อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 7 วันที่ 25 ธ.ค. 56
แต่หมอตรวจแม่เลี้ยงแล้วบอกว่าคลื่นหัวใจปกติ ความดันสูงเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอันตราย แม่เลี้ยงบอกว่าตนหายใจไม่ออก มองอะไรก็พร่าไปหมด หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะพักผ่อนไม่พอ เดี๋ยวจะฉีดยาบำรุงให้ทั้งพิมพรและยศต่างแย่งกันโวยวายหาว่าหมอรักษาแบบงูๆปลาๆ เพื่อแย่งกันแสดงความห่วงใยแม่ แม่เลี้ยงรู้ทันบอกหมอว่าให้สองคนนี้ออกไปได้ไหม หมอจึงเชิญทั้งสองออกไปเพื่อให้คนไข้ได้พักผ่อน
แม่เลี้ยงทำทีไออาการหนัก หมอบอกว่าแบบนี้คงต้องทำซีทีสแกน เท่านั้นเอง แม่เลี้ยงหายไอทันทีรีบบอกว่าไม่ต้องทำ มันแพง ตอนนี้ตนค่อยยังชั่วแล้ว ให้ฉีดแค่ยาบำรุงก็พอ หมอเจอคนไข้แบบนี้ก็ได้แต่งง
ooooooo
พิมพรกับยศเดินออกมา สารวัตรเจอเลยเข้าไปขอสอบถามข้อมูลบางอย่าง พิมพรเกี่ยงว่าตนเพิ่งมาจากเมืองนอกไม่รู้เรื่องธุรกิจอะไรของแม่ ยศก็อ้างว่าตนทำธุรกิจส่วนตัวไม่รู้เรื่องงานของแม่เลย
พอดีโสภิตมาถึง ยศโบ้ยให้สารวัตรไปถามเธอบอกว่าคนนี้เป็นมือขวาของแม่ถามได้เลย พิมพรก็พูดประชดว่า
“มาได้จังหวะเลย ทำหน้าที่ลูกกตัญญูไปก็แล้วกันยัยภิต”
พอสารวัตรจะเข้ามาสอบถาม โสภิตก็ขอตัวเข้าไปดูแม่ก่อน แล้วจะไปพบสารวัตรที่สถานีตำรวจเอง
แม่เลี้ยงถามชีพว่าตำรวจไปหรือยัง พอรู้ว่ายังก็สั่งชีพให้ไปบอกว่าตนอาการหนักให้การอะไรไม่ได้ พอดีได้ยินเสียงเปิดประตู แม่เลี้ยงนึกว่าตำรวจก็รีบล้มตัวลงนอนครวญครางว่าหายใจไม่ออก
“แม่...เป็นยังไงบ้างคะ หมอว่ายังไงบ้าง” โสภิตถลาเข้ามา พอแม่เลี้ยงได้ยินเสียงโสภิตก็หายป่วยเป็นปลิดทิ้ง เด้งขึ้นมาต่อว่าต่อขานทันทีว่าหายไปไหนมา แล้วสั่งชีพให้รีบไปล็อกประตูห้อง
“นี่แม่ไม่ได้เป็นอะไรเหรอคะ” โสภิตถามงงๆ
ooooooo
จีรณะไปที่โรงพัก จ่าทองเอารูปของกำพลและนารีสองผู้ต้องหาที่มีหลักฐานแน่นหนาคดีหุ้นยางพาราที่อยู่ในคอมพิวเตอร์มีทั้งรายชื่อลูกค้าและบัญชีรับจ่าย
“แล้วเงินจากการฉ้อโกงประชาชนล่ะจ่า”
“เงินหลายสิบล้านถูกถอนเป็นเงินสดออกไปจนหมดภายในสองเดือนกว่าๆ เขาให้การว่าเอาไปให้แม่เลี้ยงอมรา”
จีรณะมองหน้าทั้งสอง จำได้ว่าเคยสวนกันที่บ้านพีรพงษ์ บอกจ่าว่านึกออกแล้วว่าเจอสองคนนี้ที่ไหน
เมื่อจ่าทองเอารูปทั้งสองไปถามพีรพงษ์ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่รู้จักทั้งสองคน แต่พอจ่าทองบอกว่าจีรณะยืนยันว่า เคยเห็นสองคนนี้เข้าออกบ้านนี้ พีรพงษ์เสียงแข็งทันทีว่า
