อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 12 วันที่ 12 ม.ค. 57

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 12 วันที่ 12 ม.ค. 57

มนัสมาถึงพอดี นิตยาจะขึ้นมอเตอร์ไซค์แต่เกิดปวดท้องกะทันหันกุมท้องตัวงอ จิตราเห็นเลือดไหลมาตามขาเธอพยายามเรียกนิตยาไว้ แต่นิตยาเร่งมนัสให้รีบพาหนี “ไอ้มนัส แกบังอาจจะพาลูกฉันหนี ไอ้คนอกตัญญู” คุณนายด่าลั่น

จิตราบอกคุณนายว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยเพราะนิตยาตกเลือด แล้วเรียกยามให้ไปตามบุรุษพยาบาลเอาเปลมาเร็วๆ ทุกคนชะงักตกใจเมื่อเห็นเลือดไหลมาตามขานิตยา มนัสรีบประคองเธอไว้ก่อนที่จะทรุดลงไป

วันรุ่งขึ้น ที่ร้านหนานเทือง ดาบม้วนเล่าให้มวลหมู่ที่สนิทฟังว่า เมื่อวานมนัสถูกสอบสวนเกือบสองชั่วโมงจึงได้ปล่อยตัว โชคร้ายที่ถูกหาว่าลักพาตัว สายพิณสอดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า นิตยานั่นแหละหน้าด้านมายั่วมนัสของตน บัวหอมฟังอยู่นาน พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า

“นี่ เฮาว่าอักษรเลขกับลูกสาวผู้ว่าต้องมีอะไรลึกซึ้งกัน ท้าสิบเอาหนึ่งลูกในท้องเปิ้นต้องเป็นลูกคุณมนัส”

เลยมีผู้พนันขันต่อ ทองยื่นเงินให้บัวหอมเสนอ “ฉันรองร้อยนึง ฉันว่าเป็นลูกนายยศ” บัวหอมกำลังจะเอาเงินเสียบที่หน้าอกก็ถูกดาบม้วนสับกุญแจมือข้างหนึ่งทันทีข้อหาผิดพระราชบัญญัติเล่นการพนัน

ส่วนสายพิณไม่มีแก่ใจจะสนุกสนานกับใคร บ่น “เซ็งจริงๆ อกหักอีกตามเคย เฮาน่าจะเอะใจแล้ว ขนาดคุณจียังไว้ใจไม่ได้ เฮาคงต้องค้างเติ่งอยู่บนคานจนตายแล้วล่ะ”

ooooooo

นิตยาถูกนำตัวเข้าห้องไอซียู หมอแสดงความเสียใจกับผู้ว่าเรื่องเด็กในท้อง ผู้ว่าถามว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทันใดนั้นมนัสก็พรวดเข้ามากราบเท้าขอโทษผู้ว่า

ขณะผู้ว่ากำลังงงๆนั่นเอง คุณนายก็ด่ามนัสว่าเนรคุณแล้วตรงเข้าตบหน้า ผู้ว่าจับคุณนายไว้ถามว่าทำอะไร!

“ก็มันนี่แหละที่ทำให้ยัยนิตแท้ง!” คุณนายกล่าวโทษ

“เรื่องทั้งหมด ผมเป็นคนผิดเพียงผู้เดียวครับผมยอมรับว่าผมแอบหลงรักคุณนิตยา และเมื่อคุณนิตดีด้วยกับผม ผมเลยคิดว่าเราสองคนรักกันโดยไม่เคยมองตัวเองว่าผมมันจน ไม่คู่ควรกับคุณนิตสักนิดเดียว” มนัสสารภาพ

ผู้ว่าถามว่าแล้วมันยังไง คุณนายโพล่งออกไปว่า “จะยังไง มันก็หลอกให้ยัยนิตสงสาร ออกมาหามันแล้วมันก็เอาตัวยัยนิตไปทำมิดีมิร้ายน่ะซิ ไปแจ้งตำรวจเลยค่ะ คนอย่างมันต้องอยู่ในคุกในตะราง ไอ้คนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา”

