อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 10 วันที่ 5 ม.ค. 57

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 10 วันที่ 5 ม.ค. 57

มันคือ “คำขอหนังสือรับรองไม้” ยศยื่นผ่านมนัสเอาไปเสนอ พอผู้ว่าเรียกยศเข้าไปถาม เขาพูดหน้าตาเฉยว่า

“อ๋อ...ก็แค่เป็นผู้ขอธรรมดา ผม แม่ผม หรือคุณนิตยา ก็ขอได้ครับ ไม่มีความหมายอะไร หรือผิดกฎหมายอะไรเลย”

“นี่ไม่รู้หรือแกล้งโง่ ผู้ขออนุญาตเป็นผู้ว่าราชการ จังหวัด คนที่เซ็นรับรองตรวจสอบ ตำแหน่งต่ำกว่าผมทั้งนั้น เขาจะกล้าปฏิเสธหรือ สายการบังคับบัญชาย้อนศรกันอย่างนี้ผมไม่เซ็น เอากลับไป คราวหลังรู้จักใช้สมองก่อนทำอะไรบ้าง”

ด่าแล้วไล่ให้ออกไปเสีย สั่งมนัสว่าต่อไปอย่าเอาเอกสารประเภทนี้มาให้รกตาอีก ยศฮึดฮัดดึงเอกสารออกไป

มนัสกลับถึงห้องนอนที่จวนผู้ว่าโยนเอกสารบนเตียงที่นิตยานอนเล่นอยู่อย่างหัวเสีย เมื่อนิตยารู้ว่าพ่อไม่เซ็นเอกสารให้ยศจึงขอดู ถามว่าถ้าตนเซ็นให้จะได้เท่าไร ยศ ควักออกมาหนึ่งหมื่น เธอเซ็นทันที คุยอวดว่า


“ฉันปลอมลายเซ็นคุณพ่อมาตั้งแต่ประถมแล้ว สมุดพกของฉันไม่เคยต้องรบกวนท่านเลย”

“เยี่ยม...คุณนี่ยอดมาก” ยศพอใจมากหลังจากดูลายเซ็นปลอม

ooooooo

นิตยายังตามหึงหวงมนัส โทร.เข้ามือถือเก่าเขา พอสายพิณรับสายก็ด่า จนสายพิณต้องไปติดต่อร้านที่ซื้อโทรศัพท์นี้ เจ้าของร้านจึงบอกเบอร์มนัสให้เพื่อมาเคลียร์กันเอง

เวลาเดียวกัน นิตยาก็ให้เพื่อนสืบจนรู้และพามาชี้ให้ดูตัวสายพิณ เป็นจังหวะที่มนัสมาเคลียร์กับสายพิณพอดี นิตยายิ่งเชื่อว่าสายพิณต้องมีอะไรกับมนัสเป็นพิเศษถึงได้ใช้มือถือของเขา

แต่พอสายพิณเห็นมนัสก็ปิ๊งทันที ตัดสินใจไม่ยอมเปลี่ยนเบอร์บอกว่าแฟนเก่าเขาจะโทร.มาด่าอย่างไรตนก็ไม่ว่าขอแต่ให้เราโทร.คุยกันบ้าง ส่งข้อความหากันบ้างในฐานะเพื่อน

“ไม่ได้! อยากคุยก็ไปคุยกับคนอื่น!!” นิตยาแทรกเข้ามาขวางทันที สายพิณจำได้ว่าเธอคือลูกสาว

ผู้ว่า นิตยาวางเขื่องทันทีว่า “จำได้ก็ดีแล้ว คุณมนัสเป็นลูกน้องคุณพ่อ มีแต่เรื่องราชการงานเมือง ไม่ว่างจะคุยฉอเลาะกับใครทั้งนั้น ไปพี่มนัส นิตมีธุระจะคุยด้วย” ว่าแล้วลากแขนมนัสออกไปเลย

นิตยาขับรถตะบึงไปจอดพรืดที่ไหล่ทาง แล้วระดมทุบตีและต่อว่าด่าทอมนัส จนเขาเปิดประตูรถเดินหนีไป