“อ้าว...พวกคุณก็รู้ดีอยู่แล้วนี่ครับว่า ผมเป็นลูกใคร พ่อผมทำงานการเมือง ชาวบ้านคนไหนเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็มาหาคุณพ่อ บ้านเราต้อนรับทุกคนครับ”
จีรณะพูดเนิบๆว่า ตนเคยมาที่นี่จำได้ว่าได้รับการต้อนรับไม่ดีเท่าไหร่ พีรพงษ์ถามว่าเขาเคยมาหรือ จีรณะเลยขอดูกล้องวงจรปิด พีรพงษ์ถามลูกน้องว่าเรามีกล้องด้วยหรือ ลูกน้องบอกว่ามีแต่มันเสียยังไม่ได้ซ่อม
“อะไรวะ ทำไมชุ่ยแบบนี้หา! แล้วถ้าเกิดมีคนร้ายเข้ามาข่มขู่รีดไถ ฉันกับพ่อจะทำไง สมัยนี้ไอ้พวกใช้เครื่องแบบอำนาจหน้าที่เบ่งกับพลเมืองดีนี่ยิ่งเยอะๆอยู่” พีรพงษ์ด่ากระทบทำเอาจ่าทองซีด จีรณะเลยผสมโรงด่าคืนว่า
“ใช่ โดยเฉพาะพวกที่ใช้อำนาจเงินปกปิดความชั่วความเลวของตัวเอง”
“เอ่อ...ผมแค่มาถามข้อมูลเท่านั้น ขอบคุณนะครับที่ให้ความร่วมมือ กลับก่อนเถอะคุณจี” จ่าทองหน้าเจื่อนๆ
“ผมยินดีให้ความร่วมมือเสมอ แต่คราวหน้าติดต่อผ่านทนายนะครับ” พีรพงษ์เย้ยยิ้มๆ
พอออกจากบ้านพีรพงษ์ จ่าทองบ่นว่าซวยแล้วถ้าพีรพงษ์รายงานเบื้องบนตนถูกย้ายแน่ จีรณะถามว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไรจะกลัวทำไม
“ผู้น้อยอย่างผม ทำอะไรก็ผิดหมดแหละ”
“แต่ถ้าผู้น้อยรวมตัวกัน มันก็อาจเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่นะจ่า”
“ฟังคุณจีพูดมันก็ดูดี แต่ถ้าคุณพงษ์ร่วมมือกับแม่เลี้ยงจริง ใครหน้าไหนจะกล้าเอาผิด ชาติหน้าตอนบ่ายๆเถอะ”
จีรณะฟังแล้วขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์จ่าไปเซ็งๆ
ooooooo
โสภิตตกใจเมื่อรู้ว่าเงินที่แม่เลี้ยงสั่งโอนเข้าบัญชีตนนั้นเป็นเงินจากหุ้นยางพารา ถามว่าทำไมแม่ต้องทำเรื่องผิดกฎหมายแบบนี้ด้วย
แม่เลี้ยงตีหน้าเศร้าบอกว่าไม่รู้ว่ามันผิด แต่ไม่ยอมบอกว่าพีรพงษ์เป็นคนชักนำ แล้วอ้อนให้เธอต้องช่วยทำหลักฐานชี้แจงกับตำรวจว่าเงินนี้เป็นเงินถูกกฎหมาย โสภิตบอกว่าตนทำไม่ได้ ก็ถามว่า “นี่แกจะยอมให้แม่ติดคุกเหรอ”
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับคุณภิต นอกจากติกคุก แม่เลี้ยงต้องโดนยึดทรัพย์หมดเนื้อหมดตัว” ชีพขู่
“แม่ลำบากคนเดียวไม่เป็นไร แต่ยัยพิม ตายศแล้วยังมีบ็อบบี้อีก บ็อบบี้จะรับได้ยังไงที่ยายต้องติดคุก ภิตช่วยแม่อีกสักครั้งเถอะนะลูก แล้วแม่จะไม่ขออะไรอีก...นะลูกนะ...ตอนนี้มีภิตคนเดียวที่จะช่วยให้ครอบครัวเราพ้นวิกฤติไปได้”
รุ่งขึ้นโสภิตไปพบสารวัตรที่ห้องสอบสวนตามที่บอกไว้เมื่อวาน สารวัตรเอารูปนารีกับกำพลให้ดู เธอบอกว่าไม่รู้จักสองคนนี้ ไม่เคยพบมาก่อน สารวัตรจึงขอให้ชี้แจงที่มาของเงินห้าสิบล้านบาทที่แม่เลี้ยงโอนเข้าบัญชีเธอ