ผู้ว่าถามว่าเรื่องเกิดก่อนหรือหลังนิตยาแต่งงาน คุณนายตัดบทว่าถามทำไม คนอย่างนี้กับเราคนละระดับกัน

“คุณนายพูดถูกครับ ผมกราบขอโทษท่านอีกครั้ง ขอให้ท่านรักษาสุขภาพด้วย” มนัสไหว้แล้วเดินออกไป ผู้ว่าพยายามเรียกมนัสไว้ ถูกคุณนายเสียงดังใส่ว่า ไม่ต้องเรียกให้ไปน่ะดีแล้วอยู่ไปก็เสนียดเปล่าๆ ซ้ำยุให้ผู้ว่าไล่มนัสออกด้วย

“ฉันจะไม่ทำอะไรจนกว่าฉันจะสอบสวนทุกอย่างให้กระจ่าง” คุณนายถามว่ายังจะเข้าข้างมันอีกหรือ! “บอกตรงๆนะ ผมเสียดายที่เพิ่งรู้ความจริง ถ้าได้มนัสมาเป็นลูกเขยทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้”

แม่เลี้ยงเดินเข้ามาพอดี รีบเข้ามาสวัสดีผู้ว่า ผู้ว่ารับไหว้แล้วเดินผ่านไปเลย แม่เลี้ยงยิ้มค้างคุณนายโผเข้ากอดแม่เลี้ยงร้องไห้ฮือๆ

ooooooo

ยศกำลังเล่นสนุ้กอยู่ได้รับโทรศัพท์จากแม่เลี้ยงก็ปดว่าตอนนี้ตนติดประชุมอยู่เดี๋ยวจะรีบไป ถูกแม่เลี้ยงด่าจนต้องเอาโทรศัพท์ออกกดทิ้ง บอกพีรพงษ์ ว่านิตยาแท้ง แล้วพูดต่ออย่างโล่งใจว่า

“ดีแล้วล่ะ ลูกออกมาเกิดหน้าไม่เหมือนผมละก็อายตาย” พีรพงษ์ติงว่าพูดอะไรอย่างนั้น “ก็ผมเคยบอกแล้วว่าผมไม่เคยชัวร์เลยว่าลูกในท้องน่ะมันฝีมือผมหรือเปล่า”

ชีพพูดแทรกขึ้นว่าที่ตลาดลือกันว่านิตยาท้องกับอักษรเลขที่จวน ยศได้ทีฟันธงทันที...

“นั่นไง ว่าแล้ว ยัยนิตต้องท้องกับไอ้นี่แน่ เอาละวะ สบายแล้วผม แบบนี้ผมก็มีเหตุผลที่จะหย่าแล้วก็กลับไปหาจิตราได้” พีรพงษ์ติงว่าใจเย็นๆ คิดให้ดี จะทิ้งลูกผู้ว่าแล้วไปเอานางพยาบาลหรือ?! “แต่ผมทนไม่ได้ที่จะให้จิตไปได้กับไอ้ ตชด.นั่น”

แต่พอพีรพงษ์เอาเรื่องธุรกิจมาเตือนสติว่าเรายังต้องพึ่งบารมีผู้ว่า ยศก็สบถอย่างหัวเสีย “โธ่เว้ย!” ก็พอดีได้รับโทรศัพท์จากชีพแจ้งว่า เจอผู้กองกับพวกลงมาจากดอย พีรพงษ์แววตาเจ้าเล่ห์ถามยศว่า

“งั้นก็สนุกล่ะ คุณไม่อยากให้แฟนเก่าคุณแต่งงานใช่ไหม ผมมีวิธี”

พีรพงษ์ส่งชีพกับลูกน้องสองคนสะกดรอยผู้กองกับจ่าตุ๋ยขณะผู้กองเอาพระไปให้เซียนพระส่องพระอยู่ที่แผงเช่าพระ ครู่เดียวพีรพงษ์ ยศ และลูกน้องก็เดินเข้ามา พีรพงษ์ทำทีทักทายว่ามาเช่าพระหรือ ชีพหัวเราะเยาะพูดเย้ยว่าหน้าอย่างนี้หรือจะมาเช่าพระ มาปล่อยของมากกว่า

