อ่าน ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 13 วันที่ 27 ก.ย. 56
“ถูก ดูไอ้ห่านซิ ไม่มีพ่อไม่มีแม่แท้ๆ แต่มันยังไม่เห็นจะเคยอิจฉาใคร” เจ๊เผลอพูดออกมา พอถูกแหม่มตีเพียะก็สะดุ้งทำเป็นไอแคกๆ บ่นว่าปูเค็มติดคอ แหม่มมองห่านอย่างเป็นห่วงความรู้สึก แต่ห่านยิ้มให้พูดอย่างเข้มแข็งว่า“ก็มันเรื่องจริง ฉันมันลูกกำพร้าจริงๆ แต่เชื่อไหม ฉันรู้จักลูกกำพร้าคนนึง...นอกจากฉันไม่เคยเห็นเขาอิจฉาใคร เขายังเป็นลูกกำพร้าที่มีความสุขที่สุดในโลก เลยนะ” พูดแล้วห่านยิ้มน้อยๆ ใจคิดถึงบื้อ
คืนนี้ น้องนุชเห็นดาหลาเดินลับๆ ล่อๆเข้าร้านขาย ยาแล้วรีบออกไป เธอทำทีไปขอซื้อเพิ่มจากเพื่อนที่เพิ่งออกไป ปรากฏว่าเป็นยาคุม! แต่พอเดินออกมาก็ถูกดาหลา มาดักถามว่ามาตามหาใคร พยายามจะดูว่าไปซื้อยาอะไรมาแต่แย่งไม่ได้จึงปล่อยน้องนุชไป มองจิกพูดตามหลัง
ooooooo
เช้านี้บื้อดีใจมีข่าวดีจะบอกห่าน เดินไปหลังราว ตากผ้า แหวกผ้าออก ยืนคุยกันอย่างที่เคยทำ
“เออ...ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเธอ เกือบลืมเลย” บื้อนึกขึ้นได้ ห่านถามว่าข่าวดีอะไร บื้อยิ้มเต็มหน้าบอกว่า “ฉันกำลังจะได้เป็นนักร้อง”
ไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ คุณชายก็มาร้องเรียกห่าน บื้อจึงเลี่ยงไปเงียบๆ แต่ยังอยู่แถวนั้น
คุณชายมาปรึกษาห่านว่า ตนไม่ได้รักดาหลา และไม่มีวันจะแต่งงานกับดาหลา ห่านพูดอย่างไม่มี ความหวังว่าเรื่องมันผ่านมาถึงขนาดนี้แล้ว แต่คุณชายไม่ยอมแพ้บอกว่า “เรามาช่วยกันทำให้มันผ่านไปได้อีกนะครับ...คุณห่าน”
ห่านขอให้ผ่านแล้วก็ให้ผ่านไปเลย แต่คุณชาย ไม่ยอมพูดอย่างฮึดขึ้นมาเต็มที่ว่า
“ไม่!! ผมจะไม่ปล่อยให้คนที่ผมรักเดินผ่านจากชีวิตผมไปแบบนี้...ผมจะพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน...” คุณชายกุมมือห่าน มองอย่างเว้าวอน “คุณคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คุณดาหลา!!”
ห่านอึ้ง ในขณะที่บื้อฟังแล้วแทบทรุดอยู่ตรงนั้น ค่อยๆพาตัวเองออกไปอย่างหมดแรง...
วันต่อมา เมื่อบื้อเข้าห้องอัดเสียง เขาร้องเพลงที่บรรยายถึงคนอกหักด้วยอารมณ์ที่เข้าถึงเนื้อเพลง
เขาเอาแผ่นซีดีมาเปิดในรถน้องนุช น้องนุชชมว่าเพราะมาก ขอไว้เลยได้ไหม บื้อถามติดตลกว่าจะเอาไปเปิดไล่แมลงวันหรือ แต่ก็ให้น้องนุชไป กำชับอย่าเพิ่งเอาไปให้ใครฟังเพราะยังเป็นความลับของบริษัทอยู่
น้องนุชทำท่ารูดซิปปาก บื้อยิ้ม พูดอย่างคนที่อยู่ในอารมณ์เดียวกันว่า
“ไม่ห่วงหรอกครับ เราสองคนเก็บความลับเก่งอยู่แล้ว” น้องนุชนึกได้ถามว่าห่านเป็นอย่างไรบ้าง บื้อหน้าเจื่อนไปนิดหนึ่งบอกว่า “ก็คงโอเคมังครับ” แต่พอน้องนุชถามว่าแล้วตัวเขาเองล่ะ บื้อย้อนถามอย่างไม่รู้จะตอบอย่างไรดีว่า “ผมน่ะเหรอ...”
