อ่านละครย่อเรื่อง ละครไข่ลูกเขย

อ่านละครย่อเรื่อง ละครไข่ลูกเขย
เรื่องย่อ ละครไข่ลูกเขย

ที่อำเภอกระท้อนหวาน กำลังมีงานเทศกาลไข่ และประกวดธิดาไข่ปอก ท่านประจักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสวรรค์บุรีซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ชายแดนภาคตะวันออก ท่านผู้ว่าฯได้ขึ้นมาบนเวทีเพื่อมอบรางวัล ขณะที่กำลังจะประกาศผลการประกวด ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ผู้คนกรีดร้องและวิ่งหาที่กำบังกันชุลมุนวุ่นวาย พวกก่อการร้ายยังเอาไข่เน่าปาขึ้นมาบนเวทีจนเนื้อตัวทุกคนเต็มไปด้วยไข่เน่า ท่านผู้ว่าฯและ พริ้งเพรา คุณนายผู้ว่าฯ ต้องหลบไปอยู่ในใต้ถุนกรงไก่
เสื้อผ้าเปราะเปื้อนเหม็นขี้ไก่ไปทั้งตัว ส่วน รจนา ลูกสาวท่านผู้ว่า วิ่งไปเจอผู้ก่อการร้าย1คนกำลังจะทำร้ายชาวบ้าน รจนาจึงใช้วิชายูโดสายดำเข้าจัดการกับผู้ก่อการร้ายคนนั้นจนน่วม แต่พอมีผู้ก่อการร้ายอีก 2 คนเข้ามา รจนาก็สู้ไม่ได้ ผู้ก่อการร้าย 3 คนลากรจนาเข้าไปในป่า แต่ไม่ทันที่ผู้ก่อการร้ายจะทำอะไร


ก็มีบุรุษชุดดำสวมหน้ากากจิ้งจอกดำปิดหน้า เข้ามาช่วยรจนา ผู้ชายร่างสูงโปร่ง ฝีมือต่อสู้ช่างร้ายกาจ โดยเฉพาะการใช้กระบอง 3 ท่อนอย่างกับบรู๊ซลีกลับชาติมาเกิด รจนามองอย่างตะลึง ชายชุดดำคนนี้ ช่างเท่เหลือเกิน เมื่อปราบผู้ก่อการร้ายไปหมดแล้ว ชายชุดดำก็บอกให้รจนาหาที่หลบไปก่อนเพราะพวกก่อการร้ายอาจจะมาเจอเข้าอีก แล้วชายชุดดำก็เข้าไปช่วยชาวบ้านอีกหลายคน โดยแอบช่วยไม่ให้ใครเห็นหน้า จนพวกผู้ก่อการร้ายล่าถอยไป ชายชุดดำจึงวิ่งหายลับไป รจนาลงไปหลบในบึงบัวที่มีดอกบัวบานเต็มไปหมด เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงปืนสงบลงรจนาโผล่ขึ้นมาดู แล้วรจนาต้องตกใจเมื่อมีมือมาจับแขน และเจ้าของมือก็เป็นคนบ้า มีดอกบัวทัดหูเหน็บหัวเหน็บคอจนเต็มไปหมด ทวน เห็นรจนาร้องกรี๊ดก็แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกรจนา แถมยังลากรจนาขึ้นมาจากบึงบัว รจนาใช้วิชายูโดเล่นงานทวน แต่ทวนก็พลิ้วหลบไปได้ แล้วก็ร้องรำทำเพลงรอบๆ รจนา แถมเข้ามาจ้องเอาๆ รจนาจึงจับทวนทุ่มให้สมกับที่กล้ามาแหยมกับเจ้าของเข็มขัดยูโดสายดำ ทวนลงไปนอนร้องโอดโอย รจนาจึงกลับเข้าไปตามหาพ่อกับแม่ของตนเอง เมื่อรจนาไปแล้ว ทวนก็มองตามอย่างขำๆ ท่าทางของรจนา จากนั้นก็ลงไปเก็บดอกบัวต่อในบึง ท่านผู้ว่าฯ ถูกนักข่าวรุมถามเรื่องที่อำเภอกระท้อนหวานในความรับผิดชอบของท่านมีแต่ความวุ่นวาย ยิงกันไม่เว้นแต่ละวันราวกับเป็นพื้นที่สีแดง ชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากิน ต้องคอยหลบพวกแก๊งอิทธิพล มีบ่อนเถื่อนเปิดกันทุกหัวระแหง ชายหญิงตั้งแต่เด็กยันผมหงอก ติดกัญชากันงอมแงม โรงเรียนแทบจะร้างเพราะไม่มีเด็กมาเข้าเรียน ปลัดอำเภอก็ถูกยิงจนต้องขอย้ายหนีไปหมด และทุกครั้งที่ทางการจัดกิจกรรมอะไร ก็ต้องโดนป่วนจนต้องล้มเลิกไปเสียทุกครั้ง เป็นเพราะพวกอิทธิพลไม่ต้องการให้ทางการเข้ามายุ่งในพื้นที่ ต้องการให้กระท้อนหวานเป็นแดนสนธยา อยู่ภายใต้การปกครองของพวกพ้องของตน ท่านผู้ว่าไม่รู้จะตอบนักข่าวว่าอย่างไรดีจึงได้แต่หนีนักข่าวหัวซุกหัวซุน ท่านผู้ว่าหนีนักข่าวกลับมาบ้านก็ต้องมารับมือกับคุณนายพริ้งเพราภรรยาสุดที่รักที่วันๆ คอยแต่จะหาคู่ให้รจนาลูกสาวคนเดียวที่เพิ่งจบปริญญาโทจากอเมริกา รจนาเป็นคนหัวสมัยใหม่ เย่อหยิ่ง คิดว่าตนเองเก่งไปหมดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องวิชาป้องกันตัว ระดับยูโดสายดำ ยิงปืนก็แม่นระดับเหรียญทอง รจนาจึงไม่เคยกลัวอะไร