ระหว่างนั้นยศแอบโทร.เรียกโสภิตมาส่งสัญญาณให้พีรพงษ์หันมองไปทางโสภิต แล้วตัวเองก็เข้าไปพูดยั่วผู้กองว่า แน่ใจหรือว่าจะรับเดนจากตน ผู้กองหันมาต่อยเปรี้ยงแล้วจะตามอัดซ้ำ จ่าตุ๋ยรีบเข้าไปห้าม เลยถูกชีพกับสมุนของพีรพงษ์จับตัวไว้ทำทีว่าเข้ามาห้ามแต่ที่แท้แอบต่อยซ้ำ

พีรพงษ์ทำทีห้ามผู้กอง ถูกผู้กองจับเหวี่ยงไปเลยแกล้งทำเป็นชนอะไรลุกไม่ขึ้น เฮียเจ้าของร้านรีบโทร. แจ้งตำรวจ โสภิตเห็นผู้กองวิ่งใส่ยศที่วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน ยศเอามือปิดหน้าร้องขอ “อย่า...อย่าทำผม” โสภิตพรวดเข้าไปจับผู้กองดึงออกมา เวลาเดียวกันชีพกับสมุนก็ปล่อยจ่าตุ๋ย จ่าแค้นเลยซัดคืน พีรพงษ์จ้องอยู่แล้วรีบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานทันที

ooooooo

วันนี้ จิตรามีนัดกับผู้กอง เลิกงานแล้วเธอจึงยังรออยู่ที่โรงพยาบาล แต่จู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากโสภิต ฟังปลายสายแล้วเธอตกใจปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้บอกว่าจะไปเดี๋ยวนี้ คว้ากระเป๋าถือได้ก็เดินแทบเป็นวิ่งออกไป

ที่มุมหนึ่งในห้องโถงโรงพยาบาล คุณนายยังร้องไห้กระซิกๆอยู่ มีแม่เลี้ยงคอยปลอบ ให้กำลังใจคุณนายว่าทั้งนิตยาและยศยังแข็งแรงคงมีลูกใหม่ได้ไม่ยาก

“ไม่ได้เสียใจอย่างเดียว เจ็บใจด้วยค่ะ ทั้งเจ็บทั้งอาย” คุณนายยังคร่ำครวญ

แม่เลี้ยงบอกว่าไม่ใช่ความผิดของนิตยากับยศแต่เป็นความผิดของมนัสต่างหาก แม่เลี้ยงชมลูกของตัวเองว่ายศเป็นคนรักครอบครัว หนักแน่น ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้ ส่วนคุณนายก็แก้ต่างให้นิตยาว่าเป็นคนหัวอ่อนคงถูกใครมายุว่ายศเจ้าชู้จะไปมีกิ๊ก เลยเข้าใจผิดทะเลาะ เบาะแว้งกัน

ขณะนั้นเอง แม่เลี้ยงเห็นจิตราถือกระเป๋ารีบเดินออกไปข้างนอกก็ของขึ้นทันที บอกคุณนายว่าพยาบาลคนนั้นเป็นคนช่วยนิตยาตอนแท้งยังไม่ได้ให้รางวัล เลย ลุกพรวดบอกคุณนายว่าจะไปตบรางวัลสักหน่อยแล้วจ้ำอ้าวตามไป

“ที่หนูนิตยาแท้งฝีมือแกไหม” แม่เลี้ยงกระชากแขนจิตราตวาดว่า “แกใช้วิชาชีพของแกอ่อยลูกชายฉัน”

จิตราตอบโต้อย่างไม่สะทกสะท้านยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไร แล้วยกมือไหว้ขอตัวไป แม่เลี้ยงทำท่าจะตามไปจิก ก็พอดีชีพมาถึง ถูกแม่เลี้ยงด่าว่ามัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนให้รีบไปตามยศมา