“คิดจะหนีไม่อยากเจอหน้าเจอตากันอีก ถึงขนาดขายโทรศัพท์ทิ้งเชียวเหรอพี่มนัส ทำไมไม่ฆ่าตัวตายไปซะเลยล่ะจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก”

“ผมไม่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอก ผมยังมีพ่อแม่พี่น้องต้องดูแล คุณนิตเองก็เหมือนกัน แต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ไม่ควรมาวอแววุ่นวายกับผมอีก ท่านผู้ว่ากับคุณนายรู้เข้าผมจะซวย”

“ซวยเหรอ แล้วแต่ก่อนมายุ่งกับนิตทำไมไม่คิดอย่างนี้ อ๋อ...หรือว่าไปหลงเสน่ห์นังแม่ค้าโชห่วยนั่นเข้าแล้ว คิดจะมีใหม่ใช่ไหม นี่แน่ะๆๆ!”

“หยุด พอได้แล้วคุณนิต ทำอะไรรุนแรงอย่างนี้ คิดถึงเด็กในท้องบ้าง”

เป็นคำเตือนที่ทำให้นิตยาชะงัก สบตามนัสอ้ำอึ้งอยากจะบอกว่านั่นคือลูกของเขา แต่ก็ทำได้แค่ถามว่า

“ตกลงเราจะต้องตัดขาดจากกันจริงๆ ใช่ไหม”

“ใช่ คุณแต่งงานกับคุณยศแล้ว มีลูกแล้ว เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบที่สุด ส่วนผมลูกชาวบ้านพื้นๆ อาจจะเหมาะสมคู่ควรกับแม่ค้าร้านโชห่วยในตลาดคนนั้นก็ได้ แยกกันตรงนี้นะครับ ขับรถดีๆล่ะ” พูดแล้วมนัสเดินออกไปโบกรถกระบะชาวบ้านขอโดยสารกลับไป นิตยามองตามทั้งรักทั้งแค้น

ooooooo

ใกล้เลิกเรียนแล้ว ขณะโสภิตกำลังนั่งทำงานที่สำนักงานคุ้มแม่เลี้ยงอมรานั้น ได้รับโทรศัพท์จากจีรณะ เธอดีใจขึ้นวูบหนึ่งแล้วกดสายทิ้ง อึดใจเดียวเขาโทร.มาอีก คราวนี้เธอปั้นหน้าขรึมกดรับ

กลายเป็นเสียงเพลง “พรมแดนหัวใจ” ดังมาแล้วจีรณะจึงถามว่า “เพลงเพราะไหมครับคุณอัปสรโสภิต” พอโดนถามประชดว่า ว่างนักรึถึงได้มาเปิดเพลงให้คนอื่นฟัง เขาทำเสียงนุ่มบอก “คนอื่นที่ไหนกัน คุณคือคนที่ผมคิดถึง เย็นนี้ผมจะได้เห็นหน้าคุณหรือเปล่า”

“ฉันไปรับบ็อบบี้ ไม่ได้อยากเจอหน้าคุณสักหน่อย แค่นี้นะ”

“จ้ะ...”

โสภิตกดตัดสายทันทีแล้วด่าเขินๆ “คนบ้า...”

แล้วเผลอใจฮัมเพลง “พรมแดนหัวใจ” ออกมาเบาๆ

“มีความสุขจริงนะ ว่ายังไง ความสัมพันธ์กับคุณพงษ์ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว เมื่อไหร่จะตกลงปลงใจให้แม่ดีใจสักที” เสียงแม่เลี้ยงหยอกอารมณ์ดีเข้ามา

โสภิตตอบทันทีว่าเลิกหวังได้เลย ตนไม่เคยคิดจะรักเขาด้วยซ้ำ ถูกแม่เลี้ยงบ่นว่าแปลก มีผู้ชายดีๆ มาชอบก็ไม่สน เอะใจถามว่า หรือแอบคบหากับผู้ชาย

