อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 8 วันที่ 26 ธ.ค. 56

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 8 วันที่ 26 ธ.ค. 56

ขณะโสภิตกำลังฉีกสัญญาเงินกู้และคืนโฉนดที่ดินให้พร้อมเงินทำทุนก้อนหนึ่งแก่ชาวบ้านอยู่นั่นเอง แม่เลี้ยงก็เดินอ้าวหัวฟูเข้ามาถามโสภิตอย่างเกรี้ยวกราดว่า “แกทำอะไรของแก!” แต่พอคุณวุฒิกับพีรพงษ์ทักทาย แม่เลี้ยงก็ปั้นหน้าฉีกยิ้มแทบไม่ทัน

ปรากฏว่าทั้งคุณวุฒิ พีรพงษ์และแม่เลี้ยงต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาทำอะไร เลยมองกันงงๆ โสภิตดำเนินการต่อไป เสร็จแล้วเอ่ยเชิญ


“ท่านคุณวุฒิคะ เชิญท่านให้เกียรติกล่าวกับชาวบ้านสักเล็กน้อยค่ะ” แล้วเดินมาประคองแม่เลี้ยงลุกยืน “แม่ยืนข้างๆท่านคุณวุฒินะคะ จะได้ถ่ายรูป”

แม่เลี้ยงอึกอักแต่ไม่กล้าโวยวาย ยืนมองคุณวุฒิกางโพยอ่านงงๆ

“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่รักเคารพทุกท่าน ผมคุณวุฒิ มีความยินดีที่ได้มาเป็นประธานและพยานงานแบ่งปันทรัพย์สินคืนชาวบ้านของแม่เลี้ยงอมราให้แก่พี่น้องในวันนี้ โอ้โห...กว่าห้าสิบล้านบาทครับ ขนาดป่วยก็ยังมา ขอขอบคุณแทนชาวบ้านด้วยครับ”

ชาวบ้านพากันยกย่องสดุดีแม่เลี้ยงเป็นการใหญ่ แม่เลี้ยงจะอาละวาดก็ไม่กล้าเพราะอยู่ต่อหน้านักการเมืองและชาวบ้านจำนวนมาก ได้แต่พูดขัดอ้อมๆแอ้มๆสุดท้ายหันถามพีรพงษ์ว่าทำไมไม่ห้ามน้อง พีรพงษ์จึงรู้ว่าที่แท้ เรื่องนี้โสภิตทำเองทั้งหมด

บุญมีไปเล่าให้จีรณะฟังที่สำนักงานเรื่องแม่เลี้ยงคืนโฉนด ยกหนี้และให้เงินทำทุนแก่ชาวบ้านก็ไม่เชื่อบอกว่าเป็นไปไม่ได้

บุญมีชื่นชมว่าทั้งหมดนี้เพราะ ‘ฝีมือ’ ของจีรณะแท้ๆพอเขาปฏิเสธ บุญมีก็ยิ้มกรุ้มกริ่มบอกว่าเรื่อง

คืนนั้นไง จีรณะตกใจถามว่าบุญมีคงไม่ได้บอกอะไรชาวบ้านเรื่องที่จับตัวโสภิตไปใช่ไหม พอบุญมีบอกว่ายัง จีรณะย้ำว่า

“อย่านะน้า เรื่องนี้เราทำผิดกฎหมาย คุณภิตเขาไม่แจ้งความก็บุญแล้ว”

“เออ...ไม่บอกก็ไม่บอกซิวะ ไป...ไปฉลองกันดีกว่า ต่อไปนี้ชาวทุ่งทองพ้นทุกข์พ้นโศกแล้วโว้ย...” บุญมีเดินไปอย่างร่าเริงบันเทิงใจมาก

ooooooo

เมื่อโสภิตกลับถึงคุ้ม ถูกแม่เลี้ยงเรียกไปดุด่าว่า กล่าวอย่างรุนแรงที่เอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปแจกจ่ายชาวบ้านถึงห้าสิบกว่าล้าน

