อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 5
สุริเยนทร์ซักถามดำเกิงและคอยจับพิรุธ หยิบเสื้อแจ็กเกตจากบอดี้การ์ดถามว่าของใคร ดำเกิงโบ้ยว่าเป็นของจ้อนถอดทิ้งไว้ สุริเยนทร์พยักหน้าแล้วเดินกลับไป...ดำเกิงถามอาการจ้อนจากจ่ายักษ์ พอรู้ว่ายังไม่ตายก็หวั่นใจต้องทำอะไรสักอย่างเคทเห็นน้องพีทนั่งซุกตัวข้างเตียง เอาเล็บขูดกับพื้นหน้าเครียด ก็พยายามปลอบ แต่หนูน้อยกลับร้องไห้คิดถึงพ่อคิดถึงแม่คิดถึงบ้าน เคทไม่อาจทิ้งหลานออกไปทำงานในไร่ตามคำสั่งสุริเยนทร์ได้ สายวันนั้นก็มีคนงานขนข้าวของน้องพีทจากบ้านมาไว้ที่ไร่ทั้งหมดรวมทั้งพาลออมาดูแลน้องพีทด้วย
เคททึ่งกับการกระทำของสุริเยนทร์ ลออเจอเคทรีบถามถูกเจ้าพ่อภูทับดาวทำมิดีมิร้ายหรือไม่ เคทรีบตอบว่าไม่ ลออโล่งใจและขอบคุณที่เขาใส่ใจความรู้สึกน้องพีท
ป้าอุ่นเข้ามาส่งชุดให้เคทบอกไปทำงานในไร่ได้ เคทรับชุดจะเปลี่ยน ป้าอุ่นรีบดันให้เข้าไปเปลี่ยนในที่อาบน้ำ ดึงม่านปิดให้มิดชิด เคทชักสงสัย เดินสำรวจรอบห้องและห้องน้ำ เห็นกล้องกระดุมติดอยู่ตามมุมหลายจุดก็โมโหปรี๊ดสุดขีด
ด้านสุริเยนทร์กำลังเดินไปที่สุสานกับสุพล สุพลชื่นชมที่สุริเยนทร์ขนของน้องพีทมาหมด แกจะได้ไม่รู้สึกว่าเปลี่ยนสภาพแวดล้อมมากเกินไป และจะทำให้รู้สึกดีขึ้นกับตัวเขาด้วย สุริเยนทร์ทำตาดุไม่อยากให้มาชื่นชม สุพลแกล้งแย็บ
“นายครับ ถ้าอยากเอาชนะใจหลาน นายต้องยิ้มเยอะๆนะครับ” สุริเยนทร์ถลึงตา สุพลรีบยื่นช่อดอกไม้ “นี่ครับ ผมเตรียมให้นายเอาไปฝากคุณสุรีย์ รับไปสิครับ”
สุริเยนทร์คว้าดอกไม้เดินฮึดฮัดนำไป สุพลมองตามขำๆ...พอมาถึงก็เห็นครอบครัวเดชากำลังวางดอกไม้อยู่หน้าสุสานสุรีย์ คฑาวุธออกตัวขอโทษที่ไม่ได้ไปร่วมงานศพสุรีย์ที่กรุงเทพฯ สุริเยนทร์บอกไม่เป็นไรไม่ได้อยากให้ไปอยู่แล้ว คฑาวุธข่มอารมณ์โกรธ แขไขเห็นพ่อตาแดงๆถามทำไมต้องร้องไห้ เดชาเสียงเครือว่าอดเสียใจไม่ได้เห็นสุรีย์มาตั้งแต่แรกคลอด
เดชาถามเรื่องคนร้าย ถ้ายังไม่คืบหน้าจะให้คฑาวุธช่วย สุริเยนทร์ปัดให้คฑาวุธเอาเวลาไปแก้ปัญหาชาวบ้านจะดีกว่า เรื่องคนร้ายฆ่าสุรีย์ตนจะจัดการเอง ตนจะลากคอมาชดใช้กรรมให้ได้ แขไขแทรกถามว่าการตายของสุรีย์ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือ คฑาวุธรีบใส่ไฟได้ยินว่าฆาตกรคือสามีสุรีย์ แขไขตกใจว่าใช่คนเดียวกับที่มาลอบยิงสุริเยนทร์เมื่อคืนหรือไม่ คฑาวุธโบ้ยนั่นเป็นฝีมือพวกไร่ปลายฟ้า เดชาถอนใจ...อีกแล้วหรือ
แต่สุริเยนทร์จ้องคฑาวุธไม่วางตา
กลับมาบ้าน เดชาซักไซ้คฑาวุธเป็นคนจ้างมือปืนไปยิงสุริเยนทร์หรือเปล่า เขาปฏิเสธโกรธๆ เดชาจึงเตือนอย่าคิดทำเรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ตนบอกเลยว่าจะยืนข้างความถูกต้อง คฑาวุธตอกกลับตนไม่แปลกใจเลยทำไมพ่อไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะพ่อยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เดชาโกรธตบหน้าฉาด “ฉันขี้แพ้ แต่แกก็ไม่ใช่ผู้ชนะเหมือนกัน!”
