อ่านละครย่อมือปราบพ่อลูกอ่อน เรื่องย่อจบบริบูรณ์(ตอนที่ 2)

อ่านละครย่อเรื่องมือปราบพ่อลูกอ่อน เรื่องย่อจบบริบูรณ์(ตอนที่ 2)
เรื่องย่อจบบริบูรณ์ “มือปราบพ่อลูกอ่อน” (ต่อ)

เมื่อกริสน์และเด็กๆ กลับถึงบ้าน พิมมาดาดักรออยู่แล้ว พร้อมกับเปิดฉากโวยวายใส่กริสน์ว่าพาเด็กๆไปเถลไถลที่ไหน ทำไมเสื้อผ้าเลอะเทอะ กริสน์กับพวกเด็กช่วยกันปกปิด ด้วยการอ้างว่าไปเข้าคอร์สดัดพฤติกรรมนอกสถานที่แบบเข้มงวดมา แล้วพวกเด็กๆ ก็แสร้งทำตัวสุภาพ ยกมือไหว้ พูดจาไพเราะ ลงท้ายค่ะครับ จนพิมมาดาได้แต่มึนงง กริสน์ต้องเคลียร์กับเด็กๆอยู่นาน เด็กทั้ง3ยอมที่จะไม่ซักถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหวังไม่ให้กริสน์บอก พิมมาดาเรื่องที่ตามกริสน์ไปและกลัวว่าจะไม่ได้ตามออกไปผจญภัยอีก

กริสน์ได้ข่าวอธิปป่วยจากโอปอ รวมกับที่กริสน์สงสัยว่าทำไมผู้ที่ติดต่อรับของล็อตใหญ่จึงกลับกลายเป็นจตุพลแทนอธิป กริสน์จึงวางแผนสืบโดยให้โอปอทำทีว่าสั่งดอกไม้ไปให้พ่อ ทำให้มีโอกาสได้คุยกับอธิปและเก็บตัวอย่างยาที่คนของจตุพลนำมาให้อธิปกินทุกวันไปให้ภัทรดนัยตรวจสอบ จึงพบว่าจตุพลแอบวางยาพิษให้อธิปกินเรื่อยๆ เป้าหมายเพื่อโค่นบัลลังก์อธิป หวังทำธุรกิจเองโดยตรงกับสุขสันต์ กริสน์กำชับให้อธิปแอบบ้วนยาออกทุกครั้ง และสัญญาจะช่วยพาออกไปจากคฤหาสน์ของเขาที่มีแต่ลูกน้องจตุพลคุมอยู่

จตุพลสั่งลูกน้องไปจัดการกริสน์ที่ร้าน โดยทำทีเข้ามาขโมยเงิน พอดีกับมาวินเข้ามาตามตื๊อพิมมาดาอยู่ มาวินเอากฏหมายมาข่มขู่พวกโจร ยังไม่ทันได้ทำอะไร ขณะที่กริสน์จัดการลูกน้องจตุพลจนราบคาบพิมมาดาเริ่มรู้สึกประทับใจในตัวกริสน์มากขึ้นที่สามารถดูแลร้านให้ปลอดภัยได้ จตุพลสงสัยว่าทำไมพี่เลี้ยงเด็กถึงมีฝีมือขนาดจัดการลูกน้องฝีมือดีๆของเขาได้

กริสน์ต้องการติดต่อภัทรดนัยแต่ไม่สะดวกเหมือนเดิม เพราะกลัวถูกจับได้ จึงถือโอกาสวางแผนว่าอยากช่วยโปรโมทร้านให้ขายดี ด้วยการไปเดินแจกใบปลิวแถวสยาม พิมมาดาเห็นดีด้วยและยังสนับสนุนให้เขาพาโจ๊ก แจ๊ส และจีจ้าไปเป็นผู้ช่วย กริสน์เลยต้องกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ พาไปเปิดหูเปิดตา

การแจกใบปลิวเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน แจ๊สซึ่งชอบเก็บตัวรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นวัยรุ่นได้มีเวทีแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการเต้นรำ หรือร้องเพลง แจ๊สชวนกริสน์กลับบ้านก่อนจะถูกเยาะเย้ยเพราะบังเอิญเหลือมาเจอกับกลุ่มเพื่อนๆที่โรงเรียน แต่แล้วกริสน์ก็เหลือบไปเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังมีปัญหา เพื่อนเจ็บขาขึ้นเวทีไม่ได้ กริสน์ได้โอกาสจึงรีบดึงแจ๊สเข้าไปแนะนำตัว แล้วอาสาที่จะขึ้นเต้นแทน แจ๊สตกกะไดพลอยโจนเลยต้องเออออไปตามที่กริสน์แนะนำ ด้วยพรสวรรค์ในการเต้นที่มีอยู่ในตัวของเด็กสาว ทำให้แจ๊สเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่วทั้งลานและสามารถเอาชนะเพื่อนๆจากโรงเรียนตัวเองได้อีก สร้างความภูมิใจให้กับแจ๊สเป็นอย่างมาก