“ตอนนี้คุณยศอยู่ที่สถานีตำรวจครับ”

“ฮ้า!” แม่เลี้ยงตกใจตาเหลือก

ooooooo

ที่โต๊ะสืบสวนในโรงพัก คู่กรณีทั้งหมดนั่งอยู่ตรงหน้าสารวัตรสอบสวน มีจ่าทองกับดาบม้วนยืนเกาะโต๊ะเงี่ยหูฟังอยู่ห่างๆ

ยศแจ้งความว่าผู้กองเกียรติก้องกับจ่าตุ๋ยพยายามฆ่าพวกตน โดยอ้างโสภิตเป็นพยาน โสภิตให้การกับสารวัตรว่า

“ฉันเห็นว่าผู้กองไล่ต่อยพี่ยศ แต่ไม่ได้เห็นว่าเขามีอาวุธ”

ผู้กองโต้ว่าถ้าตนมีอาวุธยศก็คงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ยศฟ้องสารวัตรว่าตนพูดด้วยดีๆยังมาอาฆาตมาดร้าย ส่วนพีรพงษ์ก็อ้างว่าตนพยายามเข้าไปห้าม แต่ผู้กองไม่ยอมฟังซ้ำยังจะทำร้ายตนด้วย พลางเอามือถือมาเปิดคลิปให้สารวัตรดู

ยศพยายามจะให้สารวัตรจับผู้กองเข้าคุก จ่าตุ๋ยโต้ว่ายศกล่าวหาเกินไปเพราะผู้กองมียศมีตำแหน่งไม่ใช่อันธพาล จ่าทองกับดาบม้วนเห็นด้วยกับจ่าตุ๋ย ถูกยศหาว่าพวกนี้ก๊วนเดียวกันหมด จ่าทองเลือดขึ้นหน้าปรามว่าจะพูดอะไรก็ให้เกียรติเครื่องแบบด้วย

“โทษนะ อย่างจ่ากับดาบจะเอาอะไรมารับรองหา! จับผู้ร้ายยังผิดตัวเลย นี่ถ้าไปเป็นยามที่บริษัทผม ผมก็คิดหนักนะเนี่ย” พูดแล้วหัวเราะเยาะ บรรดาสมุนพากันหัวเราะประสานเสียงกันลั่นโรงพัก

จ่าทองกับดาบม้วนทนไม่ไหวโถมเข้าลุยกับสมุนของยศ จ่าตุ๋ยกับผู้กองพุ่งเข้าใส่ยศกับพีรพงษ์ ชกต่อยกันนัวเนีย ส่งเสียงอึกทึกลั่นโรงพัก สารวัตรได้แต่เป่า นกหวีดห้ามแต่ก็ไม่มีใครสนใจ

ในที่สุด จ่าตุ๋ย ผู้กอง ดาบม้วนกับจ่าทอง ถูกจับเข้ากรงขัง ต่างยืนเกาะลูกกรงกันหน้าสลอน

ยศกลับไปเล่าให้แม่เลี้ยงฟัง โดยมีโสภิตนั่งอยู่ด้วย สองแม่ลูกหัวเราะกันอย่างสะใจ แม่เลี้ยงถึงกับจะไปดูน้ำหน้าจีรณะที่โรงพัก ยศบอกว่าจีรณะถูกจัดหนักไปก่อนหน้านี้แล้ว งานนี้ถึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต แม่เลี้ยงจึงปรามโสภิตว่า

“ยายภิต ฉันสั่งไว้เด็ดขาดเลย ห้ามแกช่วยพวกมันเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนคำสั่งฉัน จะได้เห็นดีกัน”

โสภิตลุกออกไปเซ็งๆ ส่วนยศก็บอกแม่เลี้ยงว่าต้องไปเทกแคร์ลูกค้าแล้ว แม่เลี้ยงถามว่าทำไมไม่ไปเยี่ยมนิตยาที่เพิ่งแท้งลูก ยศกะล่อนเอาตัวรอดว่า

