อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 9 วันที่ 1 ม.ค. 57

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 9 วันที่ 1 ม.ค. 57

บ็อบบี้เป็นเด็กฉลาดมีไหวพริบ เมื่อร้องขอความช่วยเหลือไม่มีใครได้ยิน เหลียวมองรอบตัวเห็นกองกระดาษบนหลังตู้ จึงปีนขึ้นไปบนหลังตู้เอากระดาษค่อยๆ หย่อนไปตามช่องระบายอากาศทีละใบ...ทีละใบ ส่งสัญญาณให้คนข้างนอกรู้

จีรณะก็เดินเป่านกหวีดส่งสัญญาณไปรอบๆ บ็อบบี้ได้ยินเสียงนกหวีดรู้ว่าครูจีมาแถวนี้ ก็ทั้งหย่อนกระดาษและกระทืบตู้ให้มีเสียงดัง

ได้ผล! จีรณะเห็นกระดาษปลิวออกจากปล่องระบายอากาศและได้ยินเสียงปึงปัง เขารีบไปตามเสียงจนถึงหน้าห้อง


“บ็อบบี้...บ็อบบี้อยู่ในนั้นใช่ไหม”

“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยครับครูจี” บ็อบบี้ตะโกนสุดเสียง ได้ยินเสียงถอดกุญแจ แล้วเปิดประตูเข้ามา บ็อบบี้พุ่งออกไปกอดจีรณะร้องไห้สะอึกสะอื้น จีรณะกอดไว้ปลอบว่าไม่ต้องกลัว ครูมาช่วยแล้ว ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้...

เมื่อจีรณะพาบ็อบบี้ไปส่งให้พิมพรและโสภิตที่กำลังเดินตามหาอยู่ พิมพรซาบซึ้งใจมาก ขอบคุณเขาครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าสามครั้งแล้วที่เขาช่วยบ็อบบี้ไว้ เขาคือวีรบุรุษของพวกตน พิมพรพร่ำพรรณนาเสียจนโสภิตแอบหมั่นไส้

หลังจากเอาอาหารและน้ำให้บ็อบบี้กินจนมีแรงแล้ว พิมพรถามว่าใครเป็นคนขังลูก บ็อบบี้บอกว่าจำไม่ได้ โสภิตขู่ว่าถ้าไม่บอกต่อไปบ็อบบี้ก็ต้องถูกทำแบบนี้อีก ถ้าคุณยายรู้บ็อบบี้ก็อาจจะไม่ได้มาเรียนที่นี่ บ็อบบี้ตกใจกลัวจะไม่ได้มาเรียน จีรณะจึงขอพาบ็อบบี้ไปเดินเล่นสักพัก

ooooooo

จีรณะหว่านล้อมบ็อบบี้ขณะพาไปเดินเล่นว่า ที่ไม่ยอมบอกว่าถูกใครแกล้งเพราะกลัวว่าพวกนั้น

ถูกลงโทษแล้วจะยิ่งเกลียดบ็อบบี้ใช่ไหม เมื่อบ็อบบี้ยอมรับ เขาถามอีกว่า แล้วรู้ไหมว่าทำไมเพื่อนๆถึงไม่ชอบบ็อบบี้

“เขาบอกว่าผมเป็นหลานแม่มดใจร้าย เขาเกลียดคุณยาย คุณยายต้องทำอะไรที่ไม่ดีมากๆ”

จีรณะฟังแล้วถอนใจ แต่บอกบ็อบบี้ว่าผู้ใหญ่ก็ทำผิดได้ แล้วเวลาผู้ใหญ่ทำผิดก็มักจะไม่รู้เพราะไม่มีใครคอยตักเตือนสั่งสอน

“แล้วบ็อบบี้จะทำยังไงให้เพื่อนๆหายเกลียดคุณยาย”

“ทำดีกับพวกเขาไง เขาเกลียดคุณยายมากเท่าไหร่ บ็อบบี้ก็ทำดีกับเขามากเท่านั้น” บ็อบบี้ถามว่าแล้วถ้าทำดี แล้วเขายังเกลียดล่ะ? “ความดีทำยาก แต่ถ้าทำได้เราจะภูมิใจที่สุด จำไว้บ็อบบี้”

