อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 4/3

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 4/3

อุษาสำรวจตรวจตราดูสภาพภายในบ้านเช่าชั้นเดียว ขนาดสองห้องนอน มีห้องครัวห้องน้ำห้องรับแขกพร้อมสรรพ เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไม้สอยมีอยู่พอประมาณเท่าที่จำเป็น
“ห้องนอนมีสองห้อง คุณเลือกจะเอาห้องไหน..แต่เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ยังไม่มี”

อุษาเข้าไปที่ห้องหนึ่งเป็นห้องนอนโล่งๆในบ้านเช่า อุษาเปิดประตูเข้ามา ห้องโล่งว่างแต่ทำความสะอาดไว้เรียบร้อย อุษานิ่งคิด แล้วกลับออกไปในห้องนอนโล่งอีกห้อง อุษาเปิดประตูเข้ามา สภาพคล้ายห้องแรกและยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ไม้สอยใดๆ ธารินทร์ตามเข้ามา
“ห้องนี้มั้ยอยู่ทิศตะวันออก เผื่อวันไหนเช้าแล้วคุณไม่ยอมตื่น แสงแดดจะช่วยปลุกคุณให้เอง”
ธารินทร์พูดให้ขำแต่อุษาไม่ขำ
“ษาเอาทั้งสองห้อง” อุษากำลังจะกลับออกไป
“ไปช่วยษาซื้อเตียงซื้อ เครื่องใช้หน่อยเถอะค่ะ” อุษาออกไป
ธารินทร์งงงัน “คุณจะให้ใครมาอยู่ด้วยเรอะ”

ที่ถนนหน้าบ้านลั่นทม เงาร่างของลั่นทมเดินมาหยุดยืน มองดูบ้านด้วยแววตาเศร้าสร้อย เสียงหมาทั้งเห่าทั้งหอนกันเกรียวกราว หมาเห่ากรรโชกเงาร่างของลั่นทมไม่สนใจ จะเปิดประตูเข้าบ้านด้วยความเคยชิน มือเงาร่างของลั่นทมจับประตูผ่านประตูวืด เงาร่างของลั่นทมชะงัก
‘ทำไม เป็นอย่างนี้ ทำไมเราจับไม่ได้ หรือว่าเราเป็น’
เงาร่างของลั่นทมหน้าเสีย เงาร่างของลั่นทมผ่านประตูเข้ามาโดยที่ประตูไม่ได้เปิด เสียงหมาเห่าหอนกันเกรียว

ภายในบ้านลั่นทม หวานกำลังคุมสวาท จิ้มลิ้ม และยาใจเตรียมของจะไปวัด
“เร่งมือหน่อยเดี๋ยวต้องไปวัดกันแล้ว”
ฉ่ำวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาหวาน “แม่หวาน..รู้สึกอะไรมั้ย”
“รู้สึกอะไร”
“ที่หน้าบ้าน..เห็นหมามันเห่าหอน แล้วก็มีลมพัดวูบๆนี่มันยังกลางวันอยู่เลยนะแม่หวาน”
เงาร่างของลั่นทมเดินเข้ามาในบ้านมองทุกคนเศร้าซึม ไม่มีใครเห็น ด้วยสีหน้าเศร้าซึม
“หมามันจะหอน ก็ช่างหัวหมาสิ กลางวันแสกๆ กลัวอะไรวะ”
จิ้มลิ้มกับยาใจมองหน้ารู้สึกหวาด เขยิบเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
“วันนี้วันที่สาม..เขาว่าคนตายไปแล้วสามวันวิญญาณจะกลับมาบ้าน”
