อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 15 วันที่ 20 ม.ค. 57
แต่เมื่อจิตราโทรศัพท์คุยกับผู้กองเกียรติก้อง ผู้กอง เชื่อว่าจีรณะต้องมีแผนอะไรแน่ รับปากว่าจะรีบลงมาหาส่วนพิมพรยอมไปพบโธมัส แต่พบเพื่อบอกเขาว่าตนแต่งงานใหม่แล้ว ที่นัดมาก็เพราะอยากจะตกลงกับเขาดีๆ ขณะเดียวกัน จีรณะก็กำลังเล่นอยู่กับบ็อบบี้ที่สวนหย่อมในโรงพยาบาล โธมัสเห็นบ็อบบี้ก็ทำท่าจะไปหา ถูกพิมพรเบรกว่า
“ฉันไม่อยากให้บ็อบบี้สับสน ตอนนี้บ็อบบี้กำลังจะลืมคุณ เขารักคุณจีรณะมาก ขอให้ฉันกับลูกได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ” โธมัสถามว่าสามีใหม่ของเธอเป็นใคร “คุณจีรณะ ทำงานพัฒนาสังคม ทั้งสอนหนังสือเด็กและดูแลเรื่องป่าไม้ เขาเป็นคนดีมาก เราจดทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมาย ฉันรับรองว่าเขาจะดูแลบ็อบบี้ได้ดี”
พิมพรใจหาย ส่วนจีรณะพอเห็นโธมัสเดินผละไปเขาก็รู้สึกละอายใจไม่น้อย...
ฝ่ายแม่เลี้ยง เสียดายเงินค่าทนายเป็นล้าน จึงจ้างจีรณะให้ปลอมเป็นสามีพิมพร พอพวงถามก็คาดโทษว่า
“มันเป็นได้แค่ผัวกำมะลอเท่านั้น จำไว้นะ แกต้องคอยกีดกันนังพิม อย่าให้มันกับไอ้จีมีอะไรกันอีกเด็ดขาด ถ้านังพิมมันท้องขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันเอาเรื่องแกแน่”
ooooooo
ที่โต๊ะอาหารคุ้มแม่เลี้ยงคํ่านี้ บรรยากาศบนโต๊ะอึดอัด อึมครึม แม่เลี้ยงพูดกระแนะกระแหนจีรณะจนเขารวบช้อนลุกไปทั้งที่เพิ่งนั่งกิน พูดเหน็บแม่เลี้ยงว่า กินของดีๆ แล้วมันเสาะท้อง ขอออกไปเดินย่อยอาหารหน่อย
ออกไปเดินที่หน้าคุ้ม เจอพีรพงษ์ขับรถมาส่งโสภิตพอดี พีรพงษ์พยายามที่จะจูบเธอ แต่โสภิตบ่ายเบี่ยงอ้างว่ายังไม่ได้อาบนํ้า แต่พีรพงษ์ก็ใช้กำลังจะแต๊ะอั๋งให้ได้
จีรณะเดินไปเคาะกระจกรถ ถูกพีรพงษ์ด่าว่าทำบ้าอะไร จีรณะอ้างว่าตนเป็นเขยใหญ่ของบ้านที่จะต้องตรวจตราดูแลความปลอดภัยของคนในบ้าน เย้ยพีรพงษ์ว่า “ส่วนคุณเมื่อไหร่ยังไม่รู้”
โสภิตเห็นท่าจะมีเรื่องกัน จึงขอให้พีรพงษ์กลับไปเสียอย่ามีเรื่องกับคนไม่เต็มบาทแบบนี้เลย พอพีรพงษ์ขับรถไป จีรณะก็เดินตามเธอไป เธอหันขวับถามว่าต้องการอะไร? ถูกจีรณะย้อนถามว่า “ผมอยากตอบว่าต้องการคุณได้ไหม”
ครั้นเธอถามว่าแม่จ้างเขาเท่าไหร่ถึงได้ยอมขายศักดิ์ศรีขนาดนี้ จีรณะตอบกวนๆ ว่ายังไม่ได้เคาะตัวเลข ขอดูก่อนว่าพี่สาวเธอจะใช้งานตนหนักแค่ไหน
“ถ้าคุณไม่ได้รักพี่พิม ขอร้องอย่า...”
