อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 1 วันที่ 7 ธ.ค. 56

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 1 วันที่ 7 ธ.ค. 56

เช้าวันสุดท้ายก่อนโรงเรียนปิด จีรณะ หนุ่มเอ็นจีโอ วัย 27 ปี ครูอาสา ใส่เสื้อกล้ามทับด้วยแจ็กเกตฟิลด์ กางเกงยีนส์ปลายขาใส่ในรองเท้าบู๊ต จีรณะยืนอยู่หน้าชั้นเรียนมีนักเรียน 10 กว่าคน

เป็นโรงเรียนในหมู่บ้านเผ่าละหู่ อยู่ท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม มีธงชาติปลิวไสวอยู่บนยอดเสา

ขณะครูจีรณะกำลังกำชับเด็กๆ อย่าลืมหน้าที่ขณะปิดเทอมอยู่นั่นเอง เสียงปืนดังรัวขึ้นหูดับตับไหม้


“ทิ้งร่ม...นักเรียนหมอบเข้าที่กำบัง” จีรณะร้องบอกเด็กที่ตกใจร้องไห้กันระงม

ขณะกำลังตึงเครียดนั่นเอง กำลังตำรวจนำโดยผู้กองเกียรติก้อง ตชด. วัย 27 เพื่อนรักของจีรณะก็นำกำลังมาถึง ทำให้คนร้ายที่กำลังจะเผาโรงเรียนขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไป จีรณะกระโดดขึ้นรถจี๊ปตำรวจตามคนร้ายไป

เด็กๆพากันโผล่หน้าออกมาดู มีครูแหวนกับครูลัดดาในชุด ตชด. ดูแลปลอบโยนเด็กๆที่ยังร้องไห้กันระงม

รถจี๊ปไล่ตามมอเตอร์ไซค์คนร้ายไป พอพวกมันขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามลำธารก็แยกกันไปคนละทาง จ่าตุ๋ยถามผู้กองว่าจะให้ตามคันไหน จีรณะติงว่ามันอาจล่อเรามาซุ่มโจมตีก็ได้ ผู้กองจึงสั่งกลับโรงเรียนเพราะเป็นห่วงเด็กๆ

ooooooo

กลับมาถึงโรงเรียน เด็กๆยังร้องไห้กันกระจองอแง จีรณะถามเด็กๆว่า ใครบ้างที่เคยบอกครูว่าโตขึ้นจะเป็นตำรวจ แล้วขี้แยแบบนี้จะจับผู้ร้ายได้หรือเนี่ย?
จะงอร์บอกว่าผู้ร้ายมีปืน จีรณะจึงพูดกับเด็กทุกคนว่า

“ตำรวจไม่ได้จับผู้ร้ายด้วยปืน แต่ใช้ความกล้าหาญเข้าต่อสู้ ถ้าเรากล้าหาญไม่อ่อนแอ เราก็จะไม่ถูกใครรังแก ไหนใครที่กล้าหาญไม่ร้องไห้บ้าง ขอดูมือหน่อยสิ”

เด็กๆแย่งกันยกมือ ลืมเรื่องคนร้ายไปเลย ครูลัดดา กับครูแหวนยิ้มอย่างเอ็นดูในความน่ารักของเด็กๆ

ผู้กองคาดว่าพวกที่มายิงคงเป็นพวกตัดไม้มาถล่มแก้แค้นที่เรากวดขันจับกุม จีรณะอาสาคืนนี้ขออยู่ยามเฝ้าโรงเรียนเอง ผู้กองติงว่า

“ไอ้จี แกมันแค่ครูอาสา แกมาช่วยฉันสอนหนังสือก็เกรงใจจะแย่แล้ว พรุ่งนี้ก็ปิดเทอมแล้ว แกควรกลับไปดูแลคนที่บ้านบ้าง เขารอแกอยู่นะ ฉันเป็นครูใหญ่ ฉันจะอยู่เฝ้าโรงเรียนเอง”