หวานโวยวาย “คุณผู้หญิงยังไม่ตายโว้ย..คุณอุษาเธอกำลังรอให้ฟื้น เธอสั่งไม่ให้ใครแช่งคุณผู้หญิง”
“โธ่ ป่านนี้แล้ว..3 วันแล้วคุณผู้หญิงตายแล้ว...ชัวร์”
เงาร่างของลั่นทมเดินเข้าหาฉ่ำ ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครได้ยินเสียง
‘ฉันยังไม่ตายหรอกนายฉ่ำ นี่ไง ฉันอยู่นี่’
เงาร่างของลั่นทมพยายามจับแขนฉ่ำ แต่จับไม่ติด ฉ่ำสะดุ้ง ขนลุกตรงที่เงาร่างของลั่นทมผ่าน
“ฮืย..ขนลุกซู่เลยเห็นไหม เหมือนมีคนมาแตะแขน”
หวานมองฉ่ำอย่างไม่พอใจ “อย่ามาล้อแบบนี้นะ ไอ้ฉ่ำ”
เงาร่างของลั่นทมรวบรวมสมาธิ ปัดของอย่างหนึ่ง คราวนี้ได้ผลของหล่นโครม ฉ่ำสะดุ้งเฮือกร้องลั่นโดดเข้าหาหวาน “เฮ้ย..ผะผะผีหลอก”
สวาท จิ้มลิ้ม และยาใจพลอยตกใจไปด้วย หวานผลักฉ่ำ “โธ่ไอ้บ้า..มือฉันปัดไปโดนเอง”
ฉ่ำพูดอะไรไม่ออก ไม่แน่ใจว่ามือหวานปัดของ
“จริงเหรอ..โธ่..เล่นเอาตกใจหมดนึกว่าคุณผู้หญิงมาจริงๆ”
“จุ๊ๆ คุณผู้ชายมาแล้ว”
ชีพกับรสสุคนธ์เข้ามาจากข้างนอกตรงไปยังบันไดจะขึ้นชั้นบน
“จะรับอะไรเย็นๆหน่อยมั้ยคะคุณผู้ชาย”
“ไม่ล่ะขอกลับมาพักสักนิด..เดี๋ยวจะได้ไปวัด”
ชีพเดินเลยขึ้นไปก่อน รสสุคนธ์ชะงักหันมาออกคำสั่ง
“แต่ฉันอยากได้น้ำผลไม้สดๆเย็นๆเอาขึ้นไปให้ที่ห้องคุณผู้ชายด้วยนะน้าหวาน”
“ข้าไม่ได้ถามเอ็งนังคางคก”
ทุกคนหัวเราะกันครืน รสแค้นมองหวานตาขวางท่าทางเอาจริง
“ถ้าน้ายังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้อย่าหาว่าฉันใจร้ายนะ”
เงาร่างของลั่นทมมองรสสุคนธ์อย่างผิดหวัง “ยังไม่ทันไรเลย เธอก็มาแทนที่ฉันแล้วเรอะรสสุคนธ์”
หวานปรี่มาข้างๆ รสสุคนธ์ “อ๋อ..เอ็งจะไล่ข้าออกหรือ..เอาเลยนังวัวลืมตีน”
หวานยังบ่นด่าไปเรื่อยๆ อย่างโมโห
‘อย่าเอะอะไปเลยหวาน’ ลั่นทมพูดกับหวาน แต่หวานไม่มีทีท่าว่าจะได้ยิน รสสุคนธ์มองหวานแค้นๆ สะบัดเดินหนีขึ้นไปชั้นบน
‘ไม่มีใครได้ยินฉันพูดเลยเรอะ’ เงาร่างของลั่นทมร้องไห้ ‘ฉันตายแล้ว จริงๆใช่มั้ย’
ในห้องนอนลั่นทม รสสุคนธ์กำลังเปิดดูรายการทรัพย์สินของลั่นทมอยู่กับชีพอย่างพึงพอใจ เงาร่างของลั่นทมเดินผ่านประตูห้องเข้ามามองดูชีพกับรสสุคนธ์ที่ใกล้ชิดกันอย่างเศร้าสลด เงาร่างของลั่นทมน้ำตาคลอ สะอื้น
‘นี่เขาพากันมาดูทรัพย์สินของฉันกันแล้วเรอะ...ฉันคงตายแล้วจริงๆ’
“เรือนไทย..ที่ดินในจังหวัดสามแปลง โอ้โฮ ทรัพย์ สินเพียบเลยนะคะ”
รสสุคนธ์เบียดชิดชีพอย่างเป็นสุข เงาร่างของลั่นทมสะกดความหึงหวงไว้