โสภิตบอกแม่เลี้ยงว่าลำบากอย่างไรก็ยังดีกว่าไปลำบากในคุก บอกแม่เลี้ยงว่าเรายังมีโอกาสหาเงินด้วยวิธีสุจริตไม่ต้องไปเอาเปรียบคดโกงใครได้อีก แม่เลี้ยงบอกว่าพวกนั้นไม่มีหลักฐาน จะกลัวอะไร

“คนทำความผิดไม่มีทางปกปิดหลักฐานได้ทั้งหมดหรอกค่ะ ถ้าธนาคารแจ้ง ปปง.เมื่อไหร่เป็นคดีความขึ้นมา นอกจากจะติดคุกแล้ว เราจะถูกยึดทรัพย์สินในธนาคารด้วย ที่ภิตคืนเงินคืนทรัพย์สินให้ชาวบ้านเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วค่ะ อย่างน้อยศาลท่านอาจจะเมตตาเราบ้าง” พูดแล้วเดินเข้าเรือนไปเลย

แม่เลี้ยงมองตามอย่างขัดใจ แต่ก็ทำได้แต่บ่น “ยัยนี่เพี้ยนไปแล้วจริงๆ”

เพื่อความกระจ่างในเรื่องที่บุญมีเล่า คืนนี้จีรณะจึงไปยืนที่ริมรั้วคุ้มแม่เลี้ยงแล้วโทร.เข้ามือถือโสภิตบอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วย เธออ้างว่าจะนอนแล้ว แต่พอเขาขู่ว่าถ้าไม่ลงมาก็จะปีนหน้าต่างขึ้นไปหาเดี๋ยวนี้ เธอตกใจเลยรีบลงมาคุย

“วันนี้คุณทำได้ดีนี่ ฟอกตัวเป็นนางเอกทั้งแม่ทั้งลูก มีนักการเมืองใหญ่มาเป็นตัวประกอบยืนยันความดีพร้อมลูกชาย เจ้าบ่าวในอนาคตของคุณ”

โสภิตพยายามที่จะพูดให้เขาเข้าใจตามที่เธอประกาศแก่ชาวบ้านว่าทำเพราะแม่กำลังป่วยและอยาก ทำบุญจีรณะหัวเราะเยาะว่าตนไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนจะได้ เชื่อเหตุผลของเธอ

“ทำไมคุณจะต้องโมโหด้วย คุณด่าแม่ฉันว่าใจยักษ์ใจมาร พอแม่ฉันใจบุญ คุณก็ไม่พอใจอีก”

“ถ้าคุณเชื่อในกฎแห่งกรรม คุณก็ควรจะรู้ว่า บุญกับบาปมันแยกกัน บาปที่แม่คุณกับนายพงษ์ก่อกรรมทำเข็ญกับชาวบ้าน เงินแค่นี้มันล้างไม่หมดหรอก”

โสภิตโต้ว่าถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนเพราะยังไงกรรมก็ต้องสนองพวกตนอยู่แล้ว จีรณะสวนทันทีว่าตนอยากเป็นยมทูตลากเธอลงนรกให้เร็วขึ้น แล้วกระชากเธอเข้าหาตัว ท้าว่าเก่งจริงก็ร้องเลย ตอนนี้ชาวบ้านก็ คิดว่าตนเป็นเขยแม่เลี้ยงอยู่แล้ว เพราะคืนนั้นถ้าใครรู้ว่าเราติดอยู่ในป่าด้วยกันทั้งคืน ใครจะเชื่อว่าเธอรอดปลอดภัย?

พลันทั้งสองก็ตกใจผงะเมื่อยศขับรถกลับมาได้ยินเสียงคนคุยกัน เขาตะโกนถาม “เฮ้ย! ใครอยู่ตรงนั้น!”

