อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 3 วันที่ 11 ธ.ค. 56
ทั้งตำรวจและชาวบ้านต่างเห็นใจและหาทางช่วย ประกันตัวจีรณะออกมา แต่แม่เลี้ยงให้ตำรวจเพิ่มค่าประกันตัว ทำให้เงินที่ชาวบ้านรวบรวมมาไม่พอ อาโป เสียสละเอาเงิน 50 บาทที่จะส่งไปให้พ่อมาสมทบ ก็ยังไม่พอโสภิตแอบไปประกันตัวจีรณะออกมาแต่ไม่ให้บอกว่าใครประกัน เธอตกใจเมื่อรู้ว่าจิตราหายไป
“ดูซิ...สมัยนี้ คนดีต้องหลบๆซ่อนๆ คนเลวใหญ่คับบ้านคับเมือง พูดแล้วเจ็บใจ”
ooooooo
โสภิตขับรถตามจีรณะมาด้วยความตั้งใจดีที่จะช่วยตามหาจิตรา จีรณะขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงทางลาดชันบนเขา หันมาเจอ เขาลากเธอติดมือหลุนๆไปจนถึงริมธารน้ำตก เขาเหวี่ยงเธอไปในลำน้ำ ถามว่าแม่เลี้ยงต้องการอะไรกันแน่!
ความแค้นที่จิตราถูกทำลายอย่างโหดร้าย จีรณะบอกโสภิตว่าจะทำให้เธอเข้าใจว่าน้องสาวตนรู้สึกอย่างไร แล้วปล้ำจูบบ้าระห่ำ แต่แล้วก็ปล่อยเธอไปเพราะทำไม่ลง
ผู้กองเกียรติก้องตามเจอจิตรากำลังจะกระโดดหน้าผา เขาช่วยพาเธอกลับมาที่ฐาน จ่าตุ๋ยรีบโทร.บอกจีรณะ โสภิตขอตามไปด้วย พอไปถึงฐานเห็นสภาพของจิตราที่มอมแมมเหม่อลอย เธอสะเทือนใจมาก
จีรณะไปตลาดเพื่อรับอาโปไปอยู่เป็นเพื่อนจิตราเจอแม่เลี้ยงโดยบังเอิญ แม่เลี้ยงตกใจมากไม่คิดว่าเขาจะได้ประกันตัวออกมา จีรณะบอกว่ามีคนประกันตนออกมาสู้คดี เตือนแม่เลี้ยงว่า
“ระวังแต่ลูกๆคุณนายเถอะ วันนี้ถึงกฎหมายบ้านเมืองจะเอาโทษไม่ได้ แต่รับรองหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นครับ”
แม่เลี้ยงกลับไปถามโสภิตว่าจีรณะได้รับประกันตัวออกมาได้ยังไง ทำไมทนายไม่เร่งฟ้อง โสภิตบอกว่าทนายไม่รู้เรื่องหรอก พอแม่เลี้ยงด่าว่าขัดคำสั่ง โสภิตก็หว่านล้อมแกมขู่ว่า จิตราคิดฆ่าตัวตายมาสองครั้ง ถ้าเป็นคดีความข่าวถึงหูผู้ว่าเรื่องแต่งงานของยศก็เลิกฝันไปได้เลย แม่เลี้ยงกระแทกตัวนั่งอย่างเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้
จีรณะพาอาโปมาอยู่เป็นเพื่อนจิตรา บอกผู้กองเกียรติก้องว่าจะให้อาโปนอนห้องเดียวกับจิตรา กลัวจิตราจะคิดสั้นขึ้นมาอีก ผู้กองถามว่าแล้วคดีของเขาเป็นอย่างไร จีรณะหยิบโทรศัพท์มาเปิดคลิปที่ถ่ายคำสารภาพของยศให้ดูบอกว่า
“ฉันมีหลักฐาน พอจะไล่บี้ไอ้ยศได้ ถ้าขึ้นศาล ฉันจะเอาไอ้ยศเข้าคุกด้วย”
แม่เลี้ยงส่งชีพกับเส่งให้ไปขโมยคลิปที่ยศสารภาพเรื่องจิตรามาให้ได้ เป็นวันเดียวกับที่โสภิตหิ้วกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมจิตรา จีรณะจ้องหน้าบอกเธอว่า