คนไหนอยู่ เธอบอกว่าไม่มี ถ้าไม่ติดว่าต้องช่วยแม่ดูแลบ็อบบี้ ตนก็คงไปเรียนต่อหรือไม่ก็ไปบวชชีแล้ว

“นี่จะมาพูดจาประชดประชันฉันทำไม ฉันกลัวแกจะเหมือนยัยพิม ตอนแรกก็หน้ามืดตามัวไปเลือกฝรั่งตาน้ำข้าว ตอนนี้ก็ไปจี๋จ๋ากับไอ้จี จนก็จนแถมยังเป็นศัตรูกับบ้านเราอีก ที่พูดนี่ก็เพราะเป็นห่วง”

“รับรองค่ะแม่ ผู้ชายที่ภิตจะรักต้องเป็นคนดีรักภิตรักครอบครัว ภิตไปรับบ็อบบี้ก่อนนะคะ”

แม่เลี้ยงพูดตามหลังว่าให้มันจริงเถอะ ฉุกคิดอะไรได้ถามว่าโรงเรียนที่บ็อบบี้ไปเรียนเป็นอย่างไร หลานเรียนได้ไหม พวกครูกับเพื่อนๆดีกับหลานเราหรือเปล่า

“ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่คะ บ็อบบี้ชอบที่นั่นค่ะ” พูดแล้วเปิดประตูออกไปเลย แม่เลี้ยงมองตามเซ็งๆที่ยังไม่อาจกล่อมให้เธอสนใจพีรพงษ์ได้

ooooooo

หลังจากจีรณะสอนบ็อบบี้ให้รู้จักเป็นผู้ให้และใจกว้างอภัยให้คนอื่น กอปรกับการได้เล่นกีฬาด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของบ็อบบี้กับเบิ้มดีขึ้นจนกลายเป็นสนิทสนมกัน

วันนี้ หลังจากเล่นฟุตซอลชนะแล้ว จีรณะเห็นบ็อบบี้กับเบิ้มกอดแสดงความยินดีในชัยชนะกันก็เอ่ยกับโสภิตที่นั่งดูการแข่งขันและรับบ็อบบี้อยู่ว่า

“กีฬาเป็นยาวิเศษจริงๆนะคุณ นอกจากทำให้สุขภาพดีแล้ว ยังสร้างมิตรภาพให้คนอีกด้วย เมื่อก่อนนายเบิ้มไม่ค่อยชอบหน้าบ็อบบี้ เพราะผู้ปกครองเป็นลูกหนี้แม่เลี้ยง”

“คงเป็นแก๊งเดียวกับที่จับบ็อบบี้ขังห้องน้ำล่ะสิ” โสภิตถาม พอจีรณะมองหน้า เธอบอกว่า “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันไม่กลั่นแกล้งลูกศิษย์คุณหรอก”

“ผมก็คิดว่าคุณคงไม่ใจร้ายแบบนั้น...ที่จริงคุณใจดีด้วยซ้ำ” จีรณะชม ทำเอาโสภิตไม่กล้าสบตา

พอดีบ็อบบี้เข้ามา โสภิตกดภาพที่โทรศัพท์มือถือให้ดู ชมว่าหลานเล่นได้เฉียบขาด ตนจะบันทึกเอาไว้ให้ดูตอนบ็อบบี้เป็นหนุ่ม บ็อบบี้บอกว่าตนต้องเป็นทีมชาติให้ได้ แล้วขอไปเปลี่ยนชุดก่อน

ระหว่างรอบ็อบบี้ จีรณะบอกโสภิตว่าตนจะพาบ็อบบี้ไปทานไอศกรีมฉลองชัยชนะ ชวนเธอไปด้วยกัน เธอเล่นตัวว่าจะพาหลานกลับบ้านเพราะวันนี้เหนื่อยมากแล้ว จีรณะเลยให้บ็อบบี้เป็นคนตัดสิน ถูกเธอหาว่าแบบนี้มัดมือชกกันชัดๆ

“เปรียบเปรยซะน่ากลัว มัดมือชก ผมแค่อยากฉลองให้บ็อบบี้แล้วก็ได้อยู่ใกล้ๆคุณแค่นั้นเอง”

