อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 1/3

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 1/3

สุริเยนทร์ยืนมองภาพสุรีย์หน้าศพด้วยความรู้สึกผิด ถ้าวันนั้นตนฟังเธอสักนิดคงไม่เป็นแบบนี้ สุพลเข้ามารายงานว่าได้เปลี่ยนดอกไม้ในงานทั้งหมดเป็นสีขาวตามที่สั่งแล้ว จ่ายักษ์ตามเข้ามารายงานว่าที่ไร่เกิดเรื่อง นายอำเภอชัชพาเจ้าหน้าที่มาค้นไร่หาว่าเราซ่อนแรงงานต่างด้าวเถื่อนไว้ ต้องมีคนหาเรื่องให้แน่ สุริเยนทร์ถามคิดว่าเป็นใคร จ่ายักษ์คิดว่าเป็นพวกไร่ปลายฟ้า

“แล้วจะให้ฉันทิ้งงานศพสุรีย์งั้นเหรอ”



ทั้งจ่ายักษ์และสุพลจ๋อย...เคทขับรถของเพ็ญสิริพาน้องพีทมางานศพ เพ็ญสิริอดห่วงไม่ได้โทร.มาแนะนำให้เกลี้ยกล่อมนพสิทธิ์สู้คดีถ้าไม่ผิด เคทหาว่าพวกนั้นมีอำนาจต้องทำให้นพสิทธิ์กลายเป็นผู้ต้องหาแน่ ตนต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ให้ได้ก่อน

ooooooo

ห้องอาหารบนเรือสำราญ มีเสี่ยอ้วนๆนั่งอยู่ก่อนหกเจ็ดคน เพ็ญสิริกระซิบถามป๊ากับม้าว่านี่งานแซยิดหมู่หรือ ป๊าบอกว่าให้มาดูตัว เพ็ญสิริตกใจ

“ดูตัว! รุ่นนี้ยังต้องดูตัวอีกเหรอ!”

เพ็ญสิริเดินจ้ำออกมา ป๊าม้ารีบตาม เธอโวยเห็นตนเป็นอะไรถึงให้มาดูตัวเพื่อนป๊า ป๊างง “เพื่อนป๊าน่ะใช่ แต่ไม่ได้นัดมาดูตัวเอ็ง ป๊านัดเพื่อนมากินข้าวเฉยๆ คนที่ป๊านัดหนุ่มกว่านี้เยอะ”

ม้ากล่อมให้ลองทำความรู้จักดูก่อนบอกอายุก็ไม่น้อยแล้ว อีกสองปีไข่จะฟ่อหมด เพ็ญสิริหน้าเหวอขอเวลาทำใจสักครู่ เธอขึ้นไปบนดาดฟ้าเรืออย่างหงุดหงิด จู่ๆมีไม้เซลฟี่ยื่นมาเฉี่ยวหัวหลายครั้งทำให้เธอต้องหลบไปมาจนทนไม่ไหวโวยลั่น ชายหนุ่มหันมาขอโทษ บอกไม่เห็นว่าเธอยืนอยู่ เธองงคนทั้งคนยืนอยู่ทำไมจะไม่เห็น

“พอดีผมไม่ได้ก้มมอง ขอโทษจริงๆนะครับ” เพ็ญสิริงงกับคำว่าก้ม “ครับ ถ้าผมก้มมอง ผมก็จะเห็นว่าคุณยืนอยู่”

“นี่คุณหาว่าฉันเตี้ยเหรอ!”

“ไม่เกี่ยวกับความเตี้ยของคุณเลยครับ ผมแค่อธิบายว่าผมจะเห็นคุณได้ต้องก้ม ถ้าผมมองระยะสายตาจะไม่เห็นคุณ ผมต้องก้มถึงจะเห็นว่าคุณยืนอยู่ อย่างตอนนี้ผมก็ก้มแต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก้ม ผมก็ต้องถอยสี่ห้าก้าวอยู่ในระยะประมาณนี้กำลังดีครับ” ชายหนุ่มถอยหลัง

เพ็ญสิริโกรธว่าเขาหยาบคาย สะบัดหน้ากลับไปหาป๊าม้าที่โต๊ะอาหาร...สักพักก็มีชายหนุ่มมายืนมองตรงหน้า เธอจำได้ว่าคือชายเมื่อครู่ เขารีบแนะนำตัว