คฑาวุธปรี๊ดที่โดนหยาม
ooooooo
วิสุทธิ์กำลังสอบถามเหน่งลูกน้องว่าสืบหาตัวอาทิตย์ได้หรือยัง เพราะเขาเชื่อว่ายังอยู่ที่ไร่ภูทับดาว ระหว่างคุยได้ยินเพ็ญสิริร้องช่วยด้วยๆ เขาตกใจรีบวิ่งเข้ามาในบ้านเห็นเธอถือมือถือเต้นเล่าๆว่าป๊าโทร.มาจะทำอย่างไรดี แล้วเผลอกดรับสายจึงบอกถ้ายังบังคับให้มีหลานจะหนีต่อ
วิสุทธิ์รีบดึงโทรศัพท์มาตัดสายเกรงความแตก เพ็ญสิริกระวนกระวายว่าป๊าม้าคงจะร้อนใจ วิสุทธิ์บอกให้เวลาผ่านไปสักเจ็ดวันค่อยต่อรองกับพวกท่าน เธอจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้น...เพ็ญสิริถามความคืบหน้าเรื่องอาทิตย์ วิสุทธิ์ไม่เชื่อว่าอาทิตย์ไม่ได้อยู่ในไร่ภูทับดาว เพ็ญสิริว่าถ้าอย่างนั้นก็น่าเป็นห่วงเคท จะต้องไปช่วยเธอออกมา วิสุทธิ์เอ็ดอย่าหาเรื่อง ทางเดียวที่จะช่วยเคทได้คือต้องหาตัวอาทิตย์ให้เจอก่อน หญิงสาวประชดให้รีบคิดไม่ใช่เอาแต่เล่นนมควาย
“รีด ไม่ใช่เล่น!” วิสุทธิ์สวน
เพ็ญสิริแนะนำว่าเราควรเริ่มสืบจากคนที่รู้จักอาทิตย์ วิสุทธิ์นึกได้ว่าคือเดชา แต่คนที่จะเข้าไปหาข้อมูลได้คือเพ็ญสิริ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เดชา
ไม่รู้จัก หญิงสาวหน้าเหวอ...
สุริเยนทร์เดินเข้าบ้านมา เคทปรี่เข้าด่าว่าเขาโรคจิตที่ติดกล้องในห้องนอนและห้องน้ำ ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แล้วเมื่อคืนตนเข้าห้องน้ำตั้ง...สุริเยนทร์สวนว่าสามรอบ เคทกรี๊ด เขาบอกไม่ต้องห่วงเธอไม่มีอะไรน่ามอง เคทโวย “ใครจะไปเชื่อสันดานผู้ชาย...แล้วคนของคุณอีก”
“ก็นิดนึง...เอ๊ย! ไม่ได้มองครับ” สุพลรีบตอบ
“เธอกับพี่ชายเธอไม่ได้สมบัติของสุรีย์สักบาท แล้วคิดว่าฉันจะไว้วางใจให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างเธอเดินเพ่นพ่านในบ้านงั้นเหรอ” สุริเยนทร์เหยียด
เคทตะโกนใส่หน้าว่าไม่ได้อยากได้เงินสักบาท ให้เขาไปเอากล้องออกไม่อย่างนั้นตนจะพังมันทุกตัว สุริเยนทร์กระชากเคทเข้ามาเสียงกร้าวใส่ ถ้าเธอทำพังหรือเอาอะไรบัง รับรองว่าตนจะแสดงความโรคจิตกับเธอยิ่งกว่าติดตั้งกล้องอีก เคทดิ้นสะบัดตัวแต่ไม่หลุด แขไขเดินเข้ามามองด้วยสายตาเย็นชา ถามคนนี้หรือคือทานตะวัน แล้วแนะนำตัวเองว่าเป็นแฟนสุริเยนทร์ เคททึ่งไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างนี้จะมีแฟนได้...