“เราไม่ต้องการ เอากลับไป ฝากไปบอกพี่ชายคุณด้วยว่าผมมีหลักฐานเอาตัวเขาเข้าคุก ผลตรวจเลือดยายจิตที่ถูกวางยาออกมาแล้ว”
ทันใดนั้นทั้งสองตกใจเมื่อได้ยินเสียงอาโปกับจิตราร้อง พากันวิ่งไปในบ้านเห็นอาโปกำลังขี่หลังล็อกคอเส่งอยู่ จีรณะกระโดดต่อยชีพ โสภิตรีบเข้าประคองอาโปที่ถูกชีพตบกระเด็น ชีพกับเส่งเห็นจีรณะกับโสภิตรู้ว่าแผนแตกจึงพากันกระโดดหน้าต่างหนีไป อาโปบอกจีรณะว่าเป็นมันออกจากห้องนาย จีรณะรีบวิ่งไปที่ห้องตัวเอง ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายคลิปยศสารภาพไว้หายไปแล้ว
จีรณะแค้นใจมาก กลับมากระชากโสภิตหาว่าเธอล่อให้ตนออกไปหน้าบ้านเพื่อให้ลูกน้องเข้ามาขโมยคลิปที่ยศสารภาพใช่ไหม โสภิตบอกว่าตนไม่รู้เรื่อง สาบานก็ได้
“โกหกหน้าด้านๆ ไป! ไปโรงพักกัน ยัยอสรพิษ!!” จีรณะลากโสภิตออกไป
จิตรากับอาโปมองหน้ากันงงๆ
ooooooo
จีรณะนำตัวโสภิตไปที่โรงพักให้ตำรวจดำเนิน คดี ฐานให้ลูกน้องมาเล่นงานตน บุกรุกในยามวิกาลลัก ทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย
ดาบม้วนกับจ่าทองนั่งกุมขมับที่คนกันเองไปจับลูกสาวเจ้าแม่ผู้มีอิทธิพล จ่ากับดาบพยายามหว่านล้อมให้คุยกันก่อนดีไหม อาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้
“ใช่ ค่ะ เป็นการเข้าใจผิดกัน ฉันขอชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกอย่าง ส่วนที่คุณกับลูกน้องถูกทำร้ายร่างกายฉันจะจ่ายค่ารักษากับค่าทำขวัญให้” พลางเธอก็กดมือถือโทร.ออกเอียงหน้าพูดกับชีพเบาๆ แต่เสียงเข้ม “เอามาคืนเดี๋ยวนี้”
จีรณะบอกว่าเธอคงเข้าใจผิด ตนไม่ได้ต้องการเงิน ชีพทำหน้าตายเดินเข้ามาบอกโสภิตว่าแม่เลี้ยงให้กลับคุ้มเดี๋ยวนี้เลย มีอะไรให้ทนายมาพรุ่งนี้ จีรณะหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะโทร.เข้ามือถือตัวเอง ชีพสะดุ้งมือไม้วุ่นวายจะกดโทรศัพท์ปิด ถูกจีรณะกระโดดล็อกคอปล้ำ ดาบม้วนกับจ่าทองรีบเข้าจับแยก โสภิตทั้งอายทั้งโมโหสั่งชีพ
“ฉันสั่งให้คืนของให้คุณจีรณะเดี๋ยวนี้” ชีพจำต้องคืนมือถือให้จีรณะ “ของของคุณฉันคืนให้ ฉันขอโทษ”
จีรณะเอาของกลางให้ดาบกับจ่าดูเป็นหลักฐานบอกให้จับเลย ก็พอดีแม่เลี้ยงเดินอ้าวเข้ามา พูดอย่างวางอำนาจบาตรใหญ่ว่า “กล้าก็ลองดู โรงพักนี้ตำรวจคนไหนใครแตะ ต้องลูกของฉัน เปลี่ยนเครื่องแบบเป็นยามเฝ้าตลาดได้เลย”
ดาบกับจ่าชะงักมองหน้ากันสยอง จีรณะประกาศกร้าวว่าให้มันรู้ไปว่ามีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ตำรวจไม่กล้า ดำเนินคดี แล้วเอาคลิปที่ยศสารภาพมาเปิดให้ดูให้ฟัง แม่เลี้ยงหัวหมอโวยวายว่าหลักฐานที่ถูกบังคับ ศาลไม่เชื่อ!