“นี่คุณจีรณะ ถามจริงๆ คุณกำลังทำอะไรกันแน่ เห็นฉันเป็นตัวตลก คิดจะปั่นหัวเล่นหรือคิดว่าฉันเป็นเครื่องทดสอบการบริหารเสน่ห์ของคุณ”

“ผมไม่เคยคิดทดสอบอะไรกับคุณ แค่ถ้าผมบอกคุณตรงๆว่า ผมชอบคุณ อยากเห็นหน้าคุณ คิดถึงคุณทุกวัน...คุณจะเชื่อผมไหม?”

“ไม่”

“นั่นไง”

“งั้นคุณก็ตอบมาสิว่าที่คุณทำอี๋อ๋อฉอเลาะกับพี่พิม คุณทำเพื่ออะไร”

เขาบอกว่ามีเหตุผลที่บอกเธอตอนนี้ไม่ได้ ก็พอดีได้รับโทรศัพท์จากพิมพร จีรณะกดรับ โสภิตเงี่ยหูฟังอย่างสนใจ

“เพิ่งเสร็จครับ...ตอนนี้เหรอครับ เออ...ครับ...ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” พอวางสายจากพิมพร เขาหันมาทางโสภิต คิดหาคำพูดที่จะบอกเธอ ถูกเธอดักคอเสียก่อนว่าพี่พิมโทร.มาใช่ไหม จีรณะรับโดยปริยายว่า “ก็... เธออยากจะชวนผมไปกินข้าว”

แต่พอโสภิตบอกว่า ดีสิไปกินกันหลายๆคนสนุกดี จีรณะกลับอึกอักเพราะอยากคุยส่วนตัวเรื่องงานกับพิมพร โสภิตยิ้มเยาะพูดอย่างรู้ทันว่า “แต่สำหรับคุณคงไม่สนุกสินะ” พอดีบ็อบบี้วิ่งกลับมาบอกว่าตนพร้อมแล้ว โสภิตเลยพูดประชดว่า “ครูจีเขามีธุระสำคัญ เราไปกินกันสองคนแล้วกันนะ”

บ็อบบี้ร้องอ้าว...อย่างผิดหวัง จีรณะเลยขอโทษ ปลอบว่าเอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน บ็อบบี้จึงยิ้มออกแล้วรีบวิ่งไปเพราะโสภิตบีบแตรเร่ง

ooooooo

จีรณะนัดพิมพรไปพบกันที่ร้านไอศกรีม พิมพรชวนอาทิตย์นี้ให้เขาเป็นไกด์พาบ็อบบี้ไปเที่ยวกันดีไหม เขาขอเช็กเวลาดูอีกที แล้วถามถึงเรื่องงานที่ใจจดจ่ออยู่ว่ามีปัญหาอะไรหรือ

“ก็ไม่เชิงค่ะ ตอนแรกก็นึกว่ายาก แต่จริงๆแล้ว แค่เอาความรู้สมัยปอห้ามาใช้ จ่ายเงินซื้อของไปกี่บาท ขายของกี่บาท เอารายจ่ายลบออกจากรายได้ ผลลัพธ์ก็คือกำไร ไอ้เรื่องขาดทุนเห็นจะยากค่ะ ลูกค้าก็พวกคนจีน ตอนนี้เศรษฐกิจของจีนกำลังดีเสียด้วย”

จีรณะเตือนว่า กำไรดีแบบนี้เธอยิ่งต้องระวัง เพราะว่า “ธุรกิจแบบนี้รั่วไหลง่าย ถึงจะคุมบัญชีดียังไง แต่สินค้าของเราคือไม้ มันละเอียดอ่อน มีทั้งไม้เถื่อน ไม้หวงห้าม เรื่องการส่งมอบสินค้า เรื่องการรับเงิน เก็บเงิน คุณพิมไม่มีทางไปดูรายละเอียดทุกขั้นตอนได้ เพราะมันเป็นเรื่องของผู้ชาย”

“จริงของคุณ” พิมพรเครียดขึ้นมา “นายยศก็ พึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้ วันๆไม่เห็นทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวสักอย่าง ได้แต่นั่งเต๊ะจุ๊ย นี่ถ้าได้คุณจีมาช่วยอีกแรง พิมคงสบายใจกว่านี้เยอะ”

“ผมยินดีช่วยเหลือคุณพิมทุกอย่างครับ แต่ขออยู่เบื้องหลังดีกว่า เดี๋ยวใครๆเขาจะหมั่นไส้เอา”

“พิมเข้าใจค่ะ มีอะไรไม่ชอบมาพากล พิมจะปรึกษาคุณจีก่อนเพื่อนเลย” พูดอย่างสบายใจแล้วตักไอศกรีมกิน บังเอิญไอศกรีมเปื้อนปาก จีรณะจึงใช้นิ้วโป้งเช็ดให้เบาๆ

ภาพนี้ถูกถ่ายคลิปไว้ทันทีโดยฝีมือของชีพที่ซุ่มดูอยู่นอกร้าน!

ooooooo

ใกล้ดึกคืนนี้ จีรณะโทร.เข้ามือถือโสภิต เธอกดทิ้งทั้งที่เผลอยิ้มออกมา ไม่ถึงอึดใจเขาโทร.เข้ามาอีก เธอกดทิ้งอีก

จากนั้นมีเสียงคนกดกริ่งหน้าบ้านติดๆกันสองครั้ง เธอรู้ว่าต้องเป็นเขาแน่ๆ พวงออกมาจะไปดู เธอบอกให้ไปนอนเสียตนไปเปิดประตูเองเพราะลืมของไว้ที่รถพอดี

เดินไปเปิดประตู ถูกจีรณะที่หลบอยู่เข้ามากอดจากข้างหลังเอามือปิดปากเธอไว้ไม่ให้ร้อง พอเธอเห็นว่าเป็นใครแล้ว เขาจึงคลายมือออก โสภิตดันตัวเองออกมา ทำเสียงเข้มใส่

“นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว หลอกให้ฉันลงมาพบ มีลูกเล่นอะไรจะมาอำกันอีก”

“เปล่า ผมแค่จะมาขอโทษเรื่องเมื่อบ่ายวันนี้ ที่ผมต้องรีบไปหาคุณพิม ทั้งๆที่บอกคุณว่าพาไปกินไอศกรีมกับบ็อบบี้”

“โถๆๆ นี่คุณนึกว่าตัวเองมีความสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด ไม่ได้แคร์เลยด้วยซ้ำ แค่รู้สึกเป็นห่วงพี่สาวว่าจะโดนคุณหลอก”

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้คิดร้ายกับพี่สาวคุณ แต่เพื่อความถูกต้องบางอย่าง ผมเลยยังอธิบายให้คุณกับคุณพิมรู้เหตุผลไม่ได้ว่าทำไมสัมพันธภาพของเราถึงต้องเป็นแบบนี้”

“เลยต้องตีสองหน้าจับปลาสองมือ? ขอเตือนเอาไว้ก่อน พี่พิมกับโธมัสพ่อของบ็อบบี้เขายังไม่ได้เลิกกันอย่างเป็นทางการ ระวังจะทำผิดศีลข้อสาม บาปหนาไม่รู้ด้วย” เลยถูกเขาอำว่าหึงตนหรือ

“คนบ้าอะไรหลงตัวเอง ต่อไปนี้ฉันจะไม่เชื่อลมปากคนอย่างคุณอีก”

“ผมก็ไม่เชื่อลมปากคุณว่ามันจะหวานเหมือนหน้าคุณรึเปล่า” แล้วมือไวจับเธอไปหอมทันที หอมแก้มซ้ายถูกตบซ้าย พอหอมแก้มขวาก็ถูกตบขวา เธอผลักเขาออกอย่างแรงแล้ววิ่งไปทั้งเขินทั้ง
แค้น จีรณะมองตามยิ้มๆ

หารู้ไม่! ภาพนี้ถูกชีพแอบถ่ายไว้ด้วยกล้องดิจิตอลอย่างสะใจ!

