อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 9 วันที่ 31 ธ.ค. 56
โสภิตต่อรองว่าเรียนไม่เอาวุฒิก่อนก็ได้ บ็อบบี้บอกว่าตนทดสอบเรียนไปก่อนก็ได้ เพราะครูจีเคยสอนภาษาไทยให้ก่อนหน้านี้แล้ว“นี่ลูกศิษย์ครูจีหรือ” ครูใหญ่มองอย่างเอ็นดูบ็อบบี้ยืดอกอย่างภูมิใจ
พิมพรจูงบ็อบบี้ไปที่สนามฟุตซอล เห็นจีรณะกำลังสอนเด็กๆอยู่ บ็อบบี้ดีใจมากวิ่งไปหา ส่วนพิมพรก็ทำเป็นดีใจที่ได้พบจีรณะโดยบังเอิญ บอกเขาว่า
“บ็อบบี้อยากเรียนหนังสือมาก โดยเฉพาะเรียนกับครูจี พิมเลยต้องตามใจ”
“ยายภิต จะรีบไปไหนฮึ!” พิมพรถามอย่างขัดใจเมื่อเดินออกมา โสภิตถามอย่างรู้ทันว่า
“พี่พิมรู้ใช่ไหม ว่านาย...เออะ...คุณจีอยู่ที่นี่ ถึงตั้งใจให้บ็อบบี้มาเรียนที่นี่” พิมพรถามกวนๆ ว่าแล้วไง “ถ้าแม่รู้ แม่ต้องไม่ยอมแน่นอน”
“เรื่องนี้เธอเป็นคนจัดการพาบ็อบบี้มาสมัครเอง อยากเดือดร้อนก็ตามใจ” พิมพรขู่แล้วปรามบ็อบบี้ว่า “บ็อบบี้ห้ามบอกคุณยายนะถ้าอยากมาเรียนที่นี่”
“ครับ...บ็อบบี้สัญญา”
พิมพรโยกหัวลูกอย่างถูกใจแล้วพากันเดินออกไป โสภิตพูดไม่ออก เดินตามไปอย่างขัดใจ
ooooooo
เช้านี้ ขณะที่จิตราไปตลาดกับอาโป เจอเด็กขี่มอเตอร์ไซค์ประสบอุบัติเหตุ จิตรารีบเข้าปฐมพยาบาลและพาส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลชมว่ารักษา เบื้องต้นดีมาก
ผอ.ให้เจ้าหน้าที่มาเรียกจิตราไปพบ และขอให้เธอกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเพราะเวลานี้คนป่วยมากและขาดพยาบาล
เย็นนี้ ที่บ้านจีรณะจึงมีข่าวดี เมื่อจิตราบอกพี่ชายว่าตนได้กลับไปทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว และจีรณะก็บอกข่าวดีของตนว่า “พี่ก็ได้งานพิเศษเป็นโค้ชบอลที่โรงเรียนเหมือนกัน”
“ดีจัง ต่อไปเราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียทีนะคะพี่จี”
“ใช่...ต่อไปทุกอย่างต้องดีขึ้น” สองพี่น้องกอดกันด้วยความหวัง อาโปมองแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดีใจไปด้วย...
ooooooo
รุ่งขึ้นหลังคืนแต่งงาน ในห้องนอนนิตยา เจ้าตัวนอนอยู่บนเตียง ส่วนยศนอนที่โซฟา เขาลุกขึ้นตะโกนอย่างหัวเสียเมื่อได้ยินเสียงนิตยาวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ
“เฮ้ย เกรงใจกันบ้างสิวะ...หูยยย...กลิ่น...” ยศลุกไปเปิดประตูตะโกน “ใครอยู่ข้างนอกบ้าง มาเช็ดอ้วกนายแกหน่อยซิ กลิ่นอย่างกับหมาเน่า!”