ในสถานการณ์ ที่ตึงเครียดนี้ โสภิตก้าวออกมาบอกว่าตนรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดเอง ทำเอาทุกคนตะลึงสารวัตรลงมาจัดการปัญหา ถามว่าโสภิตจะรับสารภาพตามข้อกล่าวหาของจีรณะหรือ เมื่อโสภิตยืนยัน แม่เลี้ยงโวยวายหาว่าเธอทำงานมากจนเบลอไปแล้ว โสภิตยืนยันว่าตนสบายและมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ทุกอย่าง
“พวกคุณกำลังทำผม ปวดหัว เดี๋ยวได้โดนผมแจ้ง ความเท็จแน่ คราวก่อนคุณโสภิตก็แจ้งความคุณจีรณะแล้วก็ไม่ยอมมาให้ปากคำ แถมยังมาประกันตัวให้คุณจีรณะอีกด้วย”
จีรณะตกใจเพิ่งรู้ว่าวันนั้นโสภิต เป็นคนประกันตนออกไป ส่วนแม่เลี้ยงตาโต ทั้งโกรธทั้งตกใจ เอียงหน้าเข้าไปกระซิบสารวัตรว่า หนี้ของสารวัตรตนไม่คิดดอกเบี้ย ทำเอาสารวัตรเสียศูนย์ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมงค่อยมาว่ากันต่อ
พอสารวัตรลุกไป แม่เลี้ยงเข้าไปเอามืออังหน้าผากโสภิต พยายามจะให้เธอไม่สบายให้ได้ แต่เธอยืนยันว่าตัวเองอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืน เป็นอย่างที่จีรณะพูด ส่วนคดีที่จีรณะทำร้ายยศกับลูกน้องของเราตนก็จะเป็นพยานให้เล่าความจริงทุก อย่างให้ตำรวจฟังด้วย
แม่เลี้ยงเห็นทีสู้ไปก็แพ้ จึงขอเจรจาประนีประนอมยอมความกับจีรณะถามว่าถ้าไม่แจ้งความโสภิตกับยศจะเอา เท่าไร จีรณะแกล้งบอกว่า บ้านตนก็เก่ารถก็รวน แม่เลี้ยงเสนอให้สองแสนแล้วจะให้ลูกน้องไปสร้างให้ไม่ต้องไปจ้างใครสร้าง
“เรื่องส่วนตัวผมมีปัญญาแก้ปัญหา ผมต้องการให้แม่เลี้ยงแก้สัญญาเงินกู้ของชาวบ้าน ทุกราย เรียกเก็บดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละสิบห้าต่อปี คืนโฉนดที่ดิน ยืดเวลาการไถ่ถอนให้ชาวบ้าน เรียกดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด ถ้าไม่ตกลงผมสู้ถึงศาลฎีกาทุกคดี!”