เมื่อพาบ็อบบี้มาส่งให้พิมพร จีรณะบอกเธอว่า

“เรื่องเด็กๆที่ทำผิดผมจะช่วยดูให้ แต่ยังไงก็อย่าเพิ่งให้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ”

“ค่ะฉันเชื่อคุณ” พิมพรรับปากแล้วพาบ็อบบี้กลับไป โสภิตที่ยืนฟังอยู่ บอกจีรณะว่าพิมพรเชื่อเขาแต่ตนไม่เชื่อถามว่า “เรื่องอะไรๆมันก็จบไปหมดแล้ว ทำไมถึงไม่ต่างคนต่างอยู่ มายุ่งกับครอบครัวฉันอีกทำไม”

“เรื่องหัวใจใครมันจะห้ามได้ล่ะคุณ” จีรณะแกล้งยั่ว โสภิตโมโหมาก สวนเสียงเข้มหน้าตึงว่า

“ฉันนี่แหละจะห้าม สิ่งที่คุณคิดไม่มีทางสำเร็จ!”

“แล้วคุณคิดได้ยังไงว่าผมคิดอะไร คุณอาจจะผิดก็ได้” โสภิตด่าว่าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย เลยถูกเขาตะโกนยั่วตามหลังว่า “เรื่องแบบนี้มันต้องพิสูจน์ คุณอัปสรโสภิต!” เลยถูกเธอขับรถเฉี่ยวจนโดดหลบแทบไม่ทัน จีรณะมองตามพึมพำขำๆเคืองๆ “แสบตามเคย ยัยอุตพิด”

บ็อบบี้ทำตามคำแนะนำของครูจี วันนี้จึงซื้อโดนัทสีสวยมาฝากเบิ้มกับพวกเด็กๆ พากันกินอย่างเอร็ดอร่อย บ็อบบี้มาเล่าให้จีรณะฟังอย่างมีความสุข เขาชมว่าดีแล้ว คนที่รู้จักให้ก็จะมีแต่ได้รับ อย่างน้อยก็อิ่มเอมใจสุขใจที่เป็นผู้ให้

ระหว่างนั้นมีลูกบอลลอยมา บ็อบบี้เอาอกพักบอลแล้วเตะคืนไปในสนาม จีรณะเห็นแวว ชมว่าฝีมือไม่เบา

“อยู่เมืองนอกผมเล่นซ็อกเกอร์กับเพื่อนๆบ่อยครับ ทำยังไงผมถึงจะได้เข้าทีมของโรงเรียนครับครูจี”

“ต้องขออนุญาตคุณแม่ก่อน เป็นนักกีฬามันเหนื่อย ต้องฝึกซ้อม เดี๋ยวการเรียนจะเสีย”

“รับรองครับ ผมจะเรียนดี กีฬาเด่น เป็นเจนเทิลแมน” บ็อบบี้พูดเข้มแข็ง กำหมัดกระชากศอกลงมาอย่างมุ่งมั่น

ooooooo

พีรพงษ์วางแผนหลอกยืมมือแม่เลี้ยงมาทำธุรกิจผิดกฎหมายอีกครั้ง คราวนี้ชวนทำโครงการบ้านน็อกดาวน์ถอดประกอบขาย มุ่งที่ตลาดประเทศจีน

ในวันที่ไปคุยโครงการนั้น พีรพงษ์เสนอให้แม่เลี้ยงเป็นประธานบริษัท โสภิตเป็นรองประธาน และยศเป็นผู้จัดการ โสภิตดูข้อมูลในโน้ตบุ๊กแล้วบอกแม่เลี้ยงว่า

“โครงการน่าสนใจดีค่ะ แต่ในแง่ธุรกิจมันง่ายไปรึเปล่าคะ ให้เราเป็นหุ้นลม แต่แบ่งกำไรให้ตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นต์”

แม่เลี้ยงตาโตบอกว่าฝ่ายเรามีแต่ได้กับได้ พีรพงษ์อุตส่าห์ให้เงื่อนไขที่ดีกับเรา พีรพงษ์ปากหวานหว่านล้อมว่า

