อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 3 วันที่ 17 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 3 วันที่ 17 เม.ย. 57

“ปละ...เปล่า...แม่หวานมาตามหาหลานสาวเหรอ...อยู่...อยู่ที่สนามแน่ะ...”
อุษาเดินไปทันที หวานนิ่งคิดแล้วได้สติ รีบเดินออกไป หวานตะลึง เห็นรสสุคนธ์อยู่ในอ้อมกอดของชีพ
“นังรส...นังรส...”
หวานแกล้งมองไม่เห็น ตะโกนเรียกไป รสสุคนธ์ผละออกจากร่างของชีพ หงุดหงิดหัวเสีย

“วุ่นวายจัง น้าหวานนี่...” รสสุคนธ์เดินตามหวานไป ทิ้งชีพให้ยืนอยู่คนเดียว
ในห้อง หวานผลักรสสุคนธ์จนล้มลงบนเตียง หวานเปิดตู้ ดึงกระเป๋าเดินทางของรสสุคนธ์ออกมา โยนโครมไป ดึงเสื้อที่แขวนอยู่ที่ราวในตู้ออกมาแล้วเหวี่ยงไปที่รสสุคนธ์


“เอ็งออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วก็ออกไปจากชีวิตข้าซะนังรส นังแพศยา นังเนรคุณ สัตว์เดรัจฉานมันยังรู้จักเชื่องกับเจ้าของ แต่นี่เอ็งเป็นคนแท้ๆ ทำไมเอ็งทำร้ายคุณผู้หญิงได้ลงคอ...”
รสสุคนธ์หัวเราะ “น้าก็เห็นแล้วว่าฉันไม่ได้ตบมืออยู่ข้างเดียว คุณชีพก็ร่วมตบมือกับฉันด้วย...เสียงตบมือมันเลยดังลั่นบ้านไงน้า...”
“นี่ข้าด่าเอ็ง เอ็งไม่รู้สึกรู้สาเลยเหรอนังรส...”
“ฉันคิดว่าน้าอวยพรฉันต่างหาก...”
“นังรส...”
“หรือว่าไม่จริง...ลึกๆ แล้วน้าก็แอบให้กำลังใจฉันตลอด อย่าปิดฉันเลยน่า”
“ข้าไม่ได้ชั่วเหมือนเอ็งหรอกนังรส...”
รสสุคนธ์กลิ้งเกลือกไปบนที่นอน หัวเราะมีความสุข
“ชั่ว” รสสุคนธ์หัวเราะแล้วลุกขึ้นนั่ง “ทำไมน้าไม่คิดบ้างว่าฉันช่วยเหลือคุณผู้หญิงต่างหาก...คุณผู้หญิงผู้น่าสงสาร มีโรคภัยไข้เจ็บตลอดชาติ ฉันช่วยไม่ให้คุณชีพไปมีเมียน้อยนอกบ้านดีเท่าไหร่แล้ว น้ายังจะว่าฉันชั่วอีก...ความจริงน้าควรจะสรรเสริญฉันด้วยซ้ำ”
หวานแทบจะฆ่ารสสุคนธ์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รสสุคนธ์เลยหัวเราะยั่วสะใจ