แม่เลี้ยงที่เขี้ยวจัด ถึงกับไปไม่เป็น สุดท้ายยอมตามที่จีรณะเสนอ ดาบม้วนกับจ่าทองดีใจ ค่ำนี้ถึงกับยอมเป็นเจ้ามือเลี้ยงฉลองให้ชาวบ้าน จนจีรณะเตือนสติว่าอย่าเพิ่งดีใจกันให้มากนักให้แม่เลี้ยงทำตามสัญญาก่อนดี กว่า
“แต่อู้ก็อู้เต๊อะ ลูกสาวแม่เลี้ยงนี่ก็แปลกขนาด อยู่ดีๆ ก็มาช่วยพวกเราซะงั้น” สายพิณตั้งข้อสังเกต บุญมีเตือนว่าโสภิตอาจจะมาตกเบ็ดจีรณะคิดเอาเป็นพวกก็ได้ จีรณะเห็นด้วยแต่ไม่ต้องห่วงคนอย่างตนซื้อกันไม่ได้ง่ายๆหรอก
ฝ่ายแม่เลี้ยงกลับถึงคุ้มก็ระเบิดอารมณ์อย่างหัวเสียว่าชีวิตนี้ไม่เคยมีใครมาต่อรองบังคับหักหน้ากันขนาดนี้
โสภิตติงว่าแม่ก็ไม่น่าส่งชีพกับเส่งไปบุกรุกบ้านเขา เลยถูกแม่เลี้ยงหันมาด่าว่าเกิดผีเข้าอะไรขึ้นมาถึงแอบไปประกันตัวจีรณะแถม ยังจะยอมเข้าคุกแทนอีกแต่พอโสภิตย้อนถามว่าที่ชีพไปขโมยของบ้านจีรณะนั่นก็ เป็นงานด้วยใช่ไหม แม่เลี้ยงก็ตัดบทว่าพอๆๆ แค่นี้ตนก็ปวดหัวพอแล้ว พาลด่ายศว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ถอดแบบจากพ่อมาไม่มีผิด!
ooooooo
ยศ ถูกแม่ด่าก็ไปที่โต๊ะสนุ้กเกอร์ ระบายอารมณ์กับพีรพงษ์ว่าเพราะจีรณะคนเดียวทำให้ตนถูกแม่ด่าไม่เว้นแต่ละวัน พีรพงษ์แนะนำว่าเขาต้องสร้างผลงานให้แม่เลี้ยงเห็น รับรองว่าได้เป็นลูกชายคนโปรดแน่
“ผมจะไปทำอะไรได้ ยิ่งคราวนี้ไอ้จีมันเล่นงานแม่ซะย่อยยับทุนหายกำไรหดหมดทางสู้กับมันจริงๆ”
“เรื่องมันเล็กนิดเดียวเอง อย่าคิดมาก มาสนุกกันดีกว่า ไป...เธอสองคนพาพี่เขาไปนวดข้างบน” พีรพงษ์สั่งสองสาวที่นัวเนียนวดให้ยศอยู่ พอสองสาวกอดยศพาไป พีรพงษ์ก็โทร.หาแม่เลี้ยงทันที “สวัสดีครับแม่เลี้ยง ผมได้ข่าวว่าแม่เลี้ยงมีเรื่องไม่สบายใจ มีอะไรจะให้ผมรับใช้ก็บอกนะครับ”
วันรุ่งขึ้น จีรณะกับบรรดาชาวบ้านที่ติดหนี้แม่เลี้ยงก็พากันมาที่ร้านอาหารใหญ่ บ้างเดิน บ้างยืน บ้างยองๆ อยู่หน้าร้านทุกคน คอยแม่เลี้ยงมาจัดการเรื่องสัญญากู้เงินใหม่ให้ถูกกฎหมายและเป็นธรรม
กว่าแม่เลี้ยงจะมาก็เลยเวลาไปนานโข พอมาถึงก็ทำเป็นตื่นเต้นขอโทษขอโพยที่มาช้าเพราะหมอตรวจนาน แล้วกระตือรือร้นบอกชาวบ้านให้ไปนั่งโต๊ะสั่งข้าวปลาอาหารมากินกัน ตำหนิโสภิตว่า “แม่บอกแล้วไงว่าให้ดูแลลูกค้าเราให้ดี”