จีรณะคิดถึงจิตราที่เป็นน้องสาว เขาพยักหน้าเห็นด้วย ขณะนั้นเอง อาโปถือหน้าไม้วิ่งเข้ามาบอกว่าได้ยินเสียงปืนไปถึงไร่ จะมาช่วยนาย จีรณะถามว่ามีอาวุธอะไร อาโปบอกว่ามีหน้าไม้ แต่พอควานหาลูกดอกปรากฏว่าไม่มีเหลืออยู่ในกระบอกเลย ทุกคนเลยหัวเราะทั้งขำทั้งเอ็นดูอาโป จีรณะจึงขอตัวไปเก็บเสื้อผ้า อาโปมองอย่างสงสัยว่าเขาจะไปไหน

พอจีรณะสะพายเป้ออกมา อาโปถามว่านายจะไปไหน พอรู้ว่าเขาจะกลับบ้านอาโปขอตามไปด้วย บอกว่านายอยู่ไหนอาโปจะอยู่ที่นั่น จีรณะบอกอาโปให้ไปขออนุญาตพ่อแม่ก่อน ให้เขียนเป็นจดหมายเซ็นชื่อหรือปั๊มลายมือก็ได้ อาโปถามว่าถ้าทำตามนั้นนายจะให้ไปด้วยใช่ไหม เขาบอกว่า “คำไหนคำนั้น”
พออาโปไป ผู้กองติงเขาว่าไม่น่าไปโกหก เด็กจะผิดหวัง

“หรือแกอยากให้ฉันพาไปอยู่ด้วยจริงๆ จะมู พ่อของอาโปก็ยังป่วยอยู่ ส่วนแม่ก็เลี้ยงหมูหาของป่าอยู่คนเดียว อาโปควรอยู่ช่วยแม่ทำงานน่ะดีแล้ว”

“แต่ก็ควรพูดตรงไปตรงมา อาโปทั้งรักและไว้ใจแกมากที่สุด อย่าทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของลูกศิษย์”

“คุณครูใหญ่ครับ อาโปจะอยู่กับโลกสีขาวอย่างเดียวไม่ได้ ความผิดหวังก็เป็นอีกบทเรียนที่เขาต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องความรัก” ผู้กองมองหน้าถามว่าแกรู้?? “ฉันไม่ได้ตาบอดนี่หว่า ไปเว้ย รับหน้าแทนด้วยละกัน”

“ระวังตัวด้วยนะเว้ย ถ้าฝนตกก็หาที่หลบฝนก่อน อย่าตะบึงฝ่าไป เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุ” ผู้กองตะโกนตามหลังไป

ooooooo

อัปสรโสภิต ลูกสาวคนเล็กของแม่เลี้ยงอมรา ถูกเรียกตัวกลับบ้านด่วนเพราะแม่เลี้ยงเกิดป่วยกะทันหัน เธอโทร.บอกชีพมือขวาของแม่เลี้ยงว่าใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว

ระหว่างทางเธอโทร.ถามชีพว่าโทร.ตามยศพี่ชายคนกลางหรือยัง ฟังปลายสายแล้วเสียงเข้มใส่ว่า ถึงทำงานอยู่ก็ต้องมาถึงก่อนแม่เข้าห้องผ่าตัด จากนั้นโทร.เบอร์ด่วนถึงพวง ให้มาเอากระเป๋าเสื้อผ้ากลับบ้าน คืนนี้ตนจะเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล

แต่ระหว่างทาง เธอถูกบุญมี ดุ่ย กับไทรลูกหนี้ของอมรามาดักปล้น เธอถูกโปะยาสลบ แล้วดุ่ยก็อุ้มไปไว้ที่ท้ายรถกระบะเอากระสอบคลุมนั่งประกบ แต่ไม่นาน โสภิตรู้สึกตัวสะบัดกระสอบปลิวไปและพยายามลุกขึ้น ดุ่ยกับไทรช่วยกันจับตัวเธอไว้ จีรณะที่ขับมอเตอร์ไซค์ตามมาเห็นเหตุการณ์ ดุ่ยกับไทรรีบดึงหมวกไหมพรม