กริสน์ถือโอกาสปล่อย เด็กๆ ไว้ตามลำพังแล้วเลี่ยงไปพบภัทรดนัยซึ่งงานนี้ลงทุนปลอมตัว เป็นเด็กแร๊พโย่ กริสน์เล่าเรื่องที่ตนได้ไปเห็นมา ทั้งเรื่องของสุขสันต์และเรื่องที่อธิปถูกวางยา กริสน์มั่นใจว่าสุขสันต์ทำธุรกิจผิดกฏหมายแน่ เพียงแต่ ถ้าจะต่อกรกับคนระดับนี้ เราต้องมีหลักฐานที่แน่นหนารัดกุม ไม่อย่างนั้นเราเองจะเป็นฝ่ายถูกเล่นงานเสียเอง..แต่ยังไม่ทันวางแผนทำอะไร อยู่ๆเค้กก็ถลาเข้ามาขับไล่ภัทรดนัย ให้ออกไปห่างๆกริสน์ เพราะกริสน์กำลังจะหายขาดจากโรคชอบเพศเดียวกันแล้ว อย่าเอาเชื้อมาติดอีก ภัทรดนัยได้แต่เซ็ง

พิมมาดาได้รับเชิญจากสุขสันต์ให้ไปทานอาหารค่ำที่บ้าน กริสน์ดีใจมากที่จะมีโอกาสไปสืบข้อมูล แต่พิมมาดายื่นคำขาดว่าห้ามตามไป กริสน์รีบส่งซิกให้เด็กๆพร้อมใจกันโวยวาย อาละวาด แต่ยิ่งทำให้พิมมาดาไม่ให้ไป เพราะเกรงจะไปสร้างเรื่องวุ่นวายให้สุขสันต์ กริสน์จึงรีบส่งซิกให้เด็กๆเงียบอีกคราวนี้เด็กๆนั่งนิ่งเซื่องซื่อในทันที จนพิมมาดางง กริสน์รับรองว่าจะให้เด็กๆอยู่หน้าบ้าน ไม่ไปขัดขวางความสุขและไม่ก่อเรื่องใดๆแน่นอน

ที่บ้านสุขสันต์ ระหว่างที่พิมมาดากำลังทานอาหารค่ำอยู่กับสุขสันต์ กริสน์กำชับให้พวกเด็กๆ เล่นกันอยู่ที่สนาม ห้ามไปไหน แล้วกริสน์ก็รีบฉวยโอกาสเข้าไปในบ้าน หลบสายตาของบอดี้การ์ดต่างๆ ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในห้องทำงานของสุขสันต์ กริสน์พยายามจะดาวน์โหลดข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ออกมาให้มากที่สุดตามที่ภัทรดนัยบอกไว้ กริสน์เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์จนสามารถดาวน์โหลดได้ ระหว่างรอการดาวน์โหลดนั้น กริสน์ไปที่หน้าต่างเพื่อมองตรวจความสงบของเด็กๆ พบว่าจีจ้าหายไป เมื่อกริสน์หันมาอีกที กลับเจอจีจ้านั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังเล่นเกมอยู่ จีจ้าสั่งยกเลิกการดาวน์โหลดของกริสน์แบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กริสน์แทบคลั่ง รีบร้อนจะดาวน์โหลดใหม่อีกครั้ง แต่กลับมีคนเข้ามาเสียก่อน กริสน์ต้องรีบอุ้มจีจ้า ปีนออกทางหน้าต่าง จีจ้าพยายามร้องจะบอกกริสน์ว่าตัวเองทำรองเท้าหลุด แต่กริสน์ไม่ได้ใส่ใจ รีบออกจากห้องให้เร็วที่สุด เมื่อกริสน์โหลดข้อมูลจากคอมของสุขสันต์เพื่อเก็บหลักฐานได้สำเร็จ เวลานั้นแพรวพิลาศดันมาเจอสุขสันต์กับพิมมาดาอยู่ที่บ้านจึงโมโหมาก แพรวพิลาศด่าพิมมาดาจนหน้าชา พิมมาดารับไม่ได้รีบหนีกลับบ้านทันที