แล้วจ่ายักษ์ก็พาเคทมาทำงานที่คอกม้า บอกว่าวันนี้งานง่ายๆให้เธอซ่อมหลังคาคอกม้า เคทยืนอึ้ง สุริเยนทร์เดินมามีแขไขกางร่มเดินตาม เขาเหน็บทีเรื่องหลอกสูบเงินคนอื่นยังทำได้แค่ซ่อมหลังคาไม่น่ายากเกิน ถ้าทำไม่เสร็จห้ามพัก จ่ายักษ์พาผู้ช่วยมาให้คือเสือโคร่ง
สุริเยนทร์เดินกลับ แขไขตามมาถามให้แน่ใจว่า เคทถูกขายมาขัดดอกจริงหรือ เขาเน้นว่าจริง แขไขทำทีร้องไห้เป็นห่วงขอดูแผลที่เขาถูกยิง สุริเยนทร์อยากจะเดินหนีไวๆจึงยอมเปิดให้ดู แขไขยิ้มดีใจที่เขาเห็นความห่วงใยของตน...จากนั้นแขไขก็แอบมาถามเรื่องเคทจากป้าอุ่น
ระหว่างที่เคทกำลังปีนเปลี่ยนหลังคาคอกม้าเพราะเสือโคร่งอ้างว่ากลัวความสูงจึงบอกวิธีและช่วยจับบันไดให้...เคทถือโอกาสเลียบเคียงถามว่าแขไขเป็นแฟนสุริเยนทร์หรือ เสือโคร่งตอบว่ายังไม่เป็นแต่อาจจะเป็น เพราะนายมีคนที่รักอยู่ เคทอยากรู้ว่าใคร ก็พอดีแขไขเข้ามาขัด
“ทานตะวัน ฉันมีเรื่องจะคุยกะเธอ”
เคทแปลกใจแต่ก็คุยด้วย แขไขถามอ้อมๆว่าเคทเป็นอาและสุริเยนทร์เป็นน้าของน้องพีทเท่านั้นใช่ไหม แล้วทำไมเธอต้องถูกขายขัดดอกด้วย เคทอึ้งๆอธิบายว่าตนมาเพื่อดูแลหลาน แต่ที่ยอมทำงานในไร่ เพื่อชดใช้แทนพี่ชาย และเพื่อให้สุริเยนทร์เลิกตามล่าเขา ไม่ได้คิดมาจับและไม่มีวันจะจับสุริเยนทร์แน่นอน แขไขจึงเน้นย้ำ
“ฟังให้ดีนะ ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ที่นี่ กฎข้อแรกที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ...ห้ามให้พี่ภูปล้ำ!”