‘คุณชีพ..ทมไม่นึกเลย’ รสสุคนธ์หรือชีพไม่มีทีท่าว่าจะได้ยินเสียงที่ลั่นทมพูด เงาร่างของลั่นทมเอื้อมมือไปจับชีพแต่ก็ผ่านแขนชีพไป
“ที่ดินที่อื่นๆอีกหกแปลง..โรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูป ห้องแถวในตลาด..โอ๊ย ไม่นับบ้านหลังนี้กับเครื่องเพชร อีก..ทั้งหมดเป็นของคุณหรือคะชีพ..ของคุณคนเดียวใช่มั้ยคะ”
เงาร่างของลั่นทมน้ำตาซึมเมื่อเห็นชีพโอบประคองรส
“ของเธอด้วยไง”
รสสุคนธ์ ดีใจ “ของรสด้วย..อุ๊ย รสรวยแล้วเหรอนี่” รสสุคนธ์จูบชีพ
‘ไม่ใช่ของเธอนะรสสุคนธ์..ละอายต่อบาปบ้างซิ คุณชีพก็ไม่ใช่ของเธอ’
“เงินสดในธนาคารมีมากกว่าที่ผมคิดเสียอีก”
“อู๊ย..เราจะรวยกันใหญ่แล้ว” รสสุคนธ์เพ้อ “ชาตินี้รสไม่เคยคิดว่าจะร่ำรวยได้ขนาดนี้เลย..เพราะคุณ..ชีพขารสรักคุณจริงๆ” รสสุคนธ์กอดชีพไว้อย่างปีติตื่นเต้น เงาร่างของลั่นทมทนดูไม่ไหวเข้ารั้งรสสุคนธ์ออกจากชีพ
‘ออกไป..ไปให้พ้นผู้หญิงหน้าหนาไร้อย่างอาย ไปสิ โธ่เอ๊ย..ทำไมไม่รู้สึกล่ะ?’
มือเงาร่างของลั่นทมผ่านร่างรสสุคนธ์วืด จับรสสุคนธ์ไม่ติด เงาร่างของลั่นทมยืนน้ำตาไหลพรากพยายามสงบอารมณ์ตนให้เยือกเย็น
‘นี่ฉันทำอะไรใครไม่ได้เลยรึนี่ พูดก็ไม่มีใครได้ยิน แต่ฉันรู้สึกว่าฉันยังไม่ตาย ฉันไม่ใช่ผี แล้วฉันเป็นอะไรกันแน่’
ลั่นทมมองดูภาพตรงหน้าอย่างปวดร้าว
“ชีพขาพารสไปดูเรือนไทยหน่อยได้ไหมคะ..อยากเห็นจัง”
“ไปซีจ้ะยังพอมีเวลา” ชีพประคองพารสสุคนธ์ออกไป
เงาร่างของลั่นทมมองชีพอย่างปวดร้าวน้ำตาไหลพราก สะอื้น ‘ชีพ ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้’

บริเวณเรือนไทย รสสุคนธ์คลอเคลียชีพเข้ามา เงาร่างของ ลั่นทมตามมาเศร้าซึม
“อยู่มาตั้งนานไม่ได้ออกมาดูซักที ฮึมก็สวยดีนะคะแต่รสว่ามันโบราณไปหน่อย”
ชีพนิ่งคิด “รส..เอ้อ ถ้ารสไม่ชอบเราน่าจะยกให้อุษา”
รสสุคนธ์ชะงัก มองชีพอย่างไม่พอใจ “อะไรนะ ยกทำไมคะ นี่..อย่าบอกนะว่าคุณหลงเสน่ห์แม่อุษานั่น รสไม่ยอมแน่ๆ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น..คืออุษาไม่ได้อะไรเลย มันน่าเกลียด เพราะยังไง เขาก็เป็นหลานของลั่นทม ที่สำคัญคือเขาคอยดูแลปรนนิบัติลั่นทมมาตลอด ลั่นทม เคยพูดเสมอว่าจะแบ่งมรดกให้เขาบ้าง”
“คุณคิดว่าที่แม่อุษาปรนนิบัติเมียคุณเพราะความกตัญญูเหรอคะ โธ่เอ๊ยแม่นั่นหวังสมบัติต่างหากเด็กอมมือมันยังดูออก” Page more...