“อย่าอะไร?? อย่าทำเหมือนที่เคยทำกับคุณเหรอ” เขาก้าวเข้าประชิดจ้องลึกเข้าไปในดวงตาจนต่างหวั่นไหว พลันก็สะดุ้งผละจากกันเมื่อพิมพรร้องเรียกจีรณะ โสภิตรีบหลบไปหลังพุ่มไม้ พิมพรถามว่าเขาอยู่กับใครหรือ “เปล่าครับ ไม่มี ผมเห็นเงาอะไรวูบๆ เลยเดินมาดูแต่น่าจะเป็นแมว ไปเถอะครับ” พูดแล้วพาพิมพรออกไป โสภิตมองตามแค้นๆ
ooooooo
ยศย่ามใจเอาจดหมายมาให้นิตยาเซ็นอีกหลายใบ แต่คราวนี้เธอไม่ยอมเซ็นเพราะระแคะระคายเรื่องไม่ชอบมาพากลและเป็นห่วงพ่อ
เมื่อนิตยาไม่ยอมเซ็น ยศจึงพยายามเซ็นปลอมเอง พีรพงษ์มาเจอถามว่าทำอะไรอยู่ ยศบ่นอย่างหัวเสียว่า
“ก็เมียผมน่ะสิครับ เล่นตัวไม่ยอมเซ็นอีกแล้ว มันอ้างว่ามีคนมาเตือน” พีรพงษ์ถามว่ามีใครรู้เรื่องนี้บ้าง “ไม่รู้...แต่ผมว่าอย่าไปใช้มันเลยลายซงลายเซ็นนี่ ผมก็เสียวๆอยู่ กลัวพ่อตาจับได้”
แต่คนเบาปัญญาอย่างยศ พอถูกพีรพงษ์ทั้งขู่ หว่านล้อมและเอาผลประโยชน์มหาศาลล่อก็ยอมตามเคย
ยศไปหาจิตราที่โรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือ ถูกจิตราปฏิเสธซ้ำยังควงผู้กองเกียรติก้องไปกินข้าวกันบอกยศว่าตนกับผู้กองจะแต่งงานกันในอีกไม่นานนี้แล้ว ทำให้ยศถึงกับหมดแรง
ขณะจิตรากับผู้กองทานอาหารกันอยู่นั้น เห็นนิตยาเดินเมาๆ ไปห้องน้ำ และถูกชายสองคนเข้าไปลวนลามเธอ ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อผู้กองเข้าไปช่วย เธอกอดเขาไว้แน่นหลับหูหลับตาร้องไห้รำพัน...
“พี่มนัส...พี่จริงๆด้วย นิตนึกไว้ไม่ผิดถ้านิตเดือดร้อน พี่มนัสจะต้องเข้ามาช่วยนิตแน่นอน ฮือๆๆ”
เมื่อผู้กองกับจิตราเรียกจนเธอได้สติ จึงพาไปนั่งพัก นิตยาร้องไห้คร่ำครวญกับจิตราว่า ตนกำลังตกนรกเพราะไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตนรัก ฟ้าดินกำลังลงโทษตนที่แย่งยศจากเธอไป บอกว่ายศยังรักเธออยู่ ตนจะคืนเขาให้เธอ
จิตราปลอบใจว่าเธอกำลังเมา รีบกลับไปเถิด ยศรอเธออยู่ นิตยาบอกว่าตนไม่เคยมีอะไรกับยศ เด็กในท้องก็เป็นลูกของมนัส
วันต่อมานิตยาจึงนัดมนัสมาพบกันที่สวนสาธารณะ พอพบกัน นิตยาไม่ทันพูดอะไร สายพิณก็โผล่ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของมนัส ทำให้นิตยาทั้งแค้นทั้งเสียใจประกาศตัดขาดกับมนัส พอเธอหนีไป มนัสขอบคุณสายพิณที่ช่วยตน สายพิณทำตาปริบๆ บอกว่า
“ยังไงก็บ่ต้องเกรงใจเน้อ เฮาน่ะเป็นแฟนคุณมนัสจริงๆก็ได้”
มนัสตกใจรีบขอตัวไป สายพิณมองตาละห้อยอย่างแสนเสียดาย...
ส่วนนิตยาพอกลับไปที่รถ นั่งร้องไห้อยู่อึดใจเดียวก็ฮึดขึ้นมาปาดน้ำตาจนแห้ง ยกมือถือโทร.หายศทันที
“พี่ยศ นิตขอค่าเซ็นเอกสาร 5 ล้าน ตกลงไหม!”