“โถ...แม่เลี้ยงครับ ผมทำทุกอย่างก็เพื่อแม่เลี้ยง อีกไม่นานเราก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว”

โสภิตถามว่าธุรกิจนี้มีอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า แม่เลี้ยงก็ชักเสียว บอกว่ายังเข็ดเรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางไม่หาย

“โธ่...น้องภิต ดูรายละเอียดสิครับ เราแค่สร้างบ้านตัวอย่างให้ลูกค้าเลือก ตอนนี้กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดจีนส่งข้ามไปทางสามเหลี่ยมทองคำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง”

แม่เลี้ยงตื่นเต้นตาโตกับเงินเดือนและตำแหน่งที่จะได้รับ แต่โสภิตปฏิเสธตำแหน่งรองประธาน ขอเป็นแค่ที่ ปรึกษาดีกว่า พูดแล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจ

วันต่อมา พีระพงษ์พาแม่เลี้ยง ยศ โสภิต โดยมีนิตยาตามยศมาด้วย มายังอาคารที่ตั้งสำนักงาน ระหว่างนั้น นิตยาเดินไปแง้มหน้าต่างออกเหมือนหายใจไม่ออก โสภิตเดินมาถามอย่างเป็นห่วงว่าจะเอายาดมไหม

“ไม่เป็นไรค่ะ ได้อากาศบริสุทธิ์แค่นี้ก็พอ” เธอยืนอยู่ครู่เดียวก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โสภิตมองตามอย่างเป็นห่วง

นิตยาเดินผ่านหน้าห้องน้ำไปยืนที่มุมบันได โสภิตมองตามสงสัย อึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงนิตยาแว่วมา

“อยู่ดีๆโทรศัพท์เขาไปอยู่ที่คุณได้ยังไง...ซื้อที่ไหน ที่ห้างหรือที่ตลาด...นี่อย่ามาปากดีกับฉัน...ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์ถาม ก็พี่มนัสเจ้าของโทรศัพท์เขาเป็นแฟนฉัน...ฮัลโหลๆๆๆ ฮึ่ย! นังบ้า!!”

นิตยากดวางสายอย่างโมโหสุดๆ โสภิตตกใจ แปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน...

ที่แท้ปลายสายที่นิตยาคุยด้วยคือสายพิณ หนานเทืองถามว่าไหนบอกว่าเพิ่งไปเทิร์นเครื่องมือสองมาถูกๆ บัวหอมยุให้โทร.กลับไปด่าเลย

“อย่าดีกว่า เจ้าของร้านเขาอู้ว่า เจ้าของเดิม ผู้ชายเป็นข้าราชการที่ศาลากลาง เดี๋ยวผัวเมียมันดีกันฮู้ว่าเฮาใช้เครื่องด่ากับเมียมันจะยุ่งเปล่าๆ” สายพิณตอบเครียดๆ

ooooooo

พาชมสำนักงานหรูแล้ว พีรพงษ์เชิญทุกคนไปฉลองกันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพวกเราในอนาคต คุณนายกับแม่เลี้ยงไม่ไปเพราะจะไปร้านเพชรกันต่อ โสภิตก็ขอกลับคุ้ม ส่วนนิตยาบอกว่ามึนหัวจะไปโรงพยาบาล

แม่เลี้ยงปรี่เข้าไปหยิกแขนยศลากไปให้พานิตยาไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลนิตยาบอกให้เขารออยู่ข้างนอกไม่ต้องเข้าไปในห้องตรวจ

ระหว่างนั้น ยศเห็นจิตราเดินมา เขาลุกพรวดไปขวาง จิตราตกใจถามว่ามีธุระอะไรไม่ทราบ ยศพูดยั่วว่าพาเมียมาตรวจครรภ์ จิตราอวยพรขอให้ทั้งแม่และลูกปลอดภัย แข็งแรง

“แน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้พี่เป็นผู้จัดการบริษัทสร้างบ้านสำเร็จรูปส่งเมืองนอก ฐานะอย่างพี่ เพื่อแลกกับเมียอันเป็นที่รัก ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบเสมอ”