เงาร่างของลั่นทมเถียงแทนอุษา‘ไม่จริงษาไม่ใช่คนอย่างนั้น ได้ยินมั้ย’ ทั้งชีพและรสสุคนธ์ไม่มีทีท่าว่าจะได้ยินที่ลั่นทมพูด
รสสุคนธ์ทำแง่งอน “ไม่เอายังไงรสก็ไม่ให้หรอก..ถึงรสจะไม่ค่อยชอบ แต่สมบัติของเราเราก็ต้องเก็บไว้สิคะ นะคะ นะค้า”รสสุคนธ์ยั่วยวน “เอาไว้ เปลี่ยนบรรยากาศก็ยังได้”
ชีพได้รับการกอดรัดเอาอกเอาใจจากรสสุคนธ์ก็โอนอ่อนผ่อนตาม “ตามใจรสแล้วกัน”
เงาร่างของลั่นทมน้ำตาซึม ‘คุณทำอย่างนี้ได้ยังไงคะชีพ ที่ผ่านมาคุณไม่เคยรักฉันเลยใช่มั้ย ฉันคงให้ความสุขคุณไม่พอ จริงสิ..ใครจะมารักคนที่ป่วย กระเสาะกระแสะอย่างฉัน คุณคงเบื่อมานานแล้ว’
เงาร่างของลั่นทมสะดุ้ง ‘เอ๊ะ ใครเรียกฉันเนี่ย’ ลั่นทมเศร้าซึมหนัก เดินออกมาผ่านสิ่งกีดขวางไปโดยไม่ต้องหลบ ส่วนรสสุคนธ์ยังกอดกระแซะชีพ

บริเวณวัดที่ไว้ศพ ธูปในมืออุษาส่งควันคลุ้ง อุษาก้มลงปักธูปที่ศาลาไว้ศพลั่นทม
“คุณน้าขา...คุณน้า...ษาคิดถึงคุณน้าค่ะ...ทำไมคุณน้าไม่ฟื้นมาล่ะคะ”
เงาร่างของลั่นทมเดินมาหยุดข้างๆ โลง ตรงนอกบริเวณวัดไม่ไกล มีรถกระบะบรรทุกเตียงนอนที่นอนเต็มแน่นรถจอดอยู่ ธารินทร์ยืนอยู่ข้างๆ รถ ส่งกุญแจบ้านให้คนขับรถ
“ยกเข้าไปจัดไว้ในห้องนอนทั้งสองห้องนะ เอาที่นอนไว้บนเตียงเลยนะ พวกที่นอน ผ้าห่มหมอนมุ้งอะไร กองไว้ เดี๋ยวคุณษาไปจัดเอง”
คนขับรถรับกุญแจบ้านจากธารินทร์อย่างนอบน้อม “ครับหมวด”
คนขับรถขึ้นรถขับออกไป ธารินทรค์ถอนใจเฮือกหันมามองอุษา แล้วเดินเข้าไปหา
“จะบอกได้หรือยังว่าอีกห้องไว้ให้ใครนอน”
อุษาตอบหน้าตาเฉย “คุณน้าค่ะ”
ธารินทร์เกือบสะดุ้ง และยังไม่ทันที่จะพูดว่าอะไรอุษาก็ผละไปทางโลงศพลั่นทม เห็นสัปเหร่อดูแลความเรียบร้อยเดินเข้ามาหาอุษา อุษารีบถาม “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีครับ”
อุษาปราดเข้าไปที่โลง เคาะเรียกพลางเอาหูแนบในขณะที่สัปเหร่อมองดูอุษาอย่างไม่รู้จะตีหน้าอย่างไรดี
ธารินทร์ตามเข้ามามองดูอุษาอย่างกลุ้มใจ
“คุณน้าคะ..ได้ยินหรือเปล่าคะนี่หนูอุษาเอง” อุษาเอาหูแนบโลงหวังว่าจะได้ยินเสียง “หนูจะมารับคุณน้าไปอยู่บ้านแล้วค่ะ”
เมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย อุษาก็ผิดหวัง มองไปทางธารินทร์ๆ ก็ส่ายหน้า อุษามองไปทางสัปเหร่อ สัปเหร่อก็ส่ายหน้า เงาร่างของลั่นทมหันไปที่ลานวัด เห็นหวานกับฉ่ำ จิ้มลิ้ม และยาใจช่วยกันหิ้วข้าวของเข้ามาในบริเวณที่จัดเตรียมไว้สำหรับมุมครัวจัดอาหารเครื่องดื่มเลี้ยงแขก หวานกับฉ่ำเถียงกันมาตลอด
“โธ่..มือแม่หวานไม่ได้ถูกของนั่นเลย มันกระเด็นลงมาเองจริงๆ ฉันเห็นกับตา”
เงาร่างของลั่นทมเดินตามมาโดยที่ใครไม่เห็น
“ฉันบอกว่าปัดก็ปัดซีโว้ย..โธ่..คนยิ่งกลัวๆ ไม่อยากให้คุณผู้หญิงมีอันเป็นไป”
อุษากับธารินทร์เข้ามา “อะไรกัน”
“ของในบ้านเลื่อนได้เองครับคุณอุษา..วิญญาณคุณผู้หญิงแน่ๆ”
ทั้งอุษาและหวานไม่ยอมรับ อุษาไม่พอใจ “วิญญาณที่ไหน ก็คุณน้ายังไม่ตาย!”