เช้าวันใหม่ที่หน้าบ้าน ชีพผละจากกลุ่มสาวใช้ สมพรและวิเวกไปที่รถ ฉ่ำวางกระเป๋าที่เบาะหลัง ชีพขับออกไป ทุกคนหน้าซีด ฉ่ำตามมาสมทบกลุ่มคนใช้
“คุณชีพว่าไงนะ ข้าฟังไม่ถนัด”
“ไอ้ฉ่ำ เอ็งโง่หรือแกล้งโง่กันวะ...”
“ได้ยินเต็มสองรูหู...”
“ข้านึกว่าฟ้าผ่าแต่เช้าซะอีก...”
ยาใจกับจิ้มลิ้มหน้าเสียไป
“เราจะทำยังไงกันดี...ฉันไม่อยากทำเลยนะ”
“ลาออกไปทำงานโรงงานดีกว่ามั้ย...ไม่อยากมีนายเพิ่ม...”
“เอ็งสองคนยังสาวก็คิดได้สิ แต่ข้ากับไอ้พวกนี้ล่ะ แก่จนจะผมสองสีแล้ว สมัครงานที่ไหน ใครเขาจะรับ
หวานเดินเข้ามา“คุยอะไรกันเหรอ...”
“อุ๊ย แม่หวาน ไปถามหลานสาวผู้แสนดีของแม่หวานดีกว่ามั้ง อย่าให้พวกฉันพูดอะไรเลย
ทุกคนแตกฮือกันไปคนละทางสองทาง หวานยืนตะลึง
บนถนน ชีพขับรถ รสสุคนธ์นั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะชอบใจ
“พวกมันไม่ช็อกตายกันไปเลยเหรอ”
“ก็ไม่นี่...” ชีพจับมือรส “จะให้รางวัลอะไรผมล่ะ..”
รสสุคนธ์ทำลอยหน้าลอยตายิ้มยั่ว
“แหม...แบบนี้ก็ต้องให้สิคะ...ให้พวกนังหวาดมันรับใช้รสไม่ต่างกับรสเป็นเจ้านายมันอีกคนหนึ่ง รสสะใจจัง”
“งั้นเราอย่าเพิ่งเข้าที่ทำงานเลยนะ...เลยไปคอนโดก่อน...”
รสสุคนธ์แสร้งทำสะเทิ้นอาย แต่ก็พึงพอใจ

ที่คอนโด ทั้งชีพและรสสุคนธ์โผเข้าหากันทันทีที่ประตูปิด
“รู้มั้ยว่าผมหลงคุณจะแย่แล้วรสสุคนธ์...”
รสสุคนธ์อยู่ในอ้อมกอดของชีพ ไม่ใยดีที่ชีพจะกอดจะจูบ แต่ดวงตาของรสสุคนธ์กลอกไปตามมุมต่างๆ มองเฟอร์นิเจอร์หรูหราต่างๆ คิดในใจ
“ถ้าไม่ได้บ้านหลังใหญ่...คอนโดนี้ก็ไม่เลว...มันต้องเป็นของเรา...”
ชีพพารสสุคนธ์ไปที่เตียงนอน ทั้งสองล้มไปด้วยกัน รสสุคนธ์หัวเราะใส่จริต

ชีพเดินเข้ามาในโรงงาน อุษาถือแฟ้มผ่านมารีบหลบ เห็นรสสุคนธ์เดินตามหลังชีพมาห่างๆ พอรสสุคนธ์เดินมาใกล้ อุษาก็ออกมาจากมุม
“รสสุคนธ์ ฉันขอร้อง...เลิกยุ่งกับคุณชีพซะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณน้าลั่นทมให้เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้าน”
“อยากฟ้องก็เชิญ โธ่เอ๊ย ที่แท้ก็อยากให้คุณผู้หญิงช็อกตายใช่มั้ยล่ะ จะได้สมบัติของน้า...”
“ไม่มีใครคิดสกปรกได้เท่าเธออีกแล้ว...รสสุคนธ์”
“ก็ไม่มีใครล้ำลึกเท่าเธอเหมือนกัน...น้าชายตายตั้งนานแล้วก็ออกจากบ้านเขาไปซะทีสิ จะอยู่ทำไม ถ้าไม่หวังสมบัติ...”
รสสุคนธ์มองอย่างท้าทาย
“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเลวถึงเพียงนี้...”
รสสุคนธ์หัวเราะหยัน “ฉันยังยืนยันคำเดิมนะคุณอุษา...อยากฟ้องให้คุณผู้หญิงช็อกตายก็เชิญเลย...เชิญไปบอกเลย...กล้ามั้ยล่ะ”
รสสุคนธ์เดินไปอย่างไม่แคร์ อุษามองตามรู้สึกเศร้าใจ
อุษาและธารินทร์นั่งทานอาหารกันอยู่ที่ห้องอาหาร
“ษาว่าจะบอกเรื่องนี้ให้คุณน้าลั่นทมทราบ...คุณน้าจะได้เฉดหัวรสสุคนธ์ออกจากบ้านไป...”
“บางทีคุณน้าลั่นทมอาจรู้แล้วก็ได้”
“ทำไมรินทร์คิดอย่างนั้น”
“คนเป็นผัวเมียกัน มีหรือที่จะปิดบังอะไรกันได้...คุณน้าลั่นทมอาจรู้ว่าคุณชีพไม่ได้จริงจังอะไรกับ
รสสุคนธ์ ผู้ชายน่ะมีคนมาเสนอ ก็ต้องสนอง มันเป็นธรรมชาติ...”
อุษาค้อน ทำงอนๆ “รวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วยหรือเปล่า”
ธารินทร์ยิ้ม “เว้นผู้ชายที่ชื่อธารินทร์หนึ่งคน...เพราะคนคนนี้รักใครรักจริงตลอดไป”
อุษาหลบตาอายๆ ธารินทร์ยิ้ม เอื้อมมือไปกุมมือของอุษาไว้

