อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 3/3
คฑาวุธยิ่งแค้นใจเก็บความไม่พอใจมาระเบิดที่บ้าน มาถึงเห็นเดชากับแขไขกำลังคุยกันเรื่องที่แขไขพยายามแต่งตัวแบบรุจิรา คฑาวุธถากถางทันทีว่า“อยากจะให้ไอ้ภูมันรักล่ะสิ ต่อให้แกไปทำหน้าให้เหมือนยัยขิม มันก็ไม่รักแก”
แขไขร้องกรี๊ด เดชาปรามแล้วถามลูกชายไปโมโหอะไรมา คฑาวุธระเบิดอารมณ์ว่าชาวบ้านไม่เห็นหัวตน มีปัญหาอะไรก็ร้องเรียกแต่นายภูๆ แล้วจะเลือกตนมาเป็นตัวแทนทำไม
“หึ ไม่รู้จริงเหรอ ว่าชาวบ้านไม่ได้อยากเลือกพี่เลยสักนิด เขาอยากเลือกพี่ภู” แขไขเยาะ
เดชาเอ็ดแขไขให้หยุดแล้วบอกคฑาวุธว่าให้ตั้งใจทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ สักวันชาวบ้านจะต้องยอมรับ แต่อย่าแข่งบารมีกับสุริเยนทร์เพราะไม่มีวันสู้เขาได้ คฑาวุธยิ่งปรี๊ด
“พ่อก็ดีแต่ยกย่องมันแล้วดูถูกลูกตัวเอง ผมก็เก่งนะพ่อ ผมจะไม่ยอมเป็นร่างทรงของไอ้ภู พ่อคอยดูแล้วกัน” พูดจบเดินฉุนเฉียวออกไปหน้าบ้าน กดโทรศัพท์สั่ง “ฉันให้โอกาสแกแก้ตัวอีกครั้ง จัดการไอ้ภูซะ แล้วถ้าครั้งนี้แกยังทำไม่สำเร็จอีก ก็เตรียมรับศพลูกเมียแกได้เลย”
เดชาตามออกมาเห็นถามคุยกับใคร คฑาวุธตอบว่าลูกน้อง เดชาหวั่นใจจะทำอะไรอีก เขาบอกพ่อไม่ต้องยุ่ง เดชาเตือน “พ่อบอกแล้วไงว่านายอาทิตย์กับนายภู พ่อลูกคู่นี้มีบุญคุณกับเรามาก ลูกจะอกตัญญูไม่ได้ ถ้าไม่มีนายภู ลูกก็ไม่มีวันนี้หรอก”
“ไม่มีมัน ผมจะไปไกลยิ่งกว่านี้ต่างหาก แล้วพ่อคอยดู” คฑาวุธสวนเสียงกร้าว...
คืนนั้น สุริเยนทร์พาเคทกับน้องพีทมาพักที่บ้านสุรีย์ สั่งคืนนี้ให้เก็บข้าวของที่จำเป็นไว้ พรุ่งนี้เช้าจะรับกลับภูทับดาว เคทขอกลับหลังงานศพสุรีย์ เขาเสียงเข้มว่าพรุ่งนี้เช้า แล้วกลับขึ้นรถออกไปโดยให้จ่ายักษ์กับสมุนจำนวนหนึ่งอยู่เฝ้า
จ่ายักษ์บอกเคทให้นอนพักให้สบาย เธอกลับไล่เขาให้ออกไปจากบ้าน เขาจึงสวนว่า “ขอโทษนะครับ ตามพินัยกรรม บ้านหลังนี้เป็นของคุณพีทซึ่งอยู่ในความอุปการะของนายภู คุณเป็นแค่ผู้ขออาศัย เอาสิทธิ์อะไรมาสั่งครับ”
เคทอึ้งเจ็บใจ พอดีเพ็ญสิริกับวิสุทธิ์ตามมาถึง เพ็ญสิริร้องลั่นจะทำอะไรเพื่อนตนและไล่จ่ายักษ์ให้ออกไปห่างๆ เคทจูงน้องพีทมาให้ลออพาไปอาบน้ำและหาอะไรให้ทาน อย่าเพิ่งถามใดๆ พอคล้อยหลังลออกับน้องพีท วิสุทธิ์รีบถามเป็นอะไรหรือเปล่า เธอตอบว่าไม่เป็นอะไรไม่ต้องห่วง เพ็ญสิริดันวิสุทธิ์ให้กลับบ้านไป เคทหันมาหาโผกอดเพ็ญสิริร้องไห้อย่างอัดอั้นเต็มประดา เธอตกตะลึงกอดปลอบเพื่อนอย่างเข้าใจว่าที่ผ่านมาทำเป็นเก่งกล้าแต่ลึกๆแล้ว...กลัว