ฉ่ำหัวหด หวานค้อนฉ่ำ “รู้ทั้งรู้ว่าคุณผู้หญิงแค่เป็นโรคหลับลึกยังทะลึ่ง พูดออกมาได้”
เงาร่างของลั่นทมมองไปที่โลง ตกใจ ‘ตายละ..ออกมานานแล้ว เดี๋ยวเข้าร่างไม่ได้’ เงาร่างของลั่นทมรีบเดินหายไปในโลงศพ หมาในวัดไล่เห่าพลางหอนกันโหยหวน
ฉ่ำเลิ่กลั่ก “ฮือย” ฉ่ำหันมาชนของล้ม“โฮ้ย” ฉ่ำเมื่อเห็นทั้งหวานและอุษามองอย่างไม่พอใจก็สงบสติอารมณ์ผละมาทางธารินทร์
ธารินทร์กระซิบถาม “ตาไม่ได้ฝาดน ะนายฉ่ำ”
“ครับ โธ่สาบานได้”
ธารินทร์เห็นอุษาจ้องเขม็งก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ธารินทร์เข้ามาจูงอุษาไปทางหนึ่ง
“ษาจะเอาศพคุณน้าลั่นทมไว้ในบ้านจริงๆหรือ”
อุษาโกรธ “อีกแล้วนะ..บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ใช่ศพ”
“เกิดคุณน้าลั่นทมตายจริงๆ เขาห้าม เอาศพเข้าบ้านไม่ใช่หรือ”
“แต่คุณน้ายังไม่ตายค่ะ คุณเฉยเถอะน่ะ..ทำตามสัญญา ก็แล้วกัน”
อุษาจะผละไป ธารินทร์รั้งไว้ “เดี๋ยว แล้ว คุณจะรักษาแบบไหน”
“ไม่รู้ ต้องถามหมอผัน..แกกำลังไปเอายา”
ธารินทร์ตาเหลือก “พ่อน่ะหรือ..อ๋อ นี่พ่อร่วมด้วย..มิน่า มาเอาเงินจากผม..คุณนี่เอง”
อุษาตกใจ “คุณลุงหมอเอาเงินคุณหรือคะ”
อุษารีบหยิบเงินออกจากกระเป๋าถือ “เท่าไรคะ ฉันคืนให้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก”
อุษายัดเงินใส่มือธารินทร์“ษามีเงินค่ะน้าชีพเอามาให้ษา คงยักยอกมาไม่ให้รสสุคนธ์รู้”
ธารินทร์ชะงัก มองอุษาอย่างไม่แน่ใจ “หมายความว่าไง”
“เขาพยายามให้ษาแทนที่คุณน้าลั่นทม เอาเงินมาล่อ เป็นตั้ง แถมเครื่องเพชรอีก”
ธารินทร์โกรธ ทำท่าจะไปเอาเรื่อง “ไอ้ชั่วเอ๊ย”
อุษารั้งธารินทร์ไว้ “เฉยเถอะค่ะ..เดี๋ยวคุณน้าฟื้นทุกอย่างจะเรียบร้อยเอง”
อุษามองหาหมอผัน “ป่านนี้หมอผันน่าจะมาแล้วนะคะ ษาต้องทำให้คุณน้าฟื้นให้ได้”
บริเวณวัด ข้างศาลา ชีพกับรสสุคนธ์พากันเข้ามา ชีพเลยไปดูความเรียบร้อยทางด้านหวานกับฉ่ำ จิ้มลิ้ม และยาใจตระเตรียมข้าวของ
“เรียบร้อยมั้ย น้าหวาน”
หวานมองรสสุคนธ์อย่างหมั่นไส้เต็มที “มีตาก็ดูเอาเอง” แต่อยู่ต่อหน้าชีพก็ไม่กล้าแสดงออกอะไรมาก“เรียบร้อยอยู่แล้วค่ะ”