ที่ห้องของหวาน รสสุคนธ์ยืนต่อว่ายาใจกับจิ้มลิ้ม
“คุณชีพสั่งพวกแกชัดเจน พวกแกยังไม่ทำความสะอาดห้องให้ฉันอีกเหรอ...”
หวานเข้ามา “อะไรกัน...”
“แม่หวาน...ฉันไม่ได้เป็นคนใช้ของหลานแม่หวานนะ”
“ใช่ๆ ลำพังนายที่มีอยู่ก็รับใช้ไม่ได้หยุดอยู่แล้ว...”
“แต่นี่เป็นคำสั่งของคุณชีพ ถ้าไม่พอใจทำก็ลาออกไป...ไปเลย”
สวาทเข้ามา “แกมีอำนาจอะไรถึงกล้าบอกนังยากับนังลิ้มยังงี้หาแม่รส”
“น้าหวาดไม่น่าถามนะ...หรือจะให้ฉันไปบอกให้คุณชีพมาสั่งด้วยตัวเอง...”
สวาทหันมาทางหวาน “แม่หวาน ฉันถามจริงๆ เถอะสอนคางคกให้ชูคออยู่บนวอทองนี่เหนื่อยมากมั้ย...”
หวานอึ้งไป สวาท ยาใจและจิ้มลิ้มหัวเราะกันเดินออกไปอย่างไม่แคร์รสสุคนธ์
“อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจนังรส...ว่าง ๆก็ส่องกระจกดูเงาหัวตัวเองบ้าง”
“คอยดูฉันไปก็แล้วกัน”

