อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 13 วันที่ 15 ม.ค. 57
“ใช่ ฉันห่วงคุณแทนพี่พิม เขาคงเสียใจมากถ้าคุณต้องเป็นอะไรไปจริงๆ”.จีรณะผิดหวังมากแต่ก็ปล่อยเธอตามสัญญา พลันทั้งสองก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงอาโปร้องเรียก “นาย...นาย” มองไปตามเสียงเห็นอาโปวิ่งนำหน้าพิมพรกับบ็อบบี้เข้ามา โสภิตรีบหลบหลังโขดหิน เขาถามว่าทำไมต้องหลบด้วย
“ฉันไม่อยากให้พี่พิมเห็นว่าฉันอยู่กับคุณ ฉันไม่อยากมีเรื่อง เพราะฉันแอบขึ้นมาที่นี่ไม่ได้บอกใคร”
“ข้ามเขาเล็กๆนั่นไปก็จะถึงทางเข้าด้านหลังหมู่บ้าน ไปถึงตรงนั้นก่อน ถ้าคุณพิมยังไม่กลับค่อยว่ากัน” เห็นสีหน้าเธอกังวลเลยแกล้งถาม “ทำไม กลัวผมล่อลวงคุณไปทำมิดีมิร้ายเหรอ ถ้าจะทำก็ทำไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
เป็นโชคดีที่คาดไม่ถึง เมื่อทั้งสองไปเจอชีพที่คุมรถขนไม้มาตกหล่มขึ้นไม่ได้ จนชีพลงมาโวยวาย ทำให้โสภิตเห็น เธอบอกว่าจะไปดูว่าชีพขนอะไรมา จีรณะดึงไว้ทำให้ต้นไม้ไหว ชีพเห็นชักปืนออกมาตวาดถาม
“เฮ้ย! ใครวะ!!” มันสั่งลูกน้องสองคนเฝ้าของที่รถ ที่เหลือให้ตามตนไป “เอาตัวมันมาให้ได้ อย่าให้รอด!!”
จีรณะพาโสภิตวิ่งหนีสุดชีวิต ถูกชีพยิงปืนไล่หลังแต่โชคดีที่ไม่ถูก
ทั้งสองวิ่งไปจนเจอลำธาร จีรณะจับมือเธอโดดลงน้ำ ประคองกันว่ายไปตามน้ำ ทั้งสองลอยคอไปไกลแต่ก็ยังถูกชีพกับลูกน้องยิงปืนส่งเดชมาสองสามนัด ทั้งสองสูดลมหายใจเต็มปอดแล้วดำน้ำหายไปพร้อมกัน...
ขึ้นจากลำธารเดินไปเจอกระท่อม พรานรอดโผล่พรวดออกมาขวาง พรานรอดจำจีรณะได้ จึงพาเข้าไปในกระท่อม ก่อไฟให้ความอบอุ่น ส่วนตัวเองออกไปนั่งบรรจุลูกตะกั่วปืนแก๊ปเงียบๆ
พวกชีพตามมาเจอ บอกพรานรอดว่ามาตามหาคนหนีมาทางนี้ พรานรอดบอกว่าไม่เห็นมีใคร ชีพจะเข้าไปค้น พรานรอดพูดหน้านิ่งว่าบ้านตนไม่ต้อนรับคนถืออาวุธ พอดีลูกน้องชีพชี้ให้ดูรอยเลือดที่พื้น ชีพสั่งให้เข้าไปค้นทันที!
พรานรอดชักมีดขว้างไปตัดเชือกที่ขื่อมุมบ้าน หมูป่าตัวไม่ใหญ่นักร่วงลงมาในถังตื้นๆเลือดกระจาย ชีพกับลูกน้องชะงัก พรานรอดบอกว่า “อยากกินก็เฉือนแบ่งกันไปไม่หวง” ชีพมองหมูป่าสั่งลูกน้องเซ็งๆ “กลับ!”