อยู่ๆ วันหนึ่งพิมมาดาก็ปรึกษากริสน์ว่าสุขสันต์ขอแต่งงาน หลังจากมางอนง้อหลังถูกแพรวพิลาศด่าประจานในงานเลี้ยงที่บ้าน พิมมาดาบอกว่าหากเธอตอบตกลง ปัญหาเรื่องการเลี้ยงเด็กๆ ตามลำพัง จะหมดไป เพราะสุขสันต์เป็นกูรูด้านเด็ก อีกทั้งอนาคตของเด็กๆ ก็จะมั่นคง ก้าวหน้าอย่างแน่นอน กริสน์รู้สึกทนไม่ได้ที่พิมมาดาเห็นผิดเป็นชอบ แล้วก็ดันงอน ทะเลาะกับเธอไปโดยไม่ตั้งใจ แล้วกริสน์ยังเลยเถิด ไปหลอกใช้มาวินให้มาเห็นภาพสวีทระหว่างพิมมาดากับสุขสันต์ มาวินโวยวายว่าที่ตัวเองมาเพราะมีคนในร้านโทรไปเรียกให้มา พิมมาดารู้ทันทีว่าต้องเป็นกริสน์แน่ๆ รีบไปเล่นงานกริสน์

แม้ว่ากริสน์จะพยายามพูดให้พิมมาดาตาสว่างถึงความจริงภายใต้หน้ากากคนดีที่สุขสันต์สวมอยู่ ก็ยิ่งทำให้พิมมาดาเกลียดกริสน์มากขึ้นไปอีก ที่มาใส่ร้ายคนดีๆอย่างสุขสันต์ และกริสน์ก็เป็นคนเชียร์ให้เธอรักกับสุขสันต์เองในทีแรก พิมมาดาเฝ้ารอแค่ให้ถึงเวลาตามที่เธอสัญญากับเด็กๆไว้ จากนั้นจะไล่กริสน์ออกไปทันที กริสน์ได้แต่เจ็บปวดอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ ว่าทำไมตนถึงเป็นห่วงเป็นใยพิมมาดานัก กริสน์รู้ตัวว่าเริ่มหลงรักพิมมาดาเข้าแล้ว ทำให้ภัทรดนัยต้องคอยเตือนสติกริสน์ให้ตัดเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องของงาน คิดถึงภารกิจเอาไว้

สุขสันต์มาที่ร้านดอกไม้บ่อยขึ้น และพิมมาดาก็ทำท่าหวานใส่ประชดกริสน์ สร้างความปวดใจให้กริสน์ จนพวกเด็กๆสังเกตเห็น จีจ้าแอบได้ยินสุขสันต์นัดแนะชวนพิมมาดาไปฉลองวันเกิดที่ภัตตาคาร จึงรีบรายงานทุกคน และร่วมกันวางแผน พอถึงวันสำคัญก็เล่นตลกด้วยการทำเป็น โทรไปเลื่อนนัดสุขสันต์ อ้างว่าพิมมาดามีงานในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้พิมมาดาไปรอแกร่วอยู่ที่ร้านตามเวลานัด จากนั้นก็ทำเป็นว่าพิมมาดาโทรกลับมาแจ้งว่าโดนกระชากกระเป๋า กริสน์ได้ยินเข้าก็หลงกลรีบออกไปเพื่อช่วยเหลือพิมมาดาทันที

กริสน์ตามพิมมาดามาที่ภัตตาคาร พบพิมมาดากำลังนั่งเซ็งอยู่ ครั้นพอสอบถามก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าโดนเด็กๆ หลอก พิมมาดาโกรธมากตั้งใจจะกลับไปเอาเรื่อง แต่กริสน์กลับดึงมือหญิงสาวเอาไว้ แล้วถือโอกาสเลี้ยงอาหารเป็นการไถ่โทษในเรื่องที่ผ่านมา โดยไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ถูกลูกน้องของจตุพลจับตามองผ่านกล้องวงจรปิด

เช้าวันรุ่งขึ้นสุขสันต์เอาของขวัญวันเกิดมาให้พิมมาดาที่ร้าน ได้ยินพิมมาดากำลังดุจีจ้าเรื่องรองเท้าคู่ใหม่ข้างที่หายไป ทำให้สุขสันต์แน่ใจว่าใครคือผู้บุกรุกห้องทำงานของตน สุขสันต์ทำเป็นปกป้องจีจ้า อ้างว่าอาจจะทำหล่นในโรงรถจึงชวนจีจ้าออกไปหา เมื่อไปถึงโรงรถสุขสันต์ข่มขู่จีจ้าว่าจะจับส่งไปเมืองนอก จีจ้ากลัวสุขสันต์มาก ขณะนั้นอยู่ๆ กริสน์ก็โผล่เข้ามา จีจ้ารีบถลาไปหากริสน์ทันที ทำให้สุขสันต์มั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดต้องเป็นฝีมือกริสน์แน่ๆ