ด้านเอกณัติพยายามคาดคั้นนพสิทธิ์ รู้ได้อย่างไรว่าสุริเยนทร์สั่งฆ่าสุรีย์ ตนจะเชื่อได้ต้องมีหลักฐาน ตนพร้อมช่วยเขาแต่เขาต้องเล่ารายละเอียดทั้งหมด นพสิทธิ์ยังไม่ไว้ใจเอกณัติแม้จะเป็นเพื่อนกับเคท เพราะสุริเยนทร์มีอิทธิพลคับบ้านคับเมือง มีเส้นสายทุกวงการ เขาต้องการความมั่นใจก่อนว่าผู้บังคับบัญชาของเอกณัติ จะไม่จับเขาเข้าคุกเพื่อสร้างผลงาน เขาต่อรองจะไม่เข้ากระบวนการตามกฎหมาย จนกว่าจะหาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองให้ได้ก่อน
“ถ้าพี่ไม่เข้ากระบวนการแล้วผมจะช่วยพี่ได้ไง มันเท่ากับผมช่วยผู้ต้องหา มีความผิดนะ พี่นพ...ถ้าผมไม่ได้คิดจะช่วยพี่จริงๆ ผมปล่อยให้คนของไอ้สุริเยนทร์ลากพี่ไปกระทืบแล้ว เชื่อผม ให้ตำรวจดูแลแล้วผมสัญญาว่าจะให้ความยุติธรรมกับพี่ด้วยเกียรติของผมและพี่ต้องเชื่อผม”
นพสิทธิ์ชั่งใจ ขอให้เอกณัติต่อสายให้คุยกับเคทก่อน... ระหว่างนั้น เพ็ญสิริกำลังปลอบโยนเคท วิสุทธิ์รับปากจะช่วยเธอทุกทาง เพ็ญสิริหมั่นไส้ดักคอคิดจะทำคะแนนเขาร้องเฮ้ย...
“ทำไม! กล้ารู้สึกแต่ไม่กล้ายอมรับเหรอ ไม่แมนเลย เคท แกไม่ต้องไปสนใจเลย ไม่ได้ครึ่งของพี่หมวดเอก...”
วิสุทธิ์จะแย้งแต่มือถือเพ็ญสิริดังขัด เอกณัติโทร.เข้ามาขอคุยกับเคท เพื่อบอกเธอว่านพสิทธิ์อยู่กับเขาปลอดภัยดี แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือใดๆ เคทดีใจมากแต่แล้วต้องตกใจ เมื่อได้ยินเอกณัติร้องลั่นเพราะเห็นนพสิทธิ์วิ่งหนีออกไปจากเซฟเฮาส์...เคทหน้าเครียดเดินจ้ำมาเก็บเสื้อผ้า เพ็ญสิริให้ใจเย็น เคทว่าตนจะไม่ยอมให้น้องพีทต้องเสียพ่อไปอีกคน เพ็ญสิริท้วง
“แล้วแกจะพาน้องพีทไปอยู่ไร่ภูทับดาว แลกกับการที่เขาจะเลิกตามล่าพี่นพงั้นเหรอ คำพูดเจ้าพ่อเชื่อได้เหรอ ถ้าเขาอยากจะฆ่าพี่นพ คิดว่าเขาจะแคร์ข้อตกลงที่ให้แกไว้เหรอ”
เคทสวนตนมีทางเลือกหรือ วิสุทธิ์เข้ามาบอกว่า ถ้าสุริเยนทร์รับปากแล้วเขาไม่มีวันผิดคำพูดแน่ เขาเป็นเจ้าพ่อมีศักดิ์ศรีและเคารพในตัวเอง เพ็ญสิริหาว่าวิสุทธิ์พูดทำคะแนนให้ตัวเอง