เคทโวยให้ไปบอกสุริเยนทร์ แขไขบอกตนห้ามทุกคน แต่ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้เคทสาบานจะไม่ยุ่งกับเขา ถ้าเขามาทำอะไรก็ให้ร้องดังๆ เคทรับคำงงๆ ถามกลับสุริเยนทร์รู้บ้างไหมว่าเธอรักเขา แขไขรู้สึกว่าเคทไม่ใช่ศัตรูจึงยอมบอกว่าสุริเยนทร์รู้ว่าตนรักเขาแต่เขาไม่รักตน เพราะเขารักพี่สาวตนคนเดียว เคทเอะใจอาจเป็นเบาะแสได้บ้าง
เสือโคร่งได้ยินที่สองสาวคุยกันรีบมารายงานวิสุทธิ์ เพ็ญสิริอยากรู้ว่าพี่สาวแขไขเป็นใคร วิสุทธิ์บอกว่าชื่อรุจิรา เหมพยัคฆ์ หรือขิม สุริเยนทร์รักเธอมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหนีไปอยู่กรุงเทพฯไม่กลับมาอีก เพ็ญสิริรู้สึกคุ้นชื่อ พอวิสุทธิ์บอกว่าเป็นดีไซเนอร์ดังก็นึกออก ว่าคือไอดอลของเคทนั่นเอง จึงรีบโทร.บอกเอกณัติให้ช่วยไปสืบต่อให้ที
ooooooo
เอกณัติจำต้องกลับมาหารุจิราเพื่อสืบข้อมูลตามที่เพ็ญสิริส่งข่าว เผอิญเธอมีลูกค้าไฮโซต้องการตัดชุดสูทให้กับกิ๊กหนุ่ม แต่ไม่พามาวัดตัว รุจิรา
ไม่อยากต้องแก้ไขให้เสียเวลา จึงขอให้เอาสูทตัวเก่ามาวัดขนาดก็ได้ พอดีเอกณัติเดินเข้ามา ลูกค้าไฮโซเห็นรีบบอกว่าตัวเท่าเขา
รุจิราจำต้องให้ลูกน้องวัดตัวเอกณัติและแอบเหน็บ “หนี้ก็ไม่จ่ายยังมีหน้าโผล่มาอีกหรือ”
เอกณัติอ้างว่ากลับไปคิดๆดูรู้สึกผิด จึงมาขอทำงานชดใช้ให้แทน รุจิราดูถูกว่าร้านตนไม่ใช่ร้านขายไก่ทอด จะได้เอาพวกโลว์โปรไฟล์มาทำงาน เอกณัติจึงแสดงให้เธอเห็นว่าเขามีความจำเป็นเลิศ เธออึ้งเล็กน้อยแต่ปฏิเสธไม่รับและให้ รปภ.พาเขาออกไป
ด้านเพ็ญสิริไม่ลดละที่จะหาทางไปช่วยเคท เมื่อเสือโคร่งรับมือถือเครื่องใหม่จากวิสุทธิ์ เพื่อจะได้สื่อสารกันได้ แม้จะเป็นรุ่นเก่าแต่ยังดีกว่าไม่มีใช้...เพ็ญสิริหลอกถามว่าเขามาไร่ปลายฟ้าได้อย่างไร เสือโคร่งสาธยายหมดเปลือกว่ามีทางลับ
ค่ำวันนั้น น้องพีทร้องไห้งอแงให้ลออประกอบบ้านของเล่นที่ขนมาให้ แต่ลออทำไม่ได้ เคทกลับมาถึงพยายามประกอบก็ไม่สำเร็จ จึงนึกได้หันไปพูดใส่กล้องวงจรปิด ว่าใครรื้อต้องมาประกอบ...สุริเยนทร์ส่ายหน้าแต่สุดท้ายก็ต้องมาทำให้เพราะน้องพีทร้องไห้ไม่หยุด และเพราะโดนเคทสบประมาท ถ้าอยากให้น้องพีทอยู่ที่นี่ สิ่งแรกคือทำให้แกเลิกกลัวเขาได้ไหม
พอสุริเยนทร์ยอมทำ เคทก็ใช้คำพูดของเขามาใช้กับเขาบ้าง “รีบๆทำล่ะ ประกอบไม่เสร็จ ห้ามพัก!”
สุพลแอบหัวเราะที่เคทร้ายไม่เบา แล้วเคทยังแกล้งให้ป้าอุ่นยกของว่างเข้ามา เพื่อให้สุริเยนทร์เสียฟอร์มที่ลงมือประกอบของเล่นหลาน ทั้งจ่ายักษ์และป้าอุ่นทึ่ง เคทยังแกล้งย้ำ ประกอบให้เสร็จก่อนค่อยกิน สุพลกระซิบปรามเคท “คุณนี่...ไม่ธรรมดาเลยนะครับ”
สุริเยนทร์กำชับจ่ายักษ์กับสุพลห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก จ่ายักษ์หุบยิ้มรายงานว่าจ้อนฟื้นแล้ว
ทางไร่ปลายฟ้า วิสุทธิ์แปลกใจที่เพ็ญสิริหายไป แม่บ้านบอกว่าเห็นเมื่อเย็นคุยกับเสือโคร่ง วิสุทธิ์ประมวลสถานการณ์แล้วคาดการณ์บางอย่าง...