วันถัดมา พิมมาดาให้กริสน์เอาดอกไม้ไปส่งด่วนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง กริสน์รีบขึ้นรถกระบะ จีจ้าร้องจะไปด้วยให้ได้ จนพิมมาดาต้องให้ไป แต่กำชับว่าห้ามเถลไถล ระหว่างทาง กริสน์สังเกตได้ว่ามีรถขับสะกดรอยตามมา สุดท้ายกริสน์หนีไม่พ้น เมื่อมีรถกระบะ3-4คันเข้ามาตีขนาบล้อมรถกระบะของกริสน์เอาไว้ทุกด้าน จตุพลเป็นคนนำลูกน้องเข้าจับตัวกริสน์ ตามคำสั่งที่ได้รับมาจากสุขสันต์ กริสน์รู้ทันทีว่าการจัดส่งดอกไม้นี้เป็นแค่แผนหลอกให้เขามาติดกับ จีจ้าถูกจับไว้ได้ กริสน์ร้องขอให้ปล่อยเด็กไปแลกกับตัวเอง แต่ไม่เป็นผล

จีจ้าถูกแยกไปขังที่อื่น ขณะที่กริสน์ถูกจตุพลซ้อมจนสะบักสะบอม จตุพลคาดคั้นถามหาหลักฐานที่ กริสน์ได้ไปคืออะไรและอยู่ที่ไหน กริสน์สวมรอยอ้างว่าถ้าตนไม่ติดต่อกลับไปหาทีมงาน หลักฐานนี้จะถูกส่งต่อให้สื่อมวลชนทันที ทีแรกจตุพลหลงกล กำลังจะยอมให้กริสน์ใช้มือถือได้ แต่อยู่ๆสุขสันต์โทรเข้ามาหาจตุพลสั่งให้จัดการฆ่ากริสน์เดี๋ยวนี้ เพราะไม่มีข้อมูลใดๆหลุดออกไปจากคอมพิวเตอร์แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดกริสน์กุเรื่องขึ้นมา จตุพลควักปืนออกมากำลังจะเหนี่ยวไก ทันใดมือขวาของอธิปก็เข้ามาช่วยเหลือกริสน์และจีจ้าออกมาได้อย่างทันท่วงที

กริสน์ได้รู้เรื่องจากคนของอธิปว่า อธิปให้เขาคอยตามประกบกริสน์มาสักระยะแล้ว เพราะต้องการให้กริสน์มาช่วยพาอธิปหนี ก่อนที่จตุพลจะฆ่าอธิปอย่างเลือดเย็น กริสน์และภัทรดนัยจึงต้องรวมหัวกันวางแผนเพื่อช่วยเหลืออธิปออกมา โดยมีเค้กที่เวลานี้รู้แล้วว่ากริสน์เป็นตำรวจและเป็นผู้ชายแท้ๆ เค้กดี๊ด๊าสุดพลัง อาสาเป็นกองหนุนให้ จนทำให้ภัทรดนัยรู้สึกรำคาญมากๆ

การที่กริสน์ช่วยเหลืออธิปออกมาได้ เป็นเหตุให้จตุพลถูกสุขสันต์เล่นงานอย่างหนัก สุขสันต์โกรธมากต้องการฆ่าทั้งกริสน์และอธิปให้หมดสิ้นไป จตุพลน้อยเนื้อต่ำใจที่สุขสันต์ดีแต่สั่งใช้งาน เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ลงโทษ อย่างไม่เคยเห็นหัว ไม่เคยเห็นคุณงามความดีของตนที่ทุ่มเทเสี่ยงอันตรายให้เลย จึงไปเที่ยวดับอารมณ์ และเจอมาวินที่เข้ามาตีซี้ และเสนอว่าจะช่วยเป็นแบ็คสนับสนุนให้จตุพลกำจัดสุขสันต์ เพราะตนแค้นที่สุขสันต์มาแย่งแฟนไป มาวินยุแยงปั่นหัวจนทำให้จตุพลคิดหักหลังสุขสันต์ แล้วขึ้นมาเป็นใหญ่เอง โดยมาวินอาสาจะใช้ความเป็นตำราจช่วยเหลืออีกแรง แท้จริงแล้วมาวินตั้งใจจะหักหลังจตุพลอีกทีเพื่อตนจะได้มีผลงานชิ้นโบว์แดง

พิมมาดาเห็นกริสน์นั่งทำแผลฉกรรจ์ ที่ได้มากจากการช่วยอธิป จึงเริ่มตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วกริสน์ เป็นใครกันแน่ นอกจากกริสน์มาเป็นพนักงานที่ร้านแล้ว ประวัติอื่นๆของกริสน์ตนไม่เคยได้รู้เลย กริสน์ไม่สามารถบอกอะไรได้ บอกได้แค่ว่าตนไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นคนที่รักและหวังดีกับพิมมาดามาตลอด พิมมาดาไม่เชื่อคำพูดกริสน์ บอกว่าเธอรู้เรื่องที่กริสน์เป็นผู้ร้ายหนีหมายจับของตำรวจ มาวินเป็นคนบอกเธอ กริสน์พยายามเล่าความจริงเรื่องที่ตนเป็นตำรวจสืบสวนราชการลับ พิมมาดายิ่งโกรธที่กริสน์ยังโกหกไม่เลิก เธอไล่กริสน์ออกจากบ้าน ห้ามกริสน์มาใกล้ชิดหลานๆของเธอ ถ้าเธอเห็นหน้ากริสน์อีก ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม เธอจะแจ้งตำรวจจับทันที