ooooooo

ที่โกดังเก็บไม้...พีรพงษ์กำลังบัญชาลูกน้องให้เอาไม้ยางพารามาทาสีและวาดลายไม้พะยูง สั่งลูกน้องให้ดูสีให้แห้งก่อนค่อยขนขึ้นเรียงบนหกล้อ

ชีพกลัวไม้จะถูกกัก พีรพงษ์บอกว่าไม่ต้องกลัว เรามีลายเซ็นพ่อตาของยศอำนวยความสะดวก ต้องผ่านได้ทุกด่านอยู่แล้ว ชีพจึงเบาใจ แล้วรายงานว่า

“ผมตามมาสองสามวันเห็นชัดเลยว่าไอ้จีมันจงใจจีบทั้งคุณพิม คุณภิต มันคงคิดแก้แค้นแม่เลี้ยง หรือไม่ก็หวังจะล้วงความลับเหมือนคราวที่แล้ว”

“ไอ้จี! แกกับฉันคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว!!” พีรพงษ์คำราม

วันต่อมา ขณะพิมพรเดินเข้าไปในออฟฟิศใหม่นั้น ได้ยินพีรพงษ์คุยกับยศในห้อง พิมพรผิดสังเกตจึงหยุดฟัง

“จะดีหรือครับ เดี๋ยวแม่รู้เข้า ผมไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่ เกิดยัยภิตมาตรวจสอบบัญชี หรือพี่พิมรู้เข้า ผมตายลูกเดียว”

“ถ้าอย่างนั้นผมรับผิดชอบเอง คุณเบิกเงินสดให้ผมก่อนไม้ลอตนี้ไม่ลงบิลนะครับ ทำเป็นของตัวอย่างวางโชว์ ลงบิลก็ต้องเสียภาษี สู้เอาภาษีที่ต้องเสียมาให้คุณยศเอาไว้เลี้ยงสาวๆดีกว่า”

ยศตาโต ถามว่าแล้วผิดกฎหมายหรือเปล่า พีรพงษ์บอกว่าเรื่องผิดหรือถูกเขาไม่ต้องสนใจ แต่ไม่มีใครจับได้ก็แล้วกัน ย้ำว่า “อย่าลืม ทุ่มตรงอย่าให้พลาด”

ตียูฝังตัวทำงานอยู่กับพีรพงษ์ไม่ได้กลับไปดูแลอาย้งเลย วันนี้ผู้กองมีนัดกับตียู จึงพาอาย้งมาพบในบังเกอร์ค่าย ตชด. ตียูดีใจที่อาย้งสอบที่ได้หนึ่งและเอาเหรียญรางวัลมาให้พ่อ ผู้กองเล่าว่าครูแหวนกับครูลัดดา จะขอทุนให้อาย้งไปเรียนในเมือง ตียูดีใจ บอกว่าไปเรียนในเมืองจะได้ฉลาด แต่อาย้งไม่อยากไป เพราะเรียนบนดอยจะได้พบพ่อได้ง่าย

พอดีระฆังโรงเรียนเข้าดังขึ้น ตียูบอกให้อาย้ง รีบไปเรียนเสีย และก่อนกลับ ตียูรายงานข่าวการเคลื่อน ไหวของพวกพีรพงษ์ให้ฟังว่า

“พวกมันใช้โรงไม้ใหม่เป็นที่แปลงโฉมไม้พะยูงจริงๆ”

ส่วนพิมพร หลังจากได้ยินพีรพงษ์คุยกับยศแล้ว เธอแอบโทรศัพท์บอกจีรณะว่ามีเรื่องไม่ค่อยดีจะปรึกษา

ooooooo

ได้ข้อมูลจากพิมพรและตียูแล้ว จีรณะ ผู้กองเกียรติก้องและภีมะร่วมกันวางแผนบุกจับไม้เถื่อนในโกดังที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกับทางขึ้นดอย

