อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 4

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 4

ม้าปลอบว่าตอนตนแต่งงานก็ไม่ได้รักกัน อยู่ๆกันไปก็รักเอง เพ็ญสิริโวยว่าตนทำไม่ได้ ตนขอโทษที่เกิดเป็นหญิง ขอโทษที่ทำให้ม้าคลอดยากจนมีลูกอีกไม่ได้ ตนขอโทษ ...ทุกคนเหวอกับความดราม่าหนักของเพ็ญสิริ...

ด้านเคทลากกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองและของน้องพีทออกมา สุพลยืนรอที่รถ เธอถามไม่คิดจะช่วยบ้างหรือ เขาตอบว่านายสั่งไม่ให้ใครช่วย เธอสบถ... ช่างสุภาพบุรุษตั้งแต่หัวยันหาง

สุพลเตือน “ผมขอเตือนนะครับ ถ้าไปอยู่ไร่ภูทับดาวแล้วไม่อยากลำบาก สงบปากสงบคำบ้างนะครับ”



“ทำไมไม่ไปเตือนเจ้านายคุณ อ้อ...ลืมไปว่าเก่งแต่กับผู้หญิง”

สุพลถอนใจบอกเจ้านายตนไม่มีความอดทนเท่าตน ว่าแล้วก็ยกกระเป๋าเหวี่ยงขึ้นรถให้ เคทรู้สึกว่าสุพล

จะเป็นคนที่พอจะพูดคุยได้บ้าง จึงถามว่าเมื่อคืนเจ้านายเขาไปมีเรื่องกับใครมา ทันใดเสียงสุริเยนทร์แทรกมาว่า อยากรู้อะไรก็ให้ถามตนเอง เคทสะดุ้งหันไปมอง เขากวักมือให้เข้ามาถามใกล้ๆ เธอถอยวิ่งกลับเข้าบ้าน เจอน้องพีทร้องไห้เกาะราวบันไดไม่ยอมไปจะอยู่รอพ่อ

“น้องพีทครับ ฟังอาเคทนะ ตอนนี้คุณพ่อกำลังถูกพ่อมดใจร้ายตามไล่จับอยู่ เขาจะจับคุณพ่อไปใส่หม้อต้มเดือดๆ พ่อเลยต้องซ่อนตัวเอาไว้ ออกมาไม่ได้ เพราะถ้าพ่อมดเจอตัวคุณพ่อ เขาจะสาปคุณพ่อให้หายไปตลอดกาล จะไม่มีใครได้เจอคุณพ่ออีก”

น้องพีทร้องไห้บอกให้เคทช่วยพ่อจัดการพ่อมด เคทรับปากแต่ตนสู้คนเดียวไม่ไหว น้องพีทต้องช่วยด้วย หนูน้อยรับปากกอดอาสาวแน่น...เคทบอกให้น้องพีทไปอยู่ไร่ภูทับดาวด้วยกัน พวกเราอยู่ที่นั่นพ่อก็จะปลอดภัย “อารู้ว่าน้องพีทกลัวเจ้าพ่อหน้าโหดคนนั้น อาก็กลัวเหมือนกัน แต่เราต้องเข้มแข็ง ต้องอดทนนะครับ คุณพ่อจะได้ปลอดภัยนะครับ”

น้องพีทจ๋อยบอกอาสู้ตนก็สู้แล้วปลอบอย่าร้องไห้ สองอาหลานกอดกันซาบซึ้ง...เคทพาน้องพีทออกมาจะขึ้นรถ เธอตรงมาหาสุริเยนทร์ที่นั่งรอในรถ ขอคำสัญญาก่อน ว่าจะเลิกไล่ล่านพสิทธิ์ จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนกฎหมาย โดยเขาไม่ข้องเกี่ยว เขายักไหล่ไม่แยแสกดกระจกขึ้น เคทโมโหจับกระจกกดไว้ บอกให้เขารับปากก่อน เขาเห็นความใจเด็ดของเธอก็แกล้งปิดกระจกหนีบมือเธอไว้ แล้วตอบตกลง แต่ไม่กดกระจกลงปล่อยให้มือถูกหนีบอยู่อย่างนั้น เธอก็ไม่ร้องสักแอะ พอสะใจแล้วเขาก็ยอมกดกระจกลง จ่ายักษ์เข้ามาบอกให้เคทขึ้นรถ

ooooooo

บ่ายวันนั้น เพ็ญสิริยืนมองจากระเบียงห้อง เห็นป๊าม้านั่งอธิษฐานขอพรที่โต๊ะไหว้ฟ้าดิน ยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดกับสถานภาพตัวเอง บ่นลูกผู้หญิงไม่ดีตรงไหน ทำไมต้องอยากได้ผู้ชาย