รสสุคนธ์มองไปทางอุษา “อุษา..เธอมาทางนี้หน่อยซี”
อุษายืนอยู่กับธารินทร์ๆ ตาขวางมองชีพ
“ไม่ต้องไปนะษา ผมจัดการเอง”
“ษาขอร้องค่ะ..ตอนนี้ษาไม่อยากมีเรื่อง รอให้คุณน้าฟื้นก่อน ใจเย็นนะคะ”
อุษาเดินไป ธารินทร์มองตามสะกดความโกรธ อุษาตามรสสุคนธ์มาที่มุมหนึ่ง “มีอะไร”
รสสุคนธ์เชิดหน้า “ที่ผ่านฉันจะไม่ถือสาที่เธอก้าวร้าวฉัน ฉันจะคิดเสียว่า เธอกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่โศกเศร้าเสียใจฉันให้อภัย”
อุษามองรสสุคนธ์อย่างรำคาญมากจะหันกลับ
“เดี๋ยว ฉันยังพูดไม่จบอุษา”
“เอาแต่เนื้อๆได้มั้ย ฉันมีอะไรต้องทำ”
รสสุคนธ์มองอุษาตาวาวแค้นจัด “ได้ คืนนี้สวดศพเสร็จ ฉันว่าเธอน่าจะคิดขยับขยายได้แล้ว ถ้าเธอไม่มีแผนอะไรอยู่ในใจก็คงไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้านอีก”
ชีพซึ่งอยู่ใกล้ๆ ตกใจ “รส!”
“ฉันไม่เคยวางแผนอะไรชั่วๆเหมือนเธอ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะอยู่เป็นก้างชิ้นใหญ่หรอกนะ ฉันไปแน่และก็จะไปวันนี้ด้วย”
อุษาขยับจะไปหาธารินทร์ ชีพกันไว้ ชีพตกใจ “เดี๋ยวษา..น้าไม่ได้ต้องการแบบนั้นนะ เธอจะไปอยู่ที่ไหน”
รสสุคนธ์เข้ามากอดแขนชีพไว้ “เขาก็ไปอยู่กับแฟนเขาซีคะ”
ด้วยความหวงลึกๆ ชีพเผลอค้าน “ทำแบบนั้นได้ยังไง น้าหมายถึงจะทำอะไรต้องนึกถึงชื่อเสียงลั่นทมบ้าง”
อุษายิ้มหยัน “ษานึกตลอดเวลาค่ะ ว่าจะไม่ทำอะไรน่าละอาย ให้ชาวบ้านสังเวชไปถึงคุณน้าได้ ษารู้ดี ศพคุณน้าลั่นทม ยังไม่ได้เผา ใครจะใจกล้าหน้าด้านทำสิ่งน่าละอายได้ละคะ นอกจากคนสารเลว”
อุษาพูดจบก็เข้าไปหาธารินทร์ รสสุคนธ์มองตามอย่างโกรธจัดฮึดฮัด
“เห็นความร้ายกาจของมันหรือยังคะชีพ มันด่าเรา”
“ก็เธอไปไล่เขาแบบนั้นเป็นใครก็ต้องโกรธ”
“เอ๊ะ..คุณเสียดายมันเหรอคะ”
“บ้าน่า คนอื่นเขาจะว่าเรายังไง พอลั่นทมตาย อุษาต้องออกจากบ้าน ฉันเสียนะรส”
“ไม่เห็นต้องแคร์เลย เรารวยซะอย่าง รสบอกตรงๆก็ได้ รสหวงคุณ รสไม่โง่นะคะ มองปั๊บเดียวก็รู้ว่าคุณคิดยังไงกับมัน บอกไว้ก่อนเลยว่ารสไม่มีทางยอมให้คุณมีเล็กมีน้อยเด็ดขาด”
ชีพอ้ำอึ้ง มองท่าทางเอาจริงของรสอย่างกลุ้มๆ