ไม่ฟังใคร ไม่มีใครบังคับอะไรได้ โดยเฉพาะเรื่องคู่ครอง รจนาจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายที่มีอะไรด้อยกว่าตนเองแม้เพียงอย่างเดียว ทำให้ทั้งพ่อละแม่กลุ้มใจว่าลูกจะหาคู่ไม่ได้ เพราะผู้ชายทุกคนที่รจนาพบเจอ ไม่มีใครที่เหนือกว่ารจนาทุกด้านเลยแม้แต่คนเดียว พริ้งเพรานั้นเป็นคนที่มองคนเพียงภายนอกและคบคนที่ฐานะ จึงคัดแต่ผู้ชายที่มีเงินมาให้รจนาเลือก คนที่พริ้งเพราโปรดที่สุดก็คือ ยงศักดิ์ ลูกชายของเสี่ยโอฬาร เศรษฐีที่รวยที่สุดในสวรรค์บุรี เป็นเพราะ ยงศักดิ์ โง่เชื่อฟังพริ้งเพราไม่ว่าพริ้งเพราอยากได้อะไรก็เอามาประเคนให้ทุกอย่าง เมื่อยงศักดิ์เข้ามารับการทดสอบจากรจนา พริ้งเพราก็คอยจะช่วยโกงจะให้รจนาแพ้จะได้ยอมคบกับยงศักดิ์ แต่สุดท้ายรจนาก็ไม่แพ้ ยงศักดิ์เป็นผู้ชายที่โตแต่ตัว แต่สติปัญญาไม่ค่อยมี เลยมักจะโดนรจนาแกล้งหลอกแล้วหนีไปได้เสมอๆ ยงศักดิ์ได้แต่มึนงงเพราะความบื้อของตัวเอง แต่ก็ไม่ละความพยายามที่จะตามตื้อรจนาเพราะเสี่ยโอฬารผู้เป็นพ่อสั่งเอาไว้ว่าต้องแต่งงานกับรจนาให้ได้ เพื่อต้องการเครดิตของท่านผู้ว่ามาเป็นแบคในธุรกิจของตน ท่านผู้ว่าไม่เห็นด้วยที่พริ้งเพราเลือกแต่คนรวยๆ ส่วนคนดีๆ ที่ท่านผู้ว่าแนะนำมา ถ้าไม่มีเงิน พริ้งเพราก็กีดกันหมด เป็นที่หน่ายระอาของท่านผู้ว่าฯ ยิ่งนัก แต่ถึงรจนาจะปฏิเสธยงศักดิ์ แต่พริ้งเพราก็ยังไม่ละพยายาม คอยหาโอกาสให้ยงศักดิ์คอยตามตื้อรจนาตลอดเวลา รจนาสุดแสนจะรำคาญจึงหนีไปหาเพื่อนรักที่เป็นครูอยู่ที่กระท้อนหวาน คือ ครูกานดา เมื่อตอนเด็กๆ ทั้ง 2 เป็นเพื่อนรักกันมากเพราะอยู่บ้านใกล้กัน แต่พอประจักษ์ได้เป็นผู้ว่าฯ ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่จวนในตัวจังหวัด แต่ทั้ง 2 ก็ยังติดต่อกันตลอด กานดาดีใจมากที่รจนามาหา นอกจากรจนาจะอยากมาหาเพื่อนแล้ว ลึกๆ รจนาก็อยากจะมาตามหา ชายชุดดำคนที่ช่วยเธอไว้นั่นเอง แต่ถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก เพราะชายชุดดำไม่เคยอยู่รอให้ใครเห็นหน้า พอมาช่วยชาวบ้านเสร็จก็จะหายตัวไปอย่างรวดเร็วทุกครั้ง รจนาไม่ได้เจอบุรุษชุดดำอย่างที่หวัง แต่กลับต้องมาเจอคนบ้าอย่างทวนคอยป่วนให้รำคาญใจ ทวนเป็นลูกชายผู้ใหญ่ทองที่เคยเรียนเก่งมาก แต่เพราะความคร่ำเคร่งบ้าตำราเกินไป ทำให้ทวนเพี้ยนๆ กลายเป็นคนบ้าๆ บอๆ วันๆ เอาแต่ขี่รถจักรยานเข้าบ้านนั้นออกบ้านนี้ทั้งวัน ขี่ไปร้องเพลงไป บ้างก็รำลิเก ประแป้งหน้าขาว เป็นที่ขบขันของคนในหมู่บ้าน แต่ทวนไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร มีแต่คนรักใคร่เอ็นดูทวน ชอบมาฟังทวนร้องเพลงหรือร้องลิเกให้ฟังอยู่บ่อยๆ ทวนเป็นคนเดียวที่ไม่ว่าจะไปปรากฏตัวอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครสงสัยอะไร เข้านอกออกในได้ทุกที่ แต่พอรจนามาที่กระท้อนหวาน ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องเจอทวนทุกที่ รจนาสุดแสนจะหงุดหงิด แต่กานดาก็บอกให้รจนาอย่าถือสาเพราะทวนเป็นคนบ้าๆ บอๆ ไม่เป็นพิษเป็นภัย กานดาปรับทุกข์กับรจนาเรื่องที่กระท้อนหวานกำลังย่ำแย่ แทบไม่มีนักเรียนมาเข้าโรงเรียน รจนาอยากจะช่วยเรื่องการศึกษาเพราะรจนาต้องการเห็นผู้คนฉลาดๆ มีการศึกษา แต่ชาวบ้านไม่ยอมส่งลูกมาเรียนเพราะเกรงกลัวพวกก่อการร้าย รจนาสงสัยว่าพวกผู้ก่อการร้ายทั้งหลายต้องมีกลุ่มอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จึงคิดสืบหาความจริง แต่การสืบของรจนาต้องถูกทำเสียแผนโดยคนบ้าชื่อทวนทุกครั้ง แต่ทวนก็ได้ช่วยรจนาให้รอดพ้นอันตรายอย่างบังเอิญหลายครั้งเหมือนกัน