ทันใดมือถือดังขึ้น วิสุทธิ์โทร.เข้ามาถามเครียดอะไรนักหนา เธอแปลกใจเขามีเบอร์ได้อย่างไร เขาบอกว่าม้าให้เบอร์มา “ผมเพิ่งจะรู้ว่าคุณเก็บกดอัดอั้นเป็นเด็กมีปัญหา แต่ถ้ามีอะไรอยากระบาย ผมยินดีฟังนะ อย่าคิดมากอยู่คนเดียวเลย ผมไม่อยากเห็นคุณเสียสติ คุณมีแนวโน้มจะเป็นบ้าได้นะ รู้ตัวหรือเปล่า”

เพ็ญสิริโวยกลับว่าเขาแหละที่บ้า ไม่ทันไรประตูห้องเปิดออก วิสุทธิ์เดินเข้ามาแหย่ ไหนว่าไม่เก็บกด เธอโวยเข้ามาได้อย่างไร เขาชูกุญแจพร้อมบอกว่าม้าให้มา เธอขับไล่เขา วิสุทธิ์จึงรวบตัวเธอเหวี่ยงลงไปบนเตียง เอ็ด “หยุดบ้าซะที ผมมีทางออกให้กับชีวิตคุณแล้ว ถ้าคุณไม่อยากถูกป๊าม้าบังคับไปตลอดชีวิต ต้องฟังผม!”

เพ็ญสิริดื้อดึงไม่ฟัง เขาจับเธอกดกับเตียงเอามือปิดปาก บังคับให้ฟัง “หนีออกจากบ้าน! ถ้าป๊าม้าคุณไม่มีเหตุผล จะอยู่ทำไม หนีไปเลย”
เพ็ญสิริสงบลง...วิสุทธิ์สาธยายแผนการว่ามัน

ไม่ใช่การหนีตาม ไม่ต้องมโนไปไกล แค่หนีออกจากบ้าน เพื่อกำราบป๊าม้าไม่ให้มาวุ่นวายเรื่องชีวิตส่วนตัวเธออีก เพ็ญสิริจะแทรกถาม เขาเอาหมอนอุดปาก “อย่าขัด... ฟัง...คุณหนีออกจากบ้าน ทิ้งจดหมายไว้ว่าจะไม่กลับมาบ้านอีก แล้วหายตัวไปเงียบๆ ปล่อยให้ป๊าม้าคุณกระวนกระวายแทบขาดใจ ให้พวกท่านรู้สึกว่าความอยากมีหลานชายของตัวเองกำลังจะทำให้สูญเสียลูกสาวคนเดียวไปจริงๆ ถึงเวลานั้นคุณก็ค่อยติดต่อกลับมายื่นเงื่อนไขว่าถ้าอยากให้คุณกลับบ้าน ต้องยอมทำตามข้อเสนอของคุณ พอถึงเวลานั้น ป๊าม้าคุณต้องยอมแน่ หรือจะทนให้ป๊าม้าคุณจับคู่หาสามีให้ไปจนตายก็เรื่องของคุณ”

วิสุทธิ์บรรยายแผนว่าจะถ่วงเวลาป๊าม้าเอาไว้ ให้เธอหนีออกไป จากนั้นเขาก็ออกมาคุยกับป๊าม้า เพ็ญสิริเอาผ้าปูที่นอนมาผูกโรยตัวลงจากระเบียงอย่างตื่นเต้น ระหว่างนั้นทั้งป๊าม้าลุ้นมองการกระทำของลูก วิสุทธิ์เล่าแผนการทั้งหมดให้ฟัง เพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นห่วงโดยจะพาเธอไปอยู่ที่ไร่ อย่าบอกให้เธอรู้ตัว อ้างว่าเธอไม่พร้อมจะแต่งงาน ต้องให้เวลาเธอทบทวนตัวเอง ป๊าม้ากลับรู้สึกสนุกอยากเรียนปีนผ้าขึ้นมาบ้าง วิสุทธิ์เซ็ง แล้วทั้งสองก็เน้นย้ำ

“ลื้อเอาอาเพ็ญไปก็ไปเลย แต่ป๊ามีข้อแม้เดียว ภายในเดือนนี้อาเพ็ญต้องท้อง!”