น้องนุชเอามือแตะมือบื้อเบาๆ อย่างปลอบใจ ต่างก็ถอนใจยาวออกมา แล้วนิ่งเงียบจมอยู่กับความคิด ของตัวเอง
ooooooo
คุณชายตัดสินใจขอโอกาสกับรื่นฤดีที่จะคบกับห่านอีกครั้ง ก็ถูกแว้ดใส่อย่างโกรธจัดว่ากล้าดียังไงมาพูดกับแม่แบบนี้ ประกาศว่าเป็นตายอย่างไรตนก็ไม่ยอม
“คุณแม่ครับ...ผมขอร้อง...ให้โอกาสห่านได้พบคุณแม่ ให้คุณแม่ได้พิจารณา แล้วคุณแม่จะเห็น ‘ตัวจริง’ ของห่านอย่างที่ผมเห็น” คุณชายคุกเข่ากอดขาขอร้อง “ขอโอกาสสักครั้งนะครับ...ครั้งเดียวก็ยังดี”
รื่นฤดีนิ่งไปอึดใจ ก่อนบอกคุณชายว่า
“แม่จะให้โอกาสชาย แต่...แม่ไม่ยินดีที่จะให้เด็กห่านนั่นเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้...แม่รังเกียจ!! อัปมงคล!!”
ฝ่ายดาหลาได้ใจที่แผนการของตนได้ผล ยิ่งตามเกาะคุณชายแจ วันนี้เห็นคุณชายไปตีแบดกับน้องนุช ก็ตามไปหึงถึงสนามแบด พูดประชดว่าเดี๋ยวนี้ตีแบดกันบ่อยเกินไปแล้ว น้องนุชบอกว่าเมื่อก่อนตีกันบ่อยกว่านี้อีก ตีกันทุกวัน
“นั่นมันเมื่อก่อน!! แต่เดี๋ยวนี้คุณชายต้องตีกับดาหลาคนเดียวเท่านั้น” พูดแล้วตรงเข้ากระชากไม้แบดจากน้องนุชประกาศอย่างผยอง “คุณชายไม่ควรคู่กับน้องนุชหรือว่ากับใครทั้งนั้น...นอกจากดาหลา!!”
คุณชายเบื่อหน่ายไม่อยากตอแยด้วยจึงให้น้องนุชตีแทนตน น้องนุชรับปากทันที มองดาหลาถามว่ากล้าสู้รึเปล่า?!
“ทำไมจะไม่กล้าสู้” ดาหลาก้าวเข้าไปพูดใส่หน้าน้องนุช “คนอย่างดาหลา...กล้าสู้ กล้าไฟท์!!”