แต่รจนาก็ไม่เชื่อว่าทวนเป็นคนช่วย เพราะทวนบ้าๆ บอๆ รจนาจึงดูถูกทวน คิดว่าเป็นเพราะโชคช่วยมากกว่า ทวนไม่มีปัญญาช่วยอะไรรจนาแน่นอน ในหมู่บ้านกระท้อนหวาน มีไร่ของเสี่ยโอฬารอยู่ ซึ่งใครๆ คิดว่าปลูกข้าวโพดกับอ้อย แต่ใจกลางไร่นั้นเป็นกัญชา ควบคุมโดย ฮวด เจ้าของร้านขายปุ๋ย และขายของเกี่ยวกับการเกษตรทุกชนิด รวมไปถึงรับเหมาก่อสร้างด้วย ในไร่ของโอฬาร มีโรงงานผลิตยาเสพติดอยู่ ฮวดมีเมียคือ โบตั๋น และน้องเมียชื่อ จำปา โบตั๋นคอยดูแลการเงินทุกอย่าง ส่วนจำปาก็เป็นสาวสวยเซ็กซี่ ที่ฮวดชอบแอบมาแทะโลมเสมอๆ จำปาเป็นคนขี้เกียจไม่ชอบทำมาหากิน เอาแต่แต่งตัวสวยไปวันๆ ชาวบ้านจำนวนมากติดกัญชาจากไร่ของโอฬารจนไม่เป็นอันทำงานทำการ ร้านรวงซบเซา ไร่นาก็ไม่ดูแล ทวนมักเข้ามาช่วยชาวบ้านให้หันมาทำมาหากินด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนจะเพี้ยนๆ แต่ก็ได้ผล เพราะเด็กๆ ก็เริ่มมาโรงเรียนเพราะทวนเอาการร้องรำทำเพลงมาล่อ ชาวบ้านชอบดูทวนร้องลิเกจึงยอมให้ลูกมาโรงเรียน และตนเองก็มาดูทวน รจนาเริ่มเห็นข้อดีของทวนที่ช่วยให้โรงเรียนไม่ร้าง แต่ความยียวนกวนประสาทของทวนยังเต็มพิกัดเหมือนเดิม เจอหน้ากับรจนาทีไรเป็นต้องปะทะคารมกันตลอด ความดีของทวนจึงหายวับไปจากสายตาของรจนา แต่เมื่อรจนาได้พบกับบุรุษชุดดำอีก เขาก็ให้เธอเรียกเขาว่า จิ้งจอกดำ รจนาแอบหลงรักจิ้งจอกดำเข้าแล้ว ทวนนั้น ที่จริงคือ นายทวนทน ธรรมะสอน ปลัดอำเภอคนใหม่ของอำเภอกระท้อนหวาน ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอก จบปริญญาโทจาก University of California และปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 ทวนทนเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านฐานะไม่ได้ร่ำรวย แต่ได้ไปเรียนที่เมืองนอกก็เพราะสอบชิงทุนได้ ซึ่งเรื่องไปเมืองนอก ทวนไม่ได้บอกพ่อ เพราะกลัวพ่อจะเป็นห่วงและเที่ยวไปกู้หนี้ยืมสินมาให้ตนไปใช้จ่ายที่เมืองนอก ทวนจึงบอกแค่ว่าจะไปช่วยงานอาจารย์ที่คณะ แล้วก็หายไป 2 ปี มีเพียงโทรศัพท์มาไม่กี่ครั้ง แต่จู่ๆ เมื่อเดือนก่อนทวนก็ถูกส่งกลับมาในสภาพบ้าๆ บอๆ คนที่มาส่งบอกว่าทวนไปช่วยงานเกี่ยวกับตำรา ทวนเอาแต่อ่านหนังสือจนเป็นบ้า อ่านตำราจนเพี้ยน พาไปรักษาที่โรงพยาบาลก็ไม่ยอม จะกลับบ้านท่าเดียว เจ้าหน้าที่จึงพามาส่งที่บ้าน ตั้งแต่นั้นทวนก็กลายเป็นคนบ้าๆ บอๆ แห่งบ้านกระท้อนหวาน ผู้ใหญ่ทองเสียใจที่ลูกชายเป็นบ้า แต่ก็ทำใจได้เพราะถึงทวนจะบ้าๆ บอๆ แต่ก็พูดรู้เรื่อง ช่วยทำงานทำการได้เป็นปกติ แถมยังอารมณ์ดีทั้งวันร้องเพลงให้ฟัง ผู้ใหญ่ทองก็เลยเลิกเสียใจ แท้จริงแล้ว ทวนไม่ได้บ้า เพียงแต่เป็นแผนของทวนที่จะมาแทรกซึมสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังผู้ก่อการร้ายที่คอยขัดขวางการทำงานของทางการ และอยู่เบื้องหลังแก๊งอิทธิพลในกระท้อนหวาน การเป็นคนบ้าทำให้ไม่เป็นที่ระแวงของใครๆ ไม่ว่าจะไปไหนก็ไม่มีใครถือสา และเวลาเกิดเรื่อง ทวนก็สวมชุดดำสวมหน้ากากเป็นจิ้งจอกดำออกไปช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่ให้ใครรู้ว่าคือทวน <br /> <br /> ชาตรีเป็นเพื่อนสนิทของทวนเป็นคนเดียวที่รู้ว่าทวนไม่ได้บ้า และคอยช่วยเหลือทวนตลอด ชาตรีเป็นลูกมรรคทายกเชียร ไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพพร้อมทวน และเป็นคนพาทวนมาส่งที่บ้านในสภาพบ้าๆ บอๆ ชาตรีเป็นตำรวจรับผิดชอบคดีสะสางแก๊งอิทธิพลในกระท้อนหวาน แต่ชาตรีไม่ต้องการเปิดเผยตัว จึงไม่บอกใครว่าตนเองเป็นตำรวจ เมื่อกลับมากระท้อนหวานก็บอกทุกคนว่าเรียนไม่จบต้องกลับมาทำไร่ไถนา