จากที่ไม่เคยรักเด็ก กริสน์เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเด็กๆ และพิมมาดามันคือความผูกพันโดยไม่รู้ตัว กริสน์ได้รับโทรศัพท์จากจีจ้าว่าโจ๊กไปก่อเหตุวิวาทชกปาล์มจนสลบ กริสน์จึงรีบไปที่โรงพยาบาล พบว่าพิมมาดาอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว ต้นเหตุเกิดจากเพราะปาล์มต้องการแสดงให้โอปอเห็นว่าตนเก่งกว่าโจ๊ก เมทินีไม่พอใจที่ลูกชายโดนทำร้าย จะเอาโจ๊กออกจากโรงเรียนให้ได้ พิมมาดาต้องยอมอดกลั้น คุกเข่าขอโทษแทนหลานชายด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ กริสน์ช่วยพูดขอร้องและกล่อมจนเมทินียอมใจอ่อน

โจ๊กไม่ยอมรับผิด และบอกว่ากริสน์เป็นคนสอนให้เขาสู้กับอุปสรรคในชีวิต กริสน์เป็นคนใจถึงไม่เหมือนพิมที่ใจไม่ถึง กลัวไปทุกอย่าง กลัวความลำบากจนต้องยอมเป็นแฟนสุขสันต์เพื่อเงิน ทั้งๆที่ไม่ได้รัก เธอโกรธมากจนลืมตัวตบหน้าโจ๊กอย่างแรง และยื่นคำขาดให้เขาเลิกชกมวย โจ๊กเสียใจมาก วิ่งหนีออกไป พิมมาดาต่อว่ากริสน์ที่ปกปิดเรื่องหลานๆกับตนและไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมเด็กๆได้ ปล่อยให้ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา กริสน์โต้ตอบโดยให้เหตุผลว่าพิมมาดาเลี้ยงเด็กแบบบีบบังคับให้เข้ากรอบที่ไร้เหตุผล และไม่เคยสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ หรือเปิดใจรับฟัง ว่าแล้วพิมมาดาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแจ้งตำรวจจับกริสน์ กริสน์ต้องรีบหนีอย่างหัวซุกหัวซุนออกไป แต่แล้ว พิมก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมเธอจึงเศร้าและหดหู่อย่างไร้เหตุผล

พวกเด็กๆ ไม่เชื่อว่ากริสน์จะเป็นผู้ร้ายอย่างที่พิมมาดาบอก และคิดว่าสุขสันต์ต่างหากคือผู้ร้าย พิมมาดาไม่เชื่อและสั่งลงโทษพวกเด็กๆ พวกเด็กๆจึงแผลงฤทธิ์และสร้างปัญหากลับตาลปัตรจากที่เคยดีขึ้นเมื่อตอนกริสน์อยู่ ที่เคยตื่นเช้าตามเวลาที่กริสน์เป่านกหวีดปลุก และพาวิ่งออกกำลัง และให้กินข้าว เข้านอน ทำเตียง ขัดรองเท้า จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แบบนักเรียนนายร้อยอย่างที่กริสน์พร่ำสอน เด็กๆก็กลับมานอนตื่นสายตะวันโด่ง ไม่เก็บเตียง ขว้างปาอาหารใส่กัน ปล่อยให้ห้องรก โดยเฉพาะเวลาที่สุขสันต์มาหาพิมมาดา พวกเด็กๆ ก็กลั่นแกล้งจนสุขสันต์เลอะเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว แต่กลับทำให้พิมมาดาเห็นใจสุขสันต์มากขึ้น เมื่อสุขสันต์เสนอเรื่องแผนการส่งเด็กๆไปเรียนต่างประเทศอีกครั้ง พิมมาดาจึงเห็นด้วยทันที เมื่อพวกเด็กๆรู้ จึงคิดจะหนีออกจากบ้าน แต่สุขสันต์ให้คนจับตัวเด็กๆ มาขัง แล้วปลอบใจพิมมาดาว่าเราต้องใจแข็งเพื่ออนาคตที่ดีของเด็กๆ