อุษาแต่งชุดอยู่บ้าน ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องลั่นทม ท่าทีลังเล แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเคาะประตู แล้วเปิดเข้าไป อุษาเห็นลั่นทมกับชีพคลอเคลียกันอยู่ อุษาชะงัก
“ขอโทษค่ะ..” อุษาจะออกไป
“มีอะไรหรือเปล่า...ไม่ต้องออกไปหรอก..จะคุยกับน้าลั่นทมก็มา แต่อย่าพูดอะไรให้น้าลั่นทมไม่สบายใจล่ะเพราะเดี๋ยวน้าจะเครียดไป” ชีพมองหน้าอุษา “เชิญตามสบาย...” ชีพออกไป “ษามาก็ดีแล้ว น้ามีเรื่องจะให้ช่วยอยู่พอดี...”
อุษาเดินไปนั่งข้างๆ ลั่นทม “อะไรหรือคะคุณน้า...”
“น้ากำลังจะไประนองกับน้าชีพพรุ่งนี้...”
“ระนอง...ไปทำไมคะ...”
“น้าซื้อที่ดินไว้นานแล้ว ตอนนี้อยากทำรีสอร์ทแล้วก็สปาช่วยจัดกระเป๋าให้น้าที เตรียมเสื้อผ้าไปเยอะๆนะ อยากได้ชุดว่ายน้ำ เดินป่า ขี่ม้า น้าตั้งใจจะพักผ่อนให้เต็มที่...”
อุษามีสีหน้าแปลกใจ “นั่นมันกิจกรรมของคนแข็งแรงทั้งนั้น...”
“น้าก็ไม่เป็นอะไรนี่จ๊ะ โรคประหลาดนั้นไม่ได้เกิดกับน้ามาตั้งนานแล้วนะ...อีกอย่างน้าอยากทำให้คุณชีพเขาเห็นว่า น้าแข็งแรง ไม่ได้ขี้โรคอย่างที่คนอื่นเข้าใจ...”
“ษาเป็นห่วงคุณน้า...”
ลั่นทมยิ้ม จับมืออุษา “ห่วงทำไม...น้าชีพก็อยู่ทั้งคน เขาไม่ปล่อยให้น้าเป็นอะไรไปหรอก หลายเดือนมานี่...เขาช่วยเหลือน้าทุกอย่าง ดีกับน้าเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยกอดน้าเลย เขากลัวน้าอึดอัดหายใจไม่ออก อาการประหลาดนั้นจะกลับมาเป็นอีก”
อุษานิ่งอึ้งไป คิดในใจ “โธ่...คุณน้าขา ดูคนผิดแล้วล่ะค่ะ น้าชีพไม่ได้เป็นอย่างที่ คุณน้าเข้าใจเลย...”
“แล้วเข้ามาหาน้านี่มีอะไรหรือเปล่า...”
“เอ้อ...ษาก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณน้าเท่านั้นแหละค่ะ”
“ระหว่างที่น้าไม่อยู่ ฝากดูแลบ้านด้วยนะ”
“ค่ะ คุณน้า...” อุษานิ่งอึ้ง ไม่กล้าพูดอะไร

อุษาค่อยๆ วางเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ คิดอะไรในใจ
“คุณน้าทำอย่างนี้เพียงต้องการให้น้าชีพคิดว่าตนเองแข็งแรงเท่านั้นเหรอ ถ้าเป็นอะไรไปก็ไม่คุ้มเลยค่ะ...โธ่ ษาสงสารคุณน้าจังเลย...”

เช้าวันใหม่ ที่หน้าบ้านลั่นทม ฉ่ำ สมพรและวิเวกช่วยกันยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใส่รถ หวาน สวาท ยาใจ จิ้มลิ้มยืนคอยส่งอยู่
“ช่วยกันดูแลบ้านด้วยนะจ๊ะ”
“ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกค่ะ คุณผู้หญิงพักผ่อนให้มีความสุขเถอะค่ะ...”
รสสุคนธ์แอบมองอยู่ สายตาไม่พอใจที่ชีพไปกับลั่นทม ชีพมองเห็นรสสุคนธ์
“ผมลืมของ...เดี๋ยวมานะ...”
“ค่ะ..”
ชีพเดินไป ลั่นทมพูดคุยกับคนรับใช้
ที่มุมลับตาคนในบ้าน รสสุคนธ์งอน ชีพปลอบใจ
“ไม่เอาน่า...ยิ้มหน่อยสิจ๊ะรส...”
“ใครจะยิ้มออก...ก็คุณไปกับเมียคุณ เดี๋ยวเข้าอกเข้าใจกันดี รสก็คงเป็นหมาหัวเน่า...หมดความหมาย”
“น่า...ก็แค่เอาใจเขาเท่านั้น ยังไม่พร้อมเปิดเผยเรื่องของเรา เราก็ต้องอดทนไปก่อน...”
“แต่รสก็ไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ อย่างนี้...คุณต้องยุติธรรมกับรสด้วย...รสก็เป็นเมียคนหนึ่งของคุณ...อย่าลืม”
“ไม่เอาน่า...สองสามวันก็กลับแล้ว...นี่ก็ดูๆอยู่ว่าจะให้อะไรรสเป็นของขวัญชิ้นโตๆ”
“คุณไม่ผิดสัญญากับรสนะ”
“ว่าแต่อยากได้อะไรล่ะ สร้อยคอสักเส้นมั้ย...”
“เปลี่ยนเป็นทะเบียนสมรสดีกว่าค่ะ”
“อดทนหน่อยสิจ๊ะที่รัก...”
ชีพเหลียวซ้ายขวาไม่เห็นใคร ก็หอมแก้มรสสุคนธ์ เสร็จแล้วหยิบเงินปึกใหญ่ให้รสสุคนธ์
“เบื่อๆ ก็ไปหาซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ใส่...”
รสสุคนธ์รับเงินมา “รสไม่ใช่ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินนะคะ...”
“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”
“รสรักคุณค่ะ รักไม่น้อยกว่าผู้หญิงทุกคนของคุณด้วย รสมั่นใจ”
“อย่างอนสิ...มีเหตุผลหน่อย ไปนะ...”
ชีพเดินออกไป รสมองเงินในมือแล้วมองออกไป สีหน้าไม่ค่อยพอใจ