ชาตรีมักเข้ามาช่วยกานดาสอนหนังสือเด็กๆ ชาตรีแอบรักกานดาอยู่ แต่กานดาแอบชอบทวนมาตั้งแต่ก่อนทวนจะเป็นบ้า กานดาจึงคอยดูแลทวนเสมอ แต่ทวนก็แกล้งทำเป็นไม่รับรู้อะไร บ้าๆ บอๆ ไปตามเรื่อง ชาตรีก็ได้แต่แอบรักไม่กล้าแสดงออก แต่ก็เผลอไปลงที่ทวนบ่อยๆ แต่ก็ไม่ยอมรับว่าเพราะหึงกานดา<br /> <br /> การที่รจนาเข้าไปที่กระท้อนหวานบ่อยๆ ท่านผู้ว่าเป็นห่วงมาก สั่งห้ามเท่าไหร่ รจนาก็ไม่ฟัง ด้วยความเป็นคนดื้อรั้น คิดว่าตัวเองเก่ง เอาตัวรอดได้ ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง ท่านผู้ว่าจึงแอบเรียกปลัดทวนทนมารับคำสั่งให้ดูแลรจนาอย่างใกล้ชิด นี่คือเหตุผลที่รจนามักเจอทวนอยู่ตลอดเวลา ส่วนพริ้งเพราก็ไม่ยอมแพ้ ส่งยงศักดิ์คอยตามประกบรจนา แต่ความโง่ของยงศักดิ์กลายเป็นโดนรจนาหลอกใช้ให้บริจาคเงินช่วยโรงเรียนกระท้อนหวาน เมื่อรจนาไปกับยงศักดิ์ พวกก่อการร้ายจึงไม่กล้าลงมือ เพราะเป็นลูกน้องของเสี่ยโอฬาร ยิ่งทำให้รจนาได้ใจ คิดว่าตนเองเก่ง ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ไม่ว่ารจนาจะทำอะไรก็ไม่มีใครมาก่อกวน ซึ่งปกติ ถ้าใครจัดกิจกรรมอะไร จะต้องมีผู้ก่อการร้ายมาป่วน แต่กับรจนาไม่มีปัญหาอะไรเลย <br /> <br /> ความมั่นใจในตัวเองที่สูงลิบลิ่ว ทำให้รจนากล้าที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ ด้วยการบุกเข้าไปสืบในไร่ของโอฬาร เพราะได้ยินยงศักดิ์เผลอพูดถึงไร่กัญชา รจนาบุกเข้าไปแต่พลาดท่าเกือบโดนคนของฮวดจับได้ แต่ทวนในคราบของจิ้งจอกดำช่วยออกมาได้ทัน ทวนพารจนามาหลบที่กระท่อมร้าง รจนากับจิ้งจอกดำอยู่ด้วยกัน รจนาหัวใจหวั่นไหว จิ้งจอกดำกอดรจนาไว้ และหลับไปด้วยกันในกระท่อมร้าง พอรจนาตื่นขึ้นมาก็ไม่พบจิ้งจอกดำแล้ว พบแต่คนบ้าๆ บอๆ อย่างทวน รจนาตกใจ ทวนก็ทำไม่รู้เรื่อง ทำบ้าๆ บอๆ ชาวบ้านมาพบเข้าก็เอาไปลือกันว่า รจนากับทวนได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้ว ท่านผู้ว่าจึงเรียกทวนเข้าไปพบและสั่งให้รับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับรจนา พริ้งเพรารู้เข้าก็เป็นลม ไม่ยอมรับลูกเขยจนๆ บ้าๆ บอๆ อย่างทวน รจนาเองก็รับไม่ได้ที่จะแต่งงานกับคนที่ไม่มีอะไรเทียบตัวเองได้แม้แต่น้อย ไม่ใช่แค่ไม่ฉลาดไม่เก่ง แถมยังเป็นบ้าอีกด้วย แต่ท่านผู้ว่าออกคำสั่งเฉียบขาด เพราะรจนาหาเรื่องใส่ตัวเอง ถ้าไม่หลงตัวเองทำเก่งออกไปทำอะไรเสี่ยงๆ ก็คงไม่เกิดเรื่องจนต้องแต่งงานกับทวนแบบนี้ รจนาควรจะมีความ<br /> รับผิดชอบพอที่จะทำตามคำสั่งของพ่อ รจนาทนไม่ได้ที่ถูกหาว่าไม่มีความรับผิดชอบ จึงยอมตกลงแต่งงานกับทวน<br /> <br /> กานดาต้องอกหักเสียใจเมื่อทวนแต่งงานกับรจนา ชาตรีจึงถือโอกาสปลอบใจกานดา กานดาจึงเริ่มรู้สึกดีกับชาตรี แต่กานดาเห็นชาตรีเป็นแค่พี่ชายเท่านั้น ชาตรีจึงได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ แม้ว่ากานดาจะแสดงออกว่าชาตรีเป็นพี่ชาย แต่ลึกๆ ในใจกานดาก็แอบชอบชาตรีอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่รู้ใจตัวเอง จนกระทั่ง จำปา น้องเมียของฮวดมาเกาะแกะชาตรี ทำให้กานดาเริ่มรู้สึกหึง ความที่ชาตรีเป็นคนซื่อจึงถูกจำปาปั่นหัวเล่นจนผิดใจกับกานดา โดนกานดาไล่ไม่ยอมให้เข้าบ้าน เป็นที่สะใจของจำปา เพราะจำปาคิดว่าตนเองเป็นสาวสวยที่สุดในกระท้อนหวาน ผู้ชายหน้าไหนก็ต้องมายอมสยบ และเป็นโรคชอบแย่งแฟนคนอื่น ถ้ารู้ว่าใครชอบกันก็มักจะเข้าไปป่วนจนคู่รักเลิกกัน โดยเฉพาะผู้ชายหน้าตาดี และผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดในกระท้อนหวาน ก็คือทวน แต่ทวนเป็นบ้า จำปาเลยไม่สนใจ รองลงมาก็คือชาตรี จำปาจึงพุ่งเป้ามาที่ชาตรี <br /> <br /> แท้จริงแล้ว ท่านผู้ว่าต้องการดัดนิสัย รจนา ให้รู้จักยอมรับคนอื่นบ้าง ให้เลิกคิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว และต้องการดัดนิสัยพริ้งเพราด้วย ท่านผู้ว่า ขอร้องให้ทวนช่วยทำให้รจนายอมรับคนที่ด้อยกว่าตนเองในบางเรื่อง และให้พริ้งเพรายอมรับคนที่จิตใจ ไม่ใช่แค่เปลือกนอก ทวนขัดท่านผู้ว่าไม่ได้จำต้องรับปากทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ใช่ง่ายๆ เลย งานแต่งงานของทวนกับรจนาจึงถูกจัดขึ้นง่ายๆ ที่บ้านกระท้อนหวาน พริ้งเพราทำใจไม่ได้ที่จะมีลูกเขยเป็นคนบ้าแถมยังจน บ้านนอก จึงไม่มาร่วมงานแต่งงาน มีเพียงท่านผู้ว่าคนเดียวที่มาร่วมงาน รจนาขู่ทวนว่าห้ามมาแตะต้องตัวเธอเด็ดขาด เธอแต่งงานเพียงแค่ในนามเท่านั้น ถ้าทวนขืนมาล่วงเกินเธอ รจนาจะใช้วิชายูโดจัดการกับทวน ทวนรับปากรจนา รจนาไม่ได้พบนายจิ้งจอกดำอีก เธอคิดถึงเขามากและเสียใจที่ต้องมาแต่งงานกับทวน แทนที่จะเป็นจิ้งจอกดำ ผู้ชายที่เก่งกาจคนนั้น ผู้ใหญ่ทองพ่อของทวนกับแป๋วน้องสาวทวน เป็นปลื้มอย่างมากที่ได้สะใภ้เป็นถึงลูกสาวผู้ว่า ต่างเอาอกเอาใจรจนาทุกอย่างไม่ให้ลำบาก แต่รจนาไม่อยากให้ใครคิดว่าตนเองเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ จึงพยายามช่วยทำงานบ้านต่างๆ แต่ก็ทำไม่เป็น ทำให้ทวนหัวเราะและความปากเสียของทวนทำให้รจนาฮึดสู้ พยายามฝึกทำงานหนักจนไม่สบาย ทวนต้องคอยดูแล จนรจนาเริ่มมีใจให้ทวนทีละน้อย รจนาเริ่มยอมรับว่า ตนเองไม่ได้เก่งไปหมดทุกอย่าง มีหลายอย่างที่คนอื่นเหนือกว่าเธอ <br /> <br /> รจนาแสดงความคิดถึงจิ้งจอกดำให้ทวนเห็น ทวนสงสารรจนาจึงแต่งตัวเป็นจิ้งจอกดำมาพบรจนา รจนาดีใจมากที่ได้พบกับจิ้งจอกดำ เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักทวน ที่แต่งงานก็เพราะเป็นคำสั่งของพ่อเท่านั้น คนที่เธอรักก็คือจิ้งจอกดำคนนี้เท่านั้น ทวนรู้สึกผิดหวังที่รจนายังคงมองไม่เห็นเนื้อแท้ของทวนข้างใน เมื่อกลับไปเป็นนายทวน ทวนจึงทำตัวห่างเหินรจนา จนรจนารู้สึกได้ว่าทวนแปลกไป พอทวนไม่มายียวนกวนประสาท รจนาก็รู้สึกเหมือนอะไรขาดหายไป รจนาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงแคร์ทวนขนาดนี้ หรือเธอจะรักคนบ้าเข้าแล้ว <br /> <br /> ทวนเข้าไปสืบในไร่กัญชาของเสี่ยโอฬารและพลาดท่าถูกยิงบาดเจ็บ แต่ทวนก็หนีออกมาได้ ทวนปกปิดบาดแผล แต่อาการเจ็บปวดก็ไม่รอดพ้นสายตาของรจนา ทวนขอร้องไม่ให้รจนาบอกใคร แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าไปโดนใครยิงมา รจนาเริ่มสงสัยว่าทวนคือจิ้งจอกดำ รจนาพยายามสืบหาความจริงว่าทวนเป็นใครกันแน่ ทำให้ทวนต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ทวนจึงขอให้ชาตรีช่วยปรากฏตัวในคราบของจิ้งจอกดำแทนทวนต่อหน้าทวนและรจนา ทำให้รจนาหายสงสัยว่าทวนคือจิ้งจอกดำ ทวนจึงรอดตัวไปได้ ทวนพยายามใช้ความดีแบบบ้าๆ บอๆ ของทวนเอาชนะใจของรจนา เขาอยากจะรู้ว่า ระหว่าง ไอ้ทวนคนบ้า กับ จิ้งจอกดำผู้เก่งกาจ สุดท้ายแล้วรจนาจะเลือกใคร ความห่วงใยของทวน ความทะเล้นของทวนทำให้รจนายิ้มได้ ทวนจึงเข้ามาอยู่ในใจของรจนาแทนที่จิ้งจอกดำ ทวนอยากรู้ว่า รจนาจะรักใคร จึงแต่งเป็นจิ้งจอกดำมาหารจนาอีกเพื่อชวนรจนาให้ทิ้งทวนไปกับเขา แต่รจนาปฏิเสธ เธอบอกไปว่า เธอรักทวน และทิ้งทวนไปไม่ได้ ทวนดีใจมาก ในที่สุดคนบ้าอย่างนายทวนก็ชนะใจรจนาได้สำเร็จ รจนาอยากให้ทวนหายเป็นปกติจึงพยายามพาทวนไปรักษาที่กรุงเทพ ทวนขัดใจรจนาไม่ได้จำต้องไปรักษา และทวนก็ได้พบกับเคที่ แฟนเก่าสมัยเรียนที่อเมริกา