ชีพกับรสสุคนธ์พากันเข้ามานั่งมุมเงียบๆ บนศาลา รอแขกเหรื่อมาร่วมฟังสวดศพ ชีพมีสีหน้าไม่สบายใจรสสุคนธ์ซ่อนความไม่พอใจชีพไว้พยายามพูดดี
“อย่าคิดมากเลยค่ะ เรื่องไร้สาระน่า”
ชีพนิ่งเงียบ สวาทยกเครื่องดื่มมาวางให้ชีพ รสสุคนธ์มองไม่พอใจ
“ทำไมยกน้ำมาแก้วเดียว แกไม่เห็นหัวฉันหรือไง”
สวาทหมั่นไส้รสสุคนธ์ แต่สวาทตอบอย่างไม่ได้เกรี้ยวกราด
“ก็ตอนมาอยู่ใหม่เห็นแม่รสหากินเองได้นี่”
รสสุคนธ์ขยับจะแผดเสียงแต่ชีพรั้งไว้ ชีพบอกกับสวาทอย่างตัดรำคาญ
“ไปยกมาอีกแก้วไป”
“เดี๋ยว..ต่อไปให้เรียกฉันว่าคุณผู้หญิง เข้าใจมั้ย”
“ไม่เข้าใจ”
รสสุคนธ์ลุกพรวด “อะไรนะ”
ชีพรำคาญเต็มที ไล่สวาท “ไปๆ อย่าให้มีเรื่องเลยน่า”
สวาทกลับไป รสสุคนธ์สะกดความเดือดดาล
“มันในวัดนะ”
รสสุคนธ์พึมพำ “รอให้เสร็จงานก่อนเถอะอีพวกขี้ข้า”
ไกรถือแฟ้มเข้ามา ไกรชุดไว้ทุกข์
“เชิญคุณไกร..มีอะไร”
ไกรส่งแฟ้มให้ชีพ “ทรัพย์สินเพิ่มเติมครับ..ที่ดินชาวบ้านจำนองไว้แล้วขาด”
รสสุคนธ์ดึงแฟ้มมาจากตรงหน้าชีพทันที เปิดดูอย่างกระหายจัด พลิกดูโฉนดที่ดินหลายแผ่น
“โอ้โฮ”
ไกรนิ่งสงบ สวาทยกเครื่องดื่มมาจะให้รสสุคนธ์ แต่เมื่อเห็นไกรนั่งอยู่ก็ตั้งเครื่องดื่มให้ไกร รสสุคนธ์ชะงัก สวาทมองรสสุคนธ์อย่างไม่สะทกสะท้านยิ้มเยาะ ชีพแอบสะกิดรสสุคนธ์ไว้เพราะเห็นว่าอยู่ต่อหน้าไกร สวาทเลี่ยงไป มีรอยยิ้มสะใจที่มุมปาก

มุมเงียบๆ อีกมุมบริเวณวัด ธารินทร์และอุษานั่งปรึกษากันระหว่างรอพระสวด
“คุณจะเสียชื่อนะเดี๋ยวใครๆเขาจะลือกันว่าคุณไปอยู่กับผม”
“อยากลือก็ให้ลือไป..ษาไม่ใส่ใจเสียงนกเสียงกาหรอกค่ะ ตอนนี้ษาสนใจแต่เรื่องที่จะทำให้คุณน้าฟื้นเท่านั้น”
“แต่ชาวบ้านไม่รู้..คุณห้ามปากชาวบ้านไม่ได้หรอก..ษา..เอางี้ดีมั้ย”
อุษาสนใจ “อะไรคะ”
“ในเมื่อเขาลือกันเราก็ทำให้เป็นจริงตามนั้นเลยดีมั้ย”
ธารินทร์พูดหน้าตาเฉย อุษาหยิกหมับเข้าที่แขนธารินทร์ขบฟันแน่นไม่ยอมร้องทั้งที่เจ็บ
“ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะคะ..ลุกขึ้นเถอะค่ะ ไม่รู้หมอผัน จะมาหรือยัง”
ที่มุมจัดอาหารข้างศาลา รสสุคนธ์ดูแลจิ้มลิ้มและยาใจ จัดอาหาร เครื่องดื่มรับรองแขก สำหรับสวดคืนสุดท้าย หวานตรงมากระชากแขนรสสุคนธ์ รสสุคนธ์ตกใจ