ยศเดินตามจิตราไป เธอบอกให้เขารอนิตยาที่นี่ดีกว่าเดี๋ยวออกมาจะไม่เจอกัน แต่ยศก็ยังตื๊อเดินตามไม่เลิก เธอเลยพาเข้าห้องดับจิต บอกว่าตนทำงานไปคุยกันไปได้

“บ้า...บ้าแล้ว...” ยศเผ่นออกไปแทบไม่ทัน

นิตยาไปที่ห้องทำงานของผู้ว่า ตรงไปที่โต๊ะทำงานของมนัสเงียบๆ มนัสตกใจลุกยืนถามเสียงประหม่าว่ามาหาท่านผู้ว่าหรือเดี๋ยวจะเข้าไปเรียนท่านทราบ นิตยาดักหน้าเขามองอย่างหึงหวงถามเสียงเข้มว่า

“ผู้หญิงที่พูดโทรศัพท์กับนิดเป็นใคร พี่มนัสเอาโทรศัพท์ไปให้ใครใช้”

มนัสท่าทีสงบเสงี่ยมพูดด้วยอย่างเจียมตัว ว่าตนขายโทรศัพท์ไปวันก่อนและก็เปลี่ยนเบอร์แล้วขอโทษที่ไม่รู้ว่าเธอโทร.มา นิตยาโมโหท่าทีห่างเหินของมนัส สังเกตเห็นรอยช้ำที่หน้าถามว่าไปโดนอะไรมา มนัสบอกว่าอุบัติเหตุนิดหน่อย

“ฝีมือคุณแม่ใช่ไหม” ถามแล้วเข้าไปเอามือแตะหน้ามนัสมองอย่างอัดอั้น พลันก็อยากอาเจียนขึ้นมา มนัสรีบเอาถังขยะมารองรับ

พอดีผู้ว่าออกมา เห็นนิตยาก็ถามว่ามาทำอะไรที่นี่ มีอะไรหรือเปล่า เธอทำเฉไฉว่าจะมาถามว่าเย็นนี้คุณพ่อจะทานอะไรจะได้ทำให้

“โธ่...โทร.มาก็ได้ เย็นนี้พ่อไม่ว่าง มนัสไปกันเร็ว ท่านอธิบดีสั่งให้เราไปเจรจากับชาวบ้านม็อบลำไย” ผู้ว่า บอกนิตยาว่า “ค่ำๆ พ่อกลับ กินข้าวเย็นกันไปก่อนเลย” แล้วเดินนำไป มนัสรีบหยิบกระเป๋าเอกสารตามไป ไม่วาย หันสบตานิตยาอีกครั้ง

นิตยากับยศอยู่กันอย่างฝืนใจ ต่างรู้สึกว่าอีกฝ่ายทำอะไรก็ขัดหูขัดตา พูดไม่กี่คำก็โต้เถียงกัน นิตยาพูด อย่างไม่ยี่หระว่า “เราอยู่กันอย่างปรองดอง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะคะ วิน วิน อ้อ ถ้าจะนอนปิดไฟด้วยนะคะ ช่วยชาติประหยัด”

ooooooo

เพราะระแวงว่าบริษัทที่พีรพงษ์ตั้งขึ้นจะแอบ แฝงทำสิ่งผิดกฎหมาย โสภิตจึงแวะเวียนไปดูยศที่นั่งทำงานอยู่ที่นั่น

วันนี้ ยศก้มหน้าก้มตาเซ็นอะไรอยู่ที่โต๊ะ พีรพงษ์ เดินมาดู ชมว่า

“ดีๆ ใช้ได้ ลายเซ็นเหมือนในสำเนาบัตรประชาชนเปี๊ยบ ฝีมือๆ”

โสภิตเดินเข้ามาถามว่าเซ็นเอกสารอะไรตั้งหลายแผ่น พีรพงษ์รีบเก็บเอกสารเข้ากระเป๋า เธอเตือนยศว่า จะเซ็นอะไรก็อ่านให้ดี บอกพีรพงษ์ว่าก่อนที่จะเซ็นตนขออ่านดูก่อน พีรพงษ์อ้างว่าเป็นใบออเดอร์สั่งสินค้าธรรมดา ตนจะทำสำเนาไว้ให้อ่านภายหลัง ชวนไปหาอะไรกินกันดีไหม ยศขออยู่ออฟฟิศทำงานต่อ