เมื่อชาวบ้านพา กันนั่ง โสภิตก็เดินแจกเอกสารสัญญาเงินกู้ โฉนด ไปตามโต๊ะ ชีพ กาบ และเส่ง เดินตามเป็นผู้ช่วยคอยชี้ให้ชาวบ้านเซ็นชื่อตรงนี้ ตรงโน้น ตรงนั้น ไม่นานโสภิตก็มานั่งกับแม่เลี้ยงบอกว่า
“เรียบร้อยแล้วค่ะแม่ ทั้งที่หมู่บ้าน ในตลาดเหลือ พวกชาวบ้านที่อยู่ในสวนในไร่อีกหกเจ็ดรายพรุ่งนี้ก็คงครบ”
จีรณะขอบคุณแม่เลี้ยงกับโสภิตที่กรุณาชาวบ้านแล้วขอตัวไปคุยกับชาวบ้าน แม่เลี้ยงบอกโสภิตว่าไม่มีอะไรตนก็จะอยากกลับไปพัก โสภิตจึงไปจัดการค่าอาหารถามแม่ว่า “วันนี้เราเลี้ยงเขาใช่ไหมคะ” แม่เลี้ยงตอบว่าใช่ แต่พอโสภิตลุกไปแม่เลี้ยงก็หุบยิ้มหันไปสบตากับชีพ
ooooooo
จีรณะถามชาวบ้านที่กำลังกินอาหารกันด้วยสีหน้าเบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใสว่าเอกสาร สัญญาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ชาวบ้านพากันชื่นชมเขา จีรณะเตือนว่าต่อไปเราต้องไม่ทำให้เขามาบังคับขู่เข็ญเราได้อีก
ขณะจีรณะเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาได้รับโทรศัพท์จากอาโปที่โทร.มาคุยเล่น คุยเสร็จหันมาเห็นโสภิต
เขาถามว่ามาสอดแนมอะไรอีก เธอพูดเยาะว่าเรื่องของเขาไม่มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นหรอก เลยถูกจีรณะย้ำปรามว่า
“อย่านึกว่าเรื่องของพี่คุณกับน้องผมจะจบง่ายๆ เรื่องหนี้ชาวบ้านก็เรื่องนึง ไม่เกี่ยวกัน”
“นี่นายอยากดองเป็นญาติกับพวกฉันขนาดนี้เลยเหรอ ไหนว่ารังเกียจนักหนาหรือเปลี่ยนใจอยากได้เงินค่าทำขวัญ แต่คงยาก ที่แม่ฉันทำไปมันก็มากพอสำหรับการประนีประนอมยอมความกันแล้ว” พูดแล้วเดินเฉียดไหล่เขาไปอย่างท้าทาย
แต่พอเธอออกจากห้องน้ำมายืนล้างมือต้องตกใจเมื่อเจอจีรณะเข้ามายืนประกบข้างหลัง ถามว่าทำไมเธอจึงประกันตนออกมา เธอยียวนว่า
“ทำไม อยากขอบคุณเหรอ ไม่ต้องหรอกนะ เพราะเงินที่จ่ายไป ถือว่าฉันให้กู้ ฉันจ่ายเงินค่าประกันคุณไปสองแสนดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี” เธอหยิบเครื่องคิดเลขมากดอย่างคล่องแคล่วแล้วยื่นให้ดู “หารออกมาเป็นวันแล้วก็ได้เท่านี้ คุณคืนฉันมาเท่านี้ พวกเศษทศนิยมฉันไม่นับยกให้”
จีรณะบอกว่าตนเป็นคนจน เงินแสนกว่าจะหาได้คงยาก ตนยอมเป็นลูกเขยแม่เลี้ยงดีกว่าหนี้จะได้หายกัน พูดแล้วขยับเข้าหา โสภิตถอยไปจนติดอ่างล้างมือบอกให้ถอยไป ไม่อย่างนั้นคราวนี้จะเอาให้ติดคุกหัวโตแน่