ที่หน้าบ้าน ชีพเดินออกมาจากข้างใน ลั่นทมแบมือไปตรงหน้า
“กุญแจรถค่ะ...ฉันอยากขับเอง...”
“ไม่เอา...ไม่เอา เป็นตายยังไง ผมก็ไม่ยอม คุณยังไม่ปกตินะทม”
“ทมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว” ชีพส่ายหน้า
“งั้นขากลับ คุณต้องสัญญานะว่าจะให้รสขับ...”
ชีพยิ้มพยักหน้า แล้วเดินไปนั่งในตำแหน่งคนขับ...ขับออกไป ทุกคนมองตามไป ด้วยสายตาชื่นชม

หวานเข้ามาในห้อง เห็นรสสุคนธ์นั่งนิ่ง ป้ายน้ำตาอยู่
“เห็นผัวเมียเขารักกันดีเลยทนไม่ไหวเหรอนังรส...ตาสว่างเสียที คุณชีพรักคุณผู้หญิงยิ่งกว่าอะไร...ผู้หญิงหน้าไหนก็แย่งคุณชีพไปไม่ได้หรอก”
รสสุคนธ์ยักไหล่“หน้านี้แหละที่จะแย่งคุณชีพไป...น้าหวานดูหน้าฉันไว้ดีๆ อย่าลืมล่ะ”
“รอดูวันที่เขาสองคนกลับมาเถอะ ถ้ายังหวานชื่นกันอยู่ เอ็งก็เตรียมระเห็จไปอยู่ที่อื่นได้แล้วย่ะ”
หวานมองรสสุคนธ์สะใจ น้ำตารสสุคนธ์ยิ่งไหล
ที่ด้านนอกของอาคารคอนโดมิเนียมหรูหรา รสสุคนธ์ผลักประตูเข้ามา พนักงานที่ดูแลอยู่ห้ามไว
“ประทานโทษครับ...ถ้าไม่มีเจ้าของห้องมาด้วย เราไม่อนุญาตให้ขึ้นไปข้างบนครับ
“แต่ฉันเป็นเมียเขา...มาห้องของผัวทำไมต้องกีดกันด้วย”
“แต่นี่เป็นกฎนะครับ...เราจำเป็นต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แขกที่เข้าพักทุกห้อง”
รสสุคนธ์ไม่สนใจ ก้าวเดินไปที่หน้าลิฟต์ พนักงานคนเดิมรีบเดินมาห้าม
“อย่านะครับ...ไม่อย่างนั้นผมจะเรียก รปภ.มาจัดการกับคุณ”
คำพูดขของพนักงานกระทบใจรสสุคนธ์อย่างแรง
“ไว้ให้คุณชีพกลับมาก่อน...พวกแกตกงานแน่...”