ทั้งๆที่ถูกตามล่าโดยผู้ร้ายและตำรวจซึ่งมีมาวินเป็นตัวการ แต่กริสน์ก็ปฏิเสธคำชวนของอธิปที่ให้ไปพักตั้งสติที่เซฟเฮ้าส์ของอธิปก่อน เพราะกริสน์เป็นห่วงเด็กๆและพิมมาดา จึงยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆร้านดอกไม้ โดยอาศัยร้านเบเกอร์รี่ของเค้กเป็นที่หลบภัย เค้กเชื่อมั่นและจะขอสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกริสน์ตลอดไป

ในคืนก่อนวันเดินทางของพวกเด็กๆ พิมมาดาเข้ามาร่ำลาเด็กๆ และเอายาแก้หอบหืดมาให้จีจ้า แต่พวกเด็กๆไม่พูดด้วย จีจ้าถึงกับเขวี้ยงขวดยาพ่นแก้หอบหืดแตก พิมมาดาพยายามเข้าใจพวกเด็กๆ แล้วอยู่ๆกริสน์ก็บุกปีนเข้ามา พิมมาดาตกใจที่กริสน์เล็ดลอดสายตาบอดี้การ์ดของสุขสันต์มาได้ ทีแรกพิมมาดาจะเรียกคนของสุขสันต์เข้ามา แต่กริสน์และเด็กๆขอร้องเอาไว้ กริสน์ขอโอกาสแค่ครั้งเดียว ขอให้พิมมาดาเชื่อใจ เพราะภัทรดนัยเพิ่งได้รับแจ้งมาเกี่ยวกับกำหนดการส่งของล็อตใหม่ของสุขสันต์ที่กำลังจะเข้าท่าเรือพรุ่งนี้เช้า กริสน์ขอให้หยุดส่งเด็กไปเมืองนอก รอให้ตนจับสุขสันต์ให้ได้ก่อน พวกเด็กๆช่วยกันขอร้อง แต่พิมมาดาปฏิเสธ
เช้ารุ่งขึ้น สุขสันต์โทรมาบอกพิมมาดาว่าติดธุระด่วน ไม่สามารถมารับไปส่งสนามบินด้วยตัวเองได้ ทำให้พิมมาดาย้อนคิดถึงคำพูดของกริสน์ พอดีกับรถตู้มารอรับ พาเด็กๆและพิมมาดาขึ้นรถไป ระหว่างทาง พิมมาดาสังเกตว่ารถตู้ไม่ได้ขับไปสนามบิน เลยสังสัยว่าจะพาไปไหน จึงพบว่าคนของสุขสันต์แท้จริงแล้วคือ ภัทรดนัยที่ปลอมตัวมา พวกเด็กๆดีใจที่กริสน์ส่งคนมาช่วย ภัทรดนัยบอกว่าจะพาพิมมาดาไปที่เซฟเฮ้าส์ของอธิป เพื่อให้เธอและเด็กๆปลอดภัยจากเงื้อมมือของทั้งสุขสันต์และมาวิน
ที่ท่าเรือ ขณะกริสน์กำลังจะจับสุขสันต์ที่จำนนด้วยหลักฐานอันเป็นความผิดซึ่งหน้า พิมมาดากับเด็กๆและโอปอก็ดันโผล่มาแบบผิดที่ผิดเวลา เพราะโอปอรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พาทุกคนหลบจากเซฟเฮ้าส์พ่อและตามกริสน์มาด้วยความเป็นห่วง พิมมาดาได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเบื้องหลังของสุขสันต์ แท้จริงแล้วเป็นเอเย่นต์นำเข้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยเอาธุรกิจนำเข้าดอกไม้ต่างประเทศมาบังหน้า พิมมาดาตาสว่าง แต่ทั้งหมดถูกสมุนของสุขสันต์จับตัวไว้ทั้งโขยง

สุขสันต์พยายามหว่านล้อมล้างสมองพิมมาดาให้เห็นดีเห็นงามด้วยในสิ่งที่เขาทำอยู่ เพราะมันนำพามาซึ่งเงินทองและอำนาจบารมีมากมาย พิมมาดาสาปแช่ง สุขสันต์กำลังจะยิงกริสน์ แต่ทันใด จตุพลที่ร่วมมือกับมาวินหักหลังสุขสันต์ เข้ามายิงสุขสันต์ที่ขาจากทางด้านหลัง สุขสันต์ทรุดลงไป แล้วจตุพลก็หันมาจะยิงมาวิน เพราะรู้ว่าสันดานคนอย่างมาวินจะต้องหักหลังตนคืนแน่ๆ เพื่อที่มาวินจะได้เอาหน้าในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ทลายขบวนการยาเสพติดรายใหญ่แต่เพียงลำพัง..มาวินถูกจับไต๋ได้ หมดท่า ถึงขั้นยกมือไหว้ ร้องขอชีวิตจากจตุพล แล้วมาวินก็วิ่งหนีหลบเข้าไปซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์