เป็นอย่างที่คิด เพ็ญสิริสะกดรอยตามเสือโคร่งจนเข้ามาในไร่ภูทับดาวได้ แต่ด้วยความที่ต้องคอยหลบจึงสะดุดเครื่องมือทำไร่ล้มลงขาเจ็บ ทำให้คลาดกับเสือโคร่ง
คนงานมาบอกดำเกิงว่าจ้อนฟื้นแล้ว นายให้เขาไปโรงพยาบาลด้วยเพื่อจะได้ชะแผล ดำเกิงเห็นสบโอกาสรีบไปที่โกดังเก็บพืชผล เพ็ญสิริกำลังเดินเขยกๆ เห็นดำเกิงเดินมาก็รีบซ่อนตัว จึงเห็นว่าเขาเปิดลังหยิบปืนและมีดมาพกติดตัว เพ็ญสิริแปลกใจจะเอาอาวุธไปทำอะไร ...จู่ๆมีคนเข้ามาจับไหล่และเอามือปิดปากเธอไว้ เธอตกใจแทบช็อกหันมองเป็นวิสุทธิ์ เขารอจนดำเกิงเดินไปแล้วจึงปล่อยเธอ เพ็ญสิริรีบบอกว่าดำเกิงมีปืนและมีด วิสุทธิ์แปลกใจเพราะดำเกิงเหมือนคนงานซื่อๆไม่มีพิษมีภัย จะเอาอาวุธไปทำอะไร ชักสงสัยว่าเขาจะเป็นมือปืน
ooooooo
วิสุทธิ์กับเพ็ญสิริเข้ามาในโกดังเก็บพืชผล งัดฝาลังใบหนึ่งออกเห็นอาวุธที่ดำเกิงซ่อนไว้ ก็ชักมั่นใจว่าเขาคือมือปืนที่ลอบยิงสุริเยนทร์...ทั้งสองจะบุกเข้าไปบอกเคทในบ้าน
ดำเกิงเดินมาที่รถ สุริเยนทร์ให้เขาไปนั่งที่รถตน เพราะเห็นว่าบาดเจ็บ ดำเกิงตาวาวที่จะได้มีโอกาส... ระหว่างนั่งในรถ ดำเกิงเหลือบมองสุริเยนทร์เป็นระยะ มือจับปืนที่เอว สุริเยนทร์ถามขึ้นว่าแผลหายดีหรือยัง เขาตอบว่าดีขึ้นแล้ว สุริเยนทร์ขอบใจที่ช่วยจับจ้อนไว้ได้
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าที่ฉันอุปการะมันมาตั้งแต่เด็ก ให้โอกาสมันมีชีวิตใหม่ มันจะทำกับฉันยังงี้ได้ แกว่าฉันควรจะทำยังไงกับมันดี...ควรฆ่ามันไหม”
ดำเกิงรีบตอบว่าควร คนที่กล้าทรยศผู้มีพระคุณ ไม่มีค่าพอจะได้อยู่ต่อไป สุริเยนทร์ตากร้าว คนขับรถเอ่ยขึ้นว่าทางข้างหน้าซ่อมอยู่ ไฟถนนใช้ไม่ได้ค่อนข้างมืด และเปลี่ยว ให้ระวังตัวอาจมีคนร้ายซุ่มอยู่ ดำเกิงยิ้มมุมปาก ที่มีโอกาสจะจัดการแล้ว
รถแล่นเข้ามาตามถนนเปลี่ยวและมืด ดำเกิงหันมองรถบอดี้การ์ดที่ตามอยู่ระยะห่าง ก็เปรยว่า ตนไม่ชอบ ความมืดเลย รู้สึกไม่ปลอดภัยนายเป็นบ้างไหม ว่าแล้ว ก็ชักปืนออกมาช่วงมืดสุด สุริเยนทร์เอ่ยขึ้น “แกรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องไปหาไอ้จ้อนทันที ไม่รอจนเช้า”
“เรื่องบางเรื่องมันไม่มีเวลาเหลือให้เราใจเย็นได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว...” ดำเกิงตอบ
“เพราะหมอที่ดูแลไอ้จ้อนโทร.มาบอกฉันว่าไอ้จ้อนฟื้นแล้ว และมันบอกว่าแกคือมือปืนที่ลอบยิงฉัน! จริงรึเปล่าดำเกิง” สุริเยนทร์ตาคมกริบจ้องมองดำเกิงผ่านความมืด