โสภิตไล่ให้จีรณะรีบไปเสียก่อนที่จะเกิดเรื่อง ก่อนไปจีรณะยังขู่สำทับว่า

“อย่าลืมว่าผมยังมีพยานสองผัวเมียนั่นอยู่ ผมไม่ปล่อยให้คนอย่างแม่เลี้ยงลอยนวลไปได้ง่ายๆหรอก ขอให้โชคดีตอนขึ้นศาลก็แล้วกัน” แล้วเขาก็เดินหายไปในความมืด เป็นจังหวะที่ยศเดินมาถึงพอดีถามโสภิตว่าออกมาทำอะไร โสภิตปดว่าเอาของมาให้หมาจรจัดแถวนี้กิน แล้วเดินเข้าบ้านไป

ยศตามมาดักคอว่าหมาอะไรมีสองขา แล้วขอเงิน 5 แสน โสภิตบอกว่าตนมีไม่พอ ยศก็ลดลงเหลือแสนเดียว เธอถามว่าจะเอาไปซื้ออะไร ก็ถูกปรามว่าอย่ายุ่งกับเรื่องของตน ถามว่ามีหรือไม่ถ้าไม่ถึงแสนไม่ยอม! โสภิตจึงรับปากจะโอนให้วันพรุ่งนี้ โดยรวมเงินเดือนของเขาด้วย

“ก็ยังดี...ตกลงผู้ชายคนนั้นมันแฟนแกเหรอ ถึงยอมจ่ายเงินง่ายๆอย่างนี้!”

โสภิตหันหลังเดินเข้าบ้านไป ยศมองตามอย่างจับผิด

ooooooo

พีรพงษ์บอกคุณวุฒิว่า ชีพบอกว่าแม่เลี้ยงไม่รู้เรื่องที่โสภิตจัดการแต่อย่างใด คุณวุฒิชมว่าโสภิตฉลาด ใจถึง ยอมเสียเงินล้างผิด คราวนี้ก็เหลือแค่พยานบุคคล

“พรุ่งนี้ผมให้มืออาชีพไปจัดการแล้วครับ พ่อไม่ต้องห่วง”

วันรุ่งขึ้น เมื่อจีรณะไปที่โรงพัก ปรากฏว่ามีคนมาประกันสองผัวเมียออกไปแล้ว จีรณะรู้ทันทีว่านี่เป็นการทำลายหลักฐานสำคัญของแม่เลี้ยง ถามดาบม้วนกับ

จ่าทองว่ามีที่อยู่ของสองคนนั้นไหม แต่เมื่อพากันไปที่บ้าน ไม่พบใครแล้ว

สองผัวเมียถูกพาไปที่ป่า ถูกบังคับให้ลงไปคุกเข่าอยู่ในหลุมลึกเกือบสองฟุต สองผัวเมียอ้อนวอนขอชีวิต ถูกพงษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังยิงตายทั้งที่ยังร้องขอชีวิตอยู่!

ooooooo

คุณนายจับได้ว่านิตยาไปนอนกับมนัส มนัสกราบขอขมาคุณนาย และขอรับผิดชอบทุกอย่าง ถูกคุณนายหัวเราะเยาะว่า เป็นแค่ลูกคนขายข้าวแกงจะเอาอะไรมารับผิดชอบ!

นิตยายืนยันจะขออยู่กินกับมนัส เพราะตนท้องได้สองเดือนแล้ว บอกว่ายากจนเข็ญใจอย่างไรตนก็จะทน อย่างน้อยตนก็ได้เลือกคนที่รักด้วยตัวเอง

“ฉันชอบนักพวกบูชาความรักอย่างแก” แม่เลี้ยงมองนิตยาอย่างเลือดเย็น

แล้วแม่เลี้ยงก็พานิตยาไปที่บ้านมนัส พบสภาพที่น่าสมเพช เพราะแม่ติดเหล้า พ่อขายข้าวแกง น้องๆมอมแมมกินอาหารกันอย่างมูมมาม นิตยาเห็นแล้วทำหน้าสยอง คุณนายถามประชดว่าหิวไหม ไหนๆก็จะมาดองด้วยแล้ว จะกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับเขาไหม

นิตยาเบ้หน้าเบือนหนีอย่างสยอง

หลังจากยศได้เงินที่ขู่เอาจากโสภิตแล้ว เขาบอกให้จิตราลาออกจากงาน และซื้อแหวนเพชรหมั้นกันเอง