ระหว่างนั้น ภัทรดนัยพาตำรวจเข้ามาพอดี พร้อมๆ กับพวกอธิป ที่ยกพลมาเฟียกลับใจมาช่วยทางการ และเป็นพยานให้ทางตำรวจ ยืนยันในความบริสุทธิ์ของกริสน์ จตุพลถูกต้อนจนกระทั่งจนตรอก จึงคว้าจีจ้าที่อยู่ใกล้มาเป็นตัวประกัน จีจ้ามีอาการหอบหืดขึ้นมา พิมมาดาพยายามขอให้ปล่อยจีจ้า แต่จตุพลไม่สนใจ พาจีจ้าขึ้นรถขับหนีไป พิมมาดาเป็นห่วงจีจ้า ถ้าไม่รีบพ่นยา จะเป็นอันตรายมาก และอาจถึงแก่ชีวิตได้

จตุพลขับรถหนีตำรวจขึ้นไปบนสะพานข้ามแม่น้ำ แต่ถูกตำรวจดักล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้ จตุพลหนีไม่รอด เอาจีจ้ามาเป็นตัวประกนขู่ว่าจะโยนทิ้งแม่น้ำ พิมมาดาขอร้องทุกวิถีทางแต่ไม่เป็นผล จีจ้ากัดมือจตุพลในจังหวะที่จตุพลเผลอ แล้วรีบวิ่งหนีออกมา กริสน์รีบกระโดดตะครุบตัวจีจ้าเอาไว้ได้ จนถูกจตุพลยิงเข้าที่ด้านหลัง เต็มๆ กริสน์ล้มคว่ำหมดสติในทันที โดยมีจีจ้าอยู่ในอ้อมกอด

แต่แล้วในที่สุดจตุพลก็ถูกตำรวจรวบตัวไปได้ พิมมาดาเห็นสภาพกริสน์นอนจมกองเลือดเป็นตายเท่ากัน ก็ใจหาย และจีจ้าที่กระหืดกระหอบแทบขาดใจตาม พิมมาดาตกใจทำอะไรไม่ถูก โจ๊กกับแจ๊สตามเข้ามาคอยปลอบพิมมาดาอย่างมีสติ จัดแจงให้รถพยาบาลเข้ามาพากริสน์และจีจ้าไปรักษาตัวจนได้ พิมมาดาแปลกใจที่ในสถานการณ์เช่นนี้แต่พวกเด็กๆ กลับมีสติมากกว่าเธอเสียอีก แล้วเธอก็สัมผัสได้ว่าแท้จริงแล้ว พวกเด็กๆเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้น พวกเด็กๆ สามารถดูแลกันและกันได้เป็นอย่างดี เพียงแต่เธอมีอคติทำให้ไม่เคยมองเห็นเท่านั้นเอง

กริสน์นอนพักรักษาตัวโดยมีเค้กคอยดูแลไม่ห่างเป็นที่หมั่นไส้ของภัทรดนัยมาก แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่พิมมาดาไม่แวะมาเยี่ยมเขาเลยสักครั้งเดียว ทั้งๆที่เขากับจีจ้าอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน เมื่อกริสน์ออกจากโรงพยาบาลได้ กริสน์คิดจะไปหาพิมมาดาที่ร้านดอกไม้ ภัทรดนัยเชียร์ให้กริสน์สารภาพความในใจไปเลย แต่เมื่อกริสน์ไปถึงร้านดอกไม้ พิมมาดากลับเมินเฉยใส่กริสน์ และยังสั่งห้ามเด็กๆติดต่อกับกริสน์อีก พิมมาดาบอกว่ากริสน์รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าสุขสันต์ไม่ใช่คนดี แต่ทำไมกริสน์ถึงสนับสนุนและยุให้ตนไปรักด้วย เพราะกริสน์คิดจะใช้ตนเป็นสะพาน เพื่อบรรลุผลประโยชน์ของตัวเอง เอาชีวิตของตนและหลานๆเข้าไปเสี่ยง กริสน์พยายาม ขอโทษ แต่พิมมาดาตบหน้าและไล่ให้ออกไปจากชีวิต ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีก

พิมมาดาพยายามซ่อนความรู้สึกเศร้าเอาไว้ใต้รอยยิ้ม เฝ้ามองหลานๆที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างภูมิใจ..โจ๊กเรียนดีขึ้นและได้เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาเยาวชนโลก..แจ๊สกลายเป็นคนยิ้มง่าย กล้าแสดงออก และได้เป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น..ส่วนจีจ้าก็แข็งแรงขึ้นมาก เพราะออกกำลังกายและทานอาหารตามอย่างที่กริสน์สอนไว้..พิมมาดาอดนึกถึงกริสน์ไม่ได้เมื่อทุกอย่างรอบตัวเธอนั้นมีเขาเกี่ยวข้องทั้งหมด..พวกเด็กๆเห็นพิมมาดาทุกข์ทรมานใจ จึงวางแผนเพื่อหลอกให้พิมมาดากับกริสน์ได้มาเจอกันและได้อยู่ด้วยกันเพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจให้หมดสิ้น