ลงมาพรางหน้า โสภิตดิ้นสุดแรง จีรณะเร่งตามไป สั่งให้หยุดรถ

“คุณจี” บุญมีที่เป็นเพื่อนบ้านจีรณะอุทาน แล้วรีบเร่งเครื่องเลี้ยวโค้งจนจีรณะตามไม่ทัน เมื่อบุญมีขับรถไปถึงที่เปลี่ยวก็บอกดุ่ยกับไทรให้โยนโสภิตลงไป โสภิตถูกโยนทิ้งลงไปกลางถนน แล้วบุญมีก็เร่งเครื่องหนีหายไป

จีรณะขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งเข้ามาไม่เห็นร่างโสภิต เธอหวิดร้องคิดว่าต้องถูกรถทับแน่ ตกใจเป็นลมอยู่กลางถนน

จีรณะเบรกรถแทบไม่ทัน เขารีบเข้าไปดูโสภิต เห็นนอนหมดสติกระดุมเสื้อหลุดเหลือเม็ดเดียวที่ลิ้นปี่

ooooooo

อุ้มร่างไม่ได้สติของโสภิตไปที่ใต้ต้นไม้ริมถนนแล้ว จีรณะโทร.มือถือพลางเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนสำรวจภูมิประเทศ จากนั้นรีบมาดูโสภิต ตบแก้มเบาๆเรียกสติเธอ

ชายหนุ่มมาคุกเข่าข้างโสภิต เห็นกระดุมเสื้อเธอหลุดจึงติดให้ตั้งแต่เม็ดล่างขึ้นมา พอติดถึงเม็ดสุดท้าย โสภิตรู้สึกตัวเธอเอี้ยวตัวหลบถีบเปรี้ยงจนจีรณะหงายผลึ่ง!

“อูยยยย...ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ” ชายหนุ่มบ่นเดินเข้ามายืนค้ำหัวเธอ

“อยากได้เงินก็เอาไปเลย แต่ขอร้องนะอย่าทำร้ายฉัน” โสภิตต่อรองเพราะคิดว่าเขาลักพาตัวเธอมาปล้นข่มขืนพยายามเกลี้ยกล่อมให้คิดถึงอนาคต คิดถึงโทษที่จะต้องได้รับ หรือถูกตำรวจตามล่าและถ้าหนีไม่รอดก็ต้องติดคุก จีรณะถามขำๆว่าแค่นี้เองหรือ เธอเห็นเขาไม่กลัวเลยขู่ “สุดท้ายคุณอาจติดโรคจากฉัน ฉันเป็นเอดส์”

เห็นจีรณะไม่กลัวซ้ำยังกลั้นขำ เธอบอกว่าถ้าไม่เชื่อก็ดูใบรับรองแพทย์ในกระเป๋า เธอยื่นกระเป๋าถือให้ พอจีรณะก้มเปิดกระเป๋า เธอพรวดขึ้นแย่งปืนจากเขาจ่อสั่ง “ยกมือขึ้น ถอยไป ไม่งั้นฉันยิง!”

จีรณะยกมือและถอยออกไป บอกเธอว่า “คุณยังไม่ได้ขึ้นนก นิ้วคุณยังไม่สอดเข้าไปในไกปืน แล้วจะยิงได้ยังไงกัน” ถูกจับได้ว่ายิงปืนไม่เป็น โสภิตก็ตื่นเต้นจนมือสั่น จีรณะเดินเข้าหาบอกว่าจะช่วยสอนให้ โสภิตตกใจหลับตาปี๋จะยิงมั่วแต่จีรณะไวกว่า พุ่งเข้ารวบตัว จับปืนชี้ฟ้า อีกมือจับเอวเธอหมุนให้หลังอิงอกตัวเอง แล้วกุมมือถือปืนของเธอที่ปืนชี้ฟ้าอยู่

“เปรี้ยง!” ปืนลั่นขึ้น โสภิตช็อก มองอีกทีปืนอยู่ในมือจีรณะแล้ว

“ปืนมันใช้ไม่ง่าย เหมือนทาลิปสติกนะคุณ ถ้าใช้ไม่เป็นอย่าริลองจะดีกว่า”

พอดีเสียงไซเรนรถตำรวจแว่วมา อึดใจเดียวรถก็มาจอด จีรณะลดปืนลงคลายมือจากเอวโสภิต เธอสะบัดหนีวิ่งไปหาจ่าทองกับดาบม้วน ร้องอย่างตระหนก พลางชี้ไปทางจีรณะที่ยืนเฉยอยู่ “ช่วยด้วยค่ะ ไอ้หมอนี่จะข่มขืนฉัน!!”