“ก็เขายังอยู่ไอซียู แล้วตอนนี้ผมก็ยังทำใจไม่ได้ มันเศร้า ไว้พรุ่งนี้ค่อยไป แม่ไม่ต้องห่วง เรื่องผลิตหลานผมถนัด” พูดจบก็ส่งจุ๊บให้แม่เลี้ยงแล้วเดินตัวปลิวออกไปทันที

โสภิตไปดักพบยศที่นอกห้องถามเขาว่าทำอะไรจีรณะ! ยศทำหน้าตายว่าไม่รู้เรื่องทั้งที่เพิ่งพูดกับแม่เลี้ยงไปหยกๆ

“อย่าโกหก ก็พี่บอกแม่ว่าเขาไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต” โสภิตยัน ยศปฏิเสธพัลวันทั้งยังโบ้ยว่าจีรณะมีศัตรูมากมายอาจถูกใครกระทืบก็ได้ ทำให้โสภิตแน่ใจว่าจีรณะถูกทำร้ายจริงๆ

“แกนี่ยังไง ถูกมันหลอกมาแล้วไม่รู้จักเข็ด ยังจะ ไปห่วงใยมัน แกต้องคิดแก้แค้นแทนฉันถึงจะถูก ฉันก็นึกว่าแกจะฉลาดไอคิวสูงกว่าใครบางคนที่ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด น่าเป็นห่วง” ยศแกล้งพูดแดกดันพิมพรที่ เดินมาพอดี

พิมพรไม่ยอมให้ยศว่าเอาตามใจชอบท้าให้ควักสมองออกมาดูว่าใครจะมีรอยหยักมากกว่ากัน พุ่งเข้าไปจิกหัวยศไปขยี้ เลยตบตีกันนัวเนีย พวงร้องห้ามแต่ไม่กล้าเข้าไปคลุกกลัวโดนลูกหลง ส่วนโสภิตแค่มองๆ ส่ายหน้าแล้วเดินหนีไป

ooooooo

จิตราไปถึงโรงพัก เจอผู้กอง จ่าตุ๋ย จ่าทองและดาบม้วนยืนเกาะลูกกรงกันหน้าสลอนอยู่ เธอบอกว่ารอสักนิดตนกำลังหาทางประกันตัวให้ทุกคนอยู่

ผู้กองบอกให้ปล่อยไปเถอะ ตนหาเรื่องเองสมควรแล้ว จ่าตุ๋ยไม่ยอมเพราะพวกนั้นจงใจยั่วให้พวกเราโกรธ

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่คนผิดก็คือพี่ที่ไม่รู้จัก ระงับอารมณ์ จิตอย่าต้องมาเดือดร้อนเพราะพี่เลย พี่ อยู่ได้” จิตราถามว่าพูดอย่างนี้ได้ยังไง แล้วเด็กๆ บนดอยล่ะ? “อย่าเพิ่งบอกไอ้จีนะจิต พี่ไม่อยากให้มันห่วงหน้าพะวงหลัง” ผู้กองขอร้อง

เมื่อจิตรากลับบ้าน เจอโสภิตมารออยู่แล้ว เธอถามว่าจีรณะเป็นอย่างไรบ้าง จิตราถามประชดว่าหมายถึงตายรึยังหรือ

“ฉันไม่อยากให้คุณจีรณะตาย”

“อ๋อ...งั้นที่พี่ชายคุณให้คนดักซ้อมพี่จี ก็คงกะ แค่สั่งสอนน่ะสิคะ พวกคุณแค้นพี่จีกับพี่ก้องฉันพอจะเข้าใจ แต่เด็กๆบนดอยเกี่ยวอะไรด้วย คุณถึงต้องเผาโรงเรียนของพวกเขา” โสภิตตกใจถามว่าเผาโรงเรียนหรือ?! “คุณจะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ได้ เพราะเด็กๆคงไม่มีปัญญาไปร้องเรียนเอาผิดกับพวกคุณ และฉันก็จะสอนให้พวกเขาอโหสิให้ รวมทั้งพวกฉันเองด้วย เชิญคุณกลับไปได้แล้ว”