ทวนแกล้งทำเป็นบ้าหนักจำอะไรไม่ได้ จนถูกจับเข้าโรงพยาบาลบ้า รจนาเสียใจมากที่รักษาอาการของทวนไม่ได้ ทวนเองก็เสียใจที่ทำให้รจนาเป็นทุกข์ แต่เขาไม่มีทางเลือกจริงๆ รจนาจึงพาทวนกลับกระท้อนหวาน ทวนบอกรักรจนา รจนาก็รับรักทวนทั้งสองเริ่มมีความสุขกัน<br /> <br /> พริ้งเพรากับยงศักดิ์แม้ว่ารจนาจะแต่งงานกับทวนแล้วแต่ก็ไม่ละความพยายามจะทำให้รจนาเลิกกับทวนให้ได้ เสี่ยโอฬารคิดแผนให้จำปาน้องเมียของฮวดเข้ามาป่วนรจนากับทวน ทำให้เข้าใจผิดกัน แถมเคที่ยังเป็นญาติของยงศักดิ์ เมื่อมาเจอทวนที่กระท้อนหวาน เคที่ก็เข้ามาหาทวน แม้ทวนจะไม่ยอมรับว่าคือ โทนี่ แฟนเก่าเคที่ แต่เคที่ก็ยังพยายามจะให้ทวนยอมรับให้ได้ รจนาโกรธทวนจนหอบผ้าหอบผ่อนกลับไปอยู่ที่บ้าน พริ้งเพรากับยงศักดิ์ดีใจมาก เมื่อทวนตามง้อรจนาก็ถูกกีดกันจากพริ้งเพรา พริ้งเพราขอให้รจนาหย่าขาดจากทวนและไปแต่งงานกับยงศักดิ์ ท่านผู้ว่าเรียกทวนมาคุยและขอให้ทวนปรับความเข้าใจกับรจนาซะ ถ้าทำได้ก็ควรบอกความจริงไป แต่ทวนขอเวลาอีกหน่อยให้เปิดโปงเสี่ยโอฬารกับฮวดให้ได้เสียก่อน ท่านผู้ว่าขอให้ทวนจัดการให้สำเร็จเพราะไม่อยากให้เมียและลูกไปข้องเกี่ยวกับเสี่ยโอฬารอีก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะกลัวจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ยงศักดิ์ไม่ได้รักรจนาจริงจัง เพียงแต่ทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น แท้จริงยงศักดิ์ชอบจำปา จำปาเองก็อยากจะเป็นสะใภ้เศรษฐีจึงยอมตกเป็นของยงศักดิ์ และเมื่อเสี่ยโอฬารสั่งให้ทำอะไร จำปาก็ยอมทำตาม แม้แต่การพลีกายให้ทวน เพื่อทำให้ทวนเลิกกับรจนา ชาตรีพยายามช่วยทวนให้พ้นจากจำปาจนกลายเป็นว่า กานดาเข้าใจผิดคิดว่าชาตรีมีอะไรกับจำปา ทำให้กานดาโกรธชาตรีอีกคน ทั้งทวนทั้งชาตรี เลยงานเข้าทั้งคู่ จำปาชอบใจที่ทำให้คนรักแตกคอกันได้ เลยแกล้งปั่นหัวทั้งทวนทั้งชาตรี เคที่ก็ยังไม่เลิกพยายามตื้อทวนให้ยอมรับว่าเป็นโทนี่ จนสุดท้ายทวนต้องแกล้งบ้าอาละวาดหนักจะบีบคอเคที่ จนเคที่กลัวไม่กล้าเข้าใกล้ทวนอีก ทวนได้รู้มาว่า มีลูกค้ารายใหญ่มารับซื้อกัญชาถึงไร่ของเสี่ยโอฬาร ทวนกับชาตรีจึงลอบเข้าไปในไร่ ทวนเข้าไปในคราบของจิ้งจอกดำ ส่วนชาตรีก็พรางตัวสวมหน้ากากเหยี่ยว แต่ทั้งคู่ก็พลาดท่าถูกจับได้เพราะฮวดวางกับดักเอาไว้ พวกฮวดจึงรู้ว่า จิ้งจอกดำก็คือทวน ทั้งคู่ถูกซ้อมจนสะบักสะบอม พ่อของทวนและชาตรีออกตามหาทั้งคู่ แต่ก็ไม่เจอ รจนารู้เข้าก็เป็นห่วงทวน กานดาก็เป็นห่วงชาตรี ต่างก็พยายามตามหา แต่สุดท้ายก็ได้รู้จากยงศักดิ์ที่หลุดปากเผลอบอกเพราะความโง่ รจนาจึงไปขอร้องท่านผู้ว่าให้ไปช่วยทวนกับชาตรี แต่รจนาใจร้อนจึงชวนกานดาและพ่อของทวนกับชาตรีพาชาวบ้านบุกเข้าไปช่วยก่อน ทวนกับชาตรีหลอกล่อพวกลูกน้องฮวด จนหนีออกมาได้ และมาเจอรจนากับกานดา จึงพากันหนีออกไป เสี่ยโอฬารเตรียมทำลายหลักฐานเมื่อผู้ว่าส่งตำรวจมาบุกไร่แต่ไม่ทัน ตำรวจทลายโรงงานผลิตกัญชาและไร่กัญชาของเสี่ยโอฬารได้ และผู้อยู่เบื้องหลังผู้ก่อการร้ายก็ถูกเปิดโปงก็คือนักการเมืองท้องถิ่น สต กระท้อนหวานนั่นเอง รวมทั้งฮวดและจำปาทั้งหมดถูกจับจนหมดสิ้น แต่เสี่ยกับลูกชายหนีไปได้ ยงศักดิ์หนีแยกกับโอฬาร โอฬารหนีไปกบดานที่อื่น ยงศักดิ์จึงเคว้งคว้างไม่มีใคร ยงศักดิ์หนีมาขอความช่วยเหลือจากพริ้งเพราเพราะกลับบ้านไม่ได้ ตำรวจเฝ้าอยู่ แต่พริ้งเพราขับไล่ไสส่งยงศักดิ์เพราะรู้ว่าโอฬารเป็นอาชญากร ทำให้ยงศักดิ์โกรธแค้นมาก เมื่อไร่ของโอฬารถูกทลาย ตำรวจก็มาขอบคุณปลัดทวนทน และผู้กองชาตรี