แต่พอยศหันมองไปอีกด้านก็หน้าเสีย เมื่อเห็นผู้ว่าฯ ในชุดทำงานเปิดประตูหันมองแล้วเดินหน้านิ่งไป
ที่ โต๊ะอาหาร ผู้ว่าฯถามคุณนายว่ายังไม่ลงมากันอีกหรือ คุณนายแก้ต่างให้ทั้งลูกสาวและลูกเขยว่า นิตยาทานอาหารเช้าไม่ได้เลยต้องประมาณสิบโมง ส่วนยศคุณนายก็อ้างว่าเมื่อก่อนคงช่วยงานแม่ดึกเลยชินกับการตื่นสาย
“ไม่ จริง...ผมเห็นเศรษฐีที่ไหนเขาก็ทำงานแต่เช้าทั้งนั้น ไอ้พวกตื่นสายมีแต่พวกเสียคนที่พ่อแม่ตามใจ บอกตรงๆเทียบกับลูกคนจนอย่างมนัสยังไม่ได้เลย” คุณนายดักคอว่ารู้สึกมนัสจะเป็นคนโปรดมาก “มันก็ดี ขยัน ตอนนี้ไปรับจ้างทำงานซ่อมรถหลังเลิกงานด้วย กว่าจะเลิกก็ดึก แต่ไม่เคยมาทำงานสาย”
คุณนายเอะใจถามว่ามนัสยังไม่ลาออกอีกหรือ ผู้ว่าฯ บอกว่าลาแล้วแต่ตนไม่ให้ออก เพราะคนดีๆแบบนี้หายาก
คุณนายเกือบพลั้งปากเรื่องมนัสกับนิตยาแต่หยุดไว้ทัน ตัดบทว่า “ฉันไปดูยัยนิดดีกว่า”
ไปที่ห้องนอนนิตยาเห็นยังนอนอยู่ คุณนายสั่งยศว่าเดี๋ยวให้พานิตยาไปหาหมอด้วยเพราะกินอะไรไม่ค่อยลงเลย
ooooooo
ยศพานิตยาไปถึงโรงพยาบาล แล้วไปนั่งรอที่ร้านกาแฟ ไม่สนใจไยดีว่านิตยาจะเป็นอย่างไร จิตรามาเจอเธอกำลังจะอาเจียนเลยรีบเอาถาดรองมาให้ เห็นเดินไม่ค่อยไหวก็หารถเข็นมาให้นั่ง
นิตยาถามว่าเธอกลับมาทำงานที่นี่แล้วหรือ ชมว่า “คุณนี่เด็ดจริงๆนะที่ทำใจได้ แต่แฟนใหม่คุณก็ดูดีกว่ายศจริงๆ ดูสมาร์ทและเป็นโล้เป็นพายกว่าเยอะ” จิตราไม่คุยด้วย ถามว่าจะไปแผนกไหน นิตยาตอบห้วนๆว่า “สูติ”
ยศเดินมาหานิตยา เห็นจิตราเดินออกจากห้องก็รีบเข้าไปทักบอกว่าตนคิดถึงแทบเป็นบ้า แต่จิตราไม่เล่นด้วย เธอพูดตามหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ บอกว่าภรรยาเขาอ่อนแอไม่ควรปล่อยให้อยู่คนเดียว แล้วแนะนำเรื่องอาหาร ในขณะที่ยศก็พยายามที่จะพูดเรื่องส่วนตัว เลยกลายเป็นพูดกันคนละเรื่อง จนก่อนแยกกันจิตราแนะนำว่า
“เดี๋ยวคุณแม่ออกมา คุณไปรอที่ฝ่ายการเงินและห้องยาได้เลย ข้อมูลส่งทางออนไลน์ค่ะ” แนะนำอย่างรับผิดชอบตามหน้าที่แล้วเดินไปเลย ยศเลยยืนเหวอ ไปไม่เป็นเอาเลย
แต่พอพ้นจากสถานการณ์นั้น จิตรากลับหน้าซีดใจหวิว ต้องพยายามสูดลมหายใจยาวๆ ทำใจให้นิ่งเพื่อให้มีสมาธิในการทำงานต่อไป
ooooooo
บ็อบบี้ดีใจมากที่ได้มาเรียนในโรงเรียนที่มีครูจีที่รักและมีเพื่อนวัยเดียวกัน แต่บ็อบบี้ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเพื่อนบางส่วนรังเกียจเพราะเกลียดคุณยายเขาที่โหดเหี้ยมร้ายกาจกับพ่อแม่ของพวกตน