ooooooo
ฝ่ายพิมพร เมื่อแม่เลี้ยงยอมให้จีรณะมาเป็นสามีกำมะลอก็เปิดฉากรุกจะเปลี่ยนให้เขาเป็นสามีตัวจริงให้ได้ถึงขั้นเข้าหายั่วยวน
จีรณะรู้ทัน ป้องกันตัวเองและยืนยันกับพิมพรว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเพียงการแสดงตามความต้องการของแม่เลี้ยงเท่านั้น พิมพรอ้อนว่าตนรักเขา จีรณะย้ำเตือนว่า “เราไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรักนะครับ”
พิมพรถามว่าเขาปฏิเสธตนเพราะมีโสภิตใช่ไหม จีรณะตัดโสภิตออกไปบอกว่านี่เป็นเรื่องระหว่างเราและ ขอโทษเธอด้วย พิมพรถึงกับน้ำตาคลอ ฝืนยิ้มบอกว่า “ค่ะ ...พิมจะพยายามเข้าใจ” แล้วเดินผิดหวังกลับห้องตัวเอง
พวงที่ถูกแม่เลี้ยงคาดโทษไว้ เห็นพิมพรเข้าไปหาจีรณะในห้องก็ตาลีตาลานไปบอกโสภิตให้ช่วยไปกีดขวาง
“เขาสองคนไม่ใช่เด็กแล้วพี่พวง เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร” พวงอ้อนวอนว่าถ้าแม่เลี้ยงรู้ว่าเราเห็นแต่ไม่ไปห้าม แม่เลี้ยงต้องเล่นงานตนตายแน่ “ป้าพวงก็บอกว่าอยู่กับภิต ไม่รู้ไม่เห็นสิคะ ภิตนอนก่อนนะคะ”
พูดแล้วปิดประตูเข้าห้องเลย แต่พอพ้นสายตาพวง เธอก็เครียด สับสน...เจ็บปวด
ในที่สุดทนหัวใจตัวเองไม่ได้ เดินไปที่หน้าห้องจีรณะ หยุดต่อสู้กับความคิดของตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ก็ถามตัวเองว่าถ้าจีรณะไม่จริงจังกับพิมพรล่ะ แก้ต่างให้ตัวเองว่าตนไม่ได้หึงแต่ทำเพื่อพิมพรต่างหาก
ขณะละล้าละลังนั่นเอง จีรณะโผล่ออกมาถามว่ามาทำอะไรลับๆล่อๆหน้าห้องตน โสภิตตั้งหลักไม่ทัน
อ้างว่าตนมาหาพิมพร ถามว่าพี่พิมอยู่ในห้องใช่ไหม?
จีรณะดึงเธอเข้าห้องปิดประตูล็อก พอเธอโวยวายเขาถามว่าเธอจะมาหาพิมพรไม่ใช่หรือ บอกว่าพิมพรออกไปแล้ว ถามให้เธอต้องตอบว่า “คุณรักนายพงษ์เหรอ?”
“ตอนนี้ความรักไม่จำเป็นสำหรับฉัน” เขาถามอีกว่าแล้วเธอรักใคร “ฉัน...ฉันไม่ได้รักคุณก็แล้วกัน แต่ที่ฉันรู้คือพี่พิมรักคุณมาก ถ้าคุณไม่รักพี่ฉันก็กรุณาอย่าทำเขาเสียใจ” พูดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่แยแส จีรณะฟังแล้วนั่งเซ็ง
ooooooo
คืนนี้ ขณะพีรพงษ์พาโสภิตไปดินเนอร์กันนั้น ลูกน้องเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง เขาหน้าเครียดขึ้นทันที บอกเธอว่าพอดีมีงานด่วนต้องรีบไปเดี๋ยวจะให้ลูกน้องไปส่งเธอแทน
“ภิตไปกับคุณดีกว่าค่ะ ภิตรอได้ ดึกแล้วภิตไม่อยากไปกับคนอื่น” โสภิตหาข้ออ้างเพื่อตามพีรพงษ์ไป เมื่อพาเธอไปถึงหน้าโกดัง โสภิตแกล้งทำเป็นหลับ เขาปล่อยเธอให้นอนในรถ แล้วลงไปพบลูกน้องที่มารับพากันเดินออกไป
พอพีรพงษ์ลงจากรถไป โสภิตก็ลืมตาแป๋วเขม้นมองตามไปอย่างเก็บข้อมูล พีรพงษ์เจอชีพที่มารายงานว่าไม้พะยูงหายไป 30 ท่อนถูกสอดไส้ไม้อื่นเข้าไปแทน พีรพงษ์จะจัดการกับคนไปรับไม้และคนขับรถ ชีพติงว่าสองคนนี้ทำงานให้เราตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว พีรพงษ์จึงยั้งมือบอกว่าเรื่องนี้ตนจะสืบสาวเรื่องราวเอง อาจผิดพลาดจากต้นทางก็ได้
แต่พอพีรพงษ์กลับมาที่รถด้วยอารมณ์หื่นหมายเคลมโสภิตให้สาแก่ใจ ระหว่างทางชีพถามว่าเขาพาโสภิตมาด้วยหรือ ติงว่าเธอไม่น่าไว้ใจ พอไปถึงรถปรากฏว่าโสภิตหายไปแล้ว พีรพงษ์เดือดพล่านสั่งชีพให้ตามตัวมาให้ได้!