“ไม่ใช่จะทำคะแนน ผมแค่จะบอกว่าสุริเยนทร์ที่ผมรู้จักเป็นยังไง เขาไม่กล้าทำร้ายหลานตัวเองหรอก ไม่งั้นเขาคงไม่ยื่นข้อเสนอให้คุณเคทไปอยู่ไร่กับเขา แต่นี่เขาต้องการคุณเคท เขารู้ดีว่าเขาจัดการน้องพีทไม่ได้ เด็กคนนี้เกินกำลังเขา”
“ฉันจะไปเลี้ยงน้องพีทให้เขา ถ่วงเวลาไม่ให้เขายุ่งกับพี่นพ แล้วระหว่างนั้นฉันก็จะแอบหาหลักฐานความชั่วที่เขาทำเอาไว้ คนอย่างเขาต้องมีเรื่องชั่วเยอะแน่ อาจจะเคยโกงหรือทำเรื่องผิดกฎหมาย หรือไม่ก็เรื่องที่เขาสั่งฆ่าพี่สุรีย์ หรือเรื่องที่นายอาทิตย์พ่อของเขากบดานอยู่ก็ได้”
เพ็ญสิริตะลึงที่เพื่อนต้องบ้าไปแล้วแน่ เคทว่าบ้าก็ต้องบ้า นี่เป็นทางเดียวที่จะจัดการเขาได้ แล้วเคทก็ขอร้องให้วิสุทธิ์ช่วยไปส่งเพ็ญสิริที่บ้านให้ที วิสุทธิ์ดึงเพ็ญสิริออกมา เธอโวยวายหาว่าเขาไม่คิดจะช่วยเคทแต่หวังประโยชน์ให้เธอสืบเรื่องการตายของพ่อตัวเอง วิสุทธิ์ยัวะ
“ผมเสียพ่อไปแล้ว ไม่มีอะไรจะเสียเพิ่มอีก แต่ชีวิตพี่ชายเพื่อนคุณกับน้องพีทยังมีอยู่ ถ้าคิดว่าการรักเพื่อนมากของคุณมันมีประโยชน์ช่วยรักษาชีวิตคนได้ ก็ไปเลย แต่ผม...ผมจะสนับสนุนเพื่อนคุณ จะช่วยทุกอย่างที่เพื่อนคุณต้องการ เพราะผมมันเห็นแก่ตัว”
เพ็ญสิริชะงักมองหน้าวิสุทธิ์ ลึกๆในใจเห็นจริงอย่างที่เขาว่า แต่วางฟอร์มไม่ยอมเชื่อ
ooooooo
หลังจากส่งเคทที่บ้านสุรีย์แล้ว สุริเยนทร์ก็ให้สุพลขับรถพามาจอดหน้าร้านรุจิรา เขานั่งในรถมองผ่านกระจกเข้าไปในร้าน เห็นคนในร้านทำงานกันวุ่นวาย สุพลเหลือบมองทางกระจกมองหลังอย่างเข้าใจความรู้สึกนาย แต่ก็ต้องแทรกเรื่องงาน
“เอ่อ...เรื่องนพสิทธิ์บอกว่านายคือคนสั่งฆ่าคุณสุรีย์ ผมไม่รู้ว่านพสิทธิ์คิดเล่นตลกอะไรร่วมมือกับใคร แต่ที่แน่ๆมีคนพยายามจะทำให้คดีคุณสุรีย์กลายเป็นความผิดของนาย นายต้องรีบจัดการนะครับ” เห็นสุริเยนทร์เฝ้ามองรุจิราเครียดๆ จึงเปลี่ยนว่าจะไปลองสืบดูแล้วกัน
สักพักรุจิรากำลังเดินยิ้มแย้มคุยโทรศัพท์ออกมาจากร้าน สุพลถามจะเข้าไปเจอไหม เขาส่ายหน้า สุพล จึงบอกว่าเหมือนทุกครั้ง ไม่ได้อยากเจอแค่มาดักรอเฉยๆ สุริเยนทร์จ้องตาดุ สุพลจ๋อยรู้สึกเห็นใจเจ้านาย สุริเยนทร์สั่งสุพลกลับ เขาถอยรถ จังหวะนั้นมีรถแล่นมาจะจอดเสียบข้างๆ ทำให้สุพลถอยชน คนขับเป็นชายหนุ่ม หล่อลงมาโวยวาย สุพลลดกระจกลง กล่าวขอโทษและส่งนามบัตรให้ บอกให้ประกันไปเคลียร์ได้เลย แต่ชายหนุ่มไม่ยอมโวยวายให้ลงมารับผิดและขอโทษ รุจิราได้ยินเสียงเอะอะรีบเข้ามาเกาะแขนชายหนุ่ม แต่พอเห็นหน้าสุพลก็ตกใจรู้ว่าในรถมีใครนั่งอยู่ รีบดึงวิน แฟนหนุ่มให้หยุดโวยวาย