“อ๋อ...ธุรกิจของแม่มีหลายอย่างในจังหวัดนี้และที่อื่นๆ โดยเฉพาะการให้กู้เงิน ลูกหนี้ชำระหนี้ด้วยการโอนเงินบ้าง จ่ายเป็นเงินสดบ้าง ล่าสุดพี่สาวของฉันเลิกกับสามีชาวต่างชาติมีลูกติดมา ดิฉันมีหน้าที่ดูแลหลานชื่อบ็อบบี้ แม่เลยเอาเงินมาใส่บัญชีฉัน เพื่อให้ไปหาซื้อที่ปลูกบ้าน แล้วก็เก็บไว้เป็นค่าดูแลหลาน” โสภิตชี้แจงเป็นตุเป็นตะ
ส่วนที่สารวัตรบอกว่าผู้ต้องหาสองคนให้การว่า ทำงานให้แม่เลี้ยง เงินสดค่าหุ้นยางทั้งหมดที่ได้มาก็เอาให้แม่เธอหมด โสภิตตอบเลี่ยงๆว่า ตนเป็นเลขาทำงานใกล้ชิดดูแลบัญชีทั้งหมดให้แม่ รายรับทั้งหมดมีหลักฐานที่มา แล้วเอาสมุดบัญชีเงินฝากสามสี่เล่มและซองเอกสารให้สารวัตรตรวจสอบ
ooooooo
จีรณะมาถามจ่าทองว่าแม่เลี้ยงส่งทนายมาหรือเปล่า จ่าบอกว่าเปล่า ก็พอดีโสภิตเดินออกจากห้องสารวัตรผ่านไป สารวัตรเดินตามมา จีรณะรีบเข้าไปถามว่าอัปสรโสภิตว่าอย่างไรบ้าง สารวัตรมองหน้าท่าทีหนักใจ
ออกจากโรงพัก โสภิตขับรถไปจอดที่ริมเขื่อน ฟุบหน้ากับพวงมาลัยอย่างอ่อนล้า เปิดประตูลงไปมองน้ำในเขื่อนอย่างเหม่อลอย พลันก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์แล่นเข้ามาจอด จีรณะลงจากรถเดินไปหยุดข้างหลังเธอ
“ถ้าคุณอยากผลักฉันตกลงไปข้างล่างก็เชิญ” เธอพูดโดยไม่หันมอง จีรณะกระชากเธอหันมาเผชิญหน้า!
“ผมเกือบหลงเชื่อไปแล้วว่าคุณไม่มีส่วนรู้เห็นในความใจดำอำมหิตของแม่คุณ ทำไม...บอกผมมาว่า ทำไมคุณต้องช่วยแม่คุณสร้างหลักฐานเท็จด้วย” เธอยืนยันว่านั่นเป็นหลักฐานจริง “ชื่อของคุณแปลว่านางฟ้า แต่จริงๆแล้วมันตรงกันข้าม คุณมันคือแม่มด!”
พูดแค่นั้นแล้วจีรณะก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ทิ้งโสภิตให้ยืนอย่างโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้น...
ooooooo
คุณวุฒิพ่อของพีรพงษ์กลับบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง พอเจอหน้าลูกชายก็ถามว่าปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้ยังไง
พีรพงษ์รีบบอกว่าถ้าเรื่องแชร์ตนจัดการได้ สองคนนั้นไม่กล้าซัดทอดแน่
“จัดการได้ของแก มันระดับไหนวะ ตำแหน่งฉัน แค่มีข่าวออกมานิดเดียว ไอ้พวกนั้นมันก็พร้อมจะขยี้ฉันเป็นผงแล้ว แกไปเอาไอ้สองคนนั้นออกมาจัดการให้เร็วที่สุด!...แล้วยัยลูกสาวแม่เลี้ยงล่ะ เมื่อไหร่แกจะเอามาเป็นเมียได้เสียที”
พีรพงษ์บ่นว่าโสภิตทั้งหยิ่งทั้งเล่นตัวตนรำคาญเต็มทีแล้ว ถูกคุณวุฒิด่าว่า “ผู้หญิงที่มันจะมาเติมเงินในเซฟของเรากลับไม่มีปัญญา ทำไมแกห่วยอย่างนี้!”