คุณนายพานิตยาไปดูสภาพบ้านของมนัสจน

นิตยาสยองแล้ว วันนี้ผ่านร้านกาแฟเห็นแม่เลี้ยงกับชีพกำลังตรวจบัญชีลูกหนี้กันอยู่ จึงทำทีเดินเฉียดไปหมายจะให้แม่เลี้ยงเห็น แต่เฉียดครั้งแรกแม่เลี้ยงไม่เห็น เลยแกล้งเฉียดอีกครั้ง คราวนี้สำเร็จ

“สวัสดีค่ะคุณนาย” แม่เลี้ยงรีบลุกไปไหว้ คุณนายก็ทำทีดีใจที่บังเอิญเจอกัน พอสั่งน้ำส้มมาให้คุณนายแล้ว แม่เลี้ยงก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นว่า “ดิฉันรู้สึกผิดจริงๆ เรื่องความเหลวไหลของตายศที่ทำกับหนูนิด ต้องกราบขออภัยคุณนายอีกครั้ง”

“ตอนแรกฉันก็โกรธมาก อยากให้ยัยนิดตัดขาดจากนายยศ แต่พอรู้ความจริงก็ทำไม่ลง” แม่เลี้ยงตกใจถามว่า ความจริงอะไร คุณนายมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวังแล้วกระซิบกระซาบ แม่เลี้ยงฟังแล้วตาโตถามว่าจริงหรือ คุณนายตีหน้าขรึมบอกว่า “เรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ฉันไม่มาพูดเล่นหรอกค่ะ หรือว่าคุณนายไม่เชื่อในเกียรติของยัยนิด”

“ไม่ค่ะ ไม่...เชื่อซิคะ แล้วยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่างด้วย” แม่เลี้ยงรีบตกปากรับคำ

ooooooo

โสภิตถูกแม่เลี้ยงดุด่าว่ากล่าวกระทั่งไม่อยากเห็นหน้าที่เอาเงินไปแจกชาวบ้าน โสภิตบอกว่าตนรู้ เลยพยายามทำบัญชีให้เรียบร้อย และให้แม่เลี้ยงหาคนอื่นมาทำแทน เพราะตนไม่มีความสามารถเป็นผู้ช่วยแม่ได้อีกแล้ว

แม่เลี้ยงโวยวายหาว่าทำความเสียหายแล้วไม่รับผิดชอบ บังคับให้ต้องรับผิดชอบทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาได้เหมือนเดิม

“นั่นละค่ะที่ภิตทำไม่ได้ ให้พี่พิม หรือพี่ยศทำเถอะค่ะ”

“โอ้ย...สองคนนั่นไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะนายยศมันกำลังจะเป็นลูกเขยผู้ว่า มาแตะเรื่องแบบนี้ไม่ได้แล้ว” โสภิตตกใจ แม่เลี้ยงย้ำว่า “แกฟังไม่ผิดหรอกยัยภิต วันนี้คุณนายผู้ว่ามาเจรจาเรื่องงานแต่งกับฉันแล้ว”

แม่เลี้ยงก็รอยศจนดึก พอเขากลับมาแม่เลี้ยงเรียกไปถามว่าไปก่อเรื่องอะไรไว้ ยศมองหน้าแม่งงๆบอกว่าตนไม่เข้าใจ แม่เลี้ยงโผเข้ากอด “แหม...มีทีเด็ดก็ไม่บอกแม่บอกเชื้อ เรื่องใหญ่ขนาดนี้คิดว่าปิดฉันได้เหรอ”

“แม่รู้เหรอ??”

“ก็เออน่ะซิ ฉันหาฤกษ์มาเรียบร้อยแล้วด้วย ศุกร์นี้หมั้นแต่งเย็นเลย”

“หมายความว่าแม่ยอมให้ผมแต่งงานแล้ว” ยศดีใจมาก แม่เลี้ยงถามว่าถึงขนาดนี้แล้วจะไม่ยอมได้ไง ยศคุกเข่าลงตรงหน้าแม่เลี้ยง พูดอย่างดีใจจนเสียงสั่นเครือ

“ขอบคุณครับแม่...แม่ใจดีที่สุดในโลก ผมรักแม่...” หันไปเห็นโสภิตเดินเข้ามาก็ละล่ำละลักบอก “ยัยภิต...ในที่สุดพี่ก็ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่พี่รักแล้ว ไชโยๆๆๆ!!” ยศวิ่งอ้าวออกไปอย่างดีใจสุดๆ

