อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 3/4

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 3/4

ด้านเพ็ญสิริพอกลับถึงบ้าน ป๊ากับม้ารีบมาต้อนรับ วิสุทธิ์ต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นแฟนกับเพ็ญสิริอย่างสวีตหวาน ป๊าม้าชอบใจชวนวิสุทธิ์พักที่บ้าน จัดห้องหับให้นอน พูดเป็นนัยๆว่าพรุ่งนี้ให้ตื่นเช้าๆจะมีแขกมาบ้าน ทั้งสองงวยงง วิสุทธิ์ถามคนที่มาเกี่ยวอะไรกับตน ป๊าม้าตอบพร้อมกันเสียงสูง

“ไม่มี้...ไม่เกี๊ยว...”

“ป๊าม้าทำตัวมีพิรุธ มีเรื่องอะไรปกปิดหนูอยู่ใช่ไหมคะ” เห็นทั้งสองสะดุ้ง “นั่นไงมีแน่ๆ ตอบมา เจ้าฟังอยู่ห้ามโกหก”



ป๊ากับม้ารีบแยกย้ายกัน ม้าดึงเพ็ญสิริไปห้อง ป๊าพาวิสุทธิ์ไปห้องพัก ทั้งสองต่างซักไซ้ป๊ากับม้าเหมือนกัน ป๊ากับม้าเลี่ยงไม่ตอบแล้วกำชับให้นอนไวๆจะได้มีแรง ยิ่งทำให้ทั้งสองสงสัย...

กลางดึก สุริเยนทร์มาบ้านสุรีย์ นั่งจมความมืดอยู่บนโซฟา สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากการถูกทุกคนทิ้งไป ภาพในอดีตผุดขึ้นทำร้ายจิตใจมากขึ้น เขายิ่งเครียดเก็บกด ทันใดเสียงเคทดังเข้ามาว่าใครอยู่ตรงนั้น สุริเยนทร์แววตากลับมากร้าวหันมอง เคทเห็นเขาก็ตกใจถามเขามาทำอะไรตรงนั้น ท่าทางเธอระวังตัวแจ เหมือนตอกย้ำความเจ็บปวดของเขาเข้าไปอีก

“กลัวเหรอ...กลัวฉันเหรอ”

เคทถอยปากก็บอกไม่ได้กลัวแต่ห้ามเขาเข้ามาใกล้ สุริเยนทร์เดินต้อน เธอร้องลั่นจะทำอะไร เขาไล่ตามถาม “ทำไมต้องกลัว ทำไม! ฉันถามว่าทำไม!” เคทคว้าแจกันใกล้มือฟาด เขาจับมือเธอไว้ทัน “ฉันมีอะไรน่ากลัว หา! ฉันมีอะไรน่ากลัว” สุริเยนทร์ตวาดถาม

เคทสะบัดมือออกแล้วฟาดแจกันลงหัวเขาเปรี้ยง...เลือดที่หัวเขาไหลออกมา เคทตกใจวิ่งหนีขึ้นบันได เขาตามตะครุบตัวเธอดันให้นอนพาดขั้นบันได เอาตัวคร่อม ถามย้ำด้วยเสียงกร้าว

“มองหน้าฉัน แล้วตอบฉัน ทำไมต้องกลัวฉัน!”

เคทปัดป่ายตบหน้าเขาเพียะ สุริเยนทร์โกรธเงื้อมือขึ้นแล้วชะงักค้าง มองท่าทางหวาดกลัวของเคทด้วยความสะเทือนใจ ถามย้ำทำไม...ทำไมต้องกลัว เคทเห็นน้ำตาเขาไหลก็แปลกใจสะบัดตัววิ่งหนีขึ้นบันได หันมามองเขาอีกครั้งก่อนจะตัดใจวิ่งเข้าห้อง ยืนตัวสั่นสับสน