ฐานะของทวนจึงถูกเปิดเผยว่าเขาคือปลัดทวนทนและนายจิ้งจอกดำ บุรุษชุดดำที่คอยช่วยชาวบ้าน และชาตรี ก็คือนายตำรวจที่มากวาดล้างพวกอิทธิพล รจนาโกรธทวนที่โกหก ทวนพยายามง้อว่า เขาต้องทำตามหน้าที่ ท่านผู้ว่าช่วยพูด รจนาก็ยังไม่ยอมคืนดีด้วย รจนาเจ็บใจมากที่ทวนปั่นหัวเธอเล่น เห็นเธอเป็นตัวตลก เดี๋ยวเป็นบ้า เดี๋ยวเป็นจิ้งจอกดำ รจนาเจ็บปวดเสียใจมาก ส่วนกานดาก็โกรธชาตรีที่ปิดบัง แต่ชาตรีไม่มีคดีปั่นหัวเหมือนทวน กานดาจึงยอมยกโทษให้ พริ้งเพราไม่รู้ความจริงว่าทวนเป็นปลัด ก็ยังไม่เลิกพยายามให้รจนาเลิกกับทวน แม้จะไม่มียงศักดิ์แล้ว พริ้งเพราก็หาผู้ชายคนใหม่มาให้รจนาได้อีก คือ คุณชายสกุลศักดิ์ ผู้ซึ่งเรียบร้อยเป็นผู้ดีทุกกระเบียด ทวนหึงจึงขนของเข้าไปอยู่ในบ้านรจนาโดยความร่วมมือของท่านผู้ว่า คอยกันท่าคุณชาย ทวนอยากให้พริ้งเพรายอมรับในตัวทวนที่เป็นทวน จึงขอไม่ให้ใครบอกว่าทวนคือปลัดทวนทน ทวนพยายามทำความดีเพื่อชนะใจพริ้งเพราแม้ว่าจะถูกโขกสับยังไงก็อดทน รจนาแม้จะไม่ยอมคืนดีกับทวน แต่ก็ไม่ยอมรับคุณชายเช่นกัน รจนาจึงบอกคุณชายไปตรงๆว่า ยังไงเธอก็ไม่รักคุณชาย ขอให้คุณชายเลิกคิดเสียดีกว่า คุณชายเสียใจมากจำต้องล่าถอยไป รจนาไม่ยอมยกโทษให้ทวน และยิ่งมารู้ว่า ที่ทวนแต่งงานด้วยและทำดีกับรจนาเป็นเพราะคำสั่งของท่านผู้ว่า รจนาก็ยิ่งเสียใจ ที่ทุกอย่างระหว่างทวนกับรจนาล้วนแต่เป็นเรื่องโกหก แม้แต่คำบอกรักของทวนก็ไม่มีความจริงใจเลย ทวนพยายามอธิบายแต่รจนาก็ไม่ฟัง รจนาขอหย่ากับทวนโดยอ้างว่ารจนากับทวนไม่ได้รักกันจึงไม่จำเป็นต้องแต่งงานกันจริงๆ ทวนเสียใจมากคิดว่ารจนาไม่ได้รักทวนจริงๆ ก็เลยยอมหย่าให้และย้ายกลับไปบ้าน พริ้งเพราดีใจมากที่ทวนไปจากรจนาได้ ยงศักดิ์ไปเจอกับโอฬาร เมื่อโอฬารรู้ว่าพริ้งเพราไล่ยงศักดิ์เหมือนหมูเหมือนหมาก็โกรธแค้น คิดแก้แค้นพริ้งเพราด้วยการจับตัวพริ้งเพรามาเรียกค่าไถ่ พริ้งเพราถูกทรมาน ท่านผู้ว่ายอมเอาเงินมาไถ่ตัวพริ้งเพราแต่ทวนขอเป็นคนเอามาให้ ทวนมาช่วยพริ้งเพราออกไปได้ เสี่ยโอฬารกับยงศักดิ์ ถูกตำรวจจับไปทั้งหมด ทวนได้รับบาดเจ็บ พริ้งเพราซึ้งใจทวนจึงยอมรับทวนเป็นลูกเขยและมาขอร้องรจนาให้คืนดีกับทวนด้วยตัวเอง แต่รจนาใจเด็ด ไม่ยอมยกโทษให้ทวน และขอ กลับไปเรียนต่อที่อเมริกา ทวนเสียใจมากแต่ก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเองเขาผิดจริงๆ ที่ล้อเล่นกับหัวใจของรจนา เขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว เคที่เข้ามาขอคืนดีกับทวน ในตอนนี้ทวนยอมรับแล้วว่าคือโทนี่ เขาขอโทษเคที่และอธิบายให้เธอเข้าใจว่าเขาต้องปกปิดความจริงเพราะหน้าที่ เคที่เข้าใจและให้อภัยทวน แต่ทวนก็ไม่อาจกลับไปคบเป็นแฟนกับเคที่ได้อีกแล้ว เพราะในหัวใจของทวนมีแต่รจนาเท่านั้น เคที่อกหัก เมื่อไปพบกับคุณชายที่อกหักเหมือนกัน ต่างก็เห็นใจกันและปิ๊งกันในที่สุด ทวนเศร้าเสียใจมากที่รจนาไม่ยอมยกโทษให้ แถมจะกลับไปเรียนต่อที่อเมริกาอีก เมื่อกระท้อนหวานสงบสุขดีแล้ว ทวนก็จะขอย้ายไปกวาดล้างอำเภอที่เป็นพื้นที่สีแดงที่อื่นอีก เพื่อให้ลืมความเจ็บปวดเสียใจ รจนาแม้จะใจเด็ดอย่างไร แต่ในใจก็ยังรักทวนอยู่ เมื่อรู้ว่าทวนจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่อันตรายอีก รจนาก็เป็นห่วงทวน เมื่อชาตรีกับกานดามาบอกว่าทวนบาดเจ็บสาหัส รจนาจึงรีบไปหาทวนทันที และพบว่าทวนถูกระเบิดขาขาด 2 ข้าง รจนาร้องไห้เสียใจมาก ทวนขอร้องไม่ให้รจนาไปอเมริกา เขารักรจนา แม้จะขาขาดเขาก็อยู่ได้ แต่ถ้าขาดหัวใจทวนคงตายแน่ รจนาปลอบใจทวนว่าเธอจะเป็นขาให้เขาเอง จากนี้ไป รจนาจะดูแลทวนเอง