อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 10 วันที่ 13 ก.ย. 56

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 10 วันที่ 13 ก.ย. 56

ห่านเงียบหายไปจนทุกคนเป็นห่วง ขณะพักเที่ยงไปกินข้าวกันที่ห้องอาหาร ทั้งบื้อ แหม่มและโย่งต่างกินไม่ลง

โย่ง ท่าทางตื่นตูมกว่าเพื่อนถามว่าหรือห่านจะโดนจับได้แล้ว บื้อพลอยกังวลไปด้วย เพราะห่านยิ่งลนลานง่ายอยู่ด้วยและคุณหญิงรื่นฤดีก็ไม่ใช่คนโง่ เกิดจับผิดห่านขึ้นมาได้...

“บอกได้คำเดียวว่าซวย!!” โย่งโพล่งออกมา


บื้อเป็นห่วงห่าน จนไปไหว้ศาลพระภูมิบนบานหน้าเครียด

“สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย...ผมรู้ว่าสิ่งที่ห่านทำมันไม่ถูก แต่ผมเป็นห่วงห่านมาก ผมขอให้ท่านคุ้มครองห่าน ให้รอดปลอดภัย อย่าได้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ถ้าห่านรอดกลับมา ผมจะ...จะ...จะมาร้องเพลงให้ท่านฟังนะครับ”
บื้อปักธูปลงในกระถางด้วยสีหน้าเป็นห่วงห่านมาก

ooooooo

ที่ บ้านคุณหนูจ๋า...ห่านต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา นอกจากต้องตอบคำถามรื่นฤดีที่จ้องจับผิดแล้ว จู่ๆ โจ๊กที่เฝ้าต้นทางก็ย่องมาส่งสัญญาณให้ห่านออกไปพบ

ห่านอาศัยจังหวะที่ ลุงจ๊อดกำลังโม้อวดความร่ำรวย ย่องออกไปหาโจ๊ก พอโจ๊กบอกว่าเพื่อนผู้หญิงของคุณชายมาหา ห่านใจหายวาบคิดว่าเป็นดาหลา แต่แล้วก็โล่งใจเมื่อน้องนุชเดินเข้ามาทัก

“คุณฮันนี่คะ”

ห่านทำท่าดีใจตื่นเต้นรีบพาน้องนุชเข้าไปสบทบกับพวกคุณชายในบ้าน แนะนำแก่ลุงจ๊อดและเจ๊มะพร้าวพ่อแม่กำมะลอของตนว่า

“นี่คุณน้องนุช เป็นเพื่อนสนิทของคุณชายค่ะคุณพ่อคุณแม่”

ลุงจ๊อดผงะ จำได้ว่าน้องนุชคือหญิงสาวที่บื้อให้พานั่งตุ๊กๆ ชมเมืองเมื่อคืนก่อน รีบดึงวิกมาปิดหน้าท่าทางลุกลี้ลุกลน จนห่านถามว่าเป็นอะไร ลุงจ๊อดพูดเสียงแหบแห้งว่า

“พะ...พ่อ พ่อรู้สึกไม่ค่อยฉะบายยยย ขอไปนอนพักก่อนได้ไหม”

ห่านมองทุกคนยิ้มแหยๆ ให้ ส่วนน้องนุชมองตามลุงจ๊อดไปอย่างสงสัย คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหน

พอลุงจ๊อดแอบเล่าให้เจ๊มะพร้าวกับห่านฟัง เจ๊ตกใจอุทาน...

“พระเจ้า!! ถ้าเกิดคุณน้องนุชจำลุงได้ขึ้นมาล่ะ”

“บรรลัยล่ะงานนี้!!”

ooooooo

ความ บรรลัยกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อป้าน้อยที่กำลังเสริมสวยอยู่ที่ห้างเพิ่งแต่งหน้าได้ครึ่งเดียว ก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณผู้หญิงแจ้งว่าจะมีคนเอาของไปให้ที่บ้านในอีกครึ่ง ชั่วโมงนี้ให้รอรับด้วย

ป้าน้อยบอกช่างให้พอก่อนแล้วรีบกลับบ้านทันที เจอโจ๊กยืนดูต้นทางอยู่ถามว่ามายืนทำอะไรอยู่หน้าบ้าน โจ๊กตกใจบอกว่ามาหาคุณหนูจ๋า ป้าน้อยเหล่ใส่บอกว่าคุณหนูจ๋าไม่อยู่มีอะไรหรือเปล่า โจ๊กบอกว่าไม่มีอะไร แล้วก็ตาลีตาเหลือกรีบโทร.บอกห่านเมื่อป้าน้อยเดินลิ่วเข้าบ้านไป

ห่านไม่ทันตั้งตัว ป้าน้อยก็เข้าไปมองหน้าทุกคนตวาดถาม

“พวกแกเป็นใคร!! เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง!!!”