ดำเกิงเก็บปืนปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำ หาว่าจ้อนใส่ร้าย สุริเยนทร์ถามเขาอยู่กับตนมากี่ปี ดำเกิงตอบว่าเกือบ 3 ปี สุริเยนทร์นึกย้อนไปถึงวันที่เจอดำเกิงโดนทำร้ายมา ตนช่วยไว้ ถ้าเขาหักหลังตน ตนคงเสียใจ ดำเกิงย้ำว่าจะซื่อสัตย์ ไม่เคยคิดทรยศ สุริเยนทร์เข่นเขี้ยว
“แกคงรู้ว่าฉันไม่ใช่คนโง่...เพิ่มแอร์หน่อยสิ รู้ตัวหรือเปล่าว่าแกเหงื่อออก” สุริเยนทร์สั่งคนขับรถแล้วหันมาจ้องดำเกิง “จริงๆแล้วไอ้จ้อนมันยังไม่ได้พูดถึงแกสักคำ”
ดำเกิงผงะตัวสั่นชักปืนแต่ช้ากว่า สุริเยนทร์คว้ามือเขาและบีบปากถาม ทำอย่างนี้ทำไม ดำเกิงจนมุมถีบสุริเยนทร์สุดแรงแล้วโดดลงรถกลิ้งฝุ่นตลบ รถบอดี้การ์ด ตามหลังมาเปิดไฟสูงสาด ก่อนจะชนดำเกิงกลิ้งไปอีกทาง สุริเยนทร์ลงจากรถมากระชากตัวกดลงพื้นเข่นเขี้ยว
“แกไม่ใช่คนซื่อๆโง่ๆอย่างที่แกแสดงออก แกมัน มืออาชีพ ใครส่งแกมา!”
ดำเกิงแก้ตัวว่าไม่มีทางเลือก จะฆ่าก็ฆ่าเลย จ่ายักษ์และบอดี้การ์ดรุมล้อม สุริเยนทร์เค้นถามใครส่งเขามา...ระหว่างนั้นเคทขับรถไร่ภูทับดาวมาพร้อมวิสุทธิ์และเพ็ญสิริ เธอขับเร็วมากจนทั้งสองกลัว เพ็ญสิริหาเรื่องชวนคุยบอกรู้หรือยังว่าพี่สาวแขไขคือรุจิราไอดอลของเธอ เคทกลับผิดหวังเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นและกดแตรระบายอารมณ์ วิสุทธิ์ตำหนิเพ็ญสิริจะพูดทำไม
รถเคทพุ่งฝ่าความมืดเข้ามา จ่ายักษ์กับบอดี้การ์ดตกใจขยับระวังตัว ทำให้ดำเกิงฉวยโอกาสสลัดตัวออกวิ่งหนีเข้าป่าข้างทาง สุริเยนทร์โกรธหาว่าเคทช่วยดำเกิง เคทงงตนอุตส่าห์จะมาเตือนว่าดำเกิงเป็นมือปืนที่ยิงเขา สุริเยนทร์สวน
“เตือนงั้นเหรอ เธอทำมันหนีไปแล้วรู้หรือเปล่า เธอต้องรับผิดชอบ!”
วิสุทธิ์ติงโทษเคทไม่ได้ ต้องโทษคนของเขาที่จับไว้ไม่อยู่ สุริเยนทร์มองตาขวางไม่พอใจที่วิสุทธิ์กับเพ็ญสิรินั่งรถของไร่ภูทับดาวมา เพ็ญสิริรีบบอกว่าพวกตนมาบอกเคทว่าดำเกิงเป็นมือปืน วิสุทธิ์เสริมว่าเคทมีมนุษยธรรมมาเตือน เขาต้องขอบคุณด้วยซ้ำ สุริเยนทร์ ไม่เชื่อหาว่าดำเกิงเป็นคนที่วิสุทธิ์ส่งมา เคทตบหน้าตวาดอย่าพาลคนอื่นได้ไหม สุริเยนทร์โกรธคว้าตัวเคท
“ปกป้องมันเหรอ! เธอปกป้องมันเหรอ ทานตะวัน!” วิสุทธิ์โวยอย่าทำอะไร สุริเยนทร์จึงดึงเคทมากอด “ทำไมจะทำไม่ได้ ทานตะวันถูกขายให้กับฉันก็เป็นของของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 5
ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