ทวนดีใจมากจนเผลอลืมตัวกระโดดกอดรจนาแล้วอุ้มหมุนไปรอบๆ รจนาจึงรู้ความจริงว่าทวนไม่ได้ขาขาด แต่เป็นแผนของชาตรีกับกานดาที่จะทำให้รจนายอมมาหาทวน ถึงรจนาจะโมโหที่ทวนหลอก แต่ก็ดีใจที่ทวนไม่เป็นอะไร ทวนขอโทษรจนาและสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่โกหกหลอกอะไรรจนาอีกแล้ว ทวนรักรจนาด้วยใจจริงไม่มีใครมาบังคับทั้งสิ้น รจนาจึงตกลงใจไม่ไปอเมริกา และยอมกลับมาเป็นคุณนายของปลัดทวนทน แห่งกระท้อนหวาน และช่วยปลัดหนุ่มรูปหล่อสุดที่รัก กวาดล้างอบายมุขต่างๆ จนอำเภอกระท้อนหวานสะอาดเอี่ยมจนได้รางวัลอำเภอดีเด่น ด้วยฝีมือของ ปลัดทวนทน คนนี้ เพียง 3 ปี ทวนก็ได้เลื่อนยศเป็นนายอำเภอ แถมลูก 1 คน ในท้องรจนาอีก 1 คน ซึ่งกำหนดคลอดพร้อมกับลูกของชาตรีและกานดาด้วยเช่นกัน

ละครไข่ลูกเขยออกอากาศ
ละครก่อนข่าว จันทร์ - อาทิตย์ 18.45 น.
ละครไข่ลูกเขยบทประพันธ์ เปี้ยก โปสเตอร์
ละครไข่ลูกเขยบทโทรทัศน์ ปณธี ศุภศักดิ์ทัศน์
ละครไข่ลูกเขยกำกับการแสดง" ชัยวุฒิ เทพวงศ์
ละครไข่ลูกเขยผู้ผลิต นพพรโปรโมชั่น แอนด์ พิคเจอร์

รายชื่อนักแสดง ละครไข่ลูกเขย
รพีภัทร เอกพันธ์กุล รับบทเป็น ทวน ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
เอมี่ กลิ่นประทุม รับบทเป็น รจนา ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
อานัส ฬาพานิช รับบทเป็น ชาตรี ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
อุษณีย์ วัฒฐานะ รับบทเป็น กานดา ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบทเป็น คุณชายสกุลศักดิ์ ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
แพร เอมเมอรี่ (แพร) รับบทเป็น เคที่ ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ภาณุ สุวรรณโณ รับบทเป็น ยงศักดิ์ ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ตฤณ เศรษฐโชค รับบทเป็น ผู้ว่าฯ ประจักษ์ ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ณหทัย พิจิตรา รับบทเป็น พริ้งเพรา ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
สุรชัย สมบัติเจริญ รับบทเป็น ผู้ใหญ่ทอง ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
นึกคิด บุญทอง รับบทเป็น กำนันแก้ว ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ไพโรจน์ ใจสิงห์ รับบทเป็น มรรคทายก เชียร ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
เด่น ดอกประดู่ รับบทเป็น เสี่ยโอฬาร ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ศรุต วิจิตรานนท์ รับบทเป็น ฮวด ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
อมีนา (ยุคนธร) พินิจ รับบทเป็น จำปา ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ปาริษา ทนาวิวัฒน์ รับบทเป็น โบตั๋น ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์ รับบทเป็น ผู้กองวิทยา ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
พรปวีณ์ เทพมงคล รับบทเป็น แป๋ว ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
นภัสดล เกษศิริ รับบทเป็น ยุ้ย ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
วรินทร์พร วิสัย รับบทเป็น อึ่ง ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ศุภฤกษ์ ทับทวี รับบทเป็น แห้ว ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ยิ่งใหญ่ เพิ่มสกุล รับบทเป็น เมา ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
จำเริญ สมบูรณ์ รับบทเป็น แจ๋น ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย
ณัฐฌุกรณ์ ไหมกัน รับบทเป็น ยักษ์ ในละครเรื่อง ไข่ลูกเขย