“ผมชื่อวิสุทธิ์ครับคุณเพ็ญสิริ ไม่ต้องงง ผมรู้จักกับอาป๊าของคุณ ท่านรู้ว่าผมจะมาปาร์ตี้ที่นี่วันนี้ก็เลยพาคุณมาให้ผมดูตัว ขออนุญาตนั่งนะครับ ดีจัง...เวลานั่งสายตาอยู่ในระดับที่ไม่ต้องก้มก็เห็นพอดี” วิสุทธิ์ยิ้มกวนๆ เพ็ญสิริโกรธฟึดฟัด

ไม่วายวิสุทธิ์แกล้งนั่งจ้องหน้าเพ็ญสิริอยู่อย่างนั้น จนเธอทนไม่ไหวถามมีอะไรจะพูดก็พูดมา เขาจึงเอ่ยถามคิดอย่างไรมาให้ผู้ชายดูตัว ดูแล้วเธอไม่น่าจะหมดประสิทธิ– ภาพในการหาคู่ด้วยตัวเองตามธรรมชาติ เพ็ญสิริพยายามข่มอารมณ์ย้อนถามแล้วเขามาเพราะอะไร

“ขออนุญาตพูดซ้ำนะครับ ป๊าของคุณรู้ว่าผมจะมาปาร์ตี้อบรมเซลที่นี่วันนี้ ท่านก็เลยพาคุณมาให้ผมดูตัว” เพ็ญสิริเคืองถามใหม่ รู้จักป๊าตนได้อย่างไร “พอดีโรงงานผลิตน้ำพริก สูตรหม่าม้าน้องเพ็ญมาติดต่อขอเอาผลิตภัณฑ์มาวางขายในไร่ของผม ป๊าคุณเจรจาธุรกิจถูกคอกับผมมาก ป๊าคุณเลยรักผมมาก...อยากได้เป็นเขยมาก...ตกลงคุณมีปัญหาอะไรถึงหาคู่เองไม่ได้”

เพ็ญสิริโวยว่าตนไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เขาเหล่มองแล้วแหย่ว่าคงเป็นปัญหาทางการควบคุมอารมณ์ เป็นโรคจิต เธอยิ่งโกรธ “ฉันมีปัญญา!แต่ป๊ากับม้าชอบนัดให้ฉันเอง ฉันไม่ได้ต้องการ และจะบอกให้ว่าฉันมีให้เลือกเยอะ ดูดีมีรสนิยมและไม่ปากเสียเหมือนคุณด้วยพอ... จบ...ฉันไม่เลือกคุณ!” เพ็ญสิริลุกพรวดเดินหนีไป วิสุทธิ์ยิ้มขำๆ

สักพักวิสุทธิ์ตามเพ็ญสิริออกมาเสนอข้อตกลง เขายอมรับว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ และเธอก็ดูมีประสิทธิภาพในการหาคู่ด้วยตัวเองได้ หญิงสาวหาว่าเขาโรคจิต เขาหัวเราะชอบใจ บอกข้อเสนอนี้จะไม่ทำให้เธอต้องเจอคำถามเซ้าซี้ว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน...เมื่อไหร่จะแต่งงาน...แก่แล้วนะมีผัวหรือยัง...เพ็ญสิริถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ

“คำถามพวกนี้มันกวนใจผู้หญิงวัยขึ้น...ทำงานอย่างคุณ คุณจะได้ไม่ต้องโกหกหรือแกล้งทำเป็นว่าไม่ต้องการผู้ชายในชีวิตอีก...ดีป่ะ”

“หูย...เสนอมาได้ช่างกล้า หล่อแทบอยากจะชวนไปจดทะเบียนสมรสเดี๋ยวนี้เลย อุบาทว์” วิสุทธิ์ย้ำอยากเป็นเพื่อนด้วย “ทำไม ทำไมต้องอยากเป็นเพื่อนฉัน”