“ผมเข้าคุกเพราะคุณมาสองค รั้งแล้ว เข้าอีกสักหนก็ไม่แปลก” เขาสืบเท้าเข้าหาอีก โสภิตเงื้อมือจะตบ ถูกเขาจับทั้งสองมือร้องท้า “ร้องเลย วันนี้พยานเยอะด้วย เอาซิ”
ต่างจ้องหน้ากันอย่างใกล้ชิด แต่กลายเป็นมองกันนิ่งเหมือนต้องมนต์ แล้วจู่ๆ โสภิตก็แผดเสียงกรี๊ดออกมา อาศัยจังหวะที่จีรณะตกใจวิ่งหนีออกไป เจอพวกจ่าถือส้อมถือตะเกียบเป็นอาวุธวิ่งมาถามว่าคนร้ายอยู่ไหน? โสภิตบอกว่าไม่มีคนร้าย ตนร้องเพราะเจอหนูอยู่ในห้องน้ำเท่านั้น
จีรณะยืนแอบอยู่ พอเห็นโสภิตกับพวกจ่าเดินกลับไปก็พึมพำ “ยัยนี่ บ้าดีเดือดเหมือนกัน”
ooooooo
เช้านี้พีรพงษ์แปลกใจที่ลงจากชั้นบนมาเจอคุณวุฒิผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ในห้องรับแขก เขาถามว่าเครื่องลงกี่โมง จะมาทำไมไม่บอกจะได้ไปรับ
“คนขับรถเยอะแยะไป ฉันมาเตือนแก ตอนนี้รัฐมน– ตรีกำลังทำผลงาน แกต้องระวังธุรกิจของเราอย่าให้พลาด”
พีรพงษ์รับรองว่าไม่ต้องห่วงเพราะคนงานของเราใจถึงพึ่งได้ไม่ซัดทอด คุณวุฒิถามว่าแล้วเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้คืบหน้าถึงไหนแล้ว
“ใจเย็นๆครับ ผมไม่ให้พ่อผิดหวังหรอก น้องอัปสรโสภิตเขาสวย เสียแต่ดุไปหน่อย”
“รีบๆหน่อยก็แล้วกัน แกก็รู้ เลือกตั้งแต่ละครั้งมันต้องใช้เงิน จะสวยจะดุก็ต้องเอามาเป็นเมียให้ได้” คุณวุฒิสั่งเข้ม
ooooooo
ผู้กองเกียรติก้อง จ่าตุ๋ย และจีรณะ นำกำลังไปจับพวกตัดไม้เถื่อนที่กลางป่า พอพวกคนร้ายรู้ตัวก็ยิงเปิดทางหนี เสียงหนึ่งตะโกนบอก
“ปิดปากมอดไม้แล้วหนีเร็ว!”
พรรคพวกคนร้ายต่างเล็งปืนยิงชาวบ้านที่รับจ้างมาตัดไม้ ผู้กองเห็นตียูโผล่มาต่างมองกันชะงัก ตียูวิ่งหนีตามเพื่อนเข้าไปในป่าพลางตะโกนบอก “อย่าตาม อย่าตาม!” ผู้กองสั่งจ่าตุ๋ยกับจ่าชิดให้เฝ้ารถแล้วนำกำลังไล่ตามตียูไป
แต่เพราะถูกคนร้ายวางระเบิดดักไว้ พวกผู้กองเสียเวลากับระเบิดเหล่านั้นทำให้คนร้ายและชาวบ้านหนีรอดไปได้
จิตรา พักอยู่ที่บ้านกับอาโป วันนี้เธอได้รับโทรศัพท์จากยศ เธออึ้งพูดไม่ออก พอวางสาย อาโปถามว่าใครโทร.มา เธอบอกว่าโทร.ผิด วางมือถือแล้วเดินปาดน้ำตาไปเข้าห้องน้ำ อาโปสงสัยว่าโทร.ผิดแล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย?