ปรากฏว่า ดาหลาถูกน้องนุชโยกซ้ายโยกขวาวิ่งรับลูกหัวทิ่มหัวตำ จนสุดท้ายพุ่งเข้ารับลูกตบล้มคะมำไม่เป็นท่า กระนั้นก็ยังแผดเสียงกรี๊ดลั่นสนาม
กลุ่มแอปเปิ้ลกำลังผยองพองขนสะใจที่ห่านกับบื้อถูกไล่ออกต้องไปรับจ้างซักผ้าแทนการเป็นพนักงานห้างฯ ชวนกันไประรานแหม่มกับเจ๊ที่ถูกย้ายมาขายรองเท้า ตรงเข้ากวาดรองเท้าบนหิ้งร่วงกราว จนเจ๊มะพร้าวทนไม่ไหวกระโดดลุยทั้งสาม แหม่มกระโจนเข้าช่วยก็ถูกผลักจนกระเด็นแล้วจะรุม
โย่งเห็นแหม่มถูกรุมก็พุ่งเข้าปกป้องคร่อมแหม่ม ไว้ ถูกแหม่มถีบกระเด็นไปนั่งกุมเป้าหน้าเขียว แต่ก็ยังตะโกนให้พวกสาวๆที่ตะลุมบอนกันนัวเนีย “หยุด!! บอกให้หยุด!!!” เมื่อไม่หยุดก็เอานกหวีดเป่าปรี๊ดๆๆ แต่นกหวีดโย่งวันนี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะถูกเสียงกรี๊ดกร๊าดตบตีกันกลบหมด
ooooooo
คืนนี้ เจ๊มะพร้าวไปกับแหม่ม เล่าเหตุการณ์ให้ห่านฟัง ห่านยิ่งเสียใจโทษว่าเพราะตนคนเดียวทำให้ทุกคนเดือดร้อนมาจนถึงวันนี้
เจ๊บอกว่าพวกนั้นคิดเองว่าดาหลาจะได้เป็นสะใภ้ของห้างฯ เลยกร่างมาก แหม่มย้ำว่าแต่คุณชายรักห่าน เจ๊เลยคิดว่าถ้าห่านได้เป็นสะใภ้ห้างฯจริงๆ พวกเราคงจะสบาย และพวกมันจะต้องถูกเฉดหัวยกแก๊งแน่ๆ!
ห่านคิดหนัก คิดถึงความอบอุ่นและยืนเคียงข้างต่อสู้ปกป้องตนมาไม่ว่าในสถานการณ์ใดของบื้อ คิดถึงความรักที่มั่นคงของคุณชายแล้วหันมองบ้านบื้อเหมือนจะตัดสินใจแล้ว แต่จู่ๆก็เห็นรถน้องนุชมาส่งบื้อ และทั้งคู่ก็หยอกล้อกันอย่างสนิทสนมก่อนน้องนุชกลับ ทำให้ห่านใจแป้ว ทรุดนั่งน้ำตาไหลไม่รู้ตัว
ดึกแล้ว...ห่านตัดสินใจไปที่บ้านบื้อ ปลุกเขาขึ้นมาปรึกษาหยั่งใจเขาว่า ตนจะกลับไปคืนดีกับคุณชายแต่ครั้งนี้ไม่ได้ดื้อหรือฝันสูงแบบเมื่อก่อน ที่สำคัญคุณชายก็เป็นฝ่ายมาหาตนเอง ถามบื้อว่าดีไหม คิดอย่างไร บื้ออึ้งจนพูดไม่ออก จนห่านน้อยใจถามเสียงดังว่า “ว่าไง! ฉันถามว่าดีไหม ทำไมไม่ตอบ!!??”
“ดี!!” บื้อโพล่งออกไปแล้วลุกพรวดเดินออกไปเลย ทิ้งห่านให้น้อยใจจนน้ำตาท่วมที่บื้อไม่แคร์ตนเลยสักนิด...
ooooooo
เมื่อดาหลากับดารัณสองแม่ลูกได้ฟังรื่นฤดีเล่าเรื่องคุณชายจะขอกลับไปคบกับห่าน ดาหลาโวยวายเป็นตายยังไงก็ไม่ยอม
ดารัณปลอบลูกให้ใจเย็นๆ รื่นฤดีก็หว่านล้อมว่าเวลานี้คุณชายยังมีเยื่อใยกับห่านอยู่ โบราณว่าน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง เราควรปล่อยคุณชายไปก่อน ปล่อยคนของเราสบายๆ ไปก่อน ถ้าเราร้ายกับห่านเราก็จะยิ่งดูเป็นนางร้ายในสายตาของคุณชาย สองแม่ลูกเข้าใจเจตนาของรื่นฤดี ถามว่าเราต้องดีกับมันต่อหน้า แต่ลับหลังก็ร้ายใส่มันใช่ไหม
“เก่งค่ะ เก่งทั้งคุณแม่คุณลูก” รื่นฤดียอสองแม่ลูกให้ยอมตามแผนของตน
คุณชายดีใจมากที่รื่นฤดียอมตามคำขอของตน กระโดดกอดแม่แน่นจนรื่นฤดีบอกให้เบาๆ จะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
รื่นฤดีบอกคุณชายว่า เมื่อคุณชายชอบพอห่านก็ควรให้ห่านทำตัวให้ดูคู่ควรกับเขาด้วย คุณชายถามว่าหมายความว่าอย่างไร?