“ซินแสบอกว่าถ้าเพ็ญมีลูกในเดือนนี้ คลอดในปีนี้ เทพบุตรจะมาเกิด...ต้องเดือนนี้ ลื้อทำได้ไหมอาคุณวิสุทธิ์” ท่าทางม้าเชื่อเอาจริงเอาจัง

วิสุทธิ์ยิ้มแหยๆเดินออกมามึนๆ เพ็ญสิริหลบอยู่ยื่นมือมาดึงเขาเข้าหลืบ ถามป๊าม้าจับไม่ได้ใช่ไหม แล้วเล่าความตื่นเต้นตอนโรยตัวลงมาให้ฟัง ถามตนจะโทร.บอกป๊าม้าได้หรือยังว่าหนีออกจากบ้าน เขาปรามต้องปล่อยระยะเวลาหน่อย เธอพยักหน้า แต่ตอนนี้จะไปอยู่ที่ไหน

ooooooo

ขบวนรถสุริเยนทร์แล่นเข้ามาในวัด สมุนไปยกโลงศพสุรีย์มาใส่รถที่เตรียมไว้ เคทโวยวายแทนที่จะให้ลูกได้ล่ำลาแม่กลับจะเอาศพแม่ไปไหนอีก สุริเยนทร์ ไม่ตอบทำให้เคทโมโหจะดึงน้องพีทลงจากรถจ่ายักษ์ พาสมุนเขารวบตัวโยนกลับเข้าไปในรถ

การนำศพสุรีย์กลับมาที่ไร่ภูทับดาว ทำให้คฑาวุธร้อนใจบอกเดชา “ไหนพ่อบอกว่าไอ้ภูมันเกลียดแม่เกลียดพี่สาวไง คนที่เกลียดกันจะเอาศพกลับมาบ้านทำไม”

เดชางง “ก็ตั้งแต่แม่กับพี่สาวทิ้งไป นายอาทิตย์ก็สอนให้ภูเกลียดทั้งสอง และภูก็ไม่เคยสนใจไยดีด้วยอีก ขนาดวันที่สุรีย์มาร้องขอความช่วยเหลือถึงไร่ ภูยังไม่ออกไปเจอหน้าด้วยซ้ำ”

คฑาวุธร้อนรนแล้วที่ทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร แขไขเหน็บ จะซีเรียสทำไม ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเขา คฑาวุธตวาดอย่ายุ่ง...แล้วเขาก็หลบมาโทร.สั่งดำเกิงให้จัดการสุริเยนทร์ให้ได้ ดำเกิงบอกว่าสุริเยนทร์เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น คฑาวุธไม่สนใจ ให้เวลา 3 วัน ถ้าทำไม่สำเร็จ รอรับฟังข่าวร้ายของลูกเมียได้เลย ดำเกิงร้องลั่นอย่าทำอะไรลูกเมียตน

จ้อนขี่รถเข้ามาถามดำเกิงแอบทำอะไรตรงนี้ สารวัตรให้เขาไปหาที่โรงพักจะสอบถามเรื่องที่โดนคนร้ายตีหัววันที่นายโดนลอบยิง ดำเกิงหงุดหงิดออกไป ...เผอิญแขไขได้ยินที่คฑาวุธคุยโทรศัพท์ จึงถามคิด

ทำเรื่องไม่ดีอะไร แล้วสงสัยว่าจะทำร้ายสุริเยนทร์ โวยจะฟ้องพ่อ คฑาวุธกระชากแขนตวาดใส่หน้า

“แกอย่าหาเรื่องให้ฉันดีกว่า ฉันยังไม่ได้พูดสักคำว่าเป็นไอ้ภู แกอย่าคิดเองเออเอง”