“อะไรน้าหวาน”
“แกกล้าไล่คุณหนูอุษาออกจากบ้านรึ นังรส”
จิ้มลิ้มและยาใจตกใจมองดู
“ทำไมไม่กล้า..นี่เตรียมของรับแขกเรียบร้อยหรือยัง”
“ไม่ต้องยุ่ง..ตอบมาก่อนว่าแกไล่คุณหนูอุษาทำไม”
“จะเก็บไว้ให้เป็นก้างตำคอทำไม..น้ารู้ไหมว่าสมบัตินังลั่นทมน่ะมหาศาล ใช้ไปอีกสิบชาติก็ยังไม่หมดถ้านังอุษาอยู่จะต้องได้ส่วนแบ่ง มันเป็นหลาน..น้าอย่าลืมสิ”
รสสุคนธ์ทำท่าหันไปจะสั่งงานจิ้มลิ้มกับยาใจ แต่หวานฉุดรสสุคนธ์ออกมา
“ก็ใช่น่ะสิ คุณหนูอุษาสมควรได้ สมบัตินั่นก็ไม่ใช่ของแกแล้ว มีสิทธิ์อะไรไปไล่เขาออกจากบ้าน”
รสสคนธ์ลอยหน้าตอบ ยิ้มๆ “อีกไม่กี่วันก็จะใช่แล้ว ฉันจะจดทะเบียนกับคุณชีพ ถ้าอยากสบาย น้าหุบปากให้สนิทจำไว้” รสสุคนธ์ผละไป หวานเจ็บใจ อยากจะด่าตาม จิ้มลิ้มกับยาใจก้มหน้าจัดของ แต่แอบชำเลืองกัน

ในบริเวณวัดอีกมุมหนึ่ง ฉ่ำ วิเวกและลุงพรนั่งจับกลุ่มกันอยู่ อุษาเข้ามานั่งด้วย ฉ่ำมองอุษาอย่างเวทนา
“ตกลงคุณอุษาจะไปอยู่ไหนครับ..แม่รสสุคนธ์พูดไปทั่วจนคนรู้กันหมดบ้านแล้วประกาศว่าจะไม่ให้คุณหนูอยู่”
“บอกพวกเราได้มั้ยครับว่าคุณหนูจะไปอยู่ที่ไหน”
“บ้านเช่าจ้ะ..ลุงฉ่ำ ลุงพร พี่เวก รักคุณน้าลั่นทมกันมากมั้ย”
“รักนะรักครับแต่...คุณอุษาคงไม่คิดจะให้พวกผมไปนั่งเฝ้าคุณนายลั่นทมในสุสานใช่ไหมครับ”
“ลุงพรถามอะไรบ้าๆ ใครจะให้ไปเฝ้าทำไม”
“ใช่จ้ะ” อุษาหยิบเงินมา แจก คนละพัน “คืนนี้หลังเก็บศพคุณน้าแล้วไปช่วยษาหน่อย..หมวดธารินทร์ก็อยู่ด้วยไม่เป็นไรหรอก”

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 4/3

ละครเรื่อง สุสานคนเป็นบท ประพันธ์โดย ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น บทโทรทัศน์โดย ภาคย์รพี
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นกำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น ละครแนว ดราม่า รี้ลับ อาถรรพ์ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นผลิตโดย บริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นออกอากาศ ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เร็วๆ นี้