“แหม...ก็ดูสภาพสิ แต่งเนื้อแต่งตัวตลาดนัด หน้าตาจืดชืด ใส่แว่นตาเอ๋ออ๋าเหรอหรา” พูดแล้วเห็นคุณชายมองงงๆ ก็รีบชี้แจง “เอ่อ...คือแม่เป็นห่วง ไม่อยากให้ใครดูถูกดูแคลนว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่”
“อะไรนะครับ?? ว่าที่ลูกสะใภ้คุณแม่” คุณชายดีใจมากโผเข้ากอดรื่นฤดีอีกครั้ง “ขอบคุณครับ...ขอบคุณครับคุณแม่ ชายรักคุณแม่ที่สุดในโลกเลย” คุณชายหอม แก้มรื่นฤดีหลายฟอด แล้วให้คำมั่น “คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ผมจะทำให้ทุกคนเห็นว่า คุณห่านคู่ควรกับผมที่สุดแล้ว”
รื่นฤดีฟังแล้วแทบจะทนไม่ได้ แต่ตีหน้าชื่นชมว่าดี แล้วบอกคุณชายว่า
“อ้อ...แม่อยากจะนัดเจอหนูห่าน แต่อย่างที่บอกนะ แม่ก็ขอเจอข้างนอก แล้วก็อย่าลืมให้แต่งตัวดีๆ มาด้วยล่ะ จะได้ไม่อายใครเขา”
“ได้เลยครับคุณแม่ ได้เลย...ขอบคุณนะครับ...” คุณชายกอดแม่ไว้แน่นด้วยความดีใจซาบซึ้งอย่างที่สุด
หารู้ไม่! ใบหน้ารื่นฤดีที่คุณชายไม่เห็น จิกตาร้ายยิ้มเหี้ยม!
ooooooo
รุ่งขึ้น เมื่อคุณชายไปบอกห่านที่บ้าน ห่านไม่อยากแปลงร่างปลอมตัวอีกแล้ว ไม่อยากโดนใครๆประณามอีกแล้วถามว่าเขาไม่ได้รักตนอย่างที่ตนเป็นหรือ
“ห่าน...ผมรักห่านอย่างที่ห่านเป็น แต่อยากจะทำให้คนอื่นๆ ยอมรับห่านและให้เกียรติห่านด้วย เข้าใจไหมครับ”
ระหว่างนั้นบื้อหอบตะกร้าผ้าซักเข้ามา เห็นคุณชายกุมมือห่านอย่างเว้าวอน เลยตีหน้าตายเข้าไป เอ่ยขอโทษ วางตะกร้าผ้าซักบอกห่านว่า “เจ๊พรปากซอยฝากผ้ามากับลุงจ๊อด” แล้วหันหลังเดินกลับ ห่านที่น้อยใจตั้งแต่เมื่อคืนแกล้งพูดดังๆให้เข้าหูบื้อว่า
“ได้ค่ะ คุณชายอยากให้ห่านทำอะไร ห่านยอมทุกอย่าง”
“จริงเหรอห่าน...ผมรักห่าน...รักที่สุดในโลกเลย” คุณชายโผกอดห่านแน่น
บื้อหันมองภาพบาดตาบาดใจนั้นอย่างเจ็บปวดแล้วเดินงุดไปเลย ห่านยิ่งน้อยใจที่บื้อไม่แคร์ตนเลยสักนิดเดียว
ฝ่ายรื่นฤดี วางแผนให้คุณชายนัดห่านไปพบในห้าง แล้วพาห่านแยกออกไป คุณชายถามว่าจะพาห่านไปไหน
“เรื่องของผู้หญิง ผู้ชายอย่างลูกห้ามไปด้วยจ้ะ” จับมือห่านบอกว่า “เราไปกันสองคน ให้ตาชายรอแถวนี้”
รื่นฤดีพาห่านเข้าร้านขายเพชร ซื้อสร้อยข้อมือเพชรให้ห่านราคา 5 ล้านบาท ห่านชมว่าสวยมากแต่ตนรับไว้ไม่ได้ ราคาแพงเกินไปไม่เหมาะกับตน รื่นฤดีทำเป็นพูดตัดพ้อว่า ถ้าคุณชายรู้ว่าเธอรังเกียจตนเขาคงจะเสียใจมาก ห่านจึงจำต้องรับไว้