ความจริงวิสุทธิ์รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนกับเคท เขาทำเสียงอ้อนน่าจะดีใจที่ตนอยากเป็นเพื่อนเพราะปกติตนไม่ค่อยคบคน คบแต่กับควาย หญิงสาวหาว่าด่า เขารีบบอกว่าเขาคบควายจริงๆ ถ้าเธอมาเป็นเพื่อนจะให้ดื่มนมควายฟรีๆตลอดชีวิต แถมให้เพื่อนเธอได้ดื่มด้วย เพ็ญสิริไม่เล่นด้วยจะเดินหนี พลันเห็นคนแถวนั้นเงยหน้ามองบนฟ้าจึงมองบ้าง เห็นพระจันทร์ทรงกลดก็ตะลึงชี้ วิสุทธิ์เอ็ดห้ามชี้จะมีคนตาย เธอชะงักหน้าเสียเสียงอ่อยชี้นิดเดียวไม่น่าจะเป็นอะไร เขาแอบขำ

ooooooo

ในศาลาวัดเคทจูงน้องพีทเข้ามามองดอกไม้หน้าศพ ป้าดารายงานว่าสุริเยนทร์สั่งเปลี่ยนใหม่ เคทเคืองที่มาเปลี่ยนสิ่งที่พวกตนทำไว้ ฝากป้าดาดูน้องพีทแล้วจะเดินไปเอาเรื่องสุริเยนทร์

ทนายสมชายเข้ามาขอคุยด้วยเสียก่อน เขาเอาคลิปเสียงสุรีย์ให้เคทฟัง เธอใจหาย ทนายบอกว่าจากคลิปเสียงนี้ ไม่แปลกเลยที่จะทำให้สุริเยนทร์เชื่อว่าเป็นฝีมือนพสิทธิ์ แต่เคทก็แย้งว่าเชื่อถือไม่ได้ ทนายให้ตรองดูว่าระยะหลังมานี่สุรีย์กับนพสิทธิ์ทะเลาะกันบ่อย เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากน้องชาย แต่เขาไม่ยอมให้เธอพบ เคทรู้สึกโมโหแทนพี่สะใภ้ พุ่งไปต่อว่าสุริเยนทร์

“คนใจดำ สิ่งที่คุณทำมันก็ไม่ต่างอะไรกับการนั่งดูพี่สาวตัวเองตายทั้งๆที่คุณสามารถช่วยได้ แต่คุณไม่ช่วย ถ้าจะมีใครเป็นฆาตกรก็คุณนั่นแหละ คุณสุริเยนทร์”

สุริเยนทร์โกรธจ้องหน้า เคทยังว่าเขาอีกว่าจะมาทวงความยุติธรรมให้พี่สาวตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ไอ้ดอกไม้ที่เปลี่ยนใหม่ก็ชดเชยหรือทำให้สุรีย์ฟื้นไม่ได้ ทุกอย่างที่ทำคงเพราะรู้สึกผิดที่ปล่อยให้พี่สาวตาย เลยพยายามหาใครสักคนมารับบาปแทน...สุริเยนทร์ลุกพรวดถามสืบประวัติตนมาเชียวหรือ เคทเย้ยว่าได้ฟังคลิปเสียงสุรีย์แล้ว

“คุณไปได้มายังไง คลิปนั้นส่งให้กับตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้เท่านั้น”

“แล้วไง คิดว่าคุณคนเดียวเหรอที่รักพี่สุรีย์ คนแถวนี้ก็รักพี่สุรีย์ทั้งนั้น อาจจะมากกว่าคุณด้วยซ้ำ เพราะเราไม่เคยทิ้งพี่สุรีย์เวลาที่มีปัญหา”

สุริเยนทร์เน้นย้ำจะลากตัวนพสิทธิ์มาทำให้เจ็บปวดทุกอย่างเหมือนที่เขาทำกับสุรีย์ ก่อนจะให้ขับรถตกเหวตายและจะให้โทร.ฝากคลิปถึงเธอในมือถือด้วย เคทตะลึงไม่คิดว่าเขาจะโหดร้ายขนาดนี้ สุพลเกรงจะเกิดเรื่องจึงกันเคทให้ถอยห่างจากสุริเยนทร์

เคทหงุดหงิดคิดถึงอดีตตอนสุรีย์เอาเอกสารการเรียนแฟชั่นดีไซน์มาให้ บอกจะส่งเสียให้เรียน เคทไม่อยากทิ้งสุรีย์และหลานไปเพราะรู้ว่าพี่ชายตัวเองเป็นอย่างไร แต่สุรีย์กลับบอกว่าเธอรักตนเหมือนน้องแท้ๆอะไรที่ทำเพื่อน้องได้ก็อยากจะทำ จะไม่ทอดทิ้งน้องเหมือนที่เคยทำ