ทั้งหมดพากันไปโรงพัก ดาบม้วนพาโสภิตไปที่โต๊ะสิบเวร ถามว่าแน่ใจหรือว่าชายคนนี้เป็นหนึ่งในโจรเรียกค่าไถ่และยังคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ
โสภิตเล่าฉอดๆถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าคนนี้เป็นหนึ่งในคนร้ายแน่ๆ ย้ำว่าเขาโปะยาสลบแล้วพยายามจะข่มขืนตน

บัวหอมแม่ค้าขายกาแฟโบราณที่หิ้วกาแฟมาส่งบนโรงพักได้ยิน มองขวับสวนทันควันว่า “คุณจีเนี่ยนะ?!” พอเธอยืนยัน ทั้งตำรวจและแม่ค้าก็พากันขำ โสภิตฉุนถามว่าขำอะไร! ดาบม้วนลุกยืนพูดอย่างไม่เกรงใจว่า

“ขำที่มันเป็นไปไม่ได้ คุณจีที่คุณกล่าวหาอยู่นี่ เป็นลูกขอครูเจือ ครูเจือเป็นที่เคารพนับถือของคนที่นี่ ลูกศิษย์ลูกหาเยอะแยะ รวมถึงผมด้วย”

สิ้นเสียงดาบม้วน ทั้งจ่าทอง บัวหอม สายพิณครูเก่าที่ออกมาขายของชำ และชาวบ้านอีกหลายคนบนโรงพักก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกตนก็เป็นลูกศิษย์ครูเจือ

โสภิตหน้าเจื่อนแต่ยังใจเย็นสู้ โต้ว่าไม่เห็นเกี่ยวกันพ่อก็พ่อ ลูกก็ลูก จ่าทองบอกว่า

“คุณจีเขาทำงานอนุรักษ์ป่า ทำวิจัยมีผลงานมากมาย ได้รางวัลบุคคลตัวอย่างจากท่านผู้ว่า”

“แถมยังมีจิตอาสาไปช่วยสอนหนังสือให้เด็กชาวเขาที่โรงเรียน ตชด.บนดอยอีก คุณจำคนผิดแล้วล่ะ” ดาบม้วน เสริม โสภิตยืนยันด้วยเสียงอ่อนลงว่า จีรณะบอกว่าไม่ต้องการเงินและยังคิดจะถอดเสื้อตนด้วย

“ผมขอย้ำว่าคุณจินตนาการไปเองทั้งนั้น” จีรณะที่ทนฟังอยู่นานพูดแทรกขึ้น

ทั้งตำรวจและชาวบ้านรับรองกันทั้งโรงพักว่าจีรณะเป็นคนดี โสภิตหาว่าพวกนี้เข้าข้างกันเองจะฟ้องเอาผิดทุกคน โดยเฉพาะตำรวจฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แล้วหยิบบัตรประชาชนวางแหมะไว้บนโต๊ะ ดาบม้วนหยิบดู พอเห็นชัดก็จังงัง

“อัปสรโสภิต เจริญโภคทรัพย์” ดาบถามว่า “คุณเป็นอะไรกับแม่เลี้ยงอมรา”

พอทุกคนได้ยินชื่อแม่เลี้ยงอมราเท่านั้น ก็พากันตะลึงอุทานราวกับเห็นมัจจุราช “แม่เลี้ยงอมรา!!”

“ใช่ แม่เลี้ยงอมราคือแม่ฉันเอง”

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 1 วันที่ 7 ธ.ค. 56

พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรข
พรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