ส่วนโสภิตบอกว่า

“ภิตไม่หิวค่ะ อยากกลับไปเคลียร์งานที่บ้านเหมือนกัน” พูดแล้วเดินออกไปเลย

พีรพงษ์เจอชีพที่โต๊ะสนุ้ก เขาบ่นว่าโสภิตฉลาดเป็นกรด รู้ทันดักคอตนทุกเม็ด บ่นว่า...

“ทำอะไรถูกกฎหมายมันจะไปรวยได้ยังไงวะ มันต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง คอยดูโครงการแปลง ไม้พะยูงของฉันก็แล้วกัน” ชีพติงว่าแต่มันก็เสี่ยงจริงๆ “ก็เพราะอย่างนั้นน่ะซิ แทนที่จะส่งไม้ข้ามโขงทางอีสาน เราก็เอามาแปลงร่างแล้วส่งข้ามชายแดนทางเหนือเสียก็สิ้นเรื่อง”

ชีพบ่นกับพีรพงษ์ว่าตนทนแม่เลี้ยงไม่ไหวแล้ว เจ้าอารมณ์เอาแต่ใจตัวเอง อยากลาออกมาทำงานกับเขา พีรพงษ์รับทันที แต่ให้พิสูจน์ฝีมือก่อน ให้เขาไปสืบมาว่า ผู้ชายที่แอบมาคุยกับโสภิตตอนดึกๆ ที่ยศบอกตนนั้น มันเป็นใคร!

ooooooo

วันนี้โสภิตเห็นบ็อบบี้กลับมาเล่นบอลอยู่คนเดียว ถามว่าทำไมวันนี้กลับเร็ว บ็อบบี้บอกว่า มามี้จะไปธุระกับครูจีเลยมาส่งตนก่อน

“แล้วเขาบอกรึเปล่า จะไปธุระที่ไหนไปทำอะไร” โสภิตร้อนใจ พอบ็อบบี้บอกว่าไม่ได้บอก เธอระแวงอะไร บางอย่างขึ้นมา โทรศัพท์หาจีรณะทันที พอเขารับสายก็ขอคุยกับพิมพร

จีรณะนึกสนุกพูดกวนประสาทเธอว่าไม่ต้องห่วง พิมพรโตแล้ว ตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญหักหาญน้ำใจหรอก

“ถ้านายล่วงเกินพี่สาวฉัน ฉันจะฆ่านาย!” โสภิตขู่แล้ววางสาย คว้ากุญแจรถเดินอ้าวออกไปเลย

ที่หน้าคุ้ม ชีพมาดักสังเกตการณ์อยู่ เห็นโสภิต ออกจากบ้านก็ตามไปทันที พอเห็นเธอไปบ้านจีรณะก็ ยิ้มสมใจที่จะได้สร้างผลงานให้เข้าตาพีรพงษ์ โทร.บอก

พีรพงษ์ทันทีว่ารู้ตัวผู้ชายที่ติดพันโสภิตแล้ว พอฟังชีพ พีรพงษ์คำราม

“ไอ้จี! ไอจีรณะ!!”

โสภิตไปที่สำนักงานของจีรณะอย่างอารมณ์พลุ่งพล่าน แต่พอเขาต้อนรับอย่างใจเย็น เอาน้ำเย็นให้ดื่ม แล้วเล่าถึงงานพิทักษ์ป่า รักษาชีวิตสัตว์ป่า โดยเฉพาะนกสวยงามต่างๆ เขาบรรยายเสียจนโสภิตเคลิ้มกับชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์เหล่านั้น ก่อนกลับเธอขอบคุณเขาที่ให้ความรู้

ปรากฏว่าพิมพรกลับถึงบ้านและพาบ็อบบี้เข้านอนแล้ว บ็อบบี้ถามว่าไปเที่ยวกับครูจีสนุกไหม บ่นว่าตนคิดถึงปาป๊าและฝันถึงปาป๊าด้วย