เคทมองภาพสุรีย์หน้าศพน้ำตาไหลริน น้องพีทเข้ามาหาจึงรีบปาดน้ำตา น้องพีทถามว่าแม่อยู่ในโลงนั้นหรือ เคทรับว่าใช่ แม่นอนหลับแต่เป็นการหลับที่ยาวนาน น้องพีทโตขึ้นจะรู้เองว่าแม่ไม่เคยหายไปไหน เด็กน้อยกอดเคทบอกว่าจะรีบโต จะได้เจอแม่ไวๆ...สุริเยนทร์แอบมองน้องพีทด้วยสายตาอ่อนโยนลง โหยหาการกอดที่อบอุ่นแบบนั้นบ้าง

ทันใดมือถือเคทดังขึ้น เธอมองหน้าจอแล้วปรายตาไปทางสุริเยนทร์ เขามองอย่างสงสัย เคทฟังปลายสายอย่างเดียวไม่พูดอะไร เสียงนพสิทธิ์สั่งพอพระเริ่มสวดให้พาน้องพีทมาที่ประตูลานโพธิ์ อย่าให้ใครตามมา... เคททำหน้านิ่งๆกดวางสายจ้องสุริเยนทร์กลับอย่างไม่กลัวเกรง

ระหว่างพระสวด เคทภาวนาขอให้พระคุ้มครองหลานชาย ก่อนจะหันมาบอกหลานว่า “น้องพีทรู้ไหมครับ ว่าน้องพีทจะไม่ได้เจอพ่ออีกแล้ว เพราะนายหมีบ้าคนนั้นจะเอาตัวน้องพีทไปอยู่กับเขาตลอดไป” น้องพีทร้องไห้ไม่ไป “ไม่ต้องเสียใจนะครับ เงียบนะครับ พระกำลังสวดอยู่อย่ารบกวนนะครับ...ลออพาน้องพีทออกไปปลอบที” เคทให้ลออพาหลานออกไปตามแผน เคทนั่งฟังพระสวดต่อไป สุริเยนทร์หันมาไม่เห็นน้องพีทก็ถามสุพลว่าเด็กไปไหน เขาพยักหน้าให้จ่ายักษ์ไปดู เคทเห็นความเคลื่อนไหวของพวกสุริเยนทร์จึงรีบลุกไปถามจะทำอะไร สุริเยนทร์เสียงเข้มสวนคิดจะทำอะไร จะพาน้องพีทหนีหรือว่านพสิทธิ์อยู่ที่นี่ เคทปฏิเสธ

“ใช่ มันต้องอยู่ที่นี่ มันจะพาลูกมันหนีไป เธอกล้าลองดีกับฉันเหรอทานตะวัน เดี๋ยวจะได้รู้ว่าเธอคิดผิด” สุริเยนทร์เข่นเขี้ยวผละออกไป

สุพลเตือนเคททำแบบนี้รู้ไหมว่าสุริเยนทร์โกรธแล้วจะเป็นอย่างไร เคทไม่หวั่นเพราะที่นี่ในวัดแต่ก็รีบวิ่งไปที่ลานโพธิ์...ลอออุ้มน้องพีทมาพบนพสิทธิ์ สองพ่อลูกกอดกัน ลออให้ทั้งสองรีบไป แต่ไม่ทันกาลเสียงจ่ายักษ์ตะโกนว่ามันอยู่นั่น แล้วพากันวิ่งมา นพสิทธิ์อุ้มลูกวิ่งหนีเข้าตรอกซอยแคบๆ แต่พอถึงปากซอยก็เจอสุริเยนทร์ดักหน้าอยู่ ตวาดเสียงกร้าว

อ่านละคร แรงตะวัน ตอนที่ 1/3

ละคร แรงตะวัน บทประพันธ์โดย: เบญจามินทร์
ละคร แรงตะวัน บทโทรทัศน์โดย:ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
ละคร แรงตะวัน กำกับการแสดงโดย:พี่นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละคร แรงตะวัน ผลิตโดย:บริษัท เลิฟ ดราม่า จำกัด By ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละคร แรงตะวัน ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2559
ละคร แรงตะวัน ติดตามชมได้ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