ooooooo
หลังจากช่วยจีรณะกับโสภิตรอดพ้นเงื้อมมือของชีพแล้ว พรานรอดเอาชุดชาวเขาให้ทั้งสองเปลี่ยน แล้วพาไปพักในถ้ำที่พรานรอดบอกว่า ถ้ำนี้ชัยภูมิดี ปลอดภัยแน่
จีรณะขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ พรานรอด
ถามว่าจำตนไม่ได้จริงๆหรือ แล้วเล่าว่า ตนคือเด็กคน สุดท้ายที่ครูเจือ ฝ่าเปลวไฟเข้าไปอุ้มออกมาจากซากรถที่ถูกระเบิดนั่นเอง
พรานรอดยังมอบผ้าขาวม้าไว้ให้สองผืน จีรณะจึงปูให้เธอนอนผืนหนึ่ง อีกผืนห่มให้คลายหนาว แต่เธอก็นอนไม่หลับ ลืมตาขึ้นมาเห็นจีรณะยังนั่งมองกองไฟอยู่ เตือนให้เขานอนเสียเดี๋ยวไข้จะกลับมาอีก
“ผมคิดถึงพ่อ”
“พ่อครูเป็นคนดีจริงๆ”
“แต่คนดีมักตายเร็ว ไม่ยุติธรรมจริงๆ โลกนี้”
“แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนคิดถึง รำลึกถึงคุณงามความดี ของพ่อคุณจนถึงวันนี้ ต่างจากครอบครัวฉันที่มีชาวบ้านแช่งชักหักกระดูก”
แม้โสภิตจะพูดเช่นนั้น แต่พอจีรณะถามว่าเธอเชื่อแล้วใช่ไหมว่าพี่ชายเธอขนไม้เถื่อนโดยมีพีรพงษ์หนุนหลัง เธอกลับบอกว่ายังไม่เชื่อ ชีพอาจทำงานให้ใครก็ได้ ชี้ให้เห็นว่าตอนที่เขาบุกโรงไม้ก็ไม่เจอหลักฐานอะไรสักชิ้นไม่ใช่หรือ
“คุณนี่สมกับเป็นลูกแม่เลี้ยงอมราจริงๆ ปกป้องทั้งพี่ชาย ทั้งผู้ชายที่แม่เลือกให้ ขอให้สมรักสมปรารถนาเร็วๆนะครับ” จีรณะหัวเราะประชด เธอประชดคืนว่าตนจะไม่ยอมปล่อยให้พีรพงษ์หลุดมือไปเด็ดขาด จีรณะเลยยื่นหน้าเข้าไปย้ำว่า “ถ้าเขาเชื่อนะว่าที่เราอยู่ด้วยกันสองคืนเนี่ย เรานอนจ้องตากันเฉยๆ รวมถึงคืนที่กระท่อมด้วย”
“ปากเสีย!” ด่าพร้อมกับตบหน้าเขาฉาดใหญ่ จีรณะสำออยร้องว่าเล็บเธอจิกตาเข้าตา เธอตกใจรีบขอดู “ไหน...เป็นไรมากไหม” เธอดึงมือเขาออกจากตาจ้องตาเขาหาบาดแผล แต่กลายเป็นตาจ้องตากันนิ่ง ลืมเรื่องเจ็บตาหมดสิ้น ต่างค่อยๆโน้มหน้าเข้าหากัน จูบกันอย่างเสน่หา...
ooooooo
พิมพรกับบ็อบบี้พักอยู่ที่บ้านจะมู อาโปจัดอาหารมาให้ในจานสังกะสีมีรอยกะเทาะกระดำกระด่าง พิมพรนั่งมองอย่างรังเกียจ ส่วนบ็อบบี้ดูอาหารแล้วจะหยิบกินตามประสาเด็ก
“อย่านะ อย่ากิน สกปรก” พิมพรห้าม บ็อบบี้บอกว่าพี่อาโปบอกว่ากินได้ “พวกชาวป่าชาวเขาก็กินกันได้สิ เรากินเข้าไปท้องเสียตายพอดี” พิมพรทำท่ารังเกียจ อาโป เหล่มองอย่างหมั่นไส้ เข้ามายกอาหารออกไปทันที
“ดี ไม่กินก็อดตายไป เพราะที่นี่มีแต่กับข้าวแบบนี้แหละ”
จะมูหอบผ้าห่มออกมาพอดี เรียกปรามอาโป ทำให้อาโปจำต้องกระแทกจานอาหารคืนที่เดิม จะมูพูดอย่างมีไมตรีว่าให้กินรองท้องไว้ อาหารพวกนี้ทุกอย่างทำสุกแล้วไม่สกปรกหรอก พลางเอาผ้าห่มให้บอกว่าที่นี่กลางคืนหนาวมาก
อาโปรับไม่ได้ที่พ่อจะให้ทั้งสองนอนที่นี่ ซ้ำจะมูยังให้สองคนนอนในบ้าน ไล่อาโปให้ไปนอนเต็นท์ด้วย บ็อบบี้นึกสนุกขอไปนอนเต็นท์กับอาโป ก่อกองไฟแคมปิ้งด้วย พิมพรเรียกปราม แต่บ็อบบี้ก็ไปนอนกับอาโปจนได้