ระหว่างนั้น รื่นฤดีทำทีเหลือบเห็นคุณหญิงชื่น ซึ่งที่แท้คือนังชื่อคนในชุมชนแต่อุปโลกน์ให้เป็นคุณหญิง เพื่อให้มาจิกกัดห่านแทนตน ชื่นซักถามชื่อเสียงเรียงนาม เรื่องครอบครัว ห่านบอกตามจริง และก็ถูกคุณหญิงกำมะลอพูดเยาะเย้ยเหยียดหยามแล้วขอโทษบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ จนสุดท้ายเมื่อถามถึงอาชีพ ห่านบอกว่าขายรองเท้าในห้าง บีเคเค พลาซ่า คุณหญิงกำมะลอก็ปิดปากอุทาน
“คุณพระ!! นี่คุณชายคว้าเด็กในห้างฯมาเป็นแฟน!! มันคู่ควรแล้วหรือคะคุณหญิง??”
“ดิฉันว่าไม่เหมาะสมสักนิด เขาไม่มีทางมาอยู่ใน สังคมของเราได้หรอกค่ะ เกิดเป็นห่าน มันก็ต้องเป็นห่านวันยังค่ำ ไม่มีทางที่จะกลายเป็นหงส์ได้หรอกค่ะคุณหญิง” แล้วหันบอกห่าน “เจียมตัวหน่อยก็ดีนะจ๊ะหนูห่าน!!”
พอห่านทนฟังต่อไปไม่ได้ลุกเดินออกไป รื่นฤดีก็หันไปยิ้มกับชื่น ชมว่า “ทำดีมาก”
ห่านเลี่ยงไปยืนหลบอยู่แถวหน้าร้าน คำสนทนาอย่างเยาะเย้ยเหยียดหยันของรื่นฤดีกับชื่นยังทำร้ายจิตใจเธออย่างรุนแรง จนรื่นฤดีเดินมาเจอชวนไปที่อื่นกันต่อ ห่านถามถึงของที่ซื้อไว้ รื่นฤดีพูดอย่างอวดรวยว่า
“ข้าวของราคาแพงขนาดนั้น ฉันไม่ต้องถือเองให้เมื่อยหรอกจ้ะหนู ทางร้านเขาจะส่งไปให้ถึงบ้าน นี่ไม่ใช่เรื่อง แปลกเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะมีคนมาคอยบริการเรา เพราะว่าเรามีเงิน เงินน่ะ ซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งความ รัก...หนูว่าจริงไหม”
“ห่านว่าไม่จริงนะคะ ความรักใช้เงินซื้อไม่ได้หรอกค่ะ” ห่านตอบอย่างรู้ว่าถูกเหน็บ รื่นฤดีทำเป็นชมว่าเธอเป็นคนดีสมกับคุณชายบอกไว้จริงๆ แล้วชวนไปเดินร้านอื่นต่อกัน ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
ooooooo
เมื่อกลับมาเจอคุณชายที่บ้าน รื่นฤดีโวยวายใส่คุณชายว่าต้องให้ห่านมากราบขอโทษที่ตนอุตส่าห์พาไปปรับความเข้าใจกันแต่ห่านกลับเดินสะบัดหนีไปต่อหน้าต่อตา
คุณชายติงว่าไม่น่าเป็นไปได้ ห่านไม่น่าเป็นคนแบบนั้น ถูกดาหลาค้านทันทีว่าขนาดอุปโลกน์ตัวเองเป็นไฮโซฮันนี่ยังทำได้แค่ต่อหน้าคุณชายทำเป็นคนดีแต่ลับหลังร้ายกาจทำไมจะทำไม่ได้