ทันใดนั้น มือถือพีรพงษ์ดังขึ้น เขากดรับนิ่งฟังแล้วตอบรับ “ได้สิครับ ทันทีเลยครับ” แล้วบอกพ่อว่า “โสภิต โทร.มาเชิญผมกับพ่อไปทานข้าวครับ คงจะให้ผมช่วยเรื่องแม่เขา หึๆนึกว่าจะแน่สักแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องมาง้อ”
หารู้ไม่ ทั้งคุณวุฒิและพีรพงษ์ กำลังตกหลุมพรางของโสภิตไม่รู้ตัว!
ooooooo
โสภิตสั่งชีพให้จัดสัญญาเงินกู้และโฉนดของชาวบ้านทุ่งทองมากองเป็นตั้ง แล้วสั่งพรุ่งนี้ให้ตามพวกลูกหนี้มาพบตนทุกคน ชีพถามว่าลูกหนี้อะไร?
“ก็พวกลูกหนี้เจ้าของโฉนดกับพวกกู้เงินของเราน่ะสิ พวกที่เป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ยางพาราบ้าบอพวกนี้ อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง” ชีพติงว่าแม่เลี้ยงไม่เห็นพูดอะไร “แม่ให้ฉันจัดการเรื่องยุ่งๆพวกนี้ ทำตามที่ฉันสั่งก็พอรีบไปจัดการซะ ที่ร้านเดิมตอนเที่ยง”
เมื่อถึงเวลานัด ชาวบ้านพากันมากลัวๆ กล้าๆ โสภิตแจ้งชาวบ้านว่า ตนในฐานะตัวแทนแม่เลี้ยงอมรา ขอประกาศให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับเรื่องสัญญาเงินกู้ที่ทุกคนทำไว้กับแม่เลี้ยง
เสียงฮือฮาอย่างระแวงดังขึ้น บุญมีลุกขึ้นถามว่า “จะมาไม้ไหนอีก ยังไม่เข็ดเหรอคุณอัปสรโสภิต”
“ฉันว่านายบุญมีนั่งลงแล้วก็ฟังฉันพูดต่อให้จบดีกว่า แม่เลี้ยงขอ...ยกเลิกหนี้สินทั้งหมด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยและเราจะคืนโฉนดให้กับทุกคนค่ะ”
บุญมีตะโกนว่าไม่เชื่อแม่เลี้ยงตั้งใจมาหลอกลวงพวกเราแน่ๆ
“ก็ตามใจ แม่เลี้ยงตั้งใจทำบุญหลังฟื้นจากอาการป่วยและก็ยังจะมอบเงินให้ทุกคนไปทำทุนค้าขาย ลงทุนอีกจำนวนหนึ่งด้วย”
คุณวุฒิมาถึงเพิ่งเห็นโสภิตถึงกับชมเปาะว่าสวยสมคำร่ำลือ ถามเธอว่าเชิญตนมาทำอะไรหรือ
“เชิญท่านมาเป็นประธานและพยานในการที่คุณแม่แบ่งปันทรัพย์สินคืนให้กับชาวบ้านค่ะ” เชิญคุณวุฒิไปนั่ง เอาสุนทรพจน์ให้ดูแล้วประกาศกับชาวบ้านว่า “เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ฉันจึงได้ขอให้ท่านคุณวุฒิกับลูกชายกรุณามาเป็นพยานด้วย ถ้าเข้าใจกันแล้วก็เชิญเข้าแถวรอรับเงินและเอกสารได้เลย”
ชาวบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมื่อโสภิตขานชื่อตามสัญญา พอเจ้าตัวออกมาเธอฉีกสัญญาทิ้งต่อหน้าทันที
ชีพสะดุ้งเฮือก รีบกระซิบอะไรกับเส่ง เส่งเลี่ยงออกไปหาแม่เลี้ยงที่โรงพยาบาลทันที
ชาวบ้านพากันชื่นชมยินดี ต่างยกย่องชมเชยแม่เลี้ยงว่าใจดีใจบุญคืนทั้งต้นทั้งดอกแถมโฉนดที่ดิน จะหาคนมีน้ำใจงามอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ขณะโสภิตกำลังฉีกสัญญาเงินกู้และคืนโฉนดที่ดินให้พร้อมเงินทำทุนก้อนหนึ่งแก่ชาวบ้านอยู่นั่นเอง แม่เลี้ยงก็เดินอ้าวหัวฟูเข้ามาถามโสภิตอย่างเกรี้ยวกราดว่า “แกทำอะไรของแก!” แต่พอคุณวุฒิกับพีรพงษ์ทักทาย แม่เลี้ยงก็ปั้นหน้าฉีกยิ้มแทบไม่ทัน
อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 7 วันที่ 25 ธ.ค. 56
พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรขพรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