“เมื่อคืนน้องสาวฉันก็นอนที่นี่เหรอ นอนกับใคร กับคุณจีหรือเปล่า” พิมพรถามทันที พอจะมูบอกว่าโสภิต
นอนเต็นท์ แต่จีรณะนอนบนบ้านก็โล่งใจ แต่ก็ยังระแวงถามว่า “แล้วสองคนนั่น พูดอะไร ทำอะไรกันบ้าง”
“ผมว่ารอนายกับแม่หญิงกลับมาแล้วค่อยถามไถ่กันเองดีกว่านะครับ” จะมูเลี่ยงไม่ตอบแล้วเดินออกไป พิมพรใช้นิ้วคีบผ้าห่มขึ้นดูอย่างรังเกียจ
รุ่งขึ้น บ็อบบี้ออกไปเล่นกระดานติดล้อกับเด็กๆ ชาวเขาอย่างสนุกสนาน จะมูเตรียมตัวจะออกไปตามจีรณะกับโสภิต สั่งอาโปให้อยู่ดูแลพิมพรกับบ็อบบี้คอยหาข้าวหาน้ำให้กิน
พิมพรจะขอตามจะมูไปด้วย แต่เกิดเรื่องเสียก่อน เมื่อเด็กชาวเขาวิ่งมาบอกว่า บ็อบบี้แย่แล้วเพราะเล่นกระดานติดล้อกันอยู่ดีๆ ก็ยกมือกุมตรงหัวใจทรุดลงกับพื้น เด็กๆ ตกใจไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพาไปนอนที่ศาลาเอาใบยูคา ใบหลิว ตะไคร้ มายีให้ดม
พิมพร อาย้ง อาโปวิ่งมาที่ศาลา พิมพาเอามือตบแก้มบ็อบบี้เบาๆ ร้องเรียกให้ตื่น บ็อบบี้ลืมตาบอกว่าตนง่วงมาก พิมพรหันไปแว้ดใส่เด็กๆทันทีว่าทำอะไรลูกตน อาย้งบอกว่าไม่ได้ทำอะไร เล่นกันอยู่ดีๆ บ็อบบี้ก็ล้มลงไปเอง
“ถ้ากลัวลูกตายก็รีบพาลงไปหาหมอซิ” อาโปได้ทีร้องบอก พิมพรอุ้มบ็อบบี้ไปขึ้นรถขับออกไปทันที
ooooooo
ส่วนจีรณะกับโสภิตพากันออกจากถ้ำเดินไปตามลำธารอย่างระแวดระวัง โดยมีพรานรอดตามมาส่งจนเห็นว่าพ้นเขตอันตรายแล้วจึงแยกไปเงียบๆ
ระหว่างทาง จีรณะยังหยอกเย้าโสภิตให้หายเครียด หลอกให้ตกใจแล้วขโมยหอมแก้มไปทีหนึ่ง โสภิตทั้งเคืองทั้งเขิน เลยถูกเขาอุ้มเหวี่ยงหมุนไปรอบตัวอย่างสนุกสนาน กลายเป็นหัวเราะกันอย่างร่าเริง
เดินไปจนถึงป่าโปร่ง ขึ้นถนนเดินไปไม่ถึง 10 ก้าว ได้ยินเสียงแตรรถบีบเรียก โสภิตหันไปดูเห็นเป็นรถของตนก็ยิ้มออก พจน์ขับรถมาให้บอกว่าจีรณะให้ตนเอายางไปปะให้แล้ว พอดีกับจะมูและอาโปวิ่งมา อาโปถามว่านายไปอยู่ไหนมา จีรณะพูดยิ้มๆ ให้สบายใจว่าตนไม่เป็นอะไร
“เราหลงป่าเลยค้างที่บ้านชาวบ้าน พี่สาวฉันมาใช่ไหม เขากลับไปรึยัง” โสภิตตอบให้อาโปหายข้องใจ จะมูบอกว่าพิมพรเพิ่งพาบ็อบบี้ที่ไม่สบายเข้าเมืองไปเมื่อครู่นี้เอง โสภิตตกใจถามว่าบ็อบบี้เป็นอะไร
“ก็เห็นเล่นอยู่กับเด็กๆอยู่ แล้วก็สลบไป” จะมูบอก โสภิตวิ่งไปขึ้นรถทันที จีรณะตามไปจับประตูรถไว้จะขอไปด้วย อาโปตะโกนอย่างไม่พอใจว่าทำไมต้องทำดีกับลูกสาวแม่เลี้ยงด้วย ไม่เคยจำบ้างหรือไง พจน์โพล่งไปว่าก็เขาเป็นแฟนกัน พอนึกได้รีบหยุด อาโปรับไม่ได้ ปฏิเสธลั่น
“ไม่จริง เอาอะไรมาพูด นายไม่มีวันชอบคนใจร้ายพรรค์นั้นหรอก” อาโปจะเข้าไป ถูกจะมูจับไว้ไม่ให้ไปยุ่ง
จีรณะบอกว่าตนเป็นห่วงบ็อบบี้ โสภิตบอกว่าแล้วจะส่งข่าวมา เขาพูดหน้าตาเฉยว่า “ผมห่วงคุณด้วย”
อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 13 วันที่ 15 ม.ค. 57
พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรขพรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