พักใหญ่เคทถือกล่องยาลงมา เห็นสุริเยนทร์นั่งหมดอาลัยอยู่ที่บันได เธอลังเลไม่กล้าเข้าใกล้เกรงเขาคลั่งขึ้นมาอีก พลันเขาเงยหน้ามามอง เธอจึงยื่นกล่องยาให้ เขาบอกให้มาทำแผลให้ด้วย ตนไม่ทำร้ายหรอก เคทขู่ถ้าเขาทำ เขาตวาดสวน “หุบปาก! ทำแผลแล้วจะไปไหนก็ไป”

ooooooo


เคททำแผลที่หัวให้สุริเยนทร์ทั้งที่หมั่นไส้ เขาสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของเธอ เสร็จจากที่หัวเห็นที่มือเขามีเลือดแห้งกรังจึงขอทำที่มือให้ด้วย เขายื่นมือให้อย่างว่าง่าย แต่พอเคทพลิกมือเห็นรอยแผลเป็นก็เอ่ยถามว่าโดนอะไรมา เขากระชากมือกลับทันที

“ไม่ต้องทำแล้ว แค่นี้ไม่ตายหรอก ไปไหนก็ไป”

เคทงงกับอารมณ์ของเขาสบถเป็นบ้าอะไรขึ้นมาแล้วลุกหนีเดินขึ้นบันไดถึงชั้นสุด หันกลับมามอง สบตาเขาเข้าพอดี เห็นแววตาของเขาเหมือนต้องการใครสักคนแล้วรู้สึกสับสน

เช้าวันใหม่ เพ็ญสิริถูกม้าจับแต่งตัวในชุดจีน

สีแดงสด เกล้าผมปักปิ่นสวยงามจนเธอแปลกใจว่าวันนี้มีพิธีอะไรกันแน่ ด้านวิสุทธิ์ ป๊าก็เตรียมชุดหรูไว้ให้ใส่โดยบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดเพ็ญสิริ เขาจึงไม่ติดใจสงสัย แถมคิดแกล้งเธอไว้ในใจ

ป๊าม้าให้เพ็ญสิริจุดธูปไหว้ฟ้าดินที่ตั้งกลางสนามบ้าน มีของไหว้เจ้าจัดวางพร้อมพรั่ง อ้างว่าทำให้เพื่อวันเกิดเธอ เพ็ญสิริแย้ง “ไม่ใช่...ป๊าม้าไม่เคยจำผิด แต่ไม่ยอมบอกมากกว่าว่าวันนี้เราไหว้ฟ้าดินทำไม ชุดนี่อีก ปิ่นกับใบทับทิมบนหัวหนูด้วย มันมีอะไรใช่ไหมคะ”

ป๊าโบ้ยว่าให้ไหว้ให้เสร็จก่อนแล้วจะบอก พอมาที่โต๊ะอาหารมีอาหารมงคลสิบอย่างวางไว้ เพ็ญสิริเห็นแล้วรู้ว่านี่ไม่ใช่วันธรรมดาแน่ๆ ม้าจับเธอนั่งแล้วบอกเราจะทานข้าวด้วยกัน

“นั่งๆ กินหมี่นะ อายุจะได้ยืนยาว รักกันนานๆ เหมือนเส้นหมี่”

“นี่ตับ ไส้ กระเพาะหมู กินแล้วจะได้อั่วตึ๊งอี่วโต้ว อะไรที่ไม่ดีก็จะได้ดีขึ้น จะได้มีความสุขและรักกันยาวๆ” ป๊าเสริม...ม้าคีบผักเกาฮะไฉ่ให้กินจะได้รักกันยืนยาวเหมือนเซียนฮัวฮะ

เพ็ญสิริชักสงสัยมากขึ้น ที่อวยพรแบบนี้ ใส่ชุดนี้ไหว้ฟ้าดิน แล้วหันไปเห็นชุดน้ำชาที่จัดวางไว้เริ่ม

จะแน่ใจ พอดีวิสุทธิ์เข้ามาด้วยท่าทีร่าเริง ตรงเข้าขยี้หัวเพ็ญสิริกล่าวแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ขอให้โตไวๆ แล้วหันมาตื่นเต้นกับอาหารมากมาย เพ็ญสิริสวนว่าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดตน ป๊ารีบกระแอมตัดบท แล้วขอให้วิสุทธิ์ส่งถ้วยน้ำชาให้ เขาหันไปยกถาดมายื่น เพ็ญสิริดึงถาดห้าม แต่วิสุทธิ์กลับใช้อีกมือหยิบถ้วยชาส่งให้ป๊า หญิงสาวร้อง

“อย่า! มันคือการยกน้ำชาแต่งงาน!”