เช้าวันหนึ่งเมื่อมาพิมมาดาเปิดร้านดอกไม้ตามปกติ ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นกริสน์สวมชุดพนักงานมารอต้อนรับ พร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่คุกเข่าขอเธอแต่งงาน และถึงแม้พิมมาดาจะมีทิฐิอย่างไรก็ตาม แต่พอเจอบทสารภาพรักแบบนี้ก็ให้อ้ำอึ้งไปเลยทีเดียว แต่ก่อนจะยอมรับรักแต่โดยดีเด็กทั้ง 3 โผล่ออกมาแจม โดยมีข้อแม้ว่า กริสน์ต้องยอมเป็นพ่อของพวกเขาแลกกับการได้น้าสาวแสนสวยไปเป็นภรรยา ซึ่งคำตอบนั้นก็คงไม่เหนือความคาดหมาย

สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ทุกชีวิตที่เกี่ยวพันกันล้วนมีแต่ร้อยยิ้ม อธิปช่วยเหลือพิมมาดาสนับสนุนร้านดอกไม้ให้มีชื่อเสียงขึ้นมา ส่วนโจ๊กก็คบหากับโอปอโดยมีปาล์มเป็นเพื่อนสนิท เค้กรู้ว่ากริสน์รักพิมมาดา ได้แต่ช้ำใจ แต่ยังโชคดีที่มีภัทรดนัยมาอาสาดามหัวใจให้

ทุกๆ เช้า แทนที่กริสน์จะต้องเป่านกหวีดปลุกเด็กๆ กลับเป็นเด็กๆ ที่ตื่นนอนกันเองก่อนเวลา และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตามระเบียบแบบแผนที่กริสน์เคยสอนเอาไว้

จบบริบูรณ์

รายชื่อนักแสดง ใครเป็นใครใน
มือปราบพ่อลูกอ่อน

หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ รับบทเป็น กริสน์
วิกกี้ สุนิสา เจ็ทท์ รับบทเป็น พิมมาดา
ธนากร โปษยานนท์ รับบทเป็น สุขสันต์
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบทเป็น ภัทรดนัย
ศุภกร กิจสุวรรณ รับบทเป็น จตุพล
ด.ญ.สุชาดาเช็คลีย์ รับบทเป็น แจ๊ส
ด.ญ.ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา รับบทเป็น จีจ้า
ด.ช.สุทธินันท์ เทียนสุวรรณ รับบทเป็น โจ๊ก
ด.ญ.ครองขวัญ มงคล รับบทเป็น โอปอ
สิทธิชัย ผาบชมพู รับบทเป็น มาวิน
สิตางค์ ปุณภพ รับบทเป็น เค้ก
รมิดา ประภาสโนบล รับบทเป็น แพรวพิลาศ
ศานติ สันติเวชกุล รับบทเป็น น้อมพงษ์
ธนายง ว่องตระกูล รับบทเป็น อธิป
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบทเป็น เมทินี
ปาจารีย์ ณ นคร รับบทเป็น ครูฟ้าใส
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ รับบทเป็น ปาล์ม
ฝันเด่น จรรยาธนากร รับบทเป็น เดช
ปีเตอร์ ไมอ๊อคชิ รับบทเป็น ครูพงษ์พัฒน์
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ รับบทเป็น เต๋า
รณภร คณิวิชาภรณ์ รับบทเป็น เต้ย
ศิณัชชัย คูสกุลธรรม รับบทเป็น ฉัตรชัย
อิทธพันธ์ จิรสุขประเสริฐ รับบทเป็น ฮิม

ร่วมด้วยนักแสดงรับเชิญ
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ
สุปราณี เจริญผล
ดลกมล ศรัทธาทิพย์
หยอง ลูกหยี

“มือปราบพ่อลูกอ่อน” โดยผู้จัด “ต้น-ณฐนนท์” ค่าย “ชลลัมพี โปรดักช์ชั่น จำกัด” นำแสดงโดย หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์, วิกกี้-สุนิสา เจ็ท ร่วมด้วย ปาย-สิตางค์, อู๋-ธนากร, นุ่น-รมิดา” และนักแสดงรุ่นจิ๋วฝีมือสุดแจ๋ว น้องดาด้า น้องสกายและน้องชาเลท ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3 อสมท

อ่านละครย่อเรื่องมือปราบพ่อลูกอ่อน
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์