สุริเยนทร์เห็นรุจิราดึงวินให้ออกห่างก็เปิดประตูรถลงมาถาม “ขิม...คุณกลัวผมเหรอ”
“อย่า! อย่าเข้ามา ภูมาทำไม ต้องการอะไร”
วินแปลกใจที่ทั้งสองรู้จักกัน รุจิรารีบบอกสุริเยนทร์ ว่าตนมีแฟนแล้ว เรากำลังศึกษากันอยู่ ให้เขาเลิกวนเวียนในชีวิตตนเสียที ตนต้องการมีชีวิตที่ปกติ สงสารตนเถิด สุริเยนทร์เจ็บปวดใจถามทำไมต้องกลัวขนาดนี้...วินโวยขึ้นมาอีกจะให้ขอโทษ สุริเยนทร์ไม่สนใจหันกลับจะขึ้นรถ วินเข้ากระชากแขน สุริเยนทร์มีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที หันกลับมาปัดมือแล้วเหวี่ยงวินลงกดที่พื้นด้วยเข่าและมือ รุจิราร้องลั่น สุพลรีบเข้ามาเตือนสติสุริเยนทร์
รุจิราคว้ากระถางฟาดใส่หลังเขาเต็มๆตวาด “ดู! ดูสิ่งที่ภูทำ!นี่ไง ทำให้ขิมต้องกลัวภู เพราะภูมันบ้า ทำร้ายทุกคนที่อยู่ใกล้ ขิมหนีจากภูทับดาวมาถึงนี่แล้ว ภูจะตามมาอีกทำไม ไป...ไปไหนก็ไป ไม่ต้องมายุ่งกับขิมอีก ขิมไม่อยากเห็นหน้าภู ไป!”
สุริเยนทร์เจ็บปวดถอยหลังเดินหนี สุพลจะถอยรถตามแต่รถวินยังขวางเลยวิ่งตาม...ฟ้ามืดครึ้ม
สุริเยนทร์เดินไปตามทาง เสียงและสีหน้าแววตารุจิรายังตามหลอกหลอนจนเขาต้องหยุดทรุดลงเจ็บปวดตัวสั่น เครียดชกพื้นไม่ยั้ง สุพลตามมายืนมองห่างๆได้แต่สงสารเจ้านาย
เมื่อตัดสินใจแล้ว เคทก็เก็บเสื้อผ้าและของจำเป็นใส่กระเป๋า มองหุ่นเสื้อผลงานที่ทำค้างไว้อย่างเศร้าๆ จำใจทิ้งผลงานและการเรียนไว้ก่อน ลออลากกระเป๋าน้องพีทเข้ามา รู้สึกเห็นใจเธอมากที่เธอต้องเสียสละทิ้งความฝันเพื่อหลาน ทันใดเสียงน้องพีทร้องไห้เรียกแม่ เคทกับลออรีบวิ่งมาที่ห้อง น้องพีทนั่งร้องไห้บนเตียงชี้ไปที่ประตูระเบียง บอกว่าแม่มาหา แม่บอกให้เป็นเด็กดีเชื่อฟังอาเคท หนูน้อยกอดเคทถาม ตนจะไม่ได้เจอแม่อีกแล้วใช่ไหม เคทอึ้งพูดไม่ออก
ด้านเพ็ญสิริพอกลับถึงบ้าน ป๊ากับม้ารีบมาต้อนรับ วิสุทธิ์ต้องแสดงให้เห็นว่าเป็นแฟนกับเพ็ญสิริอย่างสวีตหวาน ป๊าม้าชอบใจชวนวิสุทธิ์พักที่บ้าน จัดห้องหับให้นอน พูดเป็นนัยๆว่าพรุ่งนี้ให้ตื่นเช้าๆจะมีแขกมาบ้าน ทั้งสองงวยงง วิสุทธิ์ถามคนที่มาเกี่ยวอะไรกับตน ป๊าม้าตอบพร้อมกันเสียงสูง
อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 3/3
ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