู่ที่ฮิลฟาราต่อไป เนื่องจากไม่คุ้นกับประเพณีทุกอย่างของที่นี่ เธอคุ้นเคยกับฝรั่งเศสเพราะอยู่มาตั้งแต่เด็ก แค่คิดว่าจะต้องอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ฝรั่งเศสก็ทนไม่ได้แล้ว จึงมาทูลขออนุญาตกลับบ้านเกิด ชารีฟไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้น

“ท่านรัฐมนตรี ท่านเป็นเจ้าชีวิตของฉันหรือคะ” มิเชลล์กะพริบตาถี่ๆเพื่อให้น้ำตาไหลกลับ

“มิเชลล์...เธอทำได้ลงคอหรือมิเชลล์” ชารีฟสะเทือนใจมาก

“ท่านคะ ฉันไม่ใช่พืชพันธุ์ที่จะโตขึ้นได้ในฮิลฟารา ฉันต้องกลับไปสู่แผ่นดินเกิดของฉันนะคะ เหมือนกับที่ท่านต้องอยู่ในแผ่นดินของท่าน เราสองคนเป็นพืชพันธุ์ที่ไม่มีวันจะเติบโตขึ้นมาด้วยกัน ท่านอยู่ในฐานะสูงส่ง ฉันเป็นเด็กกำพร้า ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงฉันก็ต้องไป” มิเชลล์ว่าแล้วหันไปทูลลาองค์อาหเม็ด และหวังว่าพระองค์จะไม่ขัดข้อง ทำความเคารพแล้วถอยออกไปทันที ชารีฟยืนซังกะตายอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง พอตั้งสติได้รีบวิ่งตามโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกอันโกรธเกรี้ยวให้กลับมาขององค์อาหเม็ด

ooooooo
ครู่ต่อมา ชารีฟวิ่งตามมิเชลล์จนทัน คว้าตัวมา กอดไว้ เธอดิ้นรนสุดฤทธิ์จะไปให้ได้ เขาไม่ยอมปล่อยและจะไม่ยอมให้เธอไปไหนเด็ดขาด มิเชลล์หยุดดิ้นมองชารีฟที่สีหน้าหม่นหมองด้วยสายตาแน่วแน่

“ท่านคือพลตรีนายแพทย์ ชารีฟ อัลฟารัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฮิลฟารา อย่าลืมสิคะ ท่านมีหน้าที่ต่อฮิลฟารา ต่อประชาชนทั้งประเทศ ต่อองค์อาหเม็ดและต่อตัวท่านเอง”

“หน้าที่ของฉันต่อเธอ หน้าที่ของเธอต่อฉันล่ะ...

มิเชลล์เราเป็นสามีภรรยากันนะ เราไม่มีหน้าที่ต่อกันหรือ ว่าไงมิเชลล์ หน้าที่ของเราทั้งสองที่มีต่อกัน เธอเอามันไปทิ้งเสียที่ไหน” ชารีฟตัดพ้อ

มิเชลล์ไม่เคยลืมวันเวลาที่เราทั้งคู่ร่อนเร่กลางทะเลทรายด้วยกัน ทุกวันเห็นแต่ฟ้าจรดทราย เราทั้งคู่เป็นอิสระ เธอไม่ใช่เด็กกำพร้าที่สกุลเดอลาโรนีส์อันมีเกียรติไม่พึงปรารถนา เติบโตมาอย่างไร้ญาติขาดมิตรกับแม่ชีในคอนแวนต์ และเขาก็ไม่ใช่รัฐมนตรี ไม่ใช่บุรุษผู้ทรงเกียรติซึ่งสืบสายโลหิตจากราชวงศ์ของฮิลฟารา

“เวลานั้น ทุกอย่างรอบตัวเป็นไปตามกฎธรรมชาติ ไม่เหมือนเวลานี้ วันนี้และต่อๆไป ที่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎสังคม ท่านกับฉันมีหน้าที่ต่อกัน แต่เวลานี้อย่างที่ฉันบอกนะคะชารีฟ ท่านมีหน้าที่ต่อ...สิ่งอื่นๆ ส่วนฉัน...ฉันมีหน้าที่ต่อท่าน เพื่อให้ท่านทำหน้าที่ต่อประเทศของท่านให้สมบูรณ์ที่สุด” มิเชลล์สีหน้ามุ่งมั่น

ทั้งคู่สบตากันด้วยความรัก ความอาวรณ์เต็มหัวใจ กว่าจะรู้ตัวอีกที ต่างอยู่ในอ้อมกอดซึ่งกันและกัน...

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.ย. 56

ละครฟ้าจรดทราย ประพันธ์โดย โสภาค สุวรรณ
ละครฟ้าจรดทราย บทโทรทัศน์โดย ศัลยา สุขะนิวัตต์
ละครฟ้าจรดทราย กำกับการแสดงโดย สยาม สังวริบุตร
ละครฟ้าจรดทราย ผลิตโดย ค่าย ดาราวิดีโอ
ละครฟ้าจรดทราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี
ละครฟ้าจรดทราย เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556
ที่มา ไทยรัฐ