“ถ้าให้ครูจีมาเป็นปาป๊าแทนเอาไหม”

“ครูจีก็ครูจี ปาป๊าก็ปาป๊า TEACHER ไม่ใช่ FATHER สักหน่อย” พูดแล้วบ็อบบี้หลับต่อ

โสภิตออกมาถึงหน้าสำนักงานของจีรณะแล้วควานหากุญแจไม่เจอ เขาถือเอามาให้บอกว่าเธอลืมไว้ที่โต๊ะ แต่พอเธอยื่นมือจะรับ เขากลับไม่ให้ มองหน้าเธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า...

“ผมไม่มีเรื่องอะไรส่วนตัวกับแม่เลี้ยง แต่ผมมีเรื่องส่วนตัวกับคุณ ผมชอบคุณ อัปสรโสภิต”

โสภิตอึ้ง ต่างสบตากันไปมา พอรู้สึกตัวเธอคว้ากุญแจขึ้นรถขับออกไปเลย จีรณะยืนมองตามรถไปจนลับตา...

ชีพมาดักซุ่มอยู่ พอโสภิตไป มันยกปืนเล็งไปที่จีรณะ พอดีมือถือมันดังขึ้น จีรณะหันขวับจ้องไปทางชีพ มันตกใจยิงไปสองนัดซ้อน โดนเสาและกระถางต้นไม้ที่แขวนอยู่

จีรณะล้มตัวลงชักปืนออกมาแต่ชีพก็หนีไปแล้ว เขาลดปืนลงหน้าเครียด

ooooooo

โสภิตกลับมาถึงคุ้ม เจอพิมพรดักรออยู่ถามอย่างจับพิรุธว่าไปทำอะไรมา เห็นป้าพวงบอกว่าเธอไปตามหาตนตั้งแต่เย็นมีอะไรหรือ

โสภิตตอบไม่สบตาว่า ไม่มีอะไร เห็นพี่หายไปก็เป็นห่วง

“ห่วงตัวเองเถอะยัยภิต พิรุธทั่วตัวอย่างนี้ กำลังแอบแม่มีแฟนใช่ไหม” พอโสภิตปฏิเสธก็ชี้ลงไปอีกว่า “และถ้าฉันทาย ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่นายพงษ์แน่ๆ อยากรู้จังถ้าลูกสาวคนโปรดของแม่ พยศเลือกทำตามหัวใจตัวเองจะเป็นยังไงบ้างเน้อ” พอโสภิตบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ก็ถูกดักคอว่า “ยอมรับแล้วล่ะสิ ใครล่ะ แต่ช่างเถอะ เรื่องส่วนตัวของเธอ ฉันไม่ยุ่ง อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันก็แล้วกัน”

พิมพรทำท่าจะเดินไป แต่แล้วก็หันกลับมาบอก

“ต่อไปนี้ฉันจะเดินหน้ากับคุณจีเต็มที่แล้ว ฉันไม่ยอมให้แม่บังคับเหมือนนายยศหรอก” โสภิตติงว่ายังไงจีรณะก็ไม่เหมาะกับครอบครัวเรา เขาเป็นคนที่เราไม่ควรไปเสียเวลาด้วย “เรา? เธอหมายความว่ายังไง”

“ไม่มีอะไรค่ะ โสขอตัวก่อนนะคะ” พูดแล้วรีบเลี่ยงไปเลย

ooooooo

เช้านี้ ทั้งอาโปและจิตราต่างแปลกใจกับจีรณะที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ นอกจากอาโปเผลอผัดกะเพราที่เขาแพ้กลิ่นก็ไม่บ่น อาโปทำการบ้านผิดก็ไม่ดุ ซ้ำยังบอกว่าถ้าสอบไม่ตกจะให้รางวัลด้วย

แต่พอได้รับโทรศัพท์จากตียู ก็บอกจิตราว่าวันนี้ไปส่งไม่ได้เพราะมีธุระด่วนต้องรีบไป แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทันที

ตียูนั่งรถมากับนิกร เขาแกล้งขอเข้าห้องน้ำ แล้วไปพบจีรณะที่นัดกันไว้หลังห้องน้ำ ตียูรีบบอกว่า

“เขาย้ายที่เก็บไม้ใหม่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน รู้สึกเขากำลังทำธุรกิจใหม่ มีออฟฟิศในเมือง เหมือนจะรับสร้างบ้านครับ”

“แล้วไงอีก” จีรณะถาม ตียูบอกว่าตนรู้มาแค่นี้ “เท่านี้ก็ดีแล้ว ที่เหลือผมไปสืบต่อเอง”

ตียูถามว่าอาย้งเป็นอย่างไรบ้าง ตนไม่ได้ไปหาเลย จีรณะบอกว่าไม่ต้องห่วง อาย้งสบายดีมีครูแหวนดูแลอย่างดี อาย้งเรียนเก่งได้ที่หนึ่งด้วย

“ครูแหวนคงสั่งสอนมัน นายรับปากดูแลให้ ผมค่อยโล่งใจ บอกมันด้วยว่าพ่อคิดถึง”

พอตียูไป จีรณะโทรศัพท์ทันที “พี่ครับ ผมมีเบาะแสมา อยากให้พี่ไปหารายละเอียดที่บริษัทเปิดใหม่ช่วงนี้...”

ชีพตามมาซุ่มดูอยู่ เห็นทั้งตียูและจีรณะ มันจ้องตาไม่กะพริบ...

จีรณะรีบกลับไปที่สำนักงาน ค้นหาข้อมูลจากกูเกิ้ล ภีมะถือกระเป๋าเข้ามาทักว่ามานานหรือยัง แล้วเปิดกระเป๋าเอาเอกสารออกมาให้ดู

“จังหวัดเราไม่ใหญ่ หาข้อมูลไม่ยาก พี่ว่าเราเจอแจ็กพอตแล้ว อาทิตย์ที่แล้วมีบริษัทเปิดใหม่ แต่เป็นของยศ ไม่ใช่ของนายพงษ์”

“ไม่ปกติแน่ สำนักงานตั้งอยู่ในที่ของนายพงษ์ มันจะไม่เกี่ยวได้ไง มันต้องโยงใยกันได้” จีรณะฟันธง

“ใช่ ทางกฎหมาย นายยศถือหุ้นสูงสุด แต่ทางบัญชีอาจเป็นนอมินีของนายพงษ์”

“แค่นี้ก็เยี่ยมแล้วพี่ รายละเอียดลึกๆ ผมจัดการเอง” จีรณะพูดอย่างมั่นใจ

ooooooo

ไม่ทันข้ามวัน จีรณะก็ได้ข้อมูล เมื่อพิมพรแต่งชุดกีฬามาวิ่งวอร์มกับนักฟุตบอลที่โรงเรียน จีรณะทักว่ามาวิ่งตั้งแต่เมื่อไร พลางส่งน้ำดื่มให้

“มาพร้อมบ็อบบี้ค่ะ แต่เพิ่งออกมาวิ่งรอบสนามได้สามรอบ”

“ดีครับ สปอร์ตเกิร์ล มลภาวะแบบนี้เราต้องดูแลตัวเองมากๆ”

พิมพรบอกว่าตนว่างงานเลยหาเรื่องฆ่าเวลา จีรณะ สบโอกาสเลียบเคียงว่า

“เป็นไปได้ยังไงที่คุณพิมว่างงาน แม่เลี้ยงมีธุรกิจตั้งเยอะ ดูเหมือนว่าเพิ่งเปิดบริษัทใหม่ขึ้นด้วย”

“อ๋อ...บริษัทนายยศ แม่คงเปิดสร้างเครดิตให้นายยศ ไม่งั้นผู้ว่าคงรังเกียจลูกเขยคนนี้น่าดู นายยศมันทำอะไรเป็นมั่ง หึๆ”

“เท่าที่ผมรู้ บริษัทนี้มีโปรเจกต์ใหญ่ๆทั้งนั้นเลย แนวโน้มดีมาก คนทำงานไม่เป็นทำไม่ได้หรอก”

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 9 วันที่ 1 ม.ค. 57

พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรข
พรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