“แล้วคุณเป็นใคร มาขึ้นเสียงกับแขกของเจ้าของบ้านได้ยังไง” รื่นฤดีลุกยืนถามอย่างเอาเรื่อง ป้าน้อยชักงง

“คุณสมชายกับคุณหญิงกุหลาบเชิญพวกเรามา” ชนะศึกลุกขึ้นพูดอย่างเยือกเย็น ป้าน้อยก็ยิ่งงง พึมพำถามตัวเอง

“คุณสมชาย...คุณหญิงกุหลาบ...ใครวะ?”

“คุณพ่อคุณแม่คุณฮันนี่ไงครับ” คุณชายลุกขึ้นชี้แจงอีกคน

“คุณ ฮันนี่!! ใครอีกวะ??” ป้าน้อยงงหนักเข้าไปอีก แต่เห็นไม่เข้าทีเสียงดังใส่ทุกคน “พูดจาไม่รู้เรื่อง ที่นี่ไม่มีคุณสมชาย ไม่มีคุณกุหลาบ ไม่มีฮันน่งฮันนี่อะไรทั้งนั้น” ชี้หน้าทุกคนสั่ง “ออกไปให้หมดเลยนะ ไม่งั้น ฉันจะแจ้งความ!!”

ลุงจ๊อดโดดเข้าปิดปากป้า น้อยลากออกไปท่ามกลางความงุนงงของพวกคุณชาย เจ๊มะพร้าวเห็นท่าไม่ดีรีบตามลุงจ๊อดไปอีกคน ห่านหันมายิ้มเจื่อน ชี้แจงกับทุกคนว่า

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ นี่เป็นป้าของฮันนี่เองค่ะ คุณป้าของฮันนี่สติไม่ดีน่ะค่ะ อย่าถือสาเลยนะคะ ฮันนี่ต้องกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่...คุณชาย แล้วก็คุณน้องนุชจริงๆ วันนี้คงไม่สะดวกแล้ว คือ...คือคุณป้าอาการกำเริบแบบนี้ ฮันนี่ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ”

ระหว่างเดินไปส่งพวกคุณชายที่รถ ห่านไหว้ขอโทษรื่นฤดีกับชนะศึกที่เกิดเรื่องไม่เหมาะไม่งาม คุณชายรีบบอกว่าไม่เป็นไรเพราะเป็นเรื่องสุดวิสัย น้องนุชก็ให้กำลังใจว่าอย่าคิดมาก เพื่อให้ห่านสบายใจคุณชายเอ่ยชวนว่า ถ้าพรุ่งนี้คุณพ่อคุณแม่มาให้นัดทานข้าวที่บ้านตนดีไหม ห่านหน้าถอดสี แต่พริบตาเดียวก็ปรับสีหน้าเอาตัวรอดได้ว่า...

“เอ่อ...ไม่ได้ค่ะ คืนนี้คุณพ่อคุณแม่ของฮันนี่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไปนานหลายเดือนกว่าจะกลับ”

“น่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไรไว้พ่อแม่หนูกลับมาเมื่อไหร่ เราค่อยทานข้าวกัน” ชนะศึกพูดอย่างมีไมตรี ห่านจึงรีบขอตัวไปดูป้า แต่พอห่านคล้อยหลัง รื่นฤดีก็หันมาพูดกับทุกคนว่า

“เชื่อฉันกันหรือยังว่า ที่นี่มีแต่เรื่องแปลกประหลาด อยู่ดีๆ ก็มีป้าสติไม่ดีโผล่มาซะงั้น ไม่รู้บ้าจริงรึเปล่า”

“ผมว่าเขาไม่สบายจริงๆ นะคุณ คนสติดีที่ไหนจะแต่งหน้าแค่ครึ่งเดียว” ชนะศึกพูดตามความจริงที่เห็น

คุณชายถอนใจบอกรื่นฤดีว่าเลิกจับผิดห่านเสียที เธอน่าสงสารน่าเห็นใจมากกว่า ชนะศึกถือข้างคุณชายเสนอว่าถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยครอบครัวนี้ได้ก็ขอให้รีบช่วย ไม่ต้องลังเล