“แล้วฉันคิดผิดไหมล่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าพี่คิดยังไงกับพี่ภู ฉันบอกให้รู้เลยนะว่าพี่ไม่มีวันเอาชนะพี่ภูได้ ไม่มีวันทำได้ เพราะว่าพี่มันกระจอก” แขไขตอกกลับ

คฑาวุธโกรธเงื้อมือจะตบ เดชาเข้ามาห้ามอย่าทำอะไรน้อง เขาจึงสวนให้บอกน้องทำตัวให้เป็นน้องบ้าง ว่าแล้วก็เดินหงุดหงิดออกไป...เดชากำชับแขไขอย่าเพิ่งไปบอกอะไรสุริเยนทร์ แต่ท่าทางแขไขไม่ยอม ถ้าคฑาวุธคิดทำอะไรสุริเยนทร์ เธอจะปกป้องทุกทาง

สุริเยนทร์สั่งรถแล่นวนไปรอบไร่ด้วยอยากให้สุรีย์ได้เห็นถึงความยากลำบากที่แม่กับสุรีย์ทนไม่ได้จนต้องทิ้งไป ตอนนี้มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน เคทเหน็บโรคจิต ทำแบบนี้แล้วสุรีย์จะมีความสุขหรือ สุริเยนทร์นิ่งเศร้าๆ จนมาถึงสุสานบนเชิงเขาที่จัดเตรียมไว้สำหรับศพสุรีย์ หน้าหลุมศพประดับประดาด้วยดอกไม้ขาวสวยงาม เคทตะลึงเอ่ยถาม เขาตั้งใจเอาสุรีย์มาฝังที่นี่หรือ

“ฉันจะเก็บสุรีย์ไว้อย่างนี้จนกว่าไอ้ฆาตกรที่ฆ่าสุรีย์จะได้รับกรรมของมันอย่างสาสม”

เคทโวยเขารับปากแล้วจะไม่ยุ่งกับนพสิทธิ์อีก เขาสวนยังไม่ได้เอ่ยชื่อสักคำ เคทชะงักดึงน้องพีทมากอดบอกแม่นอนอยู่ที่นี่ เวลาคิดถึงเราจะมาเยี่ยมได้ตลอด แล้วเหลือบมองสายตาสุริเยนทร์ที่มองภาพสุรีย์เศร้าๆ ฉงนใจไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเสียใจกับการตายของเธอ กระซิบถามสุพล “เจ้านายคุณเป็นคนยังไง...

ทำเหมือนว่าเสียใจที่พี่สุรีย์จากไป แต่ไม่ใช่หรอก คนไม่ได้รักจะเสียใจได้ยังไง เขาก็แค่รู้สึกผิดที่ไม่ยอมช่วยพี่สุรีย์เท่านั้นใช่ไหม”

สุพลบอกเอาที่สบายใจแล้วกัน...จากตรงนั้น ขบวนรถแล่นมาที่หน้าบ้านพัก สุริเยนทร์ให้ป้าอุ่นเรียกทุกคนมารวมกัน ตนมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง ป้าอุ่น เสือโคร่ง ผิวและพิณมารอฟัง

“ตั้งแต่วันนี้ น้องพีท หลานชายฉันจะมาอยู่ที่นี่ ทุกคนต้องเข้ากับน้องพีทให้ได้ ใครทำไม่ได้จะต้องลาออกไป...ส่วนผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นก็จะมาอยู่ด้วย” สุริเยนทร์ชี้ไปที่เคท

เคทจะแนะนำตัวเอง สุพลปราม แต่เธอไม่ฟัง “ไม่ต้องห้าม! คุณสุริเยนทร์ ฉันมาเลี้ยงหลานให้คุณ คุณก็ควรจะให้เกียรติฉันบ้าง”

“เกียรติเหรอ...ได้ ผู้หญิงคนนี้ถูกขายขัดดอกให้กับไร่ภูทับดาว กลางวันเธอจะต้องทำงานในไร่ ตอนเย็นต้องเลี้ยงหลานและทำงานแม่บ้านที่นี่ ส่วนกลางคืนฉันอาจจะเรียกใช้เธอบางเวลา” สุริเยนทร์มองสรีระเคท

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 4

ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์
ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