พอชีพชักปืนออกมา โสภิตก็เดินกุมท้องออกมาร้องโอดโอยเข้ามาบอกพีรพงษ์ว่าตนกระเพาะอักเสบกำลังจะไปตามเขาพอดีเพราะลืมยาไว้ที่บ้าน พีรพงษ์ประคองเธอขึ้นรถบอกว่าจะรีบพาไปส่งเดี๋ยวนี้เลย
ชีพจับตามองโสภิตอย่างไม่ไว้ใจ
ooooooo
แม่เลี้ยงเห็นชาวบ้านเชื่อถือจีรณะ จึงเสนอให้เขามาเป็นหัวคะแนนให้ตน จีรณะแกล้งเรียกค่าแรงเพิ่มอีกวันละห้าร้อยบาท แม่เลี้ยงใจปล้ำให้วันละพันเลย เขาไม่รับบอกว่าขี้เกียจใช้ดอกทบต้น ขอเอาไว้คิดทีเดียวตอนจบงานก็แล้วกัน
พอพิมพรรู้ก็ไม่พอใจพูดกับโสภิตว่าไม่รู้ใครเอาไอเดียนี้มาให้แม่ เหมือนกับจะกันไม่ให้ตนใกล้ชิดกับจีรณะ โสภิตพูดออกตัวว่าไม่ใช่ตนแน่เพราะตอนนี้ตนมีเวลาสนใจเฉพาะเรื่องของตัวเองกับพีรพงษ์เท่านั้น
“สวัสดีครับแม่เลี้ยง” พีรพงษ์มาถึงพอดี โสภิตทักว่ามาเร็วจัง ชวนรีบไปกันบอกว่าคืนนี้ตนขอดื่มแก้ตัว พีรพงษ์โอบเอวพาโสภิตไปขึ้นรถ แม่เลี้ยงจึงหันมาเร่งจีรณะ บอกว่าไปได้แล้ว ชีพไปรอที่นัดแล้ว จีรณะหันยิ้มให้พิมพร เธอเว้าวอน
“แล้วรีบกลับมาทานข้าวเย็นนะคะ พิมจะรอ”
ooooooo
จีรณะถือโทรโข่งช่วยแม่เลี้ยงหาเสียง แต่แอบถ่ายรูปพวกชีพ กาบ และเส่ง ที่กำลังแจกกล่องโฟมมีเงินซื้อเสียงอยู่ข้างใน ก็ประกาศผ่านโทรโข่งว่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียงผิดกฎหมาย
ชีพโมโหปัดโทรโข่งเกือบตกด่าจีรณะว่ามา หาเสียงหรือมาทำลายเสียงกันแน่ ส่วนแม่เลี้ยงก็โฆษณานโยบายประชานิยมเอาเป็นเอาตาย จนคำปันคิดจะเลิกปลูกข้าวโพดมาเลี้ยงเป็ดเพราะแม่เลี้ยงรับซื้อไข่เป็ดในราคาฟองละ 5 บาท ถามจีรณะว่าหรือจะซื้อรถอีแต๋นดีเพราะได้ลดตั้ง 5 พันบาท
จีรณะชี้แจงผลได้ผลเสียระยะยาวจนคำปันถามว่า ตกลงไอ้นโยบายของแม่เลี้ยงมันดีหรือเปล่า
“ดีซิครับ นโยบายนี้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ลุงต้องคิดถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งกับลุงเองและชุมชนของเราให้รอบคอบก่อน คำปันเกาหัวแกรกงงๆ แต่ฟังจีรณะชี้แจงแล้วยิ่งงง
เย็นนี้ พิมพรลงมือทำอาหารสุดฝีมือเตรียมโชว์จีรณะ แต่ปรากฏว่าจีรณะขอลงกลางทาง จึงเหลือแม่เลี้ยงกลับมากินคนเดียว พิมพรถึงกับหมดอารมณ์ไปเลย
จีรณะแยกกับแม่เลี้ยงไปหาจิตราเพื่อถามเรื่องงานแต่งงานว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ จิตราเล่ากำหนดการง่ายๆ ให้ฟังคร่าวๆ แล้วถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วงว่าไปอยู่ที่คุ้มแม่เลี้ยงเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าชีวิตก็ตื่นเต้นดี