เมื่อถูกพ่อลูกเบรกเช่นนี้ รื่นฤดีนิ่งไปแต่ใจไม่ยอม ฉุกคิดได้ว่าดาหลากับดารัณกำชับไว้ว่าให้ถ่ายรูปบ้านและบอกบ้านเลขที่ของห่านมาด้วยพวกตนจะจัดการสืบให้เอง รื่นฤดีเอามือถือขึ้นถ่ายรูปบ้านไว้ทันที

พอห่านกลับเข้าบ้าน ป้าน้อยกำลังดิ้นรนโวยวายใส่ลุงจ๊อดกับเจ๊มะพร้าวที่ช่วยกันจับตัวไว้ ลุงจ๊อดเห็นท่าเอาป้าน้อยไม่อยู่เลยเอาหัวโขกหัวป้าน้อยจนหมดสติ ห่านบอกเจ๊ว่า

“เจ๊รีบเคลียร์ที่นี่ ก่อนที่ป้าน้อยจะฟื้นเถอะ”

ooooooo

กลับมาถึงห้างฯ คุณชายปรารภกับน้องนุชว่าตนเข้าใจแล้วว่าทำไมฮันนี่ถึงไม่ค่อยอยากให้ตนเจอกับครอบครัว เธอคงอายเรื่องป้า

คุณชายบอกว่าอยากช่วยหาหมอดี ๆ มารักษาป้าฮันนี่ บางทีป้าเธออาจจะกลับมาเป็นปกติได้ น้องนุชบอกว่า ถ้ามีอะไรให้ตนช่วยได้ก็ให้บอก

ผิดกับรื่นฤดี พอได้รูปและที่อยู่บ้านฮันนี่แล้วก็รีบนัดพบดาหลากับดารัณที่ร้านกาแฟ มอบภาพบ้านและที่อยู่ให้ สองแม่ลูกยิ้มร้ายรับรองว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้เราจะรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของห่านหรือว่าเป็นของใคร

ฝ่ายห่าน ระหว่างกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากฮันนี่มาเป็นห่านนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากบื้อถามอย่างเป็นห่วง ว่าถูกคุณชายจับได้หรือเปล่า ห่านคุยโวว่าฝีมือชั้นนี้เเล้วไม่มีทางจับได้เเน่นอน บื้อก็โล่งใจ เเต่พอนิึกได้ว่าตนไปบนบานศาลพระภูมิไว้ก็สะดุ้งโหยง กลืนน้ำลายฝืดคอพึมพำ

“กรรมแล้วไง!...ปากหนอปาก ไม่น่าไปบ่นอะไรไว้อย่างนั้นเล้ย...”

กลุ้มใจเรื่องต้องไปร้องเพลงแก้บนไม่ทันหายบื้อก็ตกใจซ้ำสองเมื่อสุรเดชคล้องกระเป๋าที่แขนเดินตุ้งติ้งมา บื้อนึกว่ามาหาตน แต่พอสุรเดชหันไปเห็นคุณชายกำลังเดินมาก็ผละไปทันที จีบปากหนาเอียงคอสั้นลอยหน้าบอกว่า

“คุณชายครับ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย เรื่องเกี่ยวกับแฟนคุณชายน่ะครับ” บื้อตัวเย็นวาบเป็นห่วงห่านขึ้นมาทันที คุณชายถามว่าแฟนตน...ฮันนี่น่ะหรือ “ใช่ครับ วันนั้นพอรู้จากคุณชายว่าคุณฮันนี่อยู่คอนโดเดียวกับผม ผมก็ไปหาคุณฮันนี่ที่ห้องวันรุ่งขึ้น เพราะอยากทำความรู้จักกันไว้ เเต่คุณชายรู้อะไรไหมครับ ห้องนั้น...ไม่ใช่ห้องคุณฮันนี่”

คุณชายถามว่าสุรเดชจำห้องผิดหรือเปล่า สุรเดชยืนยันว่าไม่ผิด ถามว่าห้อง 216 ใช่ไหม พอคุณชายบอกว่าใช่สุรเดชก็เล่าฉอดๆ ว่า “เจ้าของห้องบอกว่าเขาอยู่ที่นี่มาหลายปีเเล้ว ไม่มีทางที่จะมีคนอื่นมาอยู่” คุณชายเลยอึ้งไป

บื้อฟังอยู่ด้วย เป็นห่วงห่านมากเลยรีบโทร.บอกห่าน ห่านตกใจ เครียดมาก คิดไม่ออกว่าจะเเก้ปัญหาอย่างไรดี?