รสสุคนธ์ยืนอยู่ด้านนอกคอนดด ท่าทางหงุดหงิด มองขึ้นไปที่คอนโด พึมพำเสียงเครือ
“ฉันจะไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าของมันจริงๆ หรือนี่”

ในห้องทำงานที่โรงงาน โต๊ะของรสสุคนธ์ว่างเปล่า อุษาเดินเข้ามา ถามสายสมร
“วันนี้รสสุคนธ์ไม่มาเหรอ...”
“ยังไม่เห็นเลยค่ะ ใบลาก็ไม่มี...แล้วก็ไม่ได้โทรแจ้งด้วย...”
อุษาพยักหน้าแล้วนั่งลง มองไปที่โต๊ะของรสสุคนธ์ คิดในใจ “คงไม่ได้ไปกับน้าชีพนะ...“

รสสุคนธ์กลับเข้ามาในห้องของหวาน โยนกระเป๋าไปมุมหนึ่งแล้วก็ล้มตัวลงนอน น้ำตาคลอแล้วไหลพราก หวานเข้ามา “ไม่ไปทำงานเหรอไง”
รสสุคนธ์ไม่ตอบ
“ข้าถาม ไม่ได้ยินเหรอนังรส...”
รสลุกขึ้น ฉุนเฉียว “ปวดหัว...คนไม่สบายจะเคี่ยวเข็ญให้ไปทำงานอยู่ได้”
“อิจฉาที่เขากลับไปรักกันเหมือนเดิมล่ะสิ...กลับตัวกลับใจเสียใหม่เถอะนังรส...”
“เมื่อไหร่จะเลิกเรียกฉันว่านัง...ว่าอีซะทีนะ..”
“จะให้ข้าเรียกว่าคุณผู้หญิงรึไง...แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาน่ะไม่ได้หรอก...ทำตัวดีๆ คนเขาก็ยังให้โอกาส...”
“โอกาสของคนแพ้ คนไม่มีทางสู้อย่างน้าหวานไง ชาตินี้ทั้งชาติถึงได้อยู่แต่ก้นครัว...”
“แต่ข้าก็มีศักดิ์ศรีโว้ย...เดินไปทางไหนก็ไม่มีคนมาชี้หน้า ด่าได้...อีเนรคุณ แย่งผัวเจ้านาย...”
รสสุคนธ์เหลืออด กรีดร้องเสียงดัง “กรี๊ด...หยุดซะทีได้มั้ย...ฉันเบื่อที่จะฟัง...”

ในครัว สวาทกำลังกินข้าวอยู่ ตกใจ ช้อนตกจากมือ
“เสียงอะไร”
“ดังมาจากห้องแม่หวาน...”
“ปัญญาอ่อนนักหรือไง...แค่นี้ก็เดาไม่ได้ว่าเสียงอะไร....ฮึ เห็นผัวเมียเขารักกันก็เลยทนไม่ได้ ผีแพศยาเลยเข้าสิงว่ะ..”
ทุกคนในครัวหัวเราะสะใจ
ที่หน้าบ้านหมอผัน ธารินทร์กับอุษายืนคุยกันอยู่มุมนอกบ้านที่มีต้นไม้ร่มรื่น
“ผมอาจต้องย้ายไปประจำการที่อื่น...อยากให้ษาไปด้วย...”

อ่านละครเรื่อง สุสานคนเป็น ตอนที่ 3 วันที่ 17 เม.ย. 57

ละครเรื่อง สุสานคนเป็นบท ประพันธ์โดย ประดิษฐ์ กัลย์จาฤก
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น บทโทรทัศน์โดย ภาคย์รพี
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นกำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็น ละครแนว ดราม่า รี้ลับ อาถรรพ์ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นผลิตโดย บริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด
ละครเรื่อง สุสานคนเป็นออกอากาศ ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เร็วๆ นี้