เพื่อรักษาความลับ ผู้กองใช้แผนเจอการกระทำผิดซึ่งหน้า หากผิดพลาดอย่างไรค่อยขอกำลังเสริม จีรณะจะแจ้งผู้สื่อข่าวไปทำข่าวด้วยจะได้มีพยานหลักฐาน เผื่อถูกอิทธิพลมืดแทรกแซงภายหลัง แต่มั่นใจว่าคราวนี้พวกมันดิ้นไม่หลุดแน่

พิมพรขอไปกับจีรณะด้วยหมายจับให้ได้คาหนังคาเขาว่ายศรวมหัวกับคนอื่นโกงแม่กับพี่ตัวเอง แต่พอไปใกล้โกดัง จีรณะให้เธอรออยู่ในรถ ทีแรกเธอจะไม่ยอม จีรณะพูดจนเธอซึ้งใจยอมทำตามว่า

“ถ้าคุณบุ่มบ่ามเข้าไป น้องคุณก็ไหวตัวทันซิครับ ดีไม่ดีพวกคนงานไม่รู้ว่าคุณพิมเป็นใครอาจจะทำอันตรายคุณได้ ผมเป็นห่วงคุณนะ”

แต่ระหว่างรออยู่ในรถนั่นเอง พิมพรได้รับโทรศัพท์จากโสภิตถามว่าอยู่ที่ไหน เห็นพวงบอกว่าไปตรวจรับไม้ ตนเป็นห่วงเพราะโกดังอยู่ไกล ถามว่าไปคนเดียวหรือ

“เปล่า ฉันมากับบอดี้การ์ดที่ไว้ใจได้ไม่ต้องห่วง”

โสภิตซักถามจนรู้ว่าพิมพรไปกับจีรณะก็ถามอย่างไม่พอใจว่าเขามาเกี่ยวอะไรด้วย “ก็เขามีน้ำใจขับรถมาให้จะบอกให้นะว่าคุณจีเขาจริงใจเป็นห่วงเป็นใยฉันยิ่งกว่าพี่น้องเสียอีก น้องแท้ๆ มันยังโกงฉันได้เลย”

โสภิตถามว่าพูดอะไรตนไม่เข้าใจ พิมพรจึงตัดบทว่าเอาไว้กลับมาแล้วจะเล่าเรื่องชั่วๆของยศให้ฟัง

ooooooo

ปรากฏว่าแผนการครั้งนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะถูกพีรพงษ์เอาไม้ยางพาราที่ทาสีวาดลายเป็นไม้พะยูงมา ใช้กระดาษทรายขัดสีออกให้ดู กลายเป็นเจ้าหน้าที่จับผิด ซ้ำขณะปฏิบัติการตียูยังถูกยิงตายเพราะปกป้องผู้กองด้วย

อาย้งเห็นพวกจีรณะกลับมาก็รีบมาหาหวังจะได้พบตียู แต่พอเห็นสายเหรียญรางวัลที่ตนให้พ่อเปื้อนเลือด อาย้งถามว่าทำไมเปื้อนเลือด เลือดของใคร

“อาย้ง ตียูเขาไม่อยู่กับเราแล้ว ตียูตายแล้ว” เสียงผู้กองสะท้านด้วยความสะเทือนใจ อาย้งส่ายหน้าปฏิเสธเสียงสั่น

“ไม่จริง พ่อไม่ได้ตาย เมื่อกี๊อาย้งยังเห็นพ่อเดินตามผู้กองอยู่เลย”

ผู้กองกอดอาย้งไว้ทั้งเสียใจและสะเทือนใจอย่างที่สุด

อ่านละคร พรมแดนหัวใจ ตอน 10 วันที่ 5 ม.ค. 57

พรมแดนหัวใจ บทประพันธ์โดย รจเรข
พรมแดนหัวใจบทโทรทัศน์โดย ดลกมล คนหลังม่าน
พรมแดนหัวใจกำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
พรมแดนหัวใจ ผลิตโดย บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย
พรมแดนหัวใจแนวละคร : คอมเมดี้โรแมนติก - ดราม่า
พรมแดนหัวใจออกอากาศทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