ตกบ่าย ห่านก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณชายนัดคืนนี้ไปพบกันที่ร้านอาหาร

กว่าจะถึงกลางคืน ห่านก็หาทางออกให้ตัวเองเรียบร้อยเเล้วเธอขอโทษคุณชาย โกหกซ้อนโกหกอีกชั้นหนึ่งว่า

“เรื่องคอนโดของฮันนี่ความจริงฮันนี่ขายไปตั้งหลายปีแล้ว แต่ที่ฮันนี่โกหกคุณชาย เพราะฮันนี่ไม่อยากให้คุณชายมาที่บ้านฮันนี่ คุณชายก็เห็นแล้วว่า ที่บ้านฮันนี่มีปัญหาอะไร”

ห่านตีหน้าเศร้าดราม่าจนคุณชายพลอยเศร้าไปด้วย แล้วก็เรียกคะแนนสงสารต่อ

“ฮันนี่รู้นะคะว่าคุณชายไม่ชอบคนโกหก ฮันนี่ก็ไม่อยากโกหกคุณชาย เพียงแต่ฮันนี่กลัว...กลัวคุณชายจะรังเกียจคุณป้าฮันนี่น่ะค่ะ”

ได้ผลเกินคาด! คุณชายกุมมือห่านบอกว่าตนไม่เพียงไม่รังเกียจหากสงสารป้าเธอด้วย ตนเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอต้องโกหก ห่านยิ้มดีใจรีบถาม “หมายความว่าคุณชายไม่โกรธ...”

“ครับ ผมไม่โกรธ จำไว้นะครับว่าคุณฮันนี่จะมีปัญหาอะไร หนักหนาสาหัสแค่ไหน ผมก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้คุณฮันนี่เสมอ”

“ขอบคุณคุณชายมากนะคะ ฮันนี่โชคดีจริงๆที่ได้มาเจอคุณชาย” ห่านปั้นหน้าปลีื้มจนน้ำตาคลอ

“ผมต่างหากล่ะครับที่โชคดี ที่สวรรค์ส่งผู้หญิง จิตใจดีอย่างคุณฮันนี่มาให้ผม” คุณชายกระชับมือห่านให้กำลังใจ

พอห่านกลับไปเล่าให้บื้อฟัง บื้อฟังนิ่งๆ ห่านถามว่าทำไมไม่ยิ้ม ไม่ดีใจกับตนหรือ บื้อบอกว่าดีใจ ห่านเลยจับแก้มสองข้างของบื้อฉีกออกให้ยิ้ม ทำแล้วตัวเองก็ขำหน้าบื้อที่ดูตลกมาก บื้อเลยบีบแก้มห่านจนปากจู๋แล้วหัวเราะขำว่าปากเหมือนหมูเลย

ทั้งสองหัวเราะประสานสายตากันจังๆ แล้วต่างก็ชะงักกับความรู้สึกลึกๆ ที่มองกัน ค่อยๆผละจากกันเขินๆ แล้วต่างก็หันหลังเดินแยกกันไปเหมือนกลัวอีกฝ่ายเห็นความจริงในหัวใจ...

ooooooo

ป้าน้อยรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาก็ตกใจเพราะบ้านมืดสนิท เหลียวมองงงๆ ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน...เกิดอะไรขึ้นกับตน?

นั่งทบทวนความจำอยู่ครู่หนึ่ง พอป้าน้อยจำเรื่องราวได้บ้างก็ตกใจเชื่อว่าต้องเป็นพวกหัวขโมยขึ้นบ้านแน่ๆ ลนลานลุกไปเปิดไฟเดินสำรวจของในบ้าน ไปเจอจุ๊บแจงนั่งจกส้มตำอยู่ก็ดุว่าให้เฝ้าบ้านแล้วปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้าบ้านได้ยังไง ดีที่ไม่มีของหาย

“จะมีใครเข้ามาได้ไง ในเมื่อลุงจ๊อดบอกว่าจะดูแล บ้านให้” จุ๊บแจงจกส้มตำกินอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

“ลุงจ๊อด...ไอ้จ๊อดที่ขับตุ๊กๆ !”

จุ๊บแจงพยักหน้าหงึกๆ ป้าน้อยยังจับต้นชนปลาย ไม่ได้ กะพริบตาปริบๆ งงๆ สงสัย

ooooooo

เช้านี้บื้อให้โย่งดูต้นทางที่ศาลพระภูมิแต่เช้า พอโย่งบอกว่าไม่มีคนให้รีบออกมาเลย บื้อก็ถือกีตาร์ออกมามีเม้าท์ออร์แกนคล้องคอมาด้วย ท่าทางบื้อตื่นๆ

“รีบๆเลยแก ตอนนี้ไม่มีคนมาทำงาน...เอ้า วัน ทรู ทรี!”