“แค่พี่จีไปเป็นลูกเขยแม่เลี้ยง จิตก็ตอบคำถามชาวบ้านไม่ไหวแล้ว นี่พี่จียังไปช่วยแม่เลี้ยงหาเสียงอีก...พี่จี...เรามีกันแค่สองคน พี่จีคิดทำอะไรบอกจิตบ้างได้ไหมคะ”
“บางทีพี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะจิต อย่าให้ปัญหาของพี่ไปทำให้จิตกลุ้มใจเลย จิตกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุด ทำใจให้สบาย ไม่ต้องห่วงพี่”
“ค่ะ...” จิตรารับคำ ทั้งที่ความจริงแล้วก็ยังอดห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี
ooooooo
โสภิตพยายามใช้โอกาสที่ใกล้ชิดกับพีรพงษ์สืบเรื่องงานในบริษัทของเขา จนวันนี้สบโอกาสเมื่อเธอถามว่าธุรกิจของเขาคืออะไร เมื่อพีรพงษ์บอกว่าเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเสี่ยง เธอเดาหลายเรื่องจนสุดท้ายถามว่าไม้เถื่อนใช่ไหม
“ลูกค้าผมนัดรับสินค้า จ่ายเงินวันอาทิตย์นี้ ถ้าคุณภิตอยากรู้ว่าสินค้าเราคืออะไร เราไปด้วยกัน แต่ตอนนี้พักเรื่องงานมาจัดการเรื่องหัวใจก่อน” พีรพงษ์จู่โจมเข้านัวเนียโสภิตทันที จีรณะแอบดูอยู่ ทนไม่ไหวเลยยกแจกันทุ่มพื้นแตกเสียงดังพีรพงษ์รีบไปดู โสภิตตามไปด้วย ถูกจีรณะกอดจากข้างหลังเอามือปิดปากลากเข้าไปอีกห้องหนึ่งทันที
โสภิตดิ้นถามจีรณะว่าบ้าหรือถึงกล้าเข้ามาในนี้ พอดีเสียงพีรพงษ์ร้องเรียกโสภิตใกล้เข้ามา โสภิตตัดสินใจเปิดประตูออกไปหาเขาบอกว่าตนคิดว่ามีคนร้ายเข้ามาจึงมาดูแต่ตรวจดูแล้วไม่มี พีรพงษ์ถามว่าแล้วทำไมต้องล็อกประตูด้วย? เธอทำหน้าตายถามว่าประตูล็อกหรือ? ตนไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ตกใจแล้วดึงพีรพงษ์ไปทางอื่น
จีรณะซ่อนอยู่ในห้อง พอโสภิตพาพีรพงษ์ออกไป เขาออกจากที่ซ่อนมางงๆ
ooooooo
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งนี้ นอกจากแม่เลี้ยงที่ได้เบอร์ 1 แล้ว ยังมีมหาเชียรลงแข่งด้วย มหาได้เบอร์ 3
วันนี้มหาเชียรแห่กลองยาวมาหาเสียง สายพิณบอกพรรคพวกว่ามหาเชียรมาหาเสียงแล้วชวนกันไปกราบท่านกัน
จีรณะเข้าไปทักมหาเชียรถามว่าจำตนได้ไหมมหาหัวเราะร่าถามว่าทำไมจะจำไม่ได้ จีรณะลูกครูเจือแต่ตอนนี้เป็นลูกเขยแม่เลี้ยงอมราไปแล้ว จีรณะฟังแล้วได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ อดถามไม่ได้ว่ามหาเชียรคิดอย่างไรถึงมาลง เลือกตั้งกับเขา ตนว่ามันเป็นเรื่องวุ่นวายทางโลกมหาไม่น่าจะมาสนใจกับเรื่องพวกนี้
“การเมืองไม่ได้วุ่นวายอะไรหรอก คนต่างหากที่วุ่นวาย มันเป็นงานที่ต้องการคนเสียสละเพื่อส่วนรวมเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ถ้าเห็นแก่ตัวและพวกพ้องมากกว่าประเทศชาติเมื่อไหร่ ความฉิบหายก็เกิดเมื่อนั้น”