รื่นฤดีดราม่าอีกว่า ถึงวันนี้ตนรู้สึกรักและเอ็นดูห่านจนอุตส่าห์ซื้อสร้อยข้อมือเพชรให้ไปเส้นหนึ่ง ดาหลาตาลุกอุทานไม่มีเสียง “สร้อยเพชร...” มองหน้าดารัณอย่างรับไม่ได้ ถามว่า ลงทุนแพงไปหรือเปล่า
“สร้อยเพชรเส้นละไม่กี่แสน กระจอกมากเมื่อเทียบกับสมบัติอันมีค่าที่สุดในชีวิตลูกชายของคุณหญิงรื่นฤดีที่ชื่อว่าคุณคุณชาย หนูดาหลากับดารัณว่าจริงไหมคะ”
สองแม่ลูกสอพลอพร้อมกันว่า “จริงค่ะ...จริงที่สุด” ดาหลายกยอปอปั้นว่า “แผนการของคุณแม่นี่เริ่ดที่สุดเลยค่ะว่าแต่ ตกลงนัง 18 มงกุฎนั่นมันเอาไหมคะ”
พอรื่นฤดีบอกว่าเอาเท่านั้น สองแม่ลูกก็ยิ่งเสียดาย แต่ยังปั้นยิ้มสอพลอกันต่อ
ooooooo
แต่ห่านไม่ได้ยินดียินร้ายกับสร้อยข้อมือเพชร เส้นนั้นเลย เอากลับมาเปิดกล่องดูแล้วตัดสินใจบางอย่าง
ขณะจะปิดกล่องเก็บ แหม่มยื่นมือมาคว้าไปดู อุทานอย่างตื่นเต้นว่าสวยมาก ถามว่าใครซื้อ เพชรเก๊หรือเพชรจริง ห่านจะคว้าคืน แหม่มไม่ให้จนกว่าจะบอกมาว่าใครซื้อให้
ห่านเหนื่อยใจจนไม่อยากพูดอะไร บอกแหม่มให้คืนสร้อยเพชรแล้วพรุ่งนี้จะเล่าให้ฟัง แหม่มไม่ยอม ให้ยื้อแย่งกันจนสร้อยขาด
“แย่แล้ว...แย่แล้ว...” ห่านตกใจมาก รีบคลานตามเก็บเพชรที่ขาดกระเด็น
ขณะห่านกับแหม่มก้มมุดตูดโด่งควานเก็บเพชรที่ขาดกระเด็นไปตามใต้ตู้ บื้อเดินเข้ามาถามขำๆว่า
“ทำอะไรของเธอน่ะ”
“คลานเล่นกันเสียที่ไหน ไอ้ห่านมันทำสร้อยเพชรขาด มันคลานหาสร้อยเพชร”
ห่านสะดุ้งเพราะไม่อยากให้บื้อรู้เรื่องนี้ บื้อฟังแหม่มแล้วมองห่านอึ้ง...แต่สุดท้ายบื้อก็ช่วยหาอีกคน
หาเจอเกือบครบแล้วขาดแต่เม็ดที่เป็นรูปหัวใจยังหาไม่เจอ บื้อเห็นแสงอะไรวาวๆ อยู่ในซอกล้วงออกมาถามห่านว่าใช่หรือเปล่า
“ใช่...ใช่แล้ว ใช่จริงๆ ด้วย! นายหาหัวใจของฉันเจอ!! เก่งที่สุดเลยไอ้บื้อของฉันนนน” ห่านดีใจกระโดด กอดบื้อจนแหม่มตกใจ เบือนหน้าหนีแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ห่านกับบื้ออยู่กันสองคน
พอรู้ตัวทั้งสองก็ผละออกจากกัน บื้อยกมือแบบขอโทษแล้วจะไป ห่านรีบชี้แจงว่า
“คือ...ยังงี้นะ มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ” บื้อถาม ว่าคิดอะไร “ก็...ฉันไม่ได้จะไปหลอกเอาสร้อยเพชรอะไร นั่นมาจากคุณชายนะ แต่คุณหญิง แม่คุณชายเขาให้ฉัน”
“มันก็เรื่องของเธอ” บื้อเสียงเย็นชาแล้วเดินออกไป ห่านก้าวออกไปขวาง แว้ดอย่างขัดใจว่า
“ฉันกำลังจะเอาไปคืน!!”