ที่คุ้มแม่เลี้ยง ยศหงุดหงิดที่จิตราไม่พูดด้วย เดินมาเห็นเอื้องเด็กสาวชาวบ้านที่แม่เอามาทำงานขัดดอกกับแม่เลี้ยง ทำความสะอาดในห้องแม่เลี้ยง และกำลังเม้มเงินแม่เลี้ยงเหน็บขอบเสื้อชั้นใน ยศเห็นเนินอกเอื้องก็ตาวาว เดินเข้าไปหา แต่โชคไม่ดี โสภิตมาเห็นท่าทางลับๆล่อๆ ถามว่าจะทำอะไร คงไม่ได้ไปทำเรื่องร้ายแรงอะไรมาใช่ไหม
ยศบ่นว่าทุกวันนี้แทบกระดิกตัวไป ไหนไม่ได้อยู่แล้วเพราะต้องคอยเดินตามนิตยาทุกวัน น่าเบื่อกว่านั้น คือเธอเล่นตัวมาก จนป่านนี้เพิ่งจะได้จับมือเท่านั้นเอง โสภิตเตือนว่าถ้ายังไม่ได้แต่งงานก็อย่าได้ทำรุ่มร่ามกับเธอเป็นอันขาด เลยถูกยศเยาะว่าเธอหัวโบราณเล่นตัวแบบนี้นี่เอง ระวังจะขึ้นคาน
“ภิตยอมขึ้นคานดีกว่าต้องอยู่กับผู้ชายที่เห็นแก่ได้ มักมากในกาม นั่นนะ เป็นทุกข์ที่สุดของลูกผู้หญิงรู้ไว้ซะด้วย”
ooooooo
จีรณะกับผู้กองกลับมาถึงบ้านพัก ตชด. จีรณะจะหาอะไรกิน เปิดตู้เห็นมีข้าวสารเหลืออยู่สองถ้วยบะหมี่สามซอง ไข่สองฟอง ปลากระป๋องที่ขึ้นรา
แล้วครึ่งกระป๋อง
“แกจะเสียสละให้ลูกศิษย์ให้ชาวบ้านฉันไม่ว่าสักคำ แต่ต้องดูแลตัวเองดีๆหน่อยสิวะ” จีรณะบ่นเพื่อน
“ฉันเลือกมาเป็น ตชด.เพื่อแผ่นดินนี้ ชีวิตก็ให้ได้ อย่างอื่นเรื่องเล็กว่ะ วันนี้ตอนปะทะกับพวกผู้ร้าย ฉันเห็นตียูอยู่กับพวกนั้น เกือบถูกพวกนั้นฆ่าปิดปากเอาด้วย”
“ถ้าได้ตัวตียูมาสอบสวนขยายผล เราอาจจะเข้าถึงผู้บงการใหญ่หรือนายทุนของพวกมันได้”
“นั่นหน้าที่ของฉัน ฉันจัดการเอง เออ...จิตราเป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม”
จีรณะบอกว่าดีขึ้น แต่อาโปบอกว่ายังเห็นนั่งเหม่อบ่อยๆ ผู้กองจึงเสนอให้พาเธอไปเปลี่ยนบรรยากาศได้เที่ยวที่สวยๆงามๆบ้าง เผื่อจะได้ลืมเรื่องเครียดๆ จีรณะเห็นพ้อง เช้าวันรุ่งขึ้นจึงพากันออกเดินทาง
จิตราได้ไปสอนพวกเด็กนักเรียนร้อง เพลง เธอชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงาม ร้องเพลงอย่างสบายใจมีความสุข ทำให้ทั้งจีรณะ ผู้กอง และอาโปพลอยมีความสุขไปด้วย
“เด็กๆน่ารักดี จิตมาช่วยพี่ก้องสอนเด็กๆได้ไหม” จิตราถามผู้กอง เขาไม่ขัดข้องขอแต่ให้เธอมีความสุข
จิตราเห็นกระดุมเสื้อเขาหลุด บอกให้ถอดมาเดี๋ยวจะเอาไปซ่อมให้ ผู้กองใจเต้นแรงแข็งใจบอกว่าอย่าลำบากเลย
“ตั้งแต่เด็กจนโต พี่ก้องช่วยดูแลจิตมาตลอด แค่นี้เล็กน้อย ให้จิตทำนะคะ”
ผู้กองซึ้งกับความรู้สึกดีๆของเธอ กำลังจะบอกรัก อาโปก็มาขัดจังหวะว่าจีรณะเร่งให้ลงไปได้แล้วเดี๋ยวจะค่ำ
ผู้กองถอนใจอย่างแสนเสียดายโอกาสดีๆ ที่จะบอกความในใจกับจิตรา...
ooooooo
อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 3 วันที่ 11 ธ.ค. 56
พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรขพรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