บรรดามวลหมู่หนานเทืองพากันปรบมือ สายพิณพูดอย่างศรัทธาว่า “ท่านมหาอู้ได้โดนใจแต๊ๆ”
ทีมหาเสียงแม่เลี้ยงผ่านร้านหนานเทือง ถามพีรพงษ์ว่ามหาเชียร โผล่มาจากหลุมไหนเนี่ย พีรพงษ์พูดอย่างดูแคลนว่า
“โอ๊ย...ไม่ต้องห่วงหรอกครับแม่เลี้ยง สารรูปอย่างนั้นจะมาทำอะไรเราได้ อาชีพหลักก็เป็นมัคนายก วันๆก็อาศัยข้าวก้นบาตรประทังชีวิต แม่เลี้ยงอย่าลืมสิครับ ผมสำรวจมันออกมาแล้ว เรานำโด่ง”
ชีพเสนอเก็บมหาตัดคะแนนไปเสียดีไหม พงษ์ไม่เห็นด้วยบอกว่าถ้าฆ่ามหาคนที่น่าสงสัยก็ต้องเป็นแม่เลี้ยงที่เป็นคู่แข่ง แม่เลี้ยงเห็นด้วยชมว่าพีรพงษ์พูดถูก เขาได้โอกาสเสนอว่า
“ผมว่าเราทุ่มเงินอีกหน่อยดีกว่า อีกไม่นานท่านหัวหน้าพรรคก็จ่ายเงินสนับสนุนให้ผู้สมัครอย่างคุณป้าอยู่แล้ว”
“ก็ได้...พ่อพงษ์จะเอาอีกเท่าไหร่” แม่เลี้ยงทุ่มเต็มที่
ooooooo
จีรณะแอบเข้าไปดูเอกสารในห้องทำงานแม่เลี้ยง จับได้ว่าพีรพงษ์โกงเงินหาเสียงของแม่เลี้ยง ทั้งค่าน้ำมันค่ากินอยู่และค่าหัวชาวบ้าน บางหมู่บ้านมีชาวบ้านที่มีสิทธิ์ลงคะแนนแค่สี่หลังคาเรือนแต่ทีมหาเสียงเข้าไปวันละสามสี่เที่ยว
พีรพงษ์ถามว่าเขาเคยเข้าไปดูแล้วหรือ จีรณะยืนยันว่าตนไปมาแล้วทุกหมู่บ้านเพราะต้องทำวิจัย
งานนี้โสภิตปกป้องพีรพงษ์เต็มที่ เพราะกลัวจะกระทบเรื่องที่ตนกำลังสืบว่าบริษัทของพีรพงษ์ทำงานอะไรกันแน่ แก้ต่างให้พีรพงษ์ว่า หมู่บ้านนั้นอาจเป็นที่อยู่ของพวกหัวคะแนนก็ได้เลยต้องเข้าไปบ่อย และแม่ตนก็ไม่เคยซื้อเสียง พวกหัวคะแนนต่างหากที่ทำกัน
จีรณะกับโสภิตโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดง จนแม่เลี้ยงออกมาหย่าศึกว่าเมื่อโสภิตดูแลเรื่องนี้ให้ ตนก็เบาใจแล้วและต่อไปนี้ก็ห้ามจีรณะเข้ามายุ่งในห้องนี้อีกเด็ดขาด
“ขอบคุณมากนะครับ ที่น้องภิตเชื่อใจผมไม่หลงเชื่อคำยุแยงของนายจีรณะ ผมปลื้มมากๆ” พีรพงษ์เอ่ยชื่นใจ
“ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะเป็นไปได้ขนาดนี้” จีรณะพูดใส่หน้าโสภิตแล้วเดินออกไป แต่ไปยืนดักอยู่มุมหนึ่ง พอโสภิตเดินผ่านเขาพูดขึ้นลอยๆ “ความรักนี่มันทำให้คนตาบอดจริงๆ” เลยโต้เถียงกันอีก จีรณะดึงเธอเข้าไป โสภิตแกล้งเรียก “พี่พิม...พี่พิมคะ” ทำให้จีรณะปล่อยมือทันที
แต่พอพิมพรเดินมาหา ถามโสภิตว่าเรียกตนทำไม เธอกลับบอกพี่สาวหน้าตาเฉยว่า
“ก็สามีพี่เขาเดินตามหาพี่ให้ควั่ก สงสัยจะคิดถึงอยากสวีตกันมากนะคะ อิจฉา...” พูดแล้วเดินลอยชายไป
จีรณะอึ้งไปกับอีกลีลาหนึ่งของโสภิต ส่วนพิมพรมองชายหนุ่มยิ้มปลื้มอยู่ไปมา...