เพราะฐานะทางบ้านดีบ็อบบี้จึงมีของเล่นดีกว่าคนอื่น วันนี้ขณะบ็อบบี้นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ ก็มีเพื่อนๆมามุงดูและขอเล่นด้วย แต่เพื่อนๆแย่งกันเล่นจนโทรศัพท์ตกแตก เด็กเหล่านั้นตกใจต่างวิ่งหนีไปกันคนละทาง บ็อบบี้โมโหเรียกให้กลับมาเพราะทำของตนพัง
หนึ่งในเด็กเหล่านั้นคือเบิ้มที่ท่าทางเอาเรื่อง เบิ้มหันกลับมาตะโกนว่า
“ยายแกรวยจะตาย เดี๋ยวก็ซื้อให้แกใหม่” บ็อบบี้ บอกให้มาขอโทษ “ไม่ขอโทษโว้ย ยายแกเป็นแม่มดรังแกชาวบ้านโดนอย่างนี้สมควรแล้ว”
เบิ้มจะเดินหนี บ็อบบี้ฉุดไว้เลยถูกเบิ้มผลักล้ม พอดีพิมพรเดินมาเห็นโวยวายว่า ทำโทรศัพท์ตกแตกหรือทำไมไม่ระวังเลย บ็อบบี้ไม่ฟ้องแต่ขอโทษแม่แทน พิมพรไม่สนใจชวนไปดูครูจีซ้อมบอลกันดีกว่า
เมื่อพาบ็อบบี้กลับคุ้ม พิมพรให้เดินเข้าทางประตูหลัง อย่าให้คุณยายเห็นแล้วรีบไปอาบน้ำเสีย โสภิตเดินมาเตือนว่าทำอย่างนี้ถ้าแม่รู้ต้องเป็นเรื่องแน่ พิมพรพูดอย่างไม่แยแสว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไร
“ไม่ได้ทำผิด แต่ขัดคำสั่งแม่ พี่ก็รู้แม่ไม่ชอบเขา”
“แต่พี่ชอบ พี่อยากให้เขามาเป็นพ่อบ็อบบี้” พูดแล้วพิมพรถามอย่างท้าทายว่า “ทำไม บอกมาซิว่าเขาไม่ดี ตรงไหน” โสภิตเตือนว่าตนไม่คิดว่าเขาจะจริงใจกับพี่ “นั่นเป็นเรื่องที่พี่ต้องพิสูจน์!” พูดแล้วเดินเชิดไป
“พี่พิม...” โสภิตครางออกมาทั้งโมโหและกลุ้มใจ...
ooooooo
ระหว่างพักกลางวันวันนี้ เบิ้มชวนบ็อบบี้เล่นซ่อนหากัน หลอกบ็อบบี้เข้าไปในห้องเก็บของแล้วใส่กุญแจขังไว้
“บ็อบบี้ หลานแม่มดอมรา กึ๊กกั๊กกื๋ยยยย” เบิ้มล้อแล้วหัวเราะกันสนุกสนาน บ็อบบี้ตกใจทุบประตูปังๆ ตะโกนให้เปิดประตูจนเสียงแหบแห้งก็ไม่มีใครเปิดให้ จนเสียงข้างนอกเงียบไป บ็อบบี้ยิ่งกลัวนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ในนั้น
บ่ายแก่ๆโสภิตนั่งทำงานอยู่ในห้อง ก็ได้รับโทรศัพท์ จากครูแจ้งว่า บ็อบบี้หายไปไม่เห็นตั้งแต่พักกลางวันแล้วบอกว่าพวกเด็กๆก็ไม่มีใครเห็นหรือคุณแม่มารับกลับไปแล้ว
โสภิตโทร.หาพิมพรก็ปิดเครื่อง แต่ไม่คิดว่าพี่สาวจะรับบ็อบบี้มาแล้ว ฉุกคิดถึงจีรณะขึ้นมา เธอรีบไปหาเขาที่สนามโรงเรียน ถามว่าบ็อบบี้อยู่ไหน
ทีแรกจีรณะก็ยียวน แต่พอรู้ว่าบ็อบบี้หายไปก็ตกใจ รีบออกช่วยตามหา
บ็อบบี้เป็นเด็กฉลาดมีไหวพริบ เมื่อร้องขอความช่วยเหลือไม่มีใครได้ยิน เหลียวมองรอบตัวเห็นกองกระดาษบนหลังตู้ จึงปีนขึ้นไปบนหลังตู้เอากระดาษค่อยๆ หย่อนไปตามช่องระบายอากาศทีละใบ...ทีละใบ ส่งสัญญาณให้คนข้างนอกรู้
อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 9 วันที่ 31 ธ.ค. 56
พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรขพรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