“ก็บอกแล้วไง! มันเรื่องของเธอ!!” แล้วจะเดิน หลีกไป คราวนี้ถูกห่านผลักอย่างแรงไม่ยอมให้เดิน
“ฉันไม่ให้นายไป!!” บื้อถามว่าทำไม “ฉันอยากให้ นายช่วยพาฉันเอาสร้อยไปซ่อม ตอนแรกก็ว่าจะชวน ไอ้แหม่มไปแต่มันลางานไม่ได้ ไอ้จะไปคนเดียวก็เสียวกลัวโดนปล้นฆ่าปาดคอ” บื้อฟังแล้วเซ็ง ห่านอ้อนต่อ “นะ...นะบื้อนะ มีนายคนเดียวแหละที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองฉันได้ จริงไหม”
ooooooo
คุณชายกลุ้มใจเรื่องรื่นฤดีจะให้ห่านไปขอโทษ นัดน้องนุชมาปรับทุกข์กันที่ร้านกาแฟ น้องนุชฟังแล้วถามว่าแล้วตกลงเขาทำอย่างไร คุณชายนิ่ง
“ขอโทษ...ไม่มีทาง คนอย่างคุณห่านดูก็รู้ว่าเป็นคนแข็ง ไม่ยอมใครง่ายๆ” น้องนุชพูดอย่างหนักใจ แล้วถามคุณชาย “ตอนที่แกโกรธที่คุณห่านโกหกแกว่าเป็นคุณฮันนี่ เพราะอะไรแกถึงหายโกรธเขาได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น”
“ก็...หลายอย่าง อย่างแรกก็คุณบื้อ...คำพูดของ คุณบื้อเตือนสติฉัน อีกอย่าง ฉันกลับไปที่บ้านทอตะวัน...”
คุณชายเล่าบรรยากาศวันนั้นว่า พวกเด็กๆ ที่บ้านทอตะวันพากันมาห้อมล้อมเขาด้วยความดีใจ เด็กที่เคยแย่งไข่พะโล้เพื่อนถามว่า
“พี่ชาย พี่สาวคนสวยไม่มาด้วยเหรอ...พี่สองคนใจดี หนูชอบ”
เด็กๆ พากันพูดถึงห่านอย่างชื่นชมที่สอนไม่ให้โกหก และให้รักกันรู้จักแบ่งปันกัน ส่วนเด็กคนที่ถูกขโมยไข่พะโล้พูดอย่างภูมิใจว่า
“ตอนแรกหนูก็ไม่อยากดีกับเขา แต่พี่สาวคนสวย มากระซิบหนูว่าไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี ไม่มีใคร อยากเป็นคนโกหก ถ้าเขาทำผิดแล้วสำนึกผิด เราก็ควรยกโทษให้ หนูก็เลยยกโทษให้ เพราะรู้ว่า เขาอยากกินไข่ใบนั้นจริงๆ”
“ถ้าพี่ชายเจอพี่สาวอีก ฝากบอกพี่สาวด้วยนะว่าหนูทำตามที่พี่สาวสอนแล้ว” เด็กอีกคนฝากบอกห่าน
คุณชายเล่าถึงบรรยากาศวันนั้นแล้วบอกน้องนุช ว่า “เด็กๆ พวกนั้นสอนให้ฉันรู้ว่า ฉันควรมองให้เห็นถึงจิตใจคุณห่านที่เป็นคุณห่าน ไม่ใช่คุณห่านที่เป็นคุณฮันนี่” น้องนุชถามว่าแล้วอย่างสุดท้ายล่ะ “ฉันคิดว่า ฉันรักคุณห่าน ชีวิตนี้ฉันคงขาดเขาไม่ได้”
คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง น้องนุชอึ้ง นิ่งเงียบ แล้วฝืนยิ้มให้ทั้งที่หัวใจกำลังร้องไห้...
ooooooo
อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 13 วันที่ 27 ก.ย. 56
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ บทประพันธ์โดย ภาคินัย บทโทรทัศน์โดย ปณธีละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ สร้างสรรค์โดย อรพรรณ วัชรพล
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ เป็นละครโทรทัศน์แนว คอมเมดี้
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