“สิ่งที่คุณพูดมันเป็นการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน ฉันจะยอมรับผิดต่อเมื่อฉันรู้เห็นได้ด้วยตาตัวเอง และถ้าถึงเวลานั้น ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”

“คุณจะบอกว่าคืนที่พี่จีไปหาคุณจนถูกลอบทำร้าย คุณไม่รู้เห็นเหรอคะ...พอเถอะค่ะ อย่ายุ่งกับพวกเราอีกแค่นี้พี่จีก็เสียใจมากพอแล้ว ฉันไม่เคยเห็นเขาจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเท่าคุณ แล้วก็เจ็บเพราะใครเท่าคุณเหมือนกัน”

โสภิตอึ้งครั้งแล้วครั้งเล่ากับความจริงที่ได้ฟังจากจิตรา เธอเดินจากไปเงียบๆด้วยความรู้สึกที่ตกใจห่วงใยสับสน

ส่วนจิตราไปหาภีมะที่สำนักงานเพื่อหาทางประกันตัวพวกผู้กอง ภีมะถามว่าโฉนดที่ดินบ้านติดประกันตียูอยู่ไม่ใช่หรือ จิตราบอกว่าใช่ ตั้งแต่ตียูตายไปแล้วโฉนดนี้ก็ไม่ได้ประกันใครอีก

“มันยังติดปัญหาเรื่องเอกสารครับ ยังไม่ได้คืนตอนนี้” ภีมะบอก

“แล้วจิตจะช่วยพี่ก้องยังไงคะ” จิตรามองหน้าภีมะรอคำตอบ ภีมะเองก็ได้แต่ส่ายหน้าคิดไม่ออกเหมือนกัน

ooooooo

แม่เลี้ยงตัดสินใจลงสมัครนายกเทศมนตรี หาทางรีดเงินจากลูกหลานกระทั่งคนใช้อ้างว่าต้องเอาเงินไปทำงานเพื่อชาติ ฉะนั้นทุกคนต้องเสียสละและประหยัด

โสภิตถามแม่เลี้ยงว่าจำเฮียสมคิดที่หนีหนี้ไปได้ไหม ตนสืบรู้มาว่า เฮียสมคิดไปสร้างคอนโดขายที่เชียงใหม่ ได้หลายสิบล้าน ตนจะไปทวงหนี้ให้ แม่เลี้ยงตาโต สั่งว่าถ้ามันไม่ใช้ก็ให้ยึดคอนโดมันเลย

“ค่ะ เดี๋ยวภิตจัดการเอง”

“ชวนพ่อพงษ์เขาไปเป็นเพื่อนด้วยสิ”

“ค่ะ” โสภิตรับคำไปอย่างนั้นเพื่อตัดปัญหาที่จะเป็นอุปสรรคกับแผนการของตน

ooooooo

จีรณะร่วมกับครูและชาวบ้านเร่งสร้างโรงเรียน ใหม่ บ่นกับอาโปว่าเย็นแล้วทำไมผู้กองกับจ่าตุ๋ยยังไม่กลับมา

ขณะช่วยกันตั้งเสาธงนั้น จีรณะปวดหัวรุนแรงจนต้องเอามือกุมขมับบีบขยี้

เลิกงานกลับถึงบ้านพักของจะมู อาโปเรียกให้กินข้าว อวดอย่างภูมิใจว่าตนทำกับข้าวอร่อยๆรออยู่ จีรณะบอกว่าวันนี้ไม่กินเพราะง่วงนอนมาก แม้อาโปจะงอนๆผิดหวัง แต่ตกใจมากกว่าเมื่อจีรณะไข้สูงตัวร้อนมาก ละล้าละลังไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะพ่อก็ไม่มียาไว้ที่บ้านด้วย