สิ้นเสียงนับของโย่ง บื้อก็เริ่มเล่นกีตาร์และเป่าเม้าท์ออร์แกนก่อนร้องเพลง...

ที่อีกมุมในห้าง เจ๊มะพร้าวถามห่านว่าบื้อยังไม่มาหรือ ห่านบอกว่าออกมาแต่เช้าแล้ว ขณะกำลังงงๆ กันว่าบื้อไปไหนทำไมยังไม่มาทำงาน ก็แว่วเสียงเพลงดังมา พอชะเง้อมองก็เห็นบื้อกำลังหลับตาร้องเพลงเอาจริงเอาจัง

ระหว่างนั้น โย่งบอกห่านว่า เมื่อวานบื้อเป็นห่วงเธอเลยมาบนศาลพระภูมิขอให้เธอปลอดภัยกลับมาแล้วจะร้องเพลงให้ท่านฟัง

ห่านฟังแล้วซึ้งจนน้ำตาคลอ พอบื้อร้องเพลงจบลืมตาเห็นห่านก็อายจนทำหน้าไม่ถูก พอห่านขอบใจที่เป็นห่วง บื้อก็เฉไฉว่าตนไม่ได้ห่วง แล้วรีบตัดบทว่า ใกล้เวลาเข้างานแล้ว ขอไปตอกบัตรก่อน ห่านรีบตามไป ทิ้งเจ๊มะพร้าวเฉยเลย

เจ๊มองตามห่านไป เริ่มสงสัยว่าห่านชอบบื้อหรือเปล่า?

ooooooo

เพราะแอปเปิ้ล จีจี้ และปีโป้ ไปฟ้องพรเพ็ญว่า เจ๊มะพร้าวใช้สิทธิ์ในทางที่ผิด พาญาติมาแต่งหน้าฟรี

พรเพ็ญที่กำลังดูรายชื่อพนักงานดีเด่นที่จะไปสัมมนาที่ชลบุรีอยู่ ฟังแล้วขีดฆ่าชื่อ สมรศรี ซึ่งก็คือเจ๊มะพร้าวออกจากรายชื่อพนักงานดีเด่นทันที ดังนั้น จึงไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีพนักงานดีเด่นที่จะได้ไปสัมมนาที่ชลบุรี

ที่บอร์ดประกาศรายชื่อพนักงานดีเด่นที่จะไปสัมมนาที่ชลบุรี พวกแอปเปิ้ลได้ไปทั้งสามคน ห่านกับแหม่มก็ได้ไป ยกเว้นเจ๊มะพร้าวที่ควรต้องได้ไปแต่กลับไม่มีชื่อ เจ๊เสียใจมากวิ่งร้องไห้ออกไป ห่านกับแหม่มรีบตามไปปลอบใจ

เจ๊เข้าใจ ไม่ได้ว่าทำไมตนไม่ได้ไป ทั้งที่ตั้งใจทำงานทำยอดขายดีมาตลอด ห่านจะไปถามพรเพ็ญให้ แหม่มเห็นด้วยเพื่อจะได้รู้ว่าทำไมเจ๊ไม่ได้ไป ดีกว่าที่จะมาคิดกันเองอย่างไม่เข้าใจอยู่แบบนี้

ส่วนบื้อกับโย่งต่างดีใจที่มีชื่อได้ไปสัมมนาด้วย โย่งถึงกับเพ้อเมื่อจะได้ไปพร้อมแหม่มว่า

“เคยมีคนบอกฉันว่า ถ้าเรามีคนที่ชอบแล้วพาไปสารภาพรักที่ทะเลจะไม่ผิดหวัง เพราะบรรยากาศที่นั่นมันโคตรจะโรแมนติก มีทั้งหาดทราย สายลม ท้องฟ้ากว้างใหญ่...แค่คิดก็สะท้านไปหมดแล้ววว...”

บื้อฟังโย่งพรรณนาแล้วพลอยยิ้มไปด้วยกับจินตนาการของตัวเอง

ooooooo

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 10 วันที่ 13 ก.ย. 56

ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ บทประพันธ์โดย ภาคินัย บทโทรทัศน์โดย ปณธี
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ สร้างสรรค์โดย อรพรรณ วัชรพล
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ เป็นละครโทรทัศน์แนว คอมเมดี้
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