แม่เลี้ยงมองยศอย่างสุดปลื้ม พวงถามว่ายศจะแต่งงานกับนิตยาหรือ แม่เลี้ยงตอบอย่างตื่นเต้นด้วยเสียงดังฟังชัดว่า

“ก็ใช่น่ะสิ หนูนิดท้องกับตายศได้เกือบสองเดือนแล้ว ไปเอาโทรศัพท์ฉันมายัยพวง เดี๋ยวฉันจะโทร.ไปบอกหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก่อน”


“คุณนิตท้องเหรอ...” โสภิตพึมพำ

ooooooo

ยศไปหาจิตราที่บ้าน หลังจากบอกข่าวดีเธอแล้ว ก็นั่งรอจีรณะเพื่อจะบอกกันต่อหน้า แต่จิตราโทร.หาจีรณะไม่ติดระหว่างนั้น อาโปกำลังรดน้ำต้นไม้ ทั้งเกลียด ทั้งหมั่นไส้ยศเลยแกล้งฉีดน้ำใส่ ถูกจิตราดุก็โพล่งระบายอารมณ์ว่า

“ก็ตานี่มีแต่พาเรื่องเดือดร้อนมาให้นายมาให้บ้านนี้ ต้องไล่มันออกไปชู่ว์ๆๆออกไป...ออกไป!”

จิตราบอกยศว่าเรื่องของเราตนจะเป็นคนบอกจีรณะเองดีกว่า แล้วให้เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย ยศหอมแก้มจิตราก่อนลุกไป อาโปมองอึ้งพึมพำอย่างรับไม่ได้ “อะไรกันเนี่ย??” แล้วพยายามโทร.หาจีรณะแต่โทร.ไม่ติด อาโปบ่นหงุดหงิด “นายปิดโทรศัพท์ทำไมนะ จะฟ้องเรื่องนายยศซะหน่อย”

ที่แท้จีรณะอยู่บนภูกับผู้กองเกียรติก้อง เขาไประบายความท้อแท้กับเพื่อนว่า การทำงานที่ผ่านมามีแต่แพ้แล้วแพ้อีก จนผู้กองต้องปลุกปลอบใจกันอยู่พักใหญ่ ให้ระลึกถึงครูเจือพ่อของเขาเองที่สอนเสมอว่า “ถ้าเราเลือกเดินทางที่ถูก ถึงจะช้าลำบาก แต่สักวันเราจะไปถึงจุดหมาย” จึงค่อยมีกำลังใจขึ้น

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น...บรรยากาศในตลาดคึกคักเป็นพิเศษกับข่าวลูกชายแม่เลี้ยงจะแต่งงานกับลูกสาวผู้ว่าในหน้าหนังสือพิมพ์ จิตราจะมาซื้อกาแฟ ยืนรออยู่ข้างรถเข็นของบัวหอม ได้ยินดาบม้วนคุยกับบัวหอมว่า

“งานนี้งานช้าง ลูกสาวผู้ว่าแต่งกับลูกชายแม่เลี้ยง” ดาบพูดตามองหนังสือพิมพ์ที่มีรูปของทั้งสองคน

“คั่วกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ รู้แต่ว่าตะก่อนมีคดีพิศวาส กับหนูจิตรา น้องสาวคุณจี” บัวหอมพูดอย่างรู้ดี

“อาโปมันอู้ว่าเดี๋ยวนี้ก็ยังเทียวไปเทียวมาอยู่ เดี๋ยวก็มีข่าวเป็นมือที่สามเหมือนพวกดาราหรอก คุณจีนะคุณจีนิสัยแกดี๊...ดี มีน้องสาวทั้งที เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน” สายพิณยิ่งพูดยิ่งมัน

หนานเทืองเห็นจิตรายืนอยู่ ก็ส่งสัญญาณให้รู้ มวลหมู่หันมอง พอดีจิตราหันหลังเดินออกไปแล้ว ทุกคน มองหน้ากันเจื่อนๆจ๋อยๆ

ooooooo

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 8 วันที่ 26 ธ.ค. 56

พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรข
พรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