“นอนตื่นมาก็หาย” จีรณะบอกแล้วนอนหันหลังให้ อาโปยืนมองอย่างเป็นห่วงมาก

เช้าวันรุ่งขึ้น อาโปพาผู้อาวุโสมาทำพิธีให้จีรณะหายป่วยแล้วจะมูก็เอาน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านให้ดื่ม

เสร็จพิธี ผู้อาวุโสลุกไปทั้งที่ปากยังพึมพำ อาโปกับจะมูก้มหมอบ จีรณะยกมือไหว้ขอบคุณ

โสภิตมาถึงซากโรงเรียนที่ถูกเผา เธอยืนมองอย่างหดหู่ใจ อาโปมาเจอ โสภิตถามถึงจีรณะ อาโปบอกว่านายไม่ได้อยู่ที่นี่ไล่เธอให้กลับไปเสีย โสภิตยังพยายามที่จะถามถึงจีรณะ อาโปเลยป่าวร้องกับพวกเด็กๆที่ตามมาว่าผู้หญิงคนนี้ใจร้ายสั่งให้คนมาเผาโรงเรียนของเราไล่ไปให้พ้นเลย พวกเด็กๆพากันส่งเสียงไล่จนโสภิตหน้าเสียจำต้องค่อยๆถอยไป
เมื่ออาโปกลับไปถึงบ้านพัก จีรณะตื่นขึ้นมาพอดีเขาถามทันทีว่าพวกผู้กองกลับมาหรือยัง พอรู้ว่ายังก็พยายามจะลุกออกไปข้างนอก อาโปกันไม่ให้ออกไปบอกว่า

“นายออกไปตอนนี้ไม่ได้ มีตัวอันตราย ยัยอุตพิด ลูกสาวแม่เลี้ยงมาตามหานาย มันต้องคิดจะทำร้ายนาย อีกแน่”

“อุตพิด...อัปสรโสภิตน่ะเหรอมาที่นี่ เป็นไปไม่ได้” จีรณะทั้งตื่นเต้น ทั้งไม่เชื่อ

อาโปบอกว่าจริง แต่นายไม่ต้องกลัวตนให้สมุนจัดการแล้ว จีรณะไม่สนใจ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งออกไปทั้งที่อ่อนเพลียมาก ไปจนถึงบริเวณโรงเรียนเก่าที่ถูกเผา เห็นเด็กๆกำลังรุมกันไล่โสภิตอยู่ เขารีบเข้าไปห้ามสั่งทุกคนให้หยุด ไม่อย่างนั้นครูจะลงโทษ แต่พวกเด็กๆยังรุมกันไล่และขว้างปา

จีรณะเข้าไปขวาง อาโปขอปาส่งท้ายอีกที เลยถูกจีรณะเข้าอย่างจัง เขาล้มลงหมดสติเพราะพิษไข้กำเริบ ทุกคนตกใจมาก รีบพาไปที่บ้านจะมู โสภิตตามไปด้วยเธอเสนอให้พาเขาไปหาหมอถามว่าอนามัยอยู่ไหน อาโปไม่ยอมบอกสั่งให้หยุดไล่ไม่ให้มายุ่งกับนายของตน เลยถูกจะมูดุว่า

“เจ้านั่นแหละที่ต้องหยุด คุณคนนี้เป็นแขกมาบ้านเรา เราต้องต้อนรับไม่ให้ผิดผี พาคุณคนนี้ไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนด้วย” จะมูยังขอโทษโสภิตแทนลูกสาวด้วย โสภิตไม่ถือสาแต่อยากพาจีรณะไปหาหมอ อาโปเอาเสื้อผ้ามาโยนให้บอกว่าไม่ให้เอาจีรณะไป และไล่โสภิตให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง

“ถ้านายตื่น นายก็ต้องสั่งให้เจ้าไปดูแลคุณคนนี้เหมือนกัน” จะมูปราม แต่อาโปทำหูทวนลม ไม่รู้ไม่ชี้

ooooooo

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 12 วันที่ 12 ม.ค. 57

พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรข
พรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