ooooooo
วันนี้อาโปกลับมาพร้อมใบ ร.บ.1 ประกาศนียบัตรจบมัธยมหก วิ่งร้องแรกชูใบ ร.บ.1 มาแต่ไกล มาถึงก็บอกจิตราว่าหมูหันหนึ่งตัวจัดมาเลย
จิตราดีใจกับอาโป ชมว่าเก่งมาก ถามว่าจะให้จัดฉลองวันไหนบอกมาเลย อาโปบอกว่าก่อนจะได้กินหมูหันต้องไปขอรางวัลจากนายก่อน เพราะนายบอกว่าถ้าสอบได้ให้ขอได้ทุกอย่าง อาโปพูดอย่างหมายมาดว่า
“คอยดูนะ อาโปจะขอให้นายเลิกยุ่งกับลูกสาวแม่เลี้ยง ห้ามพบ ห้ามคุย ห้ามพูดด้วยตลอดชาติ” พอถูกผู้กองบอกว่ามากไป อาโปก็เปลี่ยนเป็นให้นายหอมแก้มข้างละทีดีกว่า ว่าแล้ววิ่งตื๋อไป จิตราตะโกนเรียกก็ไม่หยุด
ผู้กองปรารภกับจิตราว่าตนบอกอาโปแค่ว่าจีรณะพ้นโทษแล้วแต่ไม่ได้บอกว่าเขาย้ายไปอยู่คุ้มอมรา ไม่รู้จะอธิบายกับอาโปอย่างไร ก็พอดีอาโปวิ่งขึ้นไปแล้วร้องอย่างผิดหวังว่า
“นายไม่อยู่อ่ะ...” จิตราบอกว่าพี่จีไปธุระที่เชียงใหม่ อาโปบ่นเสียดาย แล้วเปลี่ยนใจบอกว่าจะไปตลาดเพื่อเอาแหวนถักด้วยหางช้างเชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่จะช่วยปกป้องสิ่งเลวร้าย คุยอวดว่า “อาโปจะห่อของขวัญให้นาย หมั้นเอาไว้ก่อนจบปริญญาค่อยแต่งงานกันทีหลัง” ว่าแล้ววิ่งตื๋อไปเลย
จิตรากับผู้กองมองหน้ากันเครียด ต่างสงสารอาโปมากอาโปไปถึงร้านสายพิณ ขอโบกับดอกไม้บอกว่าจะเอามาห่อของขวัญ สายพิณถามว่าห่อให้ใครหรือ
“ให้นายจ้ะ อาโปอยากปลอบขวัญนาย ที่นายพ้นคุกพ้นตะรางแล้วก็ปัดเป่าความชั่วร้ายให้นายห่างไกลจากพวกแม่เลี้ยงอมรา”
“เครื่องรางที่ไหนมันจะสู้เสน่ห์มัดใจลูกสาวแม่เลี้ยง อาโปเอ๊ย มันสายเกินไปแล้วล่ะ” อาโปถามว่าสายหมายความว่าอะไร สายพิณทำตาโตถามว่า “นี่อาโปยังไม่รู้เหรอว่า คุณจีเขาไปเป็นเขยใหญ่ของแม่เลี้ยงแล้ว”
อาโปยืนอึ้งเหมือนถูกสาป กล่องแหวนร่วงจากมือไม่รู้ตัว...
ooooooo
อารมณ์อันพลุ่งพล่าน พาอาโปไปที่คุ้มแม่เลี้ยง เจอบ็อบบี้ อาโปถามว่านายอยู่ที่นี่ใช่ไหม อาโปพูดเร็วจนบ็อบบี้ฟังไม่รู้เรื่อง แต่อาโปก็พรวดเข้าไปแล้ว
จีรณะกำลังแอบคุยโทรศัพท์กับภีมะอยู่ที่สวนในคุ้ม พิมพรเอาแอปเปิ้ลปอกแล้วร้องเสียงหวานเข้าไปหาถามว่าแอบคุยกับใครอยู่ แล้วเข้าไปเอาแก้มแนบอย่างเสน่หา พลางหยิบแอปเปิ้ลป้อนให้
อาโปเข้ามาเห็นพอดี หัวใจดวงน้อยของอาโปแทบแตกสลาย พรั่งพรูคำตัดพ้อซื่อๆเสียงเครือน้ำตาคลอว่า...