วิสุทธิ์ชะงักแต่ป๊ารับถ้วยน้ำชาไปแล้วและม้าก็หยิบอีกถ้วยจากถาดไปดื่มพร้อมกับป๊า

“ขอให้ลื้อสองคนรักกันยาวนานจนชั่วฟ้าดินสลายนะ มีหลานชายให้ป๊ากะม้าไวๆนะ”

วิสุทธิ์ตะลึงอ้าปากค้าง เพ็ญสิริทนไม่ไหวลุกเดินหนี วิสุทธิ์ตามไปต่อว่า ทำไมไม่บอก เธอหันกลับมาโวยว่าเคยฟังกันบ้างไหม เขายังจะโทษว่าเธอผิดที่ไม่บอกเร็วๆ หญิงสาวปรี๊ด

“นี่! เรื่องมันก็เริ่มจากนายนั่นแหละที่ไปบอกป๊าม้าว่าฉันคบกับนายอยู่ ไปทำให้ป๊าม้ามีความหวัง ไม่รู้ หรือไงว่าป๊าม้าอยากมีหลานแค่ไหน ทั้งหมดเพราะนายคนเดียว...นายผิด”

“เพราะคุณนั่นแหละ ถ้าคุณมีผะ...แฟนเป็นตัวเป็นตน ทุกอย่างก็จบ...คุณผิด”

ทั้งสองเถียงกันไปมา ป๊าม้าเข้ามาห้ามอย่าทะเลาะกันในวันแต่งงาน เพ็ญสิริประกาศว่าไม่แต่ง ไม่เต็มใจ ไม่ได้ยกน้ำชา ใครยกก็รับไปคนเดียว วิสุทธิ์อธิบายว่าตนแค่พาเพ็ญสิริไปดูไร่ของตน ไม่ได้มีอะไรเกินเลย ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า อย่ารีบร้อนข้ามขั้น ที่ยกน้ำชาไป ขอให้ถือเป็นโมฆะ...ม้าไม่ยอม บอกไหนๆก็ยกน้ำชาแล้ว เลยตามเลย แล้วหันมารำพันกับเพ็ญสิริว่าจะทำเพื่อป๊าม้าบ้างไม่ได้หรือ พวกตนจะอยู่รอดูหลานได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้หรือต้องให้ตายก่อน เพ็ญสิริอึ้งเถียงไม่ออกน้ำตาร่วงอย่างรู้สึกผิด

“แล้วหนูล่ะ ความสุขของหนูล่ะ หนูอยากเรียนต่อโท ป๊าม้าก็ไม่ให้ อยากทำธุรกิจร้านแว่น ป๊าม้าก็ไม่ยอม อย่างเดียวที่ป๊าม้าจะให้หนูทำคือแต่งงาน มีสามี มีลูกชายและต้องลูกชายเท่านั้น หนูคนนะป๊าม้า หนูมีความรู้สึกเหมือนกัน เห็นไหมเนี่ย”

ม้าปลอบว่าตอนตนแต่งงานก็ไม่ได้รักกัน อยู่ๆกันไปก็รักเอง เพ็ญสิริโวยว่าตนทำไม่ได้ ตนขอโทษที่เกิดเป็นหญิง ขอโทษที่ทำให้ม้าคลอดยากจนมีลูกอีกไม่ได้ ตนขอโทษ ...ทุกคนเหวอกับความดราม่าหนักของเพ็ญสิริ...

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 3/4

ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์
ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