“นายสอนให้อาโปเป็นคนดี ตั้งใจเรียน เสียสละให้คนอื่น มีเหตุผลในการดำเนินชีวิตแล้วนี่มันอะไร เพราะที่นี่มีเงิน เป็นคนรวย มีผู้หญิงสวยๆคอยเอาใจ มีบ้านใหญ่โตสุขสบายใช่ไหม”
พิมพรหันมาเห็นตวาดว่าใครอนุญาตให้เข้ามาไร้มารยาทสิ้นดี อาโปสวนอย่างโกรธแค้นว่า
“เธอนั่นแหละ ยัยแม่มด ผิดผี หน้าไม่อาย มีลูกมีผัวแล้วยังมายั่วยวนผู้ชายเขา” จีรณะสั่งให้หยุด “ไม่หยุด บอกมาเลยดีกว่าว่าลูกสาวแม่เลี้ยงจะเอาพี่หรือเอาน้องเป็นเมีย”
จีรณะปรามว่าอย่าก้าวร้าวผู้ใหญ่สั่งให้ขอโทษพิมพรเดี๋ยวนี้ อาโปเถียงว่าถึงตนจะอายุไม่มากเท่านายแต่ก็รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่เคยขายศักดิ์ศรีขายวิญญาณเหมือนกับนาย เลยถูกจีรณะตบจนหน้าหัน อาโปแค้นใจ เสียใจร้องไห้โฮ
“ทุกอย่างที่ฉันทำมีเหตุผล กลับไปซะ” จีรณะบอกอาโปหลังจากอึ้งไปชั่วขณะ
อาโปเอาใบ ร.บ.1 กับกล่องของขวัญเขวี้ยงใส่หน้าจีรณะ ตะโกนปนเสียงร้องไห้ “เอาไปเลย ประกาศนียบัตรบ้าๆ ต่อไปนี้เราขาดกัน จะเป็นตายก็ไม่ต้องมาพบมาเจอกันอีก ชีวิตอาโปไม่เกี่ยวกับนายอีกแล้ว!” พูดแล้ววิ่งร้องไห้ออกไปชนบ็อบบี้ที่มาดูจนล้ม บ็อบบี้ลุกขึ้นมองอาโปงงๆ ถามครูจีว่าอาโปร้องไห้ทำไม
“ช่างเขาเถอะ ไม่ต้องไปสนใจ ขอโทษด้วยนะครับคุณพิม” พูดแล้วก้มเก็บใบ ร.บ.1 กับกล่องของขวัญขึ้นดู
จิตราเฝ้าปลอบโยนอาโปที่กลับมาแล้วยังร้องไห้ไม่หยุดว่า จีรณะไม่ตั้งใจทำร้ายอาโปหรอก เขารักอาโปจะตายรักเหมือนคนในครอบครัวเราจริงๆ
“คนรักกันเขาไม่ตบหน้ากันหรอก ลับหลังก็ว่าคนในคุ้มอมราเลวอย่างนั้นร้ายอย่างนี้ แต่ก็เอาเขาเป็นเมีย นี่เหรอที่คนดีเขาทำกัน”
ผู้กองบอกอาโปว่า จีรณะต้องมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น อาโปย้อนเอาว่า เด็กทำอะไรก็ผิด ผู้ใหญ่ทำผิดก็บอกว่ามีเหตุผล ต่อไปตนไม่ฟังอะไรอีกแล้ว พูดแล้ววิ่งขึ้นบ้านไปเลย ผู้กองหนักใจที่นับวันอาโปก็ยิ่งไม่เข้าใจจีรณะมากขึ้นทุกที
“ค่ะ บางทีเรื่องของเหตุผลกับหัวใจมันก็อธิบายไม่ได้จริงๆ” จิตราพูดเรื่องของอาโปกับจีรณะแต่ใจคิดถึงยศคิดถึงเรื่องของตัวเอง
ooooooo
ที่สำนักงานสมัชชารักษาป่า จีรณะเปลี่ยนซิมการ์ดให้บุญมี ตุ๋ยและไทร เอาไปถ่ายรูปการทุจริตเลือกตั้งของพวกแม่เลี้ยง เพื่อเอามาเป็นหลักฐานเล่นงานพวกแม่เลี้ยง
บุญมีบอกพรรคพวกว่า ถ้าเรามีหลักฐานหนักแน่น มหาเชียรต้องชนะแน่ๆ จีรณะบอกว่าตนไม่ได้ทำเพื่อมหาเชียร แต่ทำเพื่อชาวทุ่งทอง ภีมะถามว่า แล้วไม่กลัวผิดใจกับลูกสาวแม่เลี้ยงหรือ จีรณะตอบหนักแน่นว่า ความถูกต้องต้องมาก่อน ภีมะนึกขึ้นได้เอารูปของผู้สมัครอีกคนมาให้ดูกัน จีรณะดูแล้วถามว่า
“นายสัญญา บารมี หมายเลข 2 ทำไมหรือครับ”
อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 15 วันที่ 20 ม.ค. 57